ทริปล่าแสงเหนือในฤดูหนาว 7 วันที่ไม่เหมือนใครที่ไอซ์แลนด์

ใช้เวลาวันแรกของคุณในไอซ์แลนด์สำรวจคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสพร้อมไกด์ผู้เชี่ยวชาญ

การผจญภัยเริ่มต้นเมื่อไกด์ไปรับคุณจากที่พักในเมืองเรคยาวิก คุณจะได้พบกับสมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยวของคุณและขึ้นรถมินิบัสออกจากเมืองไปยังคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส

คนท้องถิ่นมักเรียกภูมิภาคนี้ว่า "ไอซ์แลนด์ขนาดจิ๋ว" เนื่องจากที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมายมหาศาล คุณจะได้ใช้เวลาทั้งวันไปเยี่ยมชมหน้าผาภูเขาไฟ น้ำตก ภูเขา หมู่บ้านชายฝั่ง หาดทรายสีดำ และภูเขาไฟที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็ง

จุดแวะแห่งแรกของคุณคือหน้าผาแกร์ดูแบร์ก หน้าผาหินบะซอลต์เหล่านี้ประกอบด้วยเสาเป็นรูปหกเหลี่ยมที่สมบูรณ์แบบ ดูเหมือนแกะสลักด้วยมือ แต่จริงๆ แล้วเกิดขึ้นตามธรรมชาติเนื่องจากการปะทุของภูเขาไฟ ไกด์ของคุณจะอธิบายการก่อตัวของพวกมันให้ฟังในขณะที่คุณเพลิดเพลินกับทิวทัศน์

จากนั้น คุณจะเดินทางต่อไปตามชายฝั่งทางใต้ของคาบสมุทรไปจนถึงชายหาดอีทรี-ทุงกา ชายหาดนี้มีหาดทรายสีทองซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากสำหรับไอซ์แลนด์ที่ส่วนใหญ่จะมีทรายสีดำแบบภูเขาไฟ นอกจากนี้ยังควรไปเยี่ยมชมแมวน้ำที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้อีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอื่นๆ สำหรับทริปวันนี้ ได้แก่ โบสถ์สีดำที่บูดิร์ และหมู่บ้านชาวประมงอันงดงามชื่อเฮลล์นาร์และอาร์นาร์สตาปิ ก่อนที่การเดินทางของคุณจะดำเนินต่อไป คุณจะมีเวลาเล็กน้อยในการสำรวจเส้นทางชายฝั่งบนหน้าผาที่เชื่อมชุมชนเหล่านี้ ซึ่งมีวิวคลื่นทะเลอันตระการตาอยู่เบื้องล่างและทิวทัศน์โดยรอบที่งดงาม

คุณยังจะได้เยี่ยมชมหาดทรายสีดำดยูปาลอนส์ซานดูร์ด้วย ในการไปถึงที่นั่น คุณจะต้องเดินผ่านเขาวงกตที่แปลกประหลาดซึ่งมีเสาและโครงสร้างของภูเขาไฟเต็มไปหมด ทำให้ดูเหมือนอยู่บนดาวดวงอื่น

สถานที่ท่องเที่ยวหลักของคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสคืออุทยานแห่งชาติสไนล์เฟลล์สโจกุล ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟสไนเฟลล์สโจกุลที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็ง ภูเขาไฟขนาดมหึมานี้มองเห็นได้จากระยะไกลหลายไมล์ และตั้งตระหง่านเหนือเส้นขอบฟ้าของคาบสมุทร ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาลูกนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานวรรณกรรมมากมาย ไกด์ของคุณจะเล่าให้คุณฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ และคุณจะมีเวลาออกสำรวจอุทยานฯ

หลังจากวันที่วุ่นวาย คุณจะได้พักผ่อนที่โรงแรมบนคาบสมุทรในไอซ์แลนด์ตะวันตกแห่งนี้หรือในบริเวณใกล้เคียง และคุณจะถูกพาไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในการชมแสงเหนือหากมีปรากฏการณ์เกิดขึ้นในวันนี้ ดังนั้นควรจับตาดูให้ดี

วันนี้คุณจะได้เริ่มต้นการเดินทางสองวันไปตามชายฝั่งทางใต้ เยี่ยมชมน้ำตก ชายหาด และเพชรเม็ดงามของไอซ์แลนด์ ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

คุณจะขึ้นรถมินิบัสในเมืองเรคยาวิกและพบกับไกด์ที่เป็นผู้ดูแลกลุ่มขนาดเล็กของคุณในทริปนี้ พวกเขาจะขับรถพาคุณออกนอกเมืองและไปตามชายฝั