ทัวร์ขับรถล่าแสงเหนือฤดูหนาว 1 สัปดาห์ รอบถนนวงแหวน & วงกลมทองคำของไอซ์แลนด์

ในวันแรก คุณจะเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์เพื่อเริ่มต้นการขับรถเที่ยวเอง 8 วันในฤดูหนาวรอบถนนวงแหวน

เมื่อเดินทางถึงสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก คุณสามารถรับรถเช่าพร้อม Wi-Fi ฟรีและขับไปยังเมืองเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ การเดินทางมีระยะทาง 31 ไมล์ (50 กิโลเมตร) ผ่านทุ่งลาวาที่ปกคลุมด้วยมอสส์บนคาบสมุทรเรคยาเนส

คาบสมุทรเรคยาเนสเป็นภูมิภาคที่สวยงามในไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้ โดดเด่นด้วยภูมิทัศน์ภูเขาไฟและภูมิประเทศที่มีความร้อนใต้พิภพ เนินเขาแห้งแล้ง ภูเขา ทุ่งลาวา และหน้าผาขรุขระเป็นจุดเด่นของพื้นที่นี้ ซึ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมจะเปลี่ยนเป็นดินแดนฤดูหนาวอันงดงาม

สถานที่ท่องเที่ยวในคาบสมุทรนี้รวมถึงพื้นที่ความร้อนใต้พิภพกุนนูฮแวร์ ทะเลสาบเคลฟาร์วาทน์ และสปาความร้อนใต้พิภพบลูลากูน

บลูลากูนเป็นสปาที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดดเด่นด้วยน้ำสีฟ้าสดใสที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับหรู ขณะเพลิดเพลินกับการแช่น้ำสีฟ้าน้ำนม คุณจะได้ชมวิวอันน่าทึ่ง ท่ามกลางทุ่งลาวาสีดำที่ปกคลุมด้วยมอสส์ สร้างบรรยากาศราวกับอยู่อีกโลกหนึ่ง

หากคุณเลือกเพิ่มการเข้าใช้บริการบลูลากูนในการจองแพ็คเกจนี้ การใช้บริการจะถูกจัดตามเวลาของเที่ยวบิน หากคุณยังไม่มีเวลาไปบลูลากูนในวันนี้ ก็สามารถย้ายไปวันอื่นได้ ซึ่งที่ปรึกษาการเดินทางจะจัดการให้

คุณสามารถเลือกบัตรเข้าใช้บริการบลูลากูนได้ โดยมีให้เลือกทั้งแพ็คเกจแบบคอมฟอร์ทที่มีราคาประหยัดกว่าและแพ็คเกจแบบพรีเมียม ทั้งสองแพ็กเกจให้สิทธิ์ในการเข้าใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในลากูน รวมถึงมาสก์ซิลิกา การใช้ผ้าขนหนูหรือเสื้อคลุมอาบน้ำ และเครื่องดื่มที่คุณเลือกหนึ่งแก้ว

ยังมีตัวเลือกอีกแห่งหนึ่งสำหรับประสบการณ์สปาความร้อนใต้พิภพ คุณสามารถเลือกไปที่สกายลากูน ซึ่งเป็นสปาแห่งใหม่ในเรคยาวิกที่มีวิวชายฝั่งอันสวยงามและขั้นตอนการปรนนิบัติเพื่อความผ่อนคลายสุดพิเศษ บัตรเข้าใช้บริการแบบมาตรฐานรวมการเข้าใช้บริการและการปรนนิบัติด้วยสคโยล์ บาธติ้ง ริชวล ในขณะที่บัตรพรีเมียมแบบ "Ser" จะให้บริการห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าส่วนตัวด้วย

หลังจากการแช่น้ำผ่อนคลายในบลูลากูนเสร็จแล้ว คุณจะมุ่งหน้าไปยังเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ เพื่อเข้าที่พักสำหรับคืนนี้

