ทัวร์ขับรถชมแสงเหนือในฤดูหนาว 8 วัน เที่ยวไอซ์แลนด์ตะวันตกและไอซ์แลนด์ใต้ พร้อมชมถ้ำน้ำแข็ง

วันที่สองถือเป็นการเริ่มต้นการเดินทางของคุณในไอซ์แลนด์นอกเมืองหลวง คุณจะมุ่งหน้าไปทางเหนือสู่คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ซึ่งอยู่ห่างจากเรคยาวิก 136 กิโลเมตร เนื่องจากความหลากหลายทางธรณีวิทยา บางครั้งคาบสมุทรจึงถูกเรียกว่า "ไอซ์แลนด์ในรูปแบบย่อส่วน"

สถานที่สวยงามแห่งนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงและนิยาย เนื่องจากภูมิประเทศที่น่าทึ่งในแถบนี้มีเรื่องลึกลับ เรื่องเล่า และตำนานมากมาย อีกทั้งยังมีความเชื่อว่าเป็นเส้นทางไปสู่ใจกลางโลก โดยในหนังสือของ Jules Verne เรื่อง Journey to the Center of the Earth บอกว่าเส้นทางลึกลับดังกล่าวนี้อยู่ในภูเขาไฟธารน้ำแข็งสไนเฟลล์สโจกุล ซึ่งปกคลุมทั่วทั้งคาบสมุทร

บนชายฝั่งทางใต้ของสไนล์แฟลซเนส หาดทรายสีดำที่สวยงามของดยูปาลอนส์ซานดูร์และชั้นหินลอนดรังการ์จะคอยต้อนรับคุณ คลื่นแอตแลนติกเหนือที่ซัดเข้าหาบริเวณชายฝั่งเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดภาพทิวทัศน์วังเวงชวนหลงใหล

บริเวณใกล้เคียงคือเฮลล์นาร์และอาร์นาร์สตาปิ ซึ่งเป็นหมู่บ้านริมชายฝั่งสองแห่งที่มีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์การประมงอันยาวนาน คุณสามารถเยี่ยมชมชุมชนเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วเพื่อสำรวจบ้านและร้านกาแฟที่มีเสน่ห์ นี่เป็นโอกาสของคุณที่จะได้พบกับคนท้องถิ่นที่เป็นมิตรและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมของพวกเขา

ขณะที่เดินทางต่อไป คุณจะเห็นภูเขาคิร์กจูเฟลล์ที่สูงตระหง่านและเมืองสติกกิชโฮลมูร์ที่มีเสน่ห์แปลกตา คิร์กจูเฟลล์เป็นหนึ่งในภูเขาที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในไอซ์แลนด์ด้วยความสูง 463 เมตร แต่สติกกิชโฮลมูร์ก็โดดเด่นในฐานะศูนย์กลางการค้าและการท่องเที่ยวของคาบสมุทร

คุณมีสองทางเลือกหากคุณต้องการเข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ อย่างแรก คุณสามารถออกไปกับทัวร์ชมวาฬที่น่าทึ่งจากสไนล์แฟลซเนส การผจญภัยนี้จะทำให้คุณได้เห็นโลมา นกทะเล และวาฬตัวยักษ์ใหญ่ เช่น วาฬหลังค่อมและวาฬสเปิร์ม

หรืออีกวิธีหนึ่ง คุณสามารถไปเพิ่มความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าได้ที่สปาเครยมาในไอซ์แลนด์ตะวันตก สปาความร้อนใต้พิภพแห่งนี้มองเห็นเดลดาร์ทุงกุฮแวร์ ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่มีอัตราการไหลของน้ำสูงสุดในยุโรป

คุณจะได้พักค้างคืนบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสและอย่าลืมออกไปสำรวจแสงเหนือ

วันที่สามของทัวร์ฤดูหนาวแพ็คเกจนี้ คุณจะมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำ บนเส้นทางนี้มีที่สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุด 3 แห่งของไอซ์แลนด์

ก่อนที่จะไปถึงวงกลมทองคำ คุณจะได้สำรวจพื้นที่บอร์การ์ฟยอร์ดูร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากถ้ำลาวาและอุโมงค์ คุณสามารถไปเยี่ยมชมหนึ่งในถ้ำและอุโมงค์เหล่านั้นได้ โดยจะได้ไปที่วิดเกลมิร์ หากคุณเลือกเพิ่มประสบการณ์เที่ยวถ้ำลาวา

