ทัวร์ขับรถเที่ยว 14 วัน รอบถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์ & ฟยอร์ดทางตะวันตก
คำอธิบาย
รายละเอียด
คำอธิบาย
จองแพ็คเกจสำหรับเที่ยวถนนวงแหวนและฟยอร์ดตะวันตกในไอซ์แลนด์ 2 สัปดาห์เพื่อสัมผัสกับสุดยอดประสบการณ์การท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์ นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในไอซ์แลนด์แล้ว คุณยังจะได้ขับรถลัดเลาะไปตามพื้นที่ห่างไกลและได้เห็นสถานที่สวยๆ ที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักและนักท่องเที่ยวทั่วไปยังไม่มีโอกาสเข้าไปสัมผัสด้วย ทัวร์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นสิ่งที่ดีที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์โดยต้องเป็นผู้ที่มีเวลาในการเที่ยวมากหน่อย และต้องการไปดูสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยมีคนเข้าไป
คุณจะเดินทางเที่ยวอย่างสะดวกสบายมากที่สุด แม้กระทั้งในพื้นที่ห่างไกลอย่างฟยอร์ดทางตะวันตกเพราะที่พักตลอดทริปนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนตัวพร้อมด้วยบริการอาหารเช้าเพื่อเติมพลังก่อนที่คุณจะออกไปผจญภัย
นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาที่ไอซ์แลนด์เพื่อใช้เวลาดื่มด่ำกับอากาศบริสุทธิ์และทิวทัศน์ที่งดงามไร้ผู้คน หลังจากที่คุณจองแพ็คเกจ Guide to Iceland จะจัดแผนการเดินทางให้คุณได้หลบหนีความวุ่นวายเข้าสู่อ้อมอกของธรรมชาติและได้ไปเยือนสถานที่ซึ่งส่วนใหญ่คุณยังไม่เคยได้ยินชื่อ พร้อมกับจัดหาที่พักในทำเลที่ดีที่สุดเพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเที่ยวไอซ์แลนด์ได้อย่างเต็มที่มากที่สุด
แต่ความพิเศษไม่ได้มีเพียงแค่นั้นเพราะคุณยังจะได้ไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อของไอซ์แลนด์ด้วย แพ็คเกจนี้รวมที่เที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำและชายฝั่งทางใต้อันสวยงาม ตลอดจนทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlon) เอาไว้ให้คุณด้วย เพื่อให้คุณได้สัมผัสไอซ์แลนด์ครบทุกรสชาติทั้งสถานที่เที่ยวยอดนิยมและสถานที่เที่ยวที่ยังเป็นความลับอยู่
คุณสามารถเพิ่มทัวร์เสริมต่างๆ เข้าไปในทริปนี้ได้ตอนที่คุณทำการจอง อย่างเช่น เมื่อคุณอยู่บนเส้นทางวงกลมทองคำ คุณสามารถแวะดำน้ำสน็อกเกิ้ลที่รอยแยกซิลฟรา ซึ่งเป็นรอยแยกระหว่างสองทวีปที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir National Park) หรือถ้าคุณหลงใหลในธารน้ำแข็งคุณก็สามารถซื้อทัวร์ไปปีนธารน้ำแข็งในที่หนึ่งแล้วลงไปชมถ้ำน้ำแข็งคริสตัลในธารน้ำแข็งอีกแห่งหนึ่งก็ได้ หรือคุณจะขี่สโนว์โมบิลโลดแล่นอยู่บนผืนน้ำแข็งกว้างใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณก็สนุกไม่แพ้กัน แต่ถ้าคุณอยากทำอะไรที่สบายหน่อยคุณก็สามารถจองไปแช่น้ำอุ่นสีฟ้าเพื่อเยียวยาร่างกายที่บลูลากูนสปาเพิ่มไปกับแพ็คเกจนี้ได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกล่องเรือเที่ยวชมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) หรือจะไปตกปลาในทะเล หรือว่าดูวาฬในทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ด้วยก็ได้ และคุณยังสามารถขี่ม้าไอซ์แลนดิกไปตามเส้นทางสวยๆ หรือล่องเรือตามชายฝั่งเพื่อดูนกพัฟฟิน ความสนุกเพลิดเพลินแบบนี้มีให้เลือกมากมายไม่รู้จบ
จองทริปของคุณในตอนนี้เลยเพื่อประสบการณ์สุดพิเศษในไอซ์แลนด์ คุณสามารถตรวจสอบจำนวนที่ว่างได้โดยระบุวันที่ที่ต้องการเดินทาง
ร่วมด้วย
แผนที่
สถานที่ท่องเที่ยว
กิจกรรม
