แพ็คเกจ 7 วันช่วงฤดูร้อน | ชมภายในภูเขาไฟและทะเลสาบน้ำแข็งโจกุลซาลอน

ในวันนี้คุณจะได้เดินทางออกห่างไปจากเมือง เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่งดงามของประเทศไอซ์แลนด์ ที่เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากของประเทศนี้ วงกลมทองคำประกอบด้วยสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงสามแห่งไว้รอให้คุณได้มาท่องเที่ยว ข้อมูลทั้งหมดมีอยู่ในบริษัทพร้อมไกด์ที่มากประสบการณ์.

จุดแวะแรกของวันนี้คืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir) ที่มีสภาพทางธรณีวิทยาที่น่าทึ่งด้วยเป็นสถานที่ที่แผ่นเปลือกโลกของยุโรปและอเมริกามาบรรจบกัน การดันและการดึงกันของแผ่นเปลือกโลกทำให้เกิดภูมิประเทศของหุบเขาและช่องแคบที่น่าทึ่ง พื้นที่ถูกล้อมรอบด้วยลาวาที่ไหลออกมาเนื่องจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลก หลังจากนั้นประเทศไอซ์แลนด์ก็ได้สร้างรูปแบบของรัฐสภาประชาธิปไตยขึ้นที่นั่น และได้ชื่อที่แปลได้ว่า "ทุ่งหญ้ารัฐสภา".

ต่อจากนั้นคุณจะเดินทางต่อไปยังบริเวณพลังงานใต้พิภพไกเซอร์ (Geysir) ที่คุณจะได้เห็นไกเซอร์สโทรคูร์ (Strokkur) ที่ปะทุน้ำขึ้นมา 15-20 เมตรไปในอากาศทุกๆไม่กี่นาที บริเวณรอบๆเต็มไปด้วยมวลไอน้ำและไกเซอร์ที่มีขนาดเล็กกว่า ที่มีการปะทุน้ำแร่เดือดและเป็นฟองออกมา ซึ่งบางครั้งทำให้เกิดสีสันราวกับอยู่ในความฝัน บนผืนดินโคลนแดงที่ทำให้เหมือนมีเวทมนตร์มากขึ้น.

สถานที่แวะสุดท้ายของวันนี้ ได้แก่ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ที่ได้ถูกขนานนามด้วยความภาคภูมิใจว่าเป็นน้ำตกทองคำ และแน่นอนว่าชื่อนี้เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ในช่วงนี้น้ำตกแห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยแสงอาทิตย์ในช่วงฤดูร้อนเป็นภาพที่น่าตื่นตาที่ควรเฝ้ารอและเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ได้รับความนิยมที่สุดในประเทศ.

เส้นทางวงกลมที่มีชื่อเสียงแห่งนี้มีกิจกรรมที่สามารถเติมเต็มความสนุกสนานได้มากมายสำหรับผู้ที่ต้องการที่จะสัมผัสกับการผจญภัยในตัวเองให้มากยิ่งขึ้น มีกิจกรรมการผจญภัยที่แตกต่างกันสามแบบให้คุณเลือกเพิ่มเข้าไปในการเดินทางวันนี้เพื่อที่จะทำให้เป็นวันที่น่าอัศจรรย์ยิ่งขึ้น.

สำหรับผู้ที่ต้องการที่จะปลุกอะดรีนาลีนในตัวคุณ คุณสามารถเลือกการขับสโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) ที่คุณจะได้แข่งขันกันด้วยการสโนว์โมบิลข้ามแผ่นน้ำแข็งที่มีอายุยาวนานด้วยความเร็วสูง แต่หากคุณชื่นชอบอะไรที่ตื่นเต้นน้อยกว่า คุณสามารถไปทำความรู้จักกับม้าสายพันธุ์ไอซ์แลนด์ในทัวร์ขี่ม้าในเส้นทางชนบทที่แสนงดงาม.

คุณอาจจะเลือกทัวร์ดำน้ำตื้นในช่องแคบซิลฟรา (Silfra) ภายในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ ภายใต้น้ำที่ใสราวกับคริสตัลที่ทอดยาวระหว่างแผ่นเปลือกโลกทั้งสองแผ่น คุณจะได้ว่ายน้ำอยู่ระหว่าง 2 ทวีป.

หลังจากนี้คุณจะได้กลับตรงไปยังตัวเมืองเพื่อใช้ชีวิตอีกคืนหนึ่งในเมืองเรคยาวิก.

เริ่มต้นวันอย่างยิ่งใหญ่ รถจะไปรับคุณแต่เช้ายังโรงแรมและเริ่มต้นวันที่มหัศจรรย์ของคุณ ชายฝั่งทางใต้เป็นเหมือนกับหีบสมบัติที่เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ตื่นตากับความสวยงามของน้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศ และชายหาดที่เป็นที่กล่าวถึงในความงดงามไปทั่วโลกและสิ่งที่ถูกทิ้งไว้บนชายหาด.