ทัวร์ถ้ำลาวาจะแนะนำให้คุณรู้จักกับโลกมหัศจรรย์ภายใต้ภูมิประเทศของประเทศไอซ์แลนด์ ทัวร์เสริมเหล่านี้มีไกด์นำเที่ยว ดังนั้นคุณจะได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่นเพื่อความปลอดภัยและความเพลิดเพลิน

เมื่อคุณไปถึงวงกลมทองคำ จุดแวะชมแห่งแรกของคุณคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกแห่งนี้ตั้งอยู่บนหุบเขารอยแยก และเป็นที่ที่ชาวไอซ์แลนด์ก่อตั้งรัฐสภาขึ้นในปี 930 ที่นี่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยาอย่างมาก และเป็นที่ตั้งของสถานที่มหัศจรรย์ เช่น รอยแยกซิลฟรา หุบเขาอัลมันนากยา และน้ำตกออกซาราร์ฟอสส์

ที่นี่ คุณสามารถเดินไปมาระหว่างสองทวีปและดำน้ำตื้นในผืนน้ำใสของรอยแยกซิลฟรา ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องไม่กลัวการลงไปในน้ำและต้องสามารถว่ายน้ำได้

ถัดไป คุณจะได้เยี่ยมชมหุบเขาความร้อนใต้พิภพเฮยคาดาลูร์ ซึ่งมีไกเซอร์อันยิ่งใหญ่ตั้งอยู่และไกเซอร์แห่งนี้เองที่เป็นต้นกำเนิดของคำว่าไกเซอร์ที่ผู้คนหยิบยืมไปใช้เรียกน้ำพุร้อนแบบที่สามารถพ่นน้ำสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าทั่วโลก แม้ว่าน้ำพุร้อนไกเซอร์จะไม่ได้แอกทีฟแล้วในปัจจุบัน แต่น้ำพุร้อนสโทรคูร์ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันจะพ่นน้ำเดือดสูงถึง 20 เมตรในทุกๆ ห้าถึง 10 นาที

สุดท้าย คุณจะได้เยี่ยมชมน้ำตกกุลล์ฟอสส์ในแม่น้ำฮวิทเอาที่ไหลมาจากธารน้ำแข็งลางโจกุล น้ำจากน้ำตกขนาดมหึมาแห่งนี้ไหลถาโถมอย่างรุนแรงเป็นสองชั้นก่อนตกลงสู่หุบเหวด้านล่างส่งเสียงกึกก้องไปทั่วบริเวณหน้าผา

หากคุณไม่ได้ไปดำน้ำตื้นในซิลฟรา คุณสามารถไปเข้าร่วมกับทัวร์สโนว์โมบิลที่น่าตื่นเต้นแทนได้ โดยทัวร์นี้จะออกเดินทางจากน้ำตกกุลล์ฟอสส์และพาขึ้นไปบนธารน้ำแข็งลางโจกุล และเป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้นโลดโผนเป็นอย่างมาก 

ที่พักของคุณในคืนนี้อยู่ใกล้กับวงกลมทองคำ

เดินทางต่อไปในวันที่สี่ คุณจะมุ่งหน้าไปยังที่ราบลุ่มและต่อไปยังชายฝั่งทางใต้ ชายฝั่งทางใต้เป็นภูมิภาคที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมายและอยู่ใกล้กับเมืองหลวง

การเดินทางไปยังชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์เริ่มต้นด้วยการเที่ยวชมน้ำตกอันงดงามสองแห่งที่อยู่ใกล้กันมาก ได้แก่ น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ และน้ำตกสโคกาฟอสส์ สถานที่ท่องเที่ยวทั้งสองแห่งนี้มีชื่อเสียงจากน้ำตกที่น่าทึ่งที่ลดหลั่นจากหน้าผาสูง 60 เมตร และจะสวยงามมากขึ้นในฤดูหนาวเมื่อมีน้ำแข็งและหิมะปกคลุมภูมิทัศน์โดยรอบ

ไม่ไกลจากความรื่นรมย์เหล่านี้ก็ยังมีลักษณะทางธรรมชาติของภูมิภาคนี้ให้ชื่นชมอีก คุณจะได้ขับรถไปใต้ร่มเงาของภูเขาไฟธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุลและธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลที่ใหญ่กว่า

ในมิร์ดาลสโจกุล คุณสามารถเลือกเพิ่มประสบการณ์ด้วยกิจกรรมเดินป่าบนธารน้ำแข็งได้หากคุณต้องการสำรวจลักษณะภายนอกของธารน้ำแข็งอย่างใกล้ชิดและเป็นส่วนตัวมากขึ้น บนยอดธารน้ำแข็งที่ธารน้ำแข็งทางออกของมิร์ดาลส์โจกุล คุณจะได้พิชิตโซลเฮมาร์โจกุลที่มีรอยแยกลึก สันเขา ที่ราบที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ กำแพงน้ำแข็ง และอื่นๆ อีกมากมาย