หากมีเวลาว่างเพิ่มเติม คุณสามารถสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวในเรคยาวิกได้มากมาย หากต้องการลิ้มลองอาหารท้องถิ่น คุณสามารถไปยังใจกลางเมือง ซึ่งมีร้านกาแฟและร้านอาหารที่หลากหลายให้เลือก

วันที่สองของทัวร์ฤดูหนาวนี้จะพาคุณไปยังวงกลมทองคำ ซึ่งเป็นเส้นทางขับรถที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ เส้นทางนี้มีระยะทางรวม 190 ไมล์ (300 กิโลเมตร) นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางบนเส้นทางนี้เนื่องจากอยู่ใกล้กับเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามสามแห่ง

จุดแรกในสามสถานที่ท่องเที่ยวของวงกลมทองคำ คือ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ที่นี่เป็นสถานที่ที่ชาวไวกิ้งก่อตั้งรัฐสภาอัลธิงกิ (Althingi) ในปี ค.ศ. 930 นอกจากนี้ อุทยานฯ ยังตั้งอยู่ในหุบเขาแยกที่แผ่นเปลือกโลกสองแผ่นกำลังเคลื่อนตัวออกจากกัน ก่อให้เกิดรอยแยกและรอยแตกในภูมิประเทศโดยรอบ

หนึ่งในรอยแยกเหล่านั้นคือ ซิลฟรา ซึ่งตั้งอยู่บนแนวรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเชีย รอยแยกนี้เต็มไปด้วยน้ำใสบริสุทธิ์ที่ละลายมาจากธารน้ำแข็งลางโจกุล ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ ซิลฟราเป็นจุดดำน้ำตื้นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และในระหว่างการจองแพ็คเกจนี้ คุณสามารถเลือกไปเข้าร่วมทัวร์เพื่อสัมผัสความใสของน้ำสีฟ้าในซิลฟราได้ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมนี้จะมีความมั่นใจในน้ำและต้องว่ายน้ำได้

จุดหมายต่อไปคือ พื้นที่ธรณีความร้อนไกเซอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ น้ำพุร้อนสโทรคูร์จะพ่นน้ำเดือดสูงถึง 66 ฟุต (20 เมตร) ขึ้นสู่อากาศทุกๆ 5-10 นาที แสดงให้เห็นถึงพลังธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของไอซ์แลนด์

จากนั้นคุณจะเดินทางไปยังน้ำตกกุลล์ฟอสส์ ซึ่งน้ำจากธารน้ำแข็งในแม่น้ำฮวิทเอาไหลลงสู่หุบเขาลึกจากความสูง 105 ฟุต (32 เมตร) น้ำตกแห่งนี้เป็นสถานที่ที่งดงามมาก โดยเฉพาะในฤดูหนาว เมื่อด้านข้างถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ

หากคุณเลือกเพิ่มกิจกรรมเสริมในระหว่างการจอง คุณจะได้ไปเข้าร่วมทัวร์ซูเปอร์จี๊ปที่น้ำตกกุลล์ฟอสส์ ซึ่งจะพาคุณไปยังธารน้ำแข็งลางโจกุลที่เป็นต้นน้ำของแม่น้ำฮวิทเอา บนธารน้ำแข็ง และคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การขับรถสโนว์โมบิลข้ามที่ราบหิมะอันกว้างใหญ่

หลังจากวันแห่งการท่องเที่ยวและการผจญภัย คุณจะเดินทางไปยังที่พักในพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์

ในวันที่สาม คุณจะออกสำรวจธรรมชาติอันมหัศจรรย์บนชายฝั่งทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ ซึ่งมีทั้งน้ำตกสวยๆ หาดทรายสีดำ และธารน้ำแข็ง

เริ่มต้นวันด้วยการขับรถไปยังน้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์ น้ำตกสูงและแคบแห่งนี้มีน้ำที่ไหลตกลงมาจากหน้าผาโค้งเว้าสูง 60 เมตร คุณสามารถมองเห็นตัวน้ำตกได้จากบนถนนตั้งแต่ระยะไกล และความตื่นเต้นจะค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นเมื่อคุณยิ่งขับเข้าไปใกล้กับตัวน้ำตก