สถานที่แรกที่คุณจะแวะ ได้แก่ น้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ถึงแม้น้ำตกแห่งนี้จะแคบแต่มีม่านน้ำที่งดงามตกลงมาเหนือถ้ำเล็กๆ ทางเดินที่อยู่ถัดจากน้ำตกจะนำคุณเข้าไปภายในถ้ำ เพื่อที่คุณจะได้ชมทัศนียภาพที่เป็นภาพหาดูได้ยากของชายฝั่งทางใต้ผ่านม่านน้ำ.

ถัดไปเป็นอีกน้ำตกหนึ่ง ที่มีความงดงามพอๆกัน แต่มีความแตกต่างกันมาก น้ำตกน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) มีพลังงานมหาศาลจากน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผาที่มีความสูงถึง 60 เมตรลงมายังพื้นโลกเรียบด้านล่าง พลังอันมหาศาลที่เกิดจากการที่น้ำตกกระทบกับพื้นดินทำให้ให้เกิดหมอกซึ่งคุณอาจจะได้เห็นสายรุ้งได้หนึ่งหรือสองสายในวันที่มีแสงอาทิตย์.

มีธารน้ำแข็งขนาดใหญ่สองแห่งในบริเวณชายฝั่งทางใต้ ที่แรกที่คุณจะได้ชม คือ เอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajökull) ที่เคยหยุดการเดินทางทางอากาศในตอนที่มีการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อปี 2010.

ธารน้ำแข็งแห่งที่สอง คือ มิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ที่ปกคลุมภูเขาไฟคัทลา (Katla) และเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ที่ปกคลุมภูเขาไฟไว้.

วันนี้คุณสามารถเลือกกิจกรรมการปีนไปยังหนึ่งในยอดของธารน้ำแข็งของมิร์ดาลสโจกุลที่ชื่อว่าโซลเฮมาร์โจกุล (Sólheimajökull) คุณจะมีเพื่อนร่วมเดินทางเป็นไกด์ธารน้ำแข็งที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี คุณจะได้เดินทางผ่านยอดเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่าน รอยแยกลึก และธารน้ำแข็งสีฟ้า จนกระทั่งคุณจะเดินทางไปถึงหิมะที่บริสุทธิ์และน้ำแข็งสีขาวโพลนขนาดใหญ่ที่น่าตื่นตา.

ถัดมาคุณจะได้แวะชมชายหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา ที่คุณสามารถเดินทางไปชมเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) กองชั้นหินที่ไม่อาจละสายตาที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางมหาสมุทรเหมือนเป็นผู้ปกป้องดำทะมึนที่ยิ่งใหญ่ อย่าลืมที่จะมองหานกพัฟฟินด้วยเพราะคุณอาจจะพบนกชนิดนี้ 1 หรือ 2 ตัวที่กำลังสร้างรังอยู่ตรงหน้าผาแห่งนี้.

จากนั้นคุณจะได้เดินทางตรงไปยังที่พักภายในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล.

ในวันนี้คุณจะได้เดินทางไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน ที่มีการแตกของภูเขาน้ำแข็งและไหลไปยังธารน้ำแข็งใกล้เคียง และกลายเป็นก้อนน้ำแข็งราวกับอัญมณีขนาดใหญ่ลอยอยู่ในน้ำสีฟ้า ทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของแมวน้ำและนกหลายชนิดที่คุ้นเคยกับผู้ที่มาชมด้วย.

หากคุณต้องการที่จะชมแมวน้ำและภูเขาน้ำแข็งได้ใกล้ชิดขึ้น คุณสามารถเลือกที่จะล่องเรือไปตามทะเลสาบ. การล่องเรือนี้เหมาะทั้งสำหรับผู้ที่เดินทางกันมาเป็นครอบครัว หรือช่างภาพ. ในอีกฝั่งถนนจะเป็นไดมอนด์บีช หาดทรายดำกว้างใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียงกับมหาสมุทรแอตแลนติก ที่นี่เป็นสถานที่ก้อนน้ำแข็งที่ได้ออกมาจากภูเขาน้ำแข็งกระจัดกระจายอยู่เต็มชายหาด ความสวยงามของที่นี่จะสะกดสายตาของคุณแบบไม่ต้องสงสัยโดยแนวชายหาดที่เกลื่อนกลาดไปด้วยเพชรขนาดใหญ่ที่ผ่านการเจียระไนมาแล้ว.

หลังจากนั้นคุณจะได้เดินทางกลับไปยังเมืองหลวงเรคยาวิก เพื่อการพักผ่อนในคืนนี้ ระหว่างทางคุณจะได้แวะตามจุดต่างๆที่ไกด์ของคุณเป็นผู้เลือกเพื่อคุณจะได้รู้จักและเข้าใจธรรมชาติและวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์ได้อย่างแท้จริง.

และตอนนี้ก็มาถึงไฮไลท์ของการเดินทางของคุณ คุณจะได้ดำดิ่งลงในความลึก 120 เมตรในกาน้ำแม็กมาที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ภายในภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Þríhnúkagígur) ที่หลับใหลแล้ว ด้วยพื้นที่ขนาด 150,000 ลูกบาศก์เมตรและมีพื้นที่ขนาดเท่าสนามฟุตบอลทำให้ที่นี่เป็นเหมือนมหาวิหารแห่งความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ.