ตัวเลือกที่สองของคุณคือการขี่สโนว์โมบิลที่ธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล คุณจะโลดแล่นอย่างอิสระไปเหนือที่ราบสีขาว การขับสโนว์โมบิลนั้นเป็นเรื่องง่าย แม้แต่ผู้มาครั้งแรกก็สามารถเข้าร่วมได้

หลังจากการผจญภัยบนธารน้ำแข็งแล้ว คุณจะเดินทางต่อไปยังเมืองวิก อี มิร์ดาล หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงจากหาดทรายสีดำที่อยู่ใกล้เคียงที่เรียกว่าเรย์นิสฟยารา ทรายภูเขาไฟที่ทอดยาวแห่งนี้มีโขดหินทะเลที่งดงามและหน้าผาหินบะซอลต์ที่ถูกคลื่นยักษ์แอตแลนติกซัดสาดอย่างต่อเนื่อง

ก่อนที่จะพักผ่อนในคืนนี้ คุณสามารถสำรวจหมู่บ้านและเดินขึ้นไปที่โบสถ์ท้องถิ่นเพื่อชมทิวทัศน์มุมกว้างของบริเวณนี้ หากสภาพอากาศเหมาะสมและท้องฟ้าเป็นใจ คุณยังมีโอกาสที่ดีเยี่ยมในการชมแสงเหนือในบริเวณนี้ด้วย

เมื่อพร้อมพักผ่อนแล้ว คุณจะเข้าไปนอนในที่พักอันแสนอบอุ่นของไอซ์แลนด์ใต้

วันที่ห้าของการเดินทางบนถนนในฤดูหนาวนี้จะพาคุณเดินทางลึกเข้าไปในพื้นที่ห่างไกลทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ วันนี้คุณจะได้เริ่มต้นการสำรวจธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่วัทนาโจกุล

ก่อนที่จะออกจากหมู่บ้านวิก คุณสามารถเข้าร่วมทัวร์รถบักกี้ที่น่าตื่นเต้นไปตามหาดทรายสีดำของหาดเรย์นิสฟยารา กิจกรรมเสริมนี้เหมาะสำหรับผู้แสวงหาความตื่นเต้นที่ต้องการประสบการณ์ไม่รู้ลืมบนชายฝั่งสีดำที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์

จากเมืองวิก คุณจะเดินทางผ่านหาดทรายสีดำของสเกดาราร์ซานดูร์ เพื่อไปยังเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ ซึ่งมีวัทนาโจกุลอันยิ่งใหญ่โอบล้อมอยู่ทุกทิศทุกทาง

สกัฟตาเฟลล์มีชื่อเสียงจากเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทางที่เหมาะสำหรับทุกระดับทักษะ เหมาะสำหรับการเดินป่าผจญภัยบนธารน้ำแข็ง หากคุณชื่นชอบ คุณสามารถเข้าร่วมการปีนธารน้ำแข็งพร้อมไกด์ผู้มีประสบการณ์เพื่อเดินทางสู่ภูมิประเทศธารน้ำแข็งที่ขรุขระแต่น่าประทับใจ ในระหว่างการเดินทางที่น่าทึ่งนี้ คุณจะได้เห็นการก่อตัวของน้ำแข็งและรอยแยกที่ซับซ้อน ดื่มด่ำไปกับพลังที่แท้จริงของธารน้ำแข็งและประวัติศาสตร์โบราณ

ไม่อย่างนั้น คุณสามารถเลือกเข้าร่วมทัวร์ถ้ำน้ำแข็งที่ไม่เหมือนใครที่อยู่สูงขึ้นไปบนธารน้ำแข็งได้ ถ้ำน้ำแข็งเป็นปรากฏการณ์ที่สวยงามและหาโอกาสเข้าชมได้ยากเพราะมีเพียงไม่กี่แห่งบนโลก เช่น ไอซ์แลนด์ การเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งจะทำให้คุณได้เห็นใจกลางของธารน้ำแข็ง ซึ่งนำเสนอประสบการณ์ที่เหนือจริงและมหัศจรรย์ท่ามกลางการก่อตัวของน้ำแข็งสีฟ้าพราว ซึ่งเป็นการผจญภัยครั้งหนึ่งในชีวิต