แผนการเที่ยวรายวัน

วัน 1 - เดินทางถึงไอซ์แลนด์ รับรถเช่าจากสนามบิน
การผจญภัยของคุณเริ่มต้นทันทีเมื่อคุณมาถึงสนามบินในเคฟลาวิก รับรถของคุณที่สนามบินก่อนจากนั้นขับรถผ่านภูมิประเทศแปลกตาที่เต็มไปด้วยลาวาเพื่อเดินทางไปยังที่พักของคุณในตัวเมืองเรคยาวิก ระหว่างทางไปยังเมืองหลวงของไอซ์แลนด์คุณสามารถเลือกแวะที่บลูลากูน (Blue Lagoon) ก่อนได้
สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องน้ำสีฟ้าสดใสและการบำบัดที่หรูหรา สปาแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทุ่งลาวาที่ปกคลุมไปด้วยมอสทำให้มีบรรยากาศแปลกตา หากคุณเลือกเพิ่มบลูลากูนเข้าไปในทริป กิจกรรมนี้จะถูกจัดเข้าในโปรแกรมการเดินทางให้สอดคล้องกับเที่ยวบินของคุณ หากคุณยังไม่มีเวลามากพอที่จะไปในวันนี้ ก็ยังสามารถไปในวันอื่นได้ โดยที่ปรึกษาด้านการเดินทางของคุณจะจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้ ในเรคยาวิกและคาบสมุทรเรคยาเนสมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมมากมายรอคุณอยู่
หลังจากเก็บสัมภาระเข้าที่พักในโรงแรมที่อยู่ในใจกลางเมืองเรคยาวิกแล้ว คุณสามารถใช้เวลาในเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแห่งนี้ให้คุ้มค่าด้วยการไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี่ ร้านอาหาร และบาร์ที่มีอยู่มากมาย และเมื่อคุณหมดแรง ค่อยกลับเข้าที่พักในเมืองหลวงที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

วัน 2 - อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ - ไกเซอร์ - น้ำตกกุลล์ฟอสส์
วันที่สอง เดินทางไปดูปรากฏการณ์ธรรมมชาติที่โด่งดังที่สุดของไอซ์แลนด์บนวงกลมทองคำ จุดแวะเที่ยวแห่งแรกบนวงกลมทองคำคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir) ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเซียน และคุณสามารถเดินอยู่บนพื้นที่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกทั้งสองนี้ได้จริงๆ นอกจากนี้ ธิงเวลลีย์ยังมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของไอซ์แลนด์ด้วย โดยเป็นสถานที่ตั้งเดิมของรัฐสภาที่ดำเนินการมายาวนานที่สุดในโลก เป็นสถานที่ที่ใช้เปลี่ยนมานับถือคริสตศาสนาในปี 1000 AD และเป็นสถานที่ประกาศอิสรภาพจากเดนมาร์กในปี 1944 ดังนั้นจึงมีสิ่งต่างๆ ให้คุณดูมากมายรอบบริเวณแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกแห่งนี้ และผู้ที่ชอบการผจญภัยยังสามารถดำน้ำตื้นที่ธิงเวลลีย์ได้ด้วย
หุบเขาเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur) ซึ่งเป็นทุ่งน้ำพุร้อนคือจุดหมายถัดไป คุณจะได้เห็นน้ำพุร้อนสโทรคูร์และไกเซอร์ และน้ำพุร้อนอื่นๆ อีกมากมาย โดยน้ำพุร้อนไกเซอร์อันโด่งดังนั้นไม่ค่อยพ่นน้ำแล้ว แต่สโทรคูร์ยังคงพ่นน้ำสูงกว่า 66 ฟุต (20 เมตร) ในทุกๆ 10 นาที
จุดแวะสุดท้ายสำหรับทัวร์วงกลมทองคำคือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่และได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ของไอซ์แลนด์ น้ำตกนี้มีเส้นทางเดินอยู่ที่บริเวณริมน้ำตกเพื่อให้คุณได้เข้าไปสัมผัสถึงแรงมหาศาลของมวลน้ำตกที่ไหลจากความสูง 150 ฟุต (32 เมตร) ต่อจากน้ำตกกุลล์ฟอสส์ คุณสามารถเลือกได้ว่าเข้าร่วมกับทัวร์ขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุลที่อยู่ใกล้กัน หรือจะไปขี่ม้าไอซ์แลนด์ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะมอบประสบการณ์แบบชาวไอซ์แลนด์แท้ๆ
ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerið) ที่อยู่แถวนั้นก็น่าเที่ยวเช่นกัน โดยคุณจะได้เห็นหินลาวาสีแดงส้มตัดกับน้ำลึกสีฟ้าใสที่ขังอยู่ที่บริเวณกลางปล่อง อย่าลืมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนที่คุณจะเข้าที่พักในโรงแรมที่อยู่ในบริเวณเซลฟอสส์

วัน 3 - น้ำตกและหาดทรายดำ
มุ่งหน้าสู่ชายฝั่งทางใต้ในการเดินทางวันนี้ และไปเที่ยวน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skógafoss) อันตระการตา หลังจากนั้นคุณจะได้เห็นธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล ซึ่งที่นั่นคุณสามารถเลือกได้ว่าจะทำกิจกรรมปีนธารน้ำแข็งและปีนน้ำแข็ง หรือจะไปทัวร์ขี่สโนว์โมบิลให้จุใจ และจากหมู่บ้านวิก (Vík) คุณยังสามารถเลือกไปทัวร์ถ้ำน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull) ได้อีก ตลอดแนวชายฝั่งใกล้วิกเป็นหาดทรายที่มีทรายดำจากภูเขาไฟ และยังมีคาบสมุทรดิร์โอลาเอย์ (Dyrhólaey) และหินเรนิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) อันน่าทึ่งด้วย แต่เมื่ออยู่ที่หาดแห่งนี้คุณต้องระมัดระวังตัวให้มาก เพราะคลื่นและกระแสน้ำแรงมากและคาดเดาไม่ได้เลย บริเวณนี้จะมีฝูงนกพัฟฟินจำนวนมากเข้ามาอาศัยในช่วงหน้าร้อน ลองสังเกตดูให้ดีคุณอาจจะได้เห็นพวกมัน สำหรับสถานที่เที่ยวอื่นๆ ที่คุณจะได้เห็นเมื่อขับรถต่อไปมีทั้งธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลอันงดงาม หมู่บ้านเคิร์กยูแบยาร์กเลาสตูร์ (Kirkjubæjarklaustur) ที่เก่าแก่และแปลกตา คืนนี้คุณจะพักค้างคืนในวิกหรือไม่ก็แถวสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell)

วัน 4 - เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ - ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน
ใช้เวลาวันที่สี่ ในการชมทิวทัศน์ที่สวยงามในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell Nature Reserve) ซึ่งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park) หากคุณชอบเดินป่าที่นี่มีเส้นทางเดินป่าทุกระดับ รวมถึงเส้นทางเดินไปยังน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) ที่ลดหลั่นลงมาตามเสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยมสวยงามแปลกตาไม่เหมือนที่ไหนด้วย นอกจากนี้ คุณสามารถเลือกไปปีนธารน้ำแข็งที่สกัฟตาเฟลล์โจกุล (Skaftafellsjökull) ก็ได้ แต่อย่าเที่ยวจนเผลอใช้เวลาหมดวันที่นี่ เพราะยังมีทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) รอให้คุณแวะชมอยู่ข้างหน้าอีก ที่ทะเลสาบคุณจะได้เห็นวิวสวยๆ ของภูเขาน้ำแข็งจำนวนมากที่แตกตัวออกมาจากธารน้ำแข็งและค่อยๆ เคลื่อนตัวอย่างเงียบสงบเพื่อออกทะเล ถ้าคุณอยากเห็นภูเขาน้ำแข็งใกล้มากขึ้น คุณสามารถเลือกไปกับทัวร์ล่องเรือก็ได้ ซึ่งมีให้เลือกทั้งเรือสะเทินน้ำสะเทินบกและเรือท้องแบนโซดิแอก และถ้าคุณเกิดเห็นแมวน้ำให้ลองคุณผิวปากเรียกดู แล้วพวกมันจะตามเสียงเข้ามาใกล้ๆ และห้ามพลาดชมหาดไดมอนด์ ซึ่งอยู่ติดกับทะเลสาบเลย บนหาดเต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็งหลายรูปทรงและหลายขนาดมองไปคล้ายกับหาดอัญมณี ซึ่งบริเวณนี้ถ่ายรูปสวยมาก คืนนี้พักค้างคืนในเฮิฟน์ (Höfn)

วัน 5 - ชายฝั่งตะวันออก