จากนั้นคุณจะไปยังน้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่งดงามไม่แพ้กัน น้ำตกสโคกาฟอสส์เป็นน้ำตกที่มีความกว้างมากกว่าน้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์เยอะและดูเหมือนจะเป็นน้ำตกที่คลาสสิกกว่าด้วย โดยคุณสามารถเดินเข้าไปถึงจุดที่สายน้ำตกลงกระทบพื้นเพื่อให้ละอองเย็นๆ กระเซ็นสาดใบหน้าได้เลย

เมื่อคุณขับรถผ่านเส้นทางนี้ คุณจะได้เห็นภูเขาไฟธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุล ซึ่งมีชื่อเสียงและธารน้ำแข็งที่ใหญ่กว่าอย่างธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์บนธารน้ำแข็งอย่างใกล้ชิด คุณสามารถเลือกเดินไฮกิ้งเพื่อสำรวจธารน้ำแข็งที่เป็นเอาท์เล็ตกลาเซียร์ของมิร์ดาลสโจกุลได้

ใกล้กับธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลคือหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อว่าวิก เมืองชายฝั่งแห่งนี้อยู่ใกล้กับ หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา ซึ่งมีหน้าผาหินบะซอลต์ที่สูงตระหง่าน ริมมหาสมุทรยังมีเสาหินเรย์นิสดรังการ์ สูง 217 ฟุต (66 เมตร) โผล่ขึ้นมาจากน้ำด้วย

คุณจะเดินทางต่อไปทางตะวันออกจากวิกไปยังธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ธารน้ำแข็งขนาดมหึมาแห่งนี้มีจุดเด่นหลายแห่ง แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

ใช้เวลาในโจกุลซาร์ลอนเพื่อชื่นชมภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่หลุดออกมาจากธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลและลอยออกสู่มหาสมุทร ในฤดูหนาว แมวน้ำจำนวนมากจะมารวมตัวกันที่ปากทะเลสาบเพื่อจับปลาหรือพักผ่อนบนภูเขาน้ำแข็ง นอกจากนี้ คุณยังสามารถจองทัวร์ล่องเรือเพื่อชมทิวทัศน์อันงดงามอย่างใกล้ชิดได้อีกด้วย

ห่างออกไปเพียงระยะทางสั้นๆ คือ หาดไดมอนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็งที่ถูกน้ำขัดเกลาและซัดขึ้นฝั่ง ก้อนน้ำแข็งเหล่านี้เปล่งประกายระยิบระยับใต้แสงอาทิตย์ ราวกับอัญมณีล้ำค่าที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับชื่อของชายหาด

ในค่ำคืนนี้ คุณจะเข้าพักในที่พักอันสะดวกสบายในพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์

วันที่สี่ของการผจญภัยในฤดูหนาวนี้ คุณจะได้สำรวจหมู่บ้านริมชายฝั่งอันมีเสน่ห์ในพื้นที่ ฟยอร์ดตะวันออก พื้นที่นี้อยู่ไกลที่สุดจากเรคยาวิก ทำให้ผู้คนไม่พลุกพล่าน และยังเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ในการชมกวางเรนเดียร์ป่าที่มักลงมาหากินในหุบเขาที่เต็มไปด้วยหิมะในฤดูหนาว

ก่อนจะเดินทางต่อ คุณสามารถใช้เวลาอีกสักเล็กน้อยบนธารน้ำแข็ง หากคุณเดินทางระหว่างเดือนตุลาคมถึงมีนาคม คุณจะมีโอกาสหายากในการเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล

ถ้ำเหล่านี้เข้าถึงได้เฉพาะในฤดูหนาว เนื่องจากจะมีน้ำท่วมในฤดูร้อน คุณสามารถวางแผนการเยี่ยมชมถ้ำเพิ่มได้ระหว่างทำการจองแพ็คเกจนี้ เพื่อสัมผัสความงดงามของโครงสร้างน้ำแข็งที่เปล่งประกาย