ต่อไป คุณจะขับรถผ่านยอดเขาฮวานนาดาลสฮนูคูร์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ และไปถึงทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน ภูเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่ลอยอยู่นั้นน่าประทับใจเนื่องจากพวกมันค่อยๆ เคลื่อนตัวจากธารน้ำแข็งไปยังทะเล และคลื่นจะกัดเซาะน้ำแข็งเหล่านี้ก่อนที่จะถูกพัดพาขึ้นฝั่ง

แม้ว่าในวันนี้คุณจะสามารถเริ่มสำรวจทะเลสาบได้ แต่คุณจะมีเวลาชื่นชมทะเลสาบอย่างลึกซึ้งมากขึ้นในวันรุ่งขึ้น จากนั้นคุณจะขับรถต่ออีกเล็กน้อยไปยังที่พักของคุณในไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยในวันพรุ่งนี้

หากท้องฟ้าแจ่มใส คุณก็อาจจะออกล่าแสงออโรร่าบอเรลิสได้ แสงมหัศจรรย์จะยิ่งน่าชื่นชมยิ่งขึ้นเมื่อส่องแสงสะท้อนในทะเล

เริ่มต้นวันที่หกด้วยการไปเที่ยวที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมาจากภูเขาน้ำแข็งนับพันลูกในทะเลสาบ ใช้เวลาชื่นชมน้ำแข็งสีฟ้าสวยให้ชื่นใจ และอย่าลืมสังเกตบริเวณโดยรอบให้ดีเผื่อว่าคุณจะได้พบกับแมวน้ำตัวหรือสองตัวออกมาว่ายน้ำเล่น

คุณสามารถเข้าร่วมกับทัวร์ที่พาล่องเรือลัดเลาะชมภูเขาน้ำแข็งแบบใกล้ชิดได้ด้วย เพื่อดื่มด่ำกับประสบการณ์ในสถานที่งดงามแห่งนี้อย่างเต็มที่ ภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้มีขนาดและสีต่างกัน ตั้งแต่ขนาดเล็กเท่าฝ่ามือไปจนถึงใหญ่เท่ากับอาคาร

ทางทิศใต้ของโจกุลซาร์ลอนเป็นชายหาดที่ทอดยาว บนหาดมีก้อนน้ำแข็งบางส่วนถูกน้ำพัดมาสิ้นสุดที่นี่ก่อนที่น้ำแข็งเหล่านี้จะละลายไปกับแสงแดด ก้อนน้ำแข็งที่ส่องประกายแวววาวราวกับคริสตัลตัดกับหาดทรายสีดำทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถูกเรียกว่าหาดไดมอนด์

หากคุณมาที่นี่ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม คุณยังมีโอกาสได้เยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าอันงดงาม ซึ่งเป็นลักษณะที่ก่อตัวตามธรรมชาติในธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล คุณสามารถเข้าร่วมทัวร์ซูเปอร์จี๊ปและมุ่งหน้าไปยังธารน้ำแข็งเพื่อไปยังถ้ำที่ซ่อนอยู่ลึกเข้าไปในแผ่นน้ำแข็ง

ถ้ำน้ำแข็งเป็นอุโมงค์ว่างเปล่าซึ่งเกิดจากการที่แม่น้ำใต้ดินแข็งตัวเป็นน้ำแข็ง ดังนั้นจึงสามารถเข้าชมได้แค่ช่วงฤดูหนาวเมื่อน้ำจากน้ำแข็งที่ละลายในช่วงหน้าร้อนแข็งตัวดีแล้วเท่านั้น ไกด์ของคุณมีความรู้เกี่ยวกับกลาเซียร์เป็นอย่างดี ดังนั้นทัวร์ครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์ที่ดีให้คุณได้จดจำไปตลอดอย่างแน่นอน

หากคุณมาที่นี่นอกเวลาดังกล่าว ก็ยังมีอะไรให้ชมมากมายที่ทะเลสาบธารน้ำแข็ง ใช้เวลาชื่นชมทะเลสาบและภูเขาน้ำแข็งจากมุมต่างๆ

หลังจากช่วงเวลาอันแสนวิเศษในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล คุณจะได้ขับรถกลับไปยังเมืองเรคยาวิก หากเวลาเอื้ออำนวย คุณยังคงสามารถเยี่ยมชมสถานที่บางแห่งที่คุณอาจพลาดไปบนชายฝั่งทางใต้ก่อนที่จะใช้เวลาช่วงเย็นในเมืองหลวงของไอซ์แลนด์

ตัวอย่างเช่น คุณสามารถแวะไปที่ชุมชนฮแวราแกร์ดิและสต็อกเซย์ริเป็นเวลาสั้นๆ เพื่อไปชมพิพิธภัณฑ์ที่น่าตื่นเต้น