แพ็คเกจฤดูร้อน 6 วันที่น่าจดจำ รวมไปทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

วันแรกของทริปท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ช่วงฤดูร้อนอันน่าตื่นเต้นของคุณเริ่มต้นขึ้นทันทีที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก (Keflavik International Airport) หลังจากรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว คุณจะขึ้นรถบัสที่พาคุณผ่านภูมิประเทศคล้ายพื้นผิวดวงจันทร์ของคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวงของไอซ์แลนด์อย่างเรคยาวิก (Reykjavik)

ระหว่างทางเข้าสู่เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ คุณสามารถแวะที่บลูลากูน (Blue Lagoon) สปาน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสายน้ำที่มีสรรพคุณบำบัด สีฟ้าครามสดใส และทรีตเมนต์สุดผ่อนคลาย

บลูลากูนตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมด้วยมอสส์ ให้บรรยากาศเหนือจริงราวกับอยู่อีกโลกหนึ่ง การเพิ่มโปรแกรมสปาบลูลากูนลงในแพ็คเกจท่องเที่ยวฤดูร้อนของคุณจะถูกจัดให้สอดคล้องกับตารางเที่ยวบิน

หากวันนี้ไม่มีเวลา ก็สามารถย้ายไปวันที่อื่นได้ ที่ปรึกษาการท่องเที่ยวของคุณจะช่วยจัดการส่วนนี้ให้ทั้งหมด

หากคุณมีเวลาว่างเพิ่มเติมในวันแรกของการเดินทาง ยังมีอีกมากมายให้ชมและทำในเรคยาวิก

เมื่อเข้าที่พักในเมืองเรคยาวิกเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถใช้เวลาที่เหลือของวันเพื่อสำรวจเสน่ห์ของเมือง โดยอย่าลืมเดินเล่นรอบย่านเมืองเก่า และแวะที่ถนนช้อปปิงหลักอย่างเลยกาแวกูร์ (Laugavegur) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านบูติก บาร์ และร้านอาหาร

ลองเดินชมบรรยากาศบริเวณท่าเรือเก่า (Old Harbor) ที่สวยงาม ซึ่งอยู่ใกล้พิพิธภัณฑ์ยอดนิยมหลายแห่งของเมือง

หากคุณสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับท้องทะเล แนะนำให้ไปที่พิพิธภัณฑ์ทางเรือเรคยาวิก (Reykjavik Maritime Museum) เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเดินเรือของไอซ์แลนด์

เรคยาวิกยังมีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ฮาร์ปา (Harpa) อาคารคอนเสิร์ตฮอลล์ที่มีฟาซาดกระจกสุดล้ำ และโบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยา (Hallgrimskirkja) อันโดดเด่น ที่คุณสามารถขึ้นไปยังยอดหอคอยเพื่อชมวิวเมืองแบบกว้างไกลสุดสายตา

ด้วยช่วงเวลายาวนานใต้พระอาทิตย์เที่ยงคืน คุณสามารถอิ่มอร่อยกับมื้อค่ำในร้านอาหาร หรือสนุกกับชีวิตยามค่ำคืนของเรคยาวิก หากคุณต้องการพักผ่อน ก็สามารถกลับที่พักเพื่อเตรียมตัวสำหรับการผจญภัยของวันถัดไปได้เช่นกัน

วันที่สองของทริปจะยิ่งน่าตื่นเต้นขึ้นไปอีก เพราะคุณจะได้ออกไปกับเดย์ทัวร์วันเดียวแบบมีไกด์พาเที่ยวเส้นทางไฮไลต์ชื่อดังอย่างวงกลมทองคำ

เส้นทางนี้ประกอบด้วย น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss Waterfall) พื้นที่น้ำพุร้อนเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur Geothermal Area) และอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir National Park) ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกจากทั้งหมดสามแห่งที่คุณจะได้เยือนระหว่างการเดินทางในไอซ์แลนด์ครั้งนี้

จุดแวะแรกของเส้นทางวงกลมทองคำคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ซึ่งเต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นสถานที่ก่อตั้งรัฐสภาไอซ์แลนด์หรืออัลธิงกิ (Althingi) เมื่อปี ค.ศ. 930 ทำให้อุทยานแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก

นอกจากนี้ยังโดดเด่นทางด้านธรณีวิทยาเพราะตั้งอยู่เหนือจุดบรรจบของแผ่นเปลือกโลกสองแผ่น คุณจะเห็นรอยแยกที่ผืนดินซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียและแผ่นอเมริกาเหนือ ณ รอยแยกซิลฟรา (Silfra Fissure)

คุณยังสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมดำน้ำสน็อร์กลิงที่รอยแยกซิลฟราได้ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ใสที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำเป็นต้องว่ายน้ำเป็นและรู้สึกสบายเมื่ออยู่ในน้ำ