ในประสบการณ์นี้จะมีไกด์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลความปลอดภัยให้คุณ รวมถึงมีอุปกรณ์สำรวจธารน้ำแข็ง เช่น หมวกนิรภัยและรองเท้าตะปู

จากนั้นคุณจะมุ่งหน้าไปยังฟยอร์ดตะวันออกของไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยความงามที่ยังไม่ถูกแตะต้อง ระหว่างทาง คุณจะผ่านภูเขาเวสตราฮอร์นและเอสตราฮอร์น ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพ คุณอาจได้ภาพเงาของยอดเขาที่สะท้อนอยู่ในผืนน้ำทะเล

ถนนสายนี้จะพาคุณผ่านฟยอร์ดคดเคี้ยว ขุนเขาที่เป็นเหลี่ยมมุม อ่าวร้าง และหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบ โดยมีธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลที่ตั้งตระหง่านอยู่ทางทิศตะวันตก ชุมชนที่คุณจะผ่านคือดยูปิโวกูร์ เอสกิฟยอร์ดูร์ และเซย์ดิฟยอร์ดูร์ 

จุดหมายปลายทางสุดท้ายของวันคือเอกิลสตาดีร์ ซึ่งเป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในฟยอร์ดตะวันออก หากท้องฟ้าไร้เมฆ คุณสามารถชมแสงเหนืออันน่าตื่นตาตื่นใจจากที่นี่ได้ หากไม่ต้องการขับรถตามล่าแสงเหนือในเวลากลางคืน คุณสามารถสำรวจตัวเมืองเพื่อเพลิดเพลินกับร้านอาหาร ร้านค้า แลนด์มาร์กทางวัฒนธรรม และถนนสายที่มีชีวิตชีวา

หลังจากวันอันน่าประทับใจอีกวัน คุณจะพักผ่อนในที่พักของคุณในฟยอร์ดตะวันออก

ครึ่งทางของทริปขับรถเที่ยวฤดูหนาวในไอซ์แลนด์ คุณจะได้สำรวจพื้นที่ธรรมชาติอันกว้างใหญ่ของฟยอร์ดตะวันออกอย่างลึกซึ้งขึ้น ฟยอร์ดตะวันออกของไอซ์แลนด์มีชื่อเสียงในเรื่องความหลากหลายของสัตว์ป่า ในการเดินทางในภูมิภาคนี้ อย่าลืมสังเกตฝูงกวางเรนเดียร์ ซึ่งพบได้เฉพาะในพื้นที่แห่งนี้ของไอซ์แลนด์ที่มีหุบเขาปกคลุมด้วยหิมะ

ใกล้กับเอกิลสตาดีร์เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในฟยอร์ดตะวันออก ได้แก่ ป่าฮาลลอร์มสตาดาสโคกูร์และทะเลสาบลาการ์ฟยอท

ป่าแห่งนี้เป็นพื้นที่ป่าที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ มีเส้นทางเดินป่ามากมายที่นำไปสู่น้ำตก ลำธาร หน้าผา ทุ่งหญ้าราบ และอ่าวเล็กๆ คุณยังสามารถเดินป่าไปยังทะเลสาบลาการ์ฟยอทอันเงียบสงบ เพื่อพยายามมองหาผู้อาศัยที่โด่งดังของทะเลสาบอย่างมังกรยักษ์ในตำนาน ซึ่งเป็นญาติของสัตว์ประหลาดล็อกเนสส์

หลังจากสำรวจฟยอร์ดตะวันออกจนเต็มอิ่มแล้ว คุณจะเดินทางต่อไปทางเหนือเพื่อไปยังทะเลสาบมิวาทน์ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ภูเขาไฟยังคุกรุ่น และมีเสาหินลาวาโดดเด่นและปล่องภูเขาไฟเทียมเรียงรายอยู่รอบทะเลสาบ