วันนี้คุณจะได้สัมผัสกับชนบทของไอซ์แลนด์ ได้ชมหมู่บ้านที่งดงาม ฟยอร์ดที่สวยน่าทึ่ง และท้องทุ่งอันเขียวขจีของชายฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นแถบที่มีสัตว์ป่ามากมาย เช่น นกพัฟฟิน กวางเรนเดียร์ สุนัขจิ้งจอก และแมวน้ำ โดยฟยอร์ดแต่ละแห่งนั้นเชิญชวนให้คุณต้องนั่งรถขึ้นลงเขาเพื่อไปชมความงาม ซึ่งแต่ละแห่งมีเสน่ห์เฉพาะตัว อีกทั้งน้ำตกตามเนินเขาและทัศนียภาพอันงดงามระหว่างทางจะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม ในช่วงเย็นคุณจะไปที่เมืองเอกิลสตาดีร์ (Egilsstaðir) ที่อยู่ใกล้กับทะเลสาบลาการ์ฟโลย์ท (Lagarflöt) ที่มีตำนานเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดใต้น้ำ คืนนี้พักในเอกิลสตาดีร์หรือหมู่บ้านเล็กๆ ในบริเวณใกล้เคียง

วัน 6 - ความลึกลับของทะเลสาบมิวาทน์
ในวันที่หก คุณจะได้เยี่ยมชมทะเลสาบมิวาทน์ (Lake Mývatn) ตัวทะเลสาบนั้นเงียบสงบและสวยงาม อีกทั้งสภาพแวดล้อมโดยรอบก็น่าทึ่งและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีหลายสิ่งให้ดู แต่ขอแนะนำให้คุณไม่พลาดสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น น้ำพุร้อนถ้ำเกรียวตาเกาจ์ (Grjótagjá) ทุ่งลาวาดิมมูร์บอร์กิร์ (Dimmuborgir) (รู้จักกันในชื่อ 'ป้อมปราการแห่งความมืด') และอ่างน้ำธรรมชาติ นอกจากนี้ยังขอแนะนำให้คุณขับรถเข้าไปในโจกุลส์เอาร์กยูฟูร์ (Jökulsárgljúfur) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull) เพื่อเยี่ยมชมน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) ที่สวยงามน่าประทับใจ และบ่อโคลนที่คราฟลา (Krafla) ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดชมความงามเช่นกัน ตัวเลือกกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับวันนี้คือการเข้าร่วมทัวร์ดูปลาวาฬที่หมู่บ้านฮูสาวิก (Húsavík) ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการดูปลาวาฬของยุโรป นอกจากนี้ คุณสามารถเพิ่มความน่าสนใจให้กับทริปวันนี้ด้วยการเพิ่มการดูนกพัฟฟินเข้าไปในโปรแกรมได้อีก และหลังจากที่คุณทำกิจกรรมของวันนี้เสร็จแล้ว คุณจะข้ามไปยังฟยอร์ดเอยาฟยอร์ดูร์ (Eyjafjörður) เพื่อไปยังเมืองอาคูเรย์ริ (Akureyri) ซึ่งคุณจะพักค้างคืนในเมืองนี้

วัน 7 - คาบสมุทรโทรลล์
เริ่มต้นวันใหม่ในเมืองอาคูเรย์ริ (Akureyri) เมืองเปี่ยมเสน่ห์ที่เต็มไปด้วยร้านรวงและพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ ตลอดจนสวนพฤกษศาสตร์ที่อยู่ทางเหนือสุดของโลก ซึ่งจัดแสดงพืชพื้นเมืองและพืชที่ไม่ใช่พืชพื้นเมืองมากกว่า 7,000 สายพันธุ์ แต่ถ้าหากคุณต้องการชมพืชพรรณในท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น คุณควรเลือกเพิ่มทัวร์ขี่ม้าเลียบชายฝั่งฟยอร์ดเข้าไปในโปรแกรมของเช้าวันนี้ หรือหากคุณพลาดกิจกรรมชมวาฬเมื่อวันก่อน คุณก็ยังสามารถเลือกไปดูวาฬจากแถวนี้ได้เหมือนกัน จากนั้นขับต่อไปยังสกากาฟยอร์ดูร์ (Skagafjörður) หุบเขาที่มีว่าม้าไอซ์แลนด์จำนวนมากมาย ระหว่างทางคุณยังจะได้ผ่านพื้นที่ภูเขาโทรลลาสกากี (Tröllaskagi) ที่สวยงามอีกด้วย จากที่นั่น คุณจะเห็นหมู่บ้านชาวประมงแฮร์ริ่งเก่าแก่ของซิกลูฟยอร์ดูร์ (Siglufjörður) และโฮฟซอส (Hofsós) ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามได้จากสระน้ำร้อนของเมือง คืนนี้พักค้างคืนที่เซยดาร์โครคูร์ (Sauðárkrókur)

วัน 8 - แนะนำฟยอร์ดตะวันตก
วันที่แปดเป็นจุดเริ่มต้นของการขับรถไปยังฟยอร์ดทางตะวันตกอันน่าทึ่งและห่างไกลของไอซ์แลนด์ สถานที่ท่องเที่ยวระหว่างทาง ได้แก่ ภูเขาวัทน์สดาลสฮอลาร์ (Vatnsdalshólar) ป้อมปราการธรรมชาติบอร์กาวีร์กี (Borgarvirki) และเสาหินฮวิตเซอร์คูร์ (Hvitserkur) พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับแม่มดและมนตร์ดำ (Museum of Icelandic Sorcery and Witchcraft) ในโฮลมาวิค (Hólmavík) และกระท่อมของหมอผีในบยาร์นาร์ฟยอร์ดูร์ (Bjarnarfjörður) ที่อยู่ห่างจากโฮลมาวิคเพียง 16 ไมล์ (25 กม.) เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจนิทานพื้นบ้านและประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ การไปแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่สระน้ำร้อนแดรงส์เนส (Drangsnes) ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดด้วย คืนนี้พักค้างคืนในแถบสตรานดิร์ (Strandir)