การเผาไหม้ของลาวาในอดีตทำให้เกิดรูปแบบและลวดลายของสีสันบนกำแพงที่มีขนาดกว้างและสูงเป็นรูปร่างเหมือนกาต้มน้ำที่มีขนาด 4X4 เมตร ทำให้เกิดพื้นที่ขนาดใหญ่เหมือนห้องบัลลังก์ของกษัตริย์แห่งภูเขาในตำนานโบราณ.

รถจะไปรับคุณในตัวเมืองเรคยาวิกและนำคุณไปยังภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ที่ตั้งอยู่เหนือความมืดดำและว่างเปล่าของทุ่งลาวา ใกล้กับภูเขาเบลาเฟยืล (Bláfjöll) ที่สวยงาม ในตอนที่คุณเดินทางถึงบริเวณนี้ ไกด์ผู้รอบรู้ของคุณจะนำคุณลงไปในกาน้ำโดยลิฟท์เลื่อนดังนั้นคุณจะได้ชมความยิ่งใหญ่ของพื้นที่ขณะที่คุณลงไปด้านล่าง.

หลังจากนั้นเราจะมีน้ำดื่มและอาหารว่างไว้คอยบริการคุณ หรือบางทีอาจจะเป็นซุปในแบบของชาวไอซ์แลนด์ เมื่อคุณได้เติมเต็มทั้งอาหารและความสนุกสนานแล้ว คุณก็จะได้เดินทางกลับไปในตัวเมือง.

ในวันนี้คุณจะได้สนุกสนานในเมืองเรคยาวิกรวมถึงคาเฟ่ ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์และร้านค้าที่มีอยู่มากมาย หรือคุณสามารถออกไปยังสระว่ายน้ำจากพลังงานใต้พิภพ ที่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับคนในท้องถิ่น หรือขึ้นไปยังหอคอยของโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) หรือสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่อาจจะไปได้หมด.

หากการผจญภัยนี้ยังไม่เพียงพอสำหรับคุณ คุณยังมีตัวเลือกที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ การออกไปชมสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำใกล้เมืองเรคยาวิก และวันนี้คุณสามารถเลือกไปกับทัวร์ชมวาฬเพื่อที่จะได้ชมวาฬขนาดใหญ่ที่ใช้บริเวณอ่าวฟาซาโฟลอิ (Faxaflói) เป็นเหมือนบ้าน.

หรืออาจเป็นไปได้ที่คุณจะเลือกไปกับทัวร์ขี่ม้าไปในเส้นทางชนบทที่สวยงามรอบๆเมือง ม้าสายพันธุ์ไอซ์แลนด์มีขนาดเล็กและเป็นมิตร เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่ขี่ม้าเบื้องต้นหรือผู้ที่ชำนาญแล้ว.

แน่นอนว่าหากคุณต้องการที่จะรู้จักเมืองนี้จากที่สูง คุณสามารถเลือกทัวร์โดยเฮลิคอปเตอร์ ที่จะนำคุณไปทั้งบริเวณเหนือเมืองเรคยาวิกและบริเวณใกล้เคียง สนุกสนานกับวันสุดท้ายที่นี่ในแบบของคุณเหนือพื้นดิน.

และใช้เวลาในช่วงเย็นในตัวเมือง มองหาบาร์ที่เปิดเพลงเพราะและตามถนนต่างๆคุณจะได้มีโอกาสชมศิลปะในแบบของเรคยาวิก.

น่าเศร้าที่วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายสำหรับคุณในประเทศไอซ์แลนด์ เมื่อคุณรู้สึกพร้อมที่จะออกเดินทาง คุณจะเดินทางไปสนามบินโดยรถรับ-ส่งสนามบินและจะเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายผ่านทุ่งลาวาที่แห้งแล้งของคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) เพื่อเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติเคฟราวิก.

หากคุณจองทริปเพื่อไปยังบลูลากูน แต่ยังไม่ได้เดินทางไปในวันที่เดินทางมาถึง คุณสามารถแวะที่นี่ระหว่างทางที่ไปยังสนามบิน เพื่อที่จะพักผ่อนด้วยการแช่ในน้ำที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุจำนวนมาก และนี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมมากในการจบการเดินทางในช่วงพักร้อนที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นและการผจญภัย. สำหรับคนที่มีเที่ยวบินช่วงเย็นและอยากที่จะไปชมบลูลากูน คุณจะได้ท่องเที่ยวทุกสถานที่ก่อนออกเดินทางไปสนามบิน. นี่คือสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนขณะที่คุณอาบน้ำในน้ำอุ่นและน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยเมื่อคุณมองย้อนกลับไปในการผจญภัยที่เหลือเชื่อที่คุณเพิ่งมีในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง หากเที่ยวบินของคุณออกช่องเย็นมีหลายสิ่งให้ทำในเรคยาวิก หากคุณมีเที่ยวบินช่วงเช้สกลับบ้านเราหวังว่าคุณจะเดินทางอย่างสะดวกสบาย

ขอให้ท่านเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพและเดินทางกลับมาใหม่ในเร็วๆนี้.