พื้นที่โดยรอบก็งดงามไม่แพ้กัน ซึ่งการระเบิดเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อนได้ก่อให้เกิดภูมิประเทศทั้งหมดนี้

คุณยังสามารถเยี่ยมชมดิมมูบอร์กิร์ ซึ่งเป็นทุ่งลาวาขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหน้าผาและเสาหินที่สร้างเขาวงกตที่งดงามและแปลกตา ใกล้ๆ กันคือนามาฟยาลล์ พื้นที่ความร้อนใต้พิภพที่มีบ่อโคลนเดือดและไอน้ำพวยพุ่งจากรอยแยก

การผ่อนคลายหลังจากเดินทางที่ยอดเยี่ยมในวันนี้คือการแช่ตัวในอ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาพิเศษท่ามกลางธรรมชาติที่ยังไม่ถูกแตะต้องของพื้นที่มิวาทน์ 

หากท้องฟ้าปลอดโปร่งจากเมฆ คุณอาจได้เห็นแสงเหนือเต้นระบำอยู่เหนือศีรษะ ขณะที่แช่น้ำร้อนเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อในอ่างน้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ

ค่ำคืนนี้คุณจะพักผ่อนในที่พักที่สะดวกสบายในไอซ์แลนด์เหนือ

ก่อนเริ่มการขับรถในวันที่หก เริ่มต้นวันด้วยการรับประทานอาหารเช้าให้อิ่ม เพราะวันนี้เต็มไปด้วยการผจญภัยและการเที่ยวชมสถานที่ในไอซ์แลนด์เหนือ น้ำตกที่งดงาม พิพิธภัณฑ์แปลกตา และเมืองที่คึกคักรอคุณอยู่ในภูมิภาคนี้ อย่าลืมจัดกระเป๋าและชาร์จกล้องให้พร้อม เพื่อเก็บภาพความงดงามของธรรมชาติ

เริ่มต้นวันของคุณที่เมืองฮูสาวิกริมอ่าวสกาลฟานดิที่งดงาม มหาสมุทรรอบเมืองนี้เป็นที่อยู่อาศัยของปลาวาฬและปลาโลมาประมาณ 23 สายพันธุ์ การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ปลาวาฬฮูสาวิก จึงเป็นกิจกรรมที่แนะนำอย่างยิ่ง

เดินทางต่อไปทางตะวันตกจากฮูสาวิกสู่เมืองอาคูเรย์ริ ระหว่างทาง คุณสามารถแวะที่ พิพิธภัณฑ์การขนส่งแห่งอีสตาเฟลล์ (Ystafell) พิพิธภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครนี้เป็นฝันของผู้ที่หลงใหลในยานยนต์ เพราะมีคอลเลกชันรถคลาสสิกที่ได้รับการบูรณะจำนวนมาก รวมถึง "สุสาน" สำหรับรถยนต์และรถบรรทุกที่ชำรุด

จากฮูสาวิกและพิพิธภัณฑ์ คุณสามารถหยุดพักจากการขับรถเพื่อเยี่ยมชมน้ำตกโกดาฟอสส์ น้ำตกในไอซ์แลนด์เหนือที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่นจากประวัติศาสตร์อันยาวนาน น้ำตกแห่งนี้มีความกว้างถึง 98 ฟุต (30 เมตร)

ทำการแวะพักเพิ่มเติมก่อนถึงอาคูเรย์ริที่บ้านคริสต์มาสของไอซ์แลนด์ (Iceland's Christmas House) ไม่ว่าจะเป็นเดือนธันวาคมหรือเมษายน ที่นี่ก็ให้บรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสตลอดทั้งปี เรียนรู้เกี่ยวกับประเพณีของไอซ์แลนด์ เช่น ยูลแลดส์ (Yule Lads) และ ยักษ์สาวกรีลา (Gryla) หรือเลือกซื้อของขวัญและของประดับสำหรับเทศกาลปีหน้า