อีกหนึ่งจุดแวะตามเส้นทางนี้คือปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerid Crater) ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟสีเทอร์ควอยซ์สวยเด่น ตัดกับผนังปล่องสีแดงสด คุณสามารถเดินชมรอบขอบปล่องหรือเดินลงไปยังริมทะเลสาบได้เช่นกัน

จากนั้นมุ่งหน้าไปยังพื้นที่น้ำพุร้อนเฮยคาดาลูร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของไกเซอร์ (Geysir) ต้นแบบของชื่อไกเซอร์ทั่วโลก พื้นที่นี้เต็มไปด้วยบ่อน้ำพุร้อน ไกเซอร์ และช่องไอน้ำหลากหลายจุด

แม้ไกเซอร์จะไม่ค่อยพ่นน้ำแล้วในปัจจุบัน แต่สโทรคูร์ (Strokkur) ที่อยู่ใกล้กันยังคงพ่นน้ำเป็นประจำ และมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 20 เมตรในแต่ละครั้ง

จุดสุดท้ายของวันนี้คือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย คุณสามารถเดินเข้าไปใกล้น้ำตกที่ไหลลงสู่แคนยอนของแม่น้ำฮวิทเอา (Hvita) ผ่านชั้นตกสองตอนรวมสูงกว่า 32 เมตร ชมความยิ่งใหญ่ของสายน้ำได้อย่างใกล้ชิด

คุณยังสามารถเพิ่มกิจกรรมเสริมเข้าไปในทัวร์ของวันนี้ได้

เพิ่มทัวร์ขี่ม้าเพื่อทำความรู้จักกับม้าไอซ์แลนด์และธรรมชาติรอบตัว หรือเลือกสัมผัสความเร็วด้วยการนั่งสโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull Glacier)

หลังจากทัวร์จบลง คุณจะเดินทางกลับสู่เรคยาวิกเพื่อพักผ่อนในคืนนี้ โดยคุณสามารถเพิ่มกิจกรรมอื่นในเรคยาวิกลงในแผนการเดินทางของวันนี้ได้เช่นกัน

ในวันที่สี่ของแพ็คเกจท่องเที่ยวนี้ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่อัดแน่นไปด้วยความตื่นเต้น เพราะวันนี้คุณจะได้เยือนทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนและหาดไดมอนด์ (Diamond Beach) ที่อยู่ใกล้กัน

เช้านี้คุณจะตื่นขึ้นมาใต้เงาของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลอันยิ่งใหญ่ และเริ่มวันด้วยการไปชมหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยที่สุดของไอซ์แลนด์ นั่นคือ ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

ทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งเบรดาแมร์คูร์โจกุล (Breidamerkurjokull Glacier) ทำให้เกิดแอ่งน้ำที่เต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งหลากหลายขนาดและรูปทรง

น้ำในทะเลสาบใสสะอาดเป็นสีฟ้าครามสะท้อนภาพธารน้ำแข็งโดยรอบ สร้างบรรยากาศงดงามราวภาพฝัน

หากคุณมาเยือนระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม และต้องการชมภูเขาน้ำแข็งอย่างใกล้ชิด คุณสามารถเลือกทัวร์ล่องเรือในทะเลสาบได้ คุณจะได้ลงเรือสะเทินน้ำสะเทินบกที่รองรับผู้เข้าร่วมทุกวัย ให้ล่องอย่างผ่อนคลายท่ามกลางภูเขาน้ำแข็งมหึมา

เรือซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษสามารถเคลื่อนที่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ จะพาคุณออกเดินทางท่ามกลางภูเขาน้ำแข็งลอยน้ำสุดอลังการ

ไกด์ผู้เชี่ยวชาญจะนำทางผ่านเส้นทางที่คดเคี้ยวระหว่างน้ำแข็ง พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการก่อตัวของธารน้ำแข็งและระบบนิเวศเฉพาะของทะเลสาบแห่งนี้

ทัวร์นี้เปิดโอกาสให้คุณได้ชมความงามเหนือจริงของโจกุลซาร์ลอนอย่างใกล้ชิด เก็บภาพถ่ายสวยๆ และอาจได้เห็นแมวน้ำตัวน้อยว่ายน้ำเล่นในทะเลสาบ

ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครนี้ ทำให้คุณได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติอันน่าหลงใหลของทะเลสาบโจกุลซาร์ลอนอย่างลึกซึ้ง

ใกล้กับทะเลสาบแห่งนี้คือหาดไดมอนด์ ซึ่งเป็นชายหาดสีดำที่มีเศษภูเขาน้ำแข็งแตกตัวแล้วถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยชายฝั่ง เมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบก้อนน้ำแข็งเหล่านี้ จะเปล่งประกายคล้ายเพชรระยิบระยับ จนเป็นที่มาของชื่อหาดนี้