วัน 9 - เจาะลึกฟยอร์ดตะวันตก
การเดินทางในวันที่เก้านี้จะเน้นเที่ยวฟยอร์ดอันน่าทึ่งที่อยู่บนเส้นทางการขับรถของคุณ รวมถึงภูเขาสูงตระหง่านที่อยู่เคียงข้างคุณตลอดเส้นทางที่จะไปอีสาฟยอร์ดูร์ (Ísafjörður) ในบริเวณนี้คุณจะได้พบกับภูเขาที่เก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์ซึ่งมีอายุนับย้อนไปถึง 18 ล้านปีก่อน และขณะขับรถอย่าลืมกวาดตามองไปในน้ำด้วย เนื่องจากแถวนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ที่สามารถมองเห็นวาฬออกมาหากินได้จากบนชายฝั่ง คุณอาจจะอยากขับรถไปแถวโปลุงกาวีค (Bolungarvík) ที่อยู่ใกล้เคียง และไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทางทะเล (Ósvör Maritime Museum) เพื่อดูวิถีชีวิตของชาวประมงไอซ์แลนด์ในอดีตด้วย เและมื่อคุณไปถึงอีสาฟยอร์ดูร์ (Ísafjörður) คุณจะได้เพลิดเพลินกับความสงบเงียบและเสน่ห์แห่งความโดดเดี่ยวของเมืองนี้ คืนนี้พักค้างคืนที่แถวอีซาฟยาร์ดาร์จูป (Ísafjardardjúp)

วัน 10 - ฟยอร์ดตะวันตกและดินยานดิ - นกพัฟฟินที่ลาทราบียอร์ก
เริ่มต้นวันที่สิบด้วยการมุ่งหน้าไปยังฟยอร์ดไดราฟยอร์ดูร์ (Dýrafjörður) เพื่อตามรอยวีรบุรุษชาวไวกิ้งกิสลิ ซุร์สซอน (Gisli Súrsson) และเที่ยวสวนพฤกษศาสตร์สครูดูร์ (Skrúður) จากนั้นเดินทางต่อไปยังฮร์าฟนเซย์ริ (Hrafnseyri) ที่คุณสามารถเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับจอน ซิกูร์สสัน (Jón Sigurðsson) วีรบุรุษของไอซ์แลนด์ อดีตประธานสภาอัลธิงกิ และผู้นำขบวนการเพื่ออิสรภาพของไอซ์แลนด์ในศตวรรษที่ 19 ต่อจากนั้น แวะที่น้ำตกดินยานดิ (Dynjandi) อันงดงามที่มีน้ำไหลเชี่ยวอย่างรวดเร็วลงมาตามซอกหน้าผาขนาดใหญ่ หลังจากตื่นตาตื่นใจกับความมหัศจรรย์นี้แล้ว ให้มุ่งหน้าไปยังหน้าผาสูงตระหง่านที่ลาทราบียอร์ก (Látrabjarg) ผาแห่งนี้สูง 1,457 ฟุต (444 ม.) ซึ่งบริเวณนี้อาจจะเป็นจุดที่อยู่ทางตะวันตกสุดของยุโรป ที่นี่ คุณจะได้ชมนกทะเลที่มาทำรังในไอซ์แลนด์อย่างใกล้ชิดอย่างเหลือเชื่อ เช่น นกพัฟฟินและนกเรเซอร์บิลปากแหลม คืนนี้พักค้างคืนแถวเวสเทอบิกด์ (Vesturbyggð) ใกล้พาเทรคสฟยอร์ดูร์ (Patreksfjörður)

วัน 11 - เดินทางด้วยเฟอร์รี่จากฟยอร์ดทางตะวันตกสู่คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
ในวันที่สิบเอ็ดนี้คุณจะพักจากการขับรถ โดยคุณจะนั่งเรือเฟอร์รี่บัลเดอร์ (Baldur) จากปรอย์นสไลคูร์ (Brjánslækur) ข้ามอ่าวเบรดาฟยอร์ดูร์ (Breiðafjörður) เพื่อไปยังหมู่บ้านสติกกิโฮลมูร์ (Stykkishólmur) บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) ตั๋วเรือข้ามเฟอร์รี่นี้คิดรวมอยู่ในทัวร์ที่คุณซื้อแล้ว และคุณสามารถนำรถมาขึ้นเรือได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม! สติกกิโฮลมูร์ (Stykkishólmur) เป็นเมืองประมงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเมืองนี้เคยถูกใช้เป็นฉากกรีนแลนด์ในภาพยนตร์เรื่อง “ชีวิตพิศวงของ วอลเตอร์ มิตตี้” ด้วยและยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และประเพณีความเชื่อที่น่าสนใจควรค่าแก่การแวะเข้าไปชมเป็นอย่างยิ่ง