หลังจากสัมผัสความอบอุ่นของเทศกาลคริสต์มาสแล้ว คุณสามารถเดินทางเข้าสู่เมืองอาคูเรย์ริ ซึ่งเป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ หากคุณยังไม่เหนื่อยจากการเที่ยวชม คุณสามารถเดินชมเมืองหรือออกล่าแสงออโรรา บอเรลลิสได้

เมื่อพร้อมแล้ว คุณสามารถพักผ่อนในที่พักแสนอบอุ่นในไอซ์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีโอกาสดีที่สุดในการเห็นแสงเหนือ เพราะอยู่ใกล้กับอาร์กติกเซอร์เคิล 

ในวันรองสุดท้ายของการขับรถเที่ยวด้วยตัวเองในไอซ์แลนด์ คุณจะสิ้นสุดเส้นทางรอบประเทศด้วยการเดินทางกลับไปยังเรคยาวิก เตรียมพร้อมสำหรับการใช้เวลาเดินทางบนถนนพอสมควร แต่ไม่ต้องกังวล เพราะระหว่างทางมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจในไอซ์แลนด์เหนือและไอซ์แลนด์ตะวันตกที่ควรค่าแก่การแวะชม

เริ่มต้นวันในอาคูเรย์ริและสำรวจเมืองนี้ให้ละเอียดมากขึ้น คุณสามารถขับรถหรือเดินเล่นรอบท่าเรือเพื่อชมวิวที่สวยงามของฟยอร์ดเอยาฟยอร์ดูร์ ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่ยาวที่สุดในประเทศ เมื่อพร้อมแล้วให้ขึ้นรถและออกเดินทาง

เมื่อขับรถข้ามผ่านฮอลตาวอร์ดูเฮดี อย่าลืมแวะสำรวจพื้นที่บอร์การ์ฟยอร์ดูร์ ที่นี่คุณสามารถเยี่ยมชมน้ำตกที่สวยงามและแตกต่างกันสองแห่งได้ น้ำตกบาร์นาฟอสส์ไหลผ่านร่องเขาที่แคบและคดเคี้ยว ในขณะที่น้ำตกเฮิร์นฟอซซาร์ไหลรินลงมาจากขอบของทุ่งลาวาสีดำ น้ำตกทั้งสองแห่งนี้งดงามในแบบของตัวเอง

โปรดเดินสำรวจเส้นทางอย่างระมัดระวังเมื่อมาเยือนสถานที่เหล่านี้ เนื่องจากเส้นทางอาจลื่นในช่วงฤดูหนาว

หลังจากนั้นไม่นาน คุณจะพบกับน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูฮแวร์ ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป น้ำพุร้อนนี้ปล่อยน้ำที่เกือบเดือดในปริมาณกว่า 48 แกลลอน (180 ลิตร) ต่อวินาที ท่ามกลางหินสีแดงสดและไอน้ำมหาศาล

น้ำพุร้อนนี้ส่วนใหญ่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน แต่พลังของมันถูกนำมาใช้เพื่อให้ความร้อนแก่บ้านเรือนในเมืองใกล้เคียงอย่าง อาคราเนส และบอร์การ์เนส ไอน้ำที่ลอยขึ้นจากพื้นดินเป็นเครื่องเตือนถึงพลังงานที่ซ่อนอยู่ใต้เปลือกโลก

หากมีเวลาเหลือ คุณสามารถเพิ่มจุดแวะเพิ่มเติมในไอซ์แลนด์ตะวันตก โดยเฉพาะที่เมืองบอร์การ์เนสและเรคโฮลท์ สถานที่เหล่านี้เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันลึกซึ้งของไอซ์แลนด์ ผ่านพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและอาคารเก่าแก่ ที่เรคโฮลท์ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสนอร์รี สเตอร์ลูสัน (Snorri Sturluson) บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์และวรรณคดีไอซ์แลนด์ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1241

จากนั้นมุ่งหน้ากลับสู่เรคยาวิกเพื่อพักผ่อนในค่ำคืนสุดท้ายของทริปนี้