จากนั้นคุณจะเริ่มเดินทางกลับไปยังเรคยาวิก โดยจะแวะชมสถานที่โปรดของไกด์ท้องถิ่นตลอดเส้นทาง และเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของหมู่เกาะเวสต์แมน (Westman Islands) ทางตอนใต้ รวมถึงธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลและเอยาฟยาลลาโจกุลทางตอนเหนือ

ช่วงเย็นคุณจะกลับถึงเรคยาวิกและพักผ่อนในที่พักอันสะดวกสบายสำหรับคืนนี้

ในวันที่ห้าของทริปฤดูร้อนในไอซ์แลนด์ คุณสามารถใช้เวลาเที่ยวชมเรคยาวิกแบบสบายๆ หรือออกเดินทางไปยังคาบสมุทรสไนแฟลสเนสก็ได้

หากคุณเลือกอยู่ในเรคยาวิก คุณสามารถเดินเล่นตามถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเมือง ซึมซับวัฒนธรรมแบบนอร์ดิก และเลือกซื้อของฝากติดมือกลับบ้าน

แต่ถ้าคุณอยากผจญภัยมากขึ้น ลองหยิบหมวกและถุงมือ แล้วออกไปกับเดย์ทัวร์หนึ่งวันไปยังคาบสมุทรสไนแฟลสเนสในไอซ์แลนด์ตะวันตก

ไฮไลต์สำคัญของคาบสมุทรแห่งนี้คือภูเขาไฟน้ำแข็งสไนเฟลล์สโจกุล (Snaefellsjokull Glacial Volcano) ซึ่งมีชื่อเสียงจากนิยายคลาสสิกของฌูล เวิร์นเรื่อง Journey to the Centre of the Earth ที่กล่าวถึงที่นี่ในฐานะประตูสู่ใจกลางโลก

รอบๆ ภูเขาน้ำแข็งแห่งนี้เป็นทุ่งลาวาที่ปกคลุมด้วยมอสส์และเต็มไปด้วยถ้ำมากมาย

อุทยานแห่งชาติสไนเฟลล์สโจกุลยังเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งเดียวในไอซ์แลนด์ที่เชื่อมต่อกับทะเล หน้าผาริมชายฝั่งในบริเวณนี้งดงามอย่างน่าทึ่ง และสามารถชมได้ง่ายจากหมู่บ้านเล็กๆ อย่างเฮลล์นาร์ (Hellnar) และ อาร์นาร์สตาปี (Arnarstapi)

ระหว่างทริป คุณยังจะได้เยือนชายหาดดยูปาลอนส์ซานดูร์ (Djupalonssandur) ซึ่งเป็นชายหาดกรวดสีดำและมีอ่าวสวยใกล้กัน รวมถึงน้ำตกเล็กๆ หลายแห่ง และ ภูเขาคิร์กจูเฟลล์ (Kirkjufell Mountain) ใกล้เมืองกรุนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjordur)

ภูเขานี้โดดเด่นด้วยรูปทรงสวยงาม และมักปรากฏเป็นภาพสะท้อนในสระน้ำด้านหน้า จึงกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ ด้วยความสูงประมาณ 463 เมตร คิร์กจูเฟลล์จึงเป็นจุดสังเกตสำคัญสำหรับนักเดินทางและชาวประมง

หากต้องการเพิ่มความตื่นเต้นในวันนี้ คุณสามารถเลือกเพิ่มทัวร์ขับรถเอทีวีได้ โดยรถจะมารับถึงที่พักในเรคยาวิก จากนั้นพาไปยังฐานกิจกรรมใกล้เมือง ที่นั่นคุณจะได้รับอุปกรณ์กันความหนาวและอุปกรณ์ป้องกัน ก่อนเข้ารับฟังคำแนะนำด้านความปลอดภัย แล้วจึงออกขับรถเอทีวีลุยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ พร้อมชมทิวทัศน์งดงามของชนบทไอซ์แลนด์

ทางเลือกอื่นๆ สำหรับเที่ยวในเรคยาวิก ได้แก่ โบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยา (Hallgrimskirkja Church) โบสถ์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ พิพิธภัณฑ์เพอร์ลานและดาดฟ้าชมวิว (Perlan Museum) ที่มีมุมมองพาโนรามา 360° ของเมือง ประติมากรรมซันโวยาจเจอร์ (Sun Voyager) ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรือไวกิ้ง และทัวร์ชมวาฬที่จะได้เห็นวาฬมิงก์ วาฬหลังค่อม และนกพัฟฟิน

เมื่อจบการผจญภัยคุณจะกลับเข้าที่พักคืนสุดท้ายในเมืองเรคยาวิก