คุณยังสามารถเที่ยวชมสถานที่อื่นๆ บนคาบสมุทรได้ด้วย เช่น ธารน้ำแข็งสไนล์เฟลส์โจกุล (Snæfellsjökull) ในอุทยานแห่งชาติสไนล์เฟลส์โจกุล (Snæfellsjökull National Park) โค้งอ่าวดริทวีค (Dritvík) หาดตูปาโลนส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) หมู่บ้านอาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi) เฮลล์นาร์ (Hellnar) และบูดิร์ (Búðir) พื้นที่บริเวณนี้มีทุ่งลาวาและลาวาที่ก่อตัวเป็นรูปร่างต่างๆ ให้เห็นอยู่หลายแห่ง อีกทั้งมีหน้าผา ชายหาดสวยๆ และนกนานาชนิดอาศัยอยู่รอบบริเวณ คืนนี้พักค้างคืนแถวสไนล์แฟลซเนส

วัน 12 - กิจกรรมบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส
คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสมีสถานที่สวยงามน่าเที่ยวอยู่มากมาย คุณจะได้ใช้เวลาในวันนี้เก็บตกสถานที่เที่ยวที่คุณยังไม่ได้ไปเมื่อวานให้ครบ คุณสามารถออกไปเดินขึ้นเขาชมธรรมชาติสวยๆ หรือไปเที่ยวดูหินและหาดทรายกว้างใหญ่ใกล้ๆ กับหาดทรายดำตูปาโลนส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) มีเส้นทางเดินขึ้นเขามากมายในบริเวณนี้และยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้คุณทำอีกเพียบ หากคุณมาที่นี่ในช่วงฤดูร้อน คุณสามารถเลือกขึ้นไปบนธารน้ำแข็งสไนล์แฟลสโจกุล (Snæfellsjökull) อันยิ่งใหญ่ได้ เมื่อเลือกทำกิจกรรมเสริมนี้ คุณจะเดินทางจากเมืองกรุนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) ที่มีบรรยากาศสวยแปลกตาด้วยรถที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับวิ่งบนภูมิประเทศที่เป็นน้ำแข็งขรุขระของประเทศไอซ์แลนด์ เพื่อไปยังตีนเขาสไนล์แฟลสโจกุล จากนั้นคุณจะเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาด้วยสโนว์แคท (Snowcat) ประสบการณ์การที่ได้ไปยืนอยู่บนยอดธารน้ำแข็งที่ปกคลุมภูเขาไฟนั้นรับรองว่าพิเศษไม่น้อยหน้ากิจกรรมอื่นๆ และเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่น่าจดจำ และยังเป็นโอกาสในการภาพถ่ายที่สุดพิเศษสำหรับคุณด้วย คืนนี้คุณจะใช้เวลาอีกคืนหนึ่งในที่พักในย่านสไนล์แฟลซเนส

วัน 13 - น้ำตกเฮินฟอซซ่าและน้ำตกบาร์นาฟอสส์ - เดลตาร์ทุงกุแควร์
ในวันที่สิบสามคุณจะได้ออกสำรวจไอซ์แลนด์ทางตะวันตกซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอยู่มากมาย เช่น เดลตาร์ทุงกุแควร์ (Deildartunguhver) น้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป และน้ำตกเฮินฟอซซ่าและน้ำตกบาร์นาฟอสส์ (Hraunfossar & Barnafoss) อันงดงาม
ผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์น่าจะชอบสนอร์ราสโทฟา (Snorrastofa) เป็นพิเศษเพราะเป็นสถาบันค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับยุคกลาง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเรย์คอลท์ (Reykholt) ซึ่งเคยเป็นที่อยู่ของสนอร์รี สเทอร์ลิวซัน (Snorri Sturluson) กวีผู้แต่งนิยายซากาเรื่องฮีมสกรินก์กา (Heimskringla) ขึ้นในศตวรรษที่ 13 และยังเป็นผู้ประพันธ์บทร้อยแก้วเอดดา (Edda) ที่เปรียบเสมือนไบเบิลแห่งเทพปกรณัมนอร์สโบราณด้วย
ระหว่างที่เดินทางกลับเรคยาวิกคุณสามารถเพิ่มทัวร์เพื่อเข้าไปเที่ยวในธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjökull) ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งแห่งเดียวในโลกที่มีทริปแบบนี้ หรือคุณจะเลือกไปผจญภัยกับทัวร์เที่ยวถ้ำที่อุโมงค์ลาวาวิดเกลมิร์ (Víðgelmir) หรือเลือกลงไปชมห้องโถงแมกมากับทัวร์ “อินไซด์เดอะโวลเคโน” ก็ได้ และก่อนจะเข้าไปในเรคยาวิก ขอแนะนำให้คุณแวะเที่ยวที่น้ำตกฟอสซาตุน (Fossatún) ด้วย ว่ากันว่าน้ำตกแห่งนี้มียักษีโทรลล์ชื่อว่าดรีฟา (Drifa) คอยปกปักรักษาอยู่ จากนั้นค่อยเข้าที่พักหรือออกไปหาอะไรรับประทานหรือไปเที่ยวบาร์ที่อยู่ในเมืองหลวงให้สนุก

วัน 14 - บลูลากูน & คืนรถเช่าที่สนามบิน
นำรถไปส่งคืนที่สนามบินเคฟลาวิกให้ทันเวลาออกเดินทางของคุณ และหากคุณโชคดีได้เที่ยวบินในช่วงบ่ายหรือค่ำ คุณก็ยังสามารถแวะเที่ยวบลูลากูนเพื่อสัมผัสประสบการณ์สุดวิเศษส่งท้ายทริปไอซ์แลนด์ครั้งนี้ได้อีก ผู้ที่มีเที่ยวบินในช่วงสายสามารถเลือกไปเที่ยวบลูลากูนในวันนี้ได้ เพื่อปิดทริปแบบผ่อนคลายก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน ซึ่งบลูลากูนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาแช่น้ำแร่ร้อนให้ร่างกายหายเมื่อยล้าในขณะที่นึกย้อนไปถึงประสบการณ์การผจญภัยสนุกๆ ที่คุณเพิ่งสัมผัสมาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ หากเที่ยวบินของคุณออกในช่วงเย็นหรือค่ำ คุณก็ยิ่งมีกิจกรรมให้ทำในเรคยาวิกได้อีกมาก แต่หากเที่ยวบินของคุณอยู่ในช่วงเช้า เราก็ขอให้คุณเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข
สิ่งที่ควรนำไป
สิ่งที่ควรรู้
แพ็คเกจขับรถเที่ยวด้วยตัวเองนี้สามารถเริ่มออกเดินทางได้ทั้งจากในตัวเมืองเรคยาวิกและจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ทั้งนี้คนขับจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและมีประสบการณ์ในการขับรถบนถนนอย่างน้อย 1 ปี อย่างไรก็ตามรายละเอียดการเดินทางที่คุณได้รับอาจมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับวันเวลาที่คุณเดินทางมาถึงไอซ์แลนด์ด้วย
สำหรับกิจกรรมเสริมบางอย่างนั้นคุณอาจจำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตขับขี่หรืออาจต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้วางแผนโปรแกรมของคุณ นอกจากนี้คุณอาจต้องใช้เอกสารทางการแพทย์ด้วยในกรณีที่คุณเลือกทำกิจกรรมอย่างการดำน้ำหรือการดำน้ำตื้น
แม้ว่าคุณจะมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน แต่อากาศในไอซ์แลนด์นั้นก็ยากที่จะคาดเดาได้ถูก ดังนั้นกรุณาเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมติดตัวมาด้วย
ทั้งนี้ ในพื้นที่ฟยอร์ดทางตะวันตกนั้นไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ ลูกค้าที่ไปเยือนฟยอร์ดทางตะวันตกจะได้เข้าพักในที่พักระดับที่มีความสะดวกสบายมากที่สุดเท่าที่จะหาได้
ที่พัก
ดูระดับของที่พักของเราที่ด้านล่างนี้ และดูรายชื่อผู้ให้บริการที่พักที่เราแนะนำได้ที่ใต้แผนการเดินทางในแต่ละวัน หากจองเข้าพักเพียงท่านเดียวจะได้รับห้องแบบซิงเกิล หากจองเข้าพักสองท่านขึ้นไปจะได้ห้องพักที่มีเตียงทวิน/เตียงดับเบิ้ล หรือเตียงทริปเปิ้ล
สำหรับวัยรุ่นและเด็กจะถูกจัดให้พักห้องเดียวกับผู้ปกครอง หากต้องการห้องเพิ่มจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อคุณทำการจองกับเรา Guide to Iceland จะจัดหาที่พักที่ดีที่สุดจากพันธมิตรที่เราแนะนำให้กับคุณ ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรมที่พักในแต่ละพื้นที่ของไอซ์แลนด์อาจมีความแตกต่างกัน และเนื่องจากจำนวนที่พักมีอยู่อย่างจำกัดมาก หากที่พักพันธมิตรที่เราแนะนำถูกจองเต็มหมดแล้วในวันที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันให้กับคุณตามความเหมาะสม
ที่พักระดับควอลิตี้นั้นไม่ได้มีให้บริการในทุกพื้นที่ หากไม่มีที่พักระดับควอลิตี้ในพื้นที่ที่คุณต้องการ เราจะจัดหาที่พักระดับคอมฟอร์ทให้แทน โดยจะเลือกอัปเกรดห้องให้มีราคาสอดคล้องกับที่พักระดับควอลิตี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อหาที่พักให้ตรงกับความต้องการพิเศษที่คุณมี ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรุณาระบุวันที่ที่คุณต้องการเดินทางเพื่อตรวจสอบจำนวนที่ว่าง
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 3 ดาว หรือเกสต์เฮาส์คุณภาพ ทำเลใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด รวมอาหารเช้า
ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัวในโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือห้องซูพีเรียร์ในโรงแรมระดับ 3 ดาวที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ รวมอาหารเช้า
รถ
ด้านล่างนี้คือตัวเลือกการเช่ารถสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง รถทุกคันของเราเป็นรถรุ่นใหม่หรือรุ่นปัจจุบัน โดยมีอายุไม่เกิน 2 ปี รถระดับซูเปอร์บัดเจทจะมาพร้อมกับประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรก (CDW) ซึ่งเป็นประกันมาตรฐาน ในขณะที่ระดับอื่นๆ ทั้งหมดจะรวมประกันกรวด (GP) และประกันประเภทไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (SCDW)
ข้อควรรู้: การขับรถออกนอกเขตถนนถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รถทุกระดับมี GPS และ Wi-Fi ให้ฟรี คุณสามารถเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน ผู้ให้บริการรถเช่ามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้านอายุของผู้ขับขี่สำหรับแต่ละระดับสามารถดูได้ที่ด้านล่าง แต่ไม่ว่ารถระดับใด ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนวันที่เช่า เราขอแนะนำให้เลือกใช้รถระดับบัดเจทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูร้อน และระดับคอมฟอร์ทแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว
รถขนาดเล็กขับเคลื่อนสองล้อ เช่น Toyota Aygo หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีขนาดกะทัดรัดและสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 2 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถขนาดมาตรฐานขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่น Toyota Yaris หรือรุ่นใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางประจำวันทั่วไป มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร 3 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่มาก ไม่สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดมาตรฐาน เช่น Dacia Duster หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดกลาง เช่น Toyota Rav4 (เกียร์อัตโนมัติ) Suzuki Vitara (เกียร์ธรรมดา) หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ รวมถึงการขับขี่บนหิมะและถนนลาดยาง สามารถขับขี่แบบพื้นฐานในไฮแลนด์ได้ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Land Cruiser หรือรุ่นใกล้เคียง มีความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 4 ใบ เหมาะสำหรับการเดินทางเกือบทุกแบบ สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
รถตู้ขนาดใหญ่ 9 ที่นั่ง เช่น Mercedes Benz Vito หรือรุ่นใกล้เคียง (ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ธรรมดา สามารถขับขี่ในไฮแลนด์ได้) รองรับผู้โดยสารได้ 5-7 คน นั่งสบายและเหมาะสำหรับการขับขี่ในฤดูหนาว หากจำนวนผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระลดน้อยลง ผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 23 ปีขึ้นไป