ทัวร์แบบเร่งรัด ขับรถเที่ยวเอง 7 วัน เส้นทางรอบถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์
คำอธิบาย
รายละเอียด
คำอธิบาย
ใช้ช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ในประเทศไอซ์แลนด์ให้คุ้มค่าด้วยทัวร์ 7 วันขับรถเที่ยวเอง คุณจะได้ขับรถไปรอบวงแหวนของประเทศไอซ์แลนด์เพื่อไปยังจุดไฮไลท์ทุกแห่ง และยังมีเวลามากมายที่จะได้สำรวจเมืองหลวงด้วย
ทัวร์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่รักการออกไปชมธรรมชาติและต้องการที่จะชมเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่งดงามที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ อย่างเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) และอาคูเรย์ริ (Akureyri) ในทางเหนือ ด้วยทัวร์ขับรถเที่ยวเองคุณจะได้เลือกสถานที่ที่คุณจะไปและสิ่งที่คุณอยากชม จะไม่มีไกด์ทัวร์หรือนักท่องเที่ยวคนอื่นๆให้ต้องกังวลในการเดินทางครั้งนี้ เพราะคุณจะเป็นคนชับรถเอง
คุณจะได้ท่องเที่ยวไปรอบๆทั่วเส้นทางถนนวงแหวนของประเทศไอซ์แลนด์ และเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติถึงสองแห่ง, ชมหมู่บ้านชาวประมงที่น่ารักที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ และระหว่างเส้นทางคุณจะได้ตื่นตากับน้ำตก, ภูเขาไฟ, ปล่องภูเขาไฟ, ภูเขาและน้ำพุร้อนจำนวนนับไม่ถ้วน สุดท้ายของวันคุณจะได้พักผ่อนด้วยความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ด้วยห้องพักห้องน้ำส่วนตัวและแน่นอน รวมอาหารเช้าในที่พักทุกคืน
ถนนสายวงแหวนจะนำคุณไปยังสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไอซ์แลนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดทั้งหมด แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการที่จะหลีกหนีจากฝูงคนในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวด้วย ยังมีสถานที่แห่งความลับมากมายที่จะเปิดโอกาสให้คุณได้พักผ่อนอย่างอิสระทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง. คุณจะได้รับตารางการเดินทางฉบับพิเศษหลังจากที่ทำการจอง ที่จะเด็มไปด้วยอัญมณีที่ถูกซ่อนไว้และสถานที่ที่โปรดปราณเก่าๆ นั่นจะทำให้วันพักผ่อนของคุณแทบจะไม่มีเวลาได้เหงาเลย.
คุณยังสามารถเลือกเพิ่มกิจกรรมพิเศษระหว่างจองทัวร์ของคุณในราคาพิเศษได้ ซึ่งมีตัวเลือกมากมายเช่น การขับรถสโนว์โมบิล, การปีนธารน้ำแข็ง, การเยี่ยมชมบลูลากูนและทัวร์เรือรอบทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน ให้คุณสามารถเพิ่มในการเดินทางของคุณได้.
ช่วงฤดูร้อนของประเทศไอซ์แลนด์ถือว่ามีช่วงเวลาของวันที่ยาวนาน ดังนั้นคุณสามารถใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าตั้งแต่เริ่มต้นวันแต่เช้าและจบวันในช่วงค่ำ จะไม่มีวันที่คุณจะไปถึงจุดหมายปลายทาง "ในตอนมืด" ตั้งแต่ระหว่างช่วงฤดูกาลของพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่จะไม่มีวันมืด ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนสิงหาคม.
เราได้รวบรวมทิวิัศน์ที่งดงามจำนวนมากเท่าที่คุณจะทำได้ในทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 7 วันนี้แล้ว สามารถตรวจสอบโปรแกรมได้ด้วยการเลือกวันเดินทางของคุณ.
ร่วมด้วย
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1 - มาถึงเมืองเรคยาวิก
เมื่อคุณมาถึงเมืองเรคยาวิก คุณจะได้รู้สึกถึงพลังงานที่ไม่มีวันจบสิ้นของพระอาทิตย์ช่วงฤดูร้อน หากเป็นเช่นนั้น ทำไมไม่ใช้เวลาในตอนที่คุณมาถึงอย่างคุ้มค่าโดยการใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงที่เหลือของวันด้วยการแช่น้ำอุ่น สีฟ้าใสของบลูลากูน. เพราะการเดินทางไปที่นั่นจากสนามบินเคฟราวิก (Keflavík) ใช้เวลาเพียงไม่นาน.
ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่ Blue Lagoon สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการบำบัดน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา มันตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสทำให้มันมีบรรยากาศโลกอื่น หากคุณเพิ่ม Blue Lagoon มันจะถูกจัดเรียงตามเที่ยวบินของคุณ หากไม่มีเวลาไปเที่ยวทะเลสาบวันนี้สามารถเพิ่มไปอีกวันที่โดยปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะสามารถจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ยังมีอีกหลายสิ่งให้ดูและทำในเรคยาวิกหากคุณมีเวลาว่างเพิ่มเติม เมื่อคุณเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณและเพิ่มความสดชื่นที่โรงแรมในใจกลางเมืองแล้ว คุณจะสามารถใช้เวลาที่เหลือในตอนเย็นเพลิดเพลินกับเมืองนี้ หากคุณต้องการคุณสามารถกระโดดขึ้นทัวร์ชมแสงเหนือในคืนที่คุณมาถึง.
เมืองเรคยาวิกเต็มไปด้วยแกลลอรี่, คาเฟ่ต์, พิพิธภัณฑ์, ร้านของนักออกแบบ, ร้านอาหาร, ถนนแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ เฃ่นโถงคอนเสิร์ตฮาร์ปา (Harpa) หรือพาร์ลาน (Perlan) ที่แปลได้ว่า "ไข่มุก" ด้วยรูปร่างและความใหญ่โตของโดม.
คุณสามารถใช้เวลาวันนี้ในการเดินเล่นไปยังถนนสายหลักที่ชื่อว่าเลยการแวกูร์ (Laugavegur), เที่ยวชมหอคอยโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja), และแวะเข้าไปชมร้านค้าที่น่ารักรวมถึงอาคารเก่าแก่ของท่าเรือเก่า.
ใช้เวลาคืนแรกของคุณในเมืองเรคยาวิก ในโรงแรมที่อยู่ในกลางเมืองและสะดวกสบาย.

วัน 2 - ไอซ์แลนด์ตะวันออกและเมืองอาคูเรย์ริ
ในวันที่สองคุณจะได้ขับรถจากเมืองเรคยาวิกไปยังเมืองหลวงของทางเหนือที่ชื่อว่าอาคูเรย์ริ.
ระหว่างทางคุณสามารถหยุดแวะที่ร้านไอศกรีมในเมืองบอร์กาเนส (Borgarnes) ที่ได้รับความนิยมในหมู่คนท้องถิ่น และเลือกเดินปีเขาระยะทางสั้นๆ (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) ขึ้นไปยังเกรียวบรอค (Grábrók) ที่เป็นปล่องไฟที่เล็กที่สุดในสามปล่องภูเขาไฟภายในซากภูเขาไฟเตี้ยนี้.
หากคุณรู้สึกอยากยืดแข้งยืดขา ป้ายจะนำคุณไปยังถนนสายที่ 1 ให้ไปต่อจนสุดทาง ทันทีที่คุณไปถึงด้านบน คุณจะเห็นดินแดนที่งดงามข้ามไปยังบริเวณบอร์การ์ฟอย์ดูร์ (Borgarfjordur).
คุณยังสามารถท่องเที่ยวและเที่ยวชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ชื่อว่าเรค์คอร์ค (Reykholt), น้ำพุร้อนที่สูงที่สุดในยุโรปที่ชื่อว่าเดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) และน้ำตกขนาดใหญ่ที่ชื่อว่าเฮินฟอซซาร์ (Hraunfossar) มีความหมายว่า "น้ำตกลาวา" หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือคุณสามารถขับรถไปยังก้อนหินที่มีการก่อตัวสูงถึง 15 เมตร (50ฟุต) ที่ชื่อว่าฮวิทแชร์คูร์ (Hvítserkur) ใกล้กับฮวามม์สตานกิ (Hvammstangi).
การขับรถจากเมืองเรคยาวิกเพื่อไปยังอาคูเรย์ริใช้เวลาประมาณ 4.5-5 ชั่วโมงโดยที่ไม่หยุดแวะที่ไหน ดังนั้นกรุณาเตรียมยัวให้พร้อมกับการขับรถ และรางวัลจะรอคุณอยู่ด้วยทิวิัศน์ของเมืองขนาเล็กและมีชีวิตชีวาที่ชื่อว่าอาคูเรย์ริ ที่คุณจะได้พักผ่อนที่นี่หลังจากการเดินทางที่ยาวนาน.

วัน 3 - เมืองอาคูเรย์ริ, ทะเลสาบมิวาท์นและเอกิลสตาดีร์
ในวันที่สาม เพลิดเพลินกับเมืองอาคูเรย์ริ จากนั้นตรงไปยังฝั่งตะวันออกยังบริเวณที่งดงามรอบๆทะเลสาบมิวาท์น (Mývatn).
ระหว่างทางจากเมืองอาคูเรย์ริและมิวาท์น คุณจะได้พบกับน้ำตกโกดาฟอสส์ที่ยิ่งใหญ่ และจะต้องไม่ลืมที่จะไปแวะยังบริเวณทุ่งน้ำพุร้อนเนามาส์การ์ด (Námaskarð) ใกล้กับทะเลสาบมิวาท์นด้วย รวมถึงบริเวณที่งดงามของดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) หรือป้อมปราการที่ดำมืดและการก่อตัวของหินลาวาที่น่าประทับใจ.
อ่างน้ำธรรมชาติมิวาท์นเปิดให้บริการจนถึงเวลาเที่ยงคืนในช่วงฤดูร้อน ดังนั้นถือว่าเหมาะมากที่จะจบการเดินทางวันนี้ด้วยการแช่น้ำและพักผ่อนที่นี่.
แต่ต้องให้แน่ใจว่าคุณจะมีแรงที่จะขับรถต่อไปอีกประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อไปยังเอกิลสตาดีร์ (Egilsstaðir) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของทางตะวันออก และเป็นสถานที่พักผ่อนของคุณในคืนนี้.
หากคุณไม่ชอบการแช่น้ำพุร้อน คุณอาจจะลองไปท่องเที่ยวยังน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) ที่เป็นน้ำตกที่มีพลังมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ที่อยู่ระหว่างทางที่จะไปยังเอกิลสตาดีร์แทน!

วัน 4 - จากเอกิลสตาดีร์ไปยังไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้
ใกล้กับเอกิลสตาดีร์คือป่าฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ (Hallormsstaðaskógur) ที่เป็นป่าผืนใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ คุณอาจจะต้องการสำรวจที่นั่นก่อนที่จะขับรถไปทางใต้ยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน เพื่อที่จะได้ดื่มด่ำกับความงดงามของฝั่งตะวันออกระหว่างทาง รวมถึงจะต้องไม่ลืมที่จะคอยเฝ้าดูกวางเรนเดียร์ด้วย: ฝูงกวางสามารถพบเห็นได้เฉพาะในบริเวณนี้ของประเทศไอซ์แลนด์! ไฮไลท์หลักของการเดินทางวันที่สี่นี้ได้แก่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนและไดมอนด์บีชที่อยู่ใกล้กัน ใช้เวลาของคุณในการสำรวจทะเลสาบอันงดงามนี้ คุณจะพบว่าคุณได้หลงรักก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ลอยลงมาจากปลายธารน้ำแข็ง และไม่ว่าอย่างไรต้องแน่ใจว่าคุณจะไม่พลาดการเฝ้าดูฝูงแมวน้ำ เพราะแมวน้ำมักจะออกมาเล่นบนน้ำแข็งและอาจจะมีความอยากรู้อยากเห็นมากพอที่จะเข้ามาให้เห็นใกล้ๆ ฝูงแมวน้ำมักจะต้องการที่จะเห็นคุณพอๆกับที่คุณอยากจะเฝ้าดูพวกมัน.
จากบริเวณทะเลสาบ คุณสามารถเดินเล่นไปอีกไม่ไกลเพื่อลงไปยังหาดทรายดำที่อยู่ใกล้เคียงที่ชื่อว่าไดมอนด์บีช เนื่องจากมีภูเขาน้ำแข็งจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่บนชายหาด ด้วยคลื่นของมหาสมุทรแอตแลนติกที่ซัดขึ้นไป ที่นั่นคุณจะได้เห็นวิวที่น่าเหลือเชื่อ.
คืนนี้คุณจะได้พักผ่อนบริเวณใกล้ทะเลสาบโจกุลซาลอน.

วัน 5 - ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ไปยังเฮลลา / เซลฟอสส์
ในการเดินทางวันที่ห้า คุณสามารถกลับไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งเพื่อการนั่งเรือออกไปท่ามกลางก้อนน้ำแข็ง ทัวร์สามารถเลือกได้ทั้งเรือยางและเรือสะเทินน้ำสะเทินบก หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังศูนย์อนุรักษ์สกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell).
เราขอแนะนำให้คุณเลือเพลินเพลินกับตัวเลือกการปีนธารน้ำแข็งในสกัฟตาเฟลล์วันนี้ เพื่อจะไปยังธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ที่งดงามและชมทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง.
หลังจากเพลิดเพลินกับความงดงามของศูนย์อนุรักษ์นี้แล้ว คุณจะต้องขับรถต่อไปยังชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์. มีจุดแวะที่น่าสนใจหลายแห่งตามเส้นทางนี้ รวมถึงซากของสะพานที่ถูกทำลายโดยธารน้ำแข็ง หากคุณเลือกแวะพักที่นี่สักครู่ คุณจะได้ชมวิวของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลขนาดใหญ่. เมืองที่น่ารักอย่างเคิร์กยูแบร์ยาร์กเลาสเทอร์ (Kirkjubæjarklaustur) ก็คุ้มค่าที่จะไปเที่ยวชม เนื่องจากที่นั่นมีหุบเขาฟยาดราวกยูเฟอร์ (Fjaðrárgljúfur) ที่น่าตื่นตา.
ที่หมู่บ้านวิก (Vík) คุณจะได้ชมวิวของหินเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) จากชายหาดสีดำของเมือง และที่บริเวณใกล้เคียงคุณจะได้ทำการสำรวจหน้าผาดีร์โฮเลย์ (Dyrhólaey) ที่มีธารน้ำแข็ง, ทะเลและชายหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) อยู่ตรงหน้า แต่ต้องระวังเป็นพิเศษหากจะลงไปยังชายหาดที่นี่ เพราะคลื่นที่นี่อันตรายมากและไม่สามารถคาดเดาได้.
สุดท้ายของวันนี้ คุณจะได้ไปสำรวจน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) และน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) พลังแห่งธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ไม่สามารถปฏิเสธได้ในขณะที่คุณชมน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผาที่สูงชันลงไปในน่านน้ำที่รอของแม่น้ำด้านล่าง คุณยังสามารถเดินไปรอบๆน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ได้ด้วย.
ใช้เวลาคืนนี้ในเมืองเฮลลา (Hella) หรือแถวเซลฟอสส์ (Selfoss)

วัน 6 - วงกลมทองคำและเมืองเรคยาวิก
หลังจากตื่นจากเมืองควอลส์เวิลลูร์หรือเฮลลาในเช้าวันนี้ คุณจะได้เดินทางต่อไปยังทางตะวันตกและมุ่งหน้าไปยังวงกลมทองคำที่โด่งดัง และแวะเที่ยวยังสามสถานที่ยอดฮิตและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ในเส้นทางเดียวกัน.
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกได้แก่น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หรือน้ำตกทองคำ คุณอาจจะต้องการที่จะหยุดแวะที่เมืองฟลูดิร์ (Flúðir) และแช่น้ำในซีเครทลากูน (Secret Lagoon). ธรรมชาติรอบๆและไอน้ำที่ลอยสูงขึ้นไปในอากาศของสระน้ำแห่งนี้ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศที่ลึกลับ น้ำที่นี่มีอุณหภูมิที่เหมาะสมที่ 38-40 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี. ที่นั่นคุณยังสามารถสนุกสนานกับทัวร์สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) และสัมผัสประสบการณ์บนที่ราบสูงไอซ์แลนด์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด.
น้ำตกกุลล์ฟอสส์มีทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง ม่านน้ำตกตกลงมาทั้งสองฝั่งที่ความสูงกว่า 32 เมตร (105 ฟุต) ในวันที่สภาพอากาศดีคุณจะสามารถเดินขึ้นไปตามทางเดินยังจุดชมวิวตรงริมน้ำตก เพื่อจะได้ชื่มชมพลังงานอันน่าทึ่งของที่นี่. หากคุณต้องการคุณสามารถเลือกทัวร์สโนว์โมบิลได้จากที่นี่ด้วย.
หลังจากขับรถต่อไปอีกไม่ไกล คุณจะได้พบกับไกเซอร์ (Geysir) หรือ "ไกเซอร์ที่ยิ่งใหญ่" ที่เป็นน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงระดับโลกในหุบเขาเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur). เนื่องจากไกเซอร์ไม่ได้มีการปะทุแล้วในปัจจุบัน แต่น้องชายที่ชื่อว่าสโทรคูร์ (Strokkur) มีการปะทุทุกๆ 10 นาทีหรือมากกว่านั้น น้ำปะทุออกมาสูงถึง 30 เมตร (98ฟุต) ขึ้นไปในอากาศ.
สุดท้าย เพื่อจบเส้นทางวงกลมทองคำของคุณ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ในการไปเที่ยวชมยังอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir). อุทยานแห่งนี้ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO เนื่องจากรัฐสภาแห่งแรกถูกค้นพบขึ้นที่นี่เมื่อปีคศ. 930. ที่นี่ถูกล้อมรอบด้วยแนวสันเขาที่สวยงาม และมีลักษณะเป็นรอยแยกหุบเขา ที่เป็นสัญลักษณ์ของช่วงกลางมหาสมุทรแอตแลนติก คุณจะสามารถเดินไปยังหุบเขาอันงดงามที่ชื่อว่าอัลมานายอง จอร์เก (gorge Almannagja) ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์เขตแดนตะวันออกของแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือ และด้านล่างเป็นน้ำตกอ๊อกซาร่าฟอสส์ (Oxararfoss) ที่งดงาม. ซีรีย์ยอดฮิตของทางช่อง HBO เรื่องมหาศึกชิงบัลลังฆ์ (Game of Thrones) ก็ได้ถ่ายทำในบริเวณที่งดงามที่นี่ด้วย.
เพื่อที่จะได้สัมผัสประสบการณ์จากธิงเวลลีย์ได้มากขึ้น ด้วยการเลือกกิจกรรมดำน้ำตื้นในช่องแคบซิฟรา (SIlfra). น้ำที่ใสเป็นประกายของที่นี่ได้เติมเต็มหุบเขาระหว่างสองแผ่นเปลือกโลกที่มาบรรจบกัน ดังนั้นคุณจะได้ว่ายน้ำอยู่ระหว่างสองทวีป ในจุดดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก.
จากอุทยานแห่งชาตินี้ คุณจะขับรถต่อไปอีกไม่ไกลประมาณ 45 นาที เพื่อกลับไปยังเมืองเรคยาวิก และใช้เวลาค่ำคืนนี้ที่นั่น.

วัน 7 - วันเดินทางกลับ
วันนี้คือวันสุดท้ายของคุณในไอซ์แลนด์ ดังนั้นทำในสิ่งที่คุณต้องการ คุณสามารถพักผ่อนแบบสบายๆ ในเมืองเรคยาวิก หรือออกไปช้อปปิ้งก็ได้ สำหรับผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
ทริปขับรถเที่ยวครั้งนี้สามารถเริ่มต้นออกเดินทางได้จากทั้งในเมืองเรคยาวิก หรือสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนท้องถนนอย่างน้อยหนึ่งปี ทั้งนี้แผนการท่องเที่ยวที่จัดไว้อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย และถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่อากาศที่ไอซ์แลนด์ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้น โปรดเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมมาด้วย
ที่พัก
ดูระดับของที่พักของเราที่ด้านล่างนี้ และดูรายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เราแนะนำได้ที่ใต้แผนการเดินทางในแต่ละวัน ที่พักระดับซูเปอร์บัดเจทจะเป็นโฮสเทลและเตียงนอนแบบหอพักรวม ส่วนระดับอื่นๆ นั้น หากจองเข้าพักเพียงท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิล หากจองเข้าพักสองท่านขึ้นไปจะได้ห้องพักที่มีเตียงทวิน/เตียงดับเบิ้ล หรือเตียงทริปเปิ้ล
สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักห้องเดียวกับผู้ปกครอง หากต้องการห้องเพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อคุณทำการจองกับเรา Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดจากพันธมิตรที่เราแนะนำให้กับคุณ ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ของไอซ์แลนด์อาจมีความแตกต่างกัน และเนื่องจากจำนวนที่พักมีอยู่อย่างจำกัดมาก หากที่พักพันธมิตรที่เราแนะนำถูกจองเต็มหมดแล้วในวันที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันให้กับคุณตามความเหมาะสม
ที่พักระดับควอลิตี้นั้นไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ หากไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ในพื้นที่ที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักระดับคอมฟอร์ทให้แทน โดยจะเลือกอัปเกรดห้องให้มีราคาสอดคล้องกับที่พักระดับควอลิตี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่พักให้ตรงกับความต้องการพิเศษที่คุณมี ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณาระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือเกสต์เฮาส์คุณภาพ ทำเลใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือห้องซูพีเรียร์ในโรงแรมระดับ 3 ดาวที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ รวมอาหารเช้า
รถ
ด้านล่างนี้คือตัวเลือกการเช่ารถสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง รถทุกคันของเราเป็นรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปี รถระดับซูเปอร์บัดเจทจะมาพร้อมกับประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ซึ่งเป็นประกันมาตรฐาน ในขณะที่ระดับอื่นๆ ทั้งหมดจะรวมประกันกรวด (GP) และประกันประเภทไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW)
ข้อควรรู้: การขับรถออกนอกเขตถนนถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รถทุกระดับมี GPS และ Wi-Fi ให้ฟรี คุณสามารถเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน ผู้ให้บริการรถเช่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้านอายุของผู้ขับขี่สำหรับแต่ละระดับสามารถดูได้ที่ด้านล่าง แต่ไม่ว่ารถระดับใด ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนวันที่เช่า เราขอแนะนำให้เลือกใช้รถระดับบัดเจทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูร้อน และระดับคอมฟอร์ทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว
รถขนาดเล็กขับเคลื่อนสองล้อ เช่น Toyota Aygo หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีขนาดกะทัดรัดและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 2 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถขนาดมาตรฐานขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่น Toyota Yaris หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร 3 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดมาตรฐาน เช่น Dacia Duster หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง เช่น Toyota Rav4 (เกียร์อัตโนมัติ) Suzuki Vitara (เกียร์ธรรมดา) หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Land Cruiser หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 4 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถตู้ขนาดใหญ่ 9 ที่นั่ง เช่น Mercedes Benz Vito หรือรุ่นใกล้เคียง (ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ธรรมดา สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้) รองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน นั่งสบายและเหมาะสำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว หากจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระลดน้อยลง ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 23 ปีขึ้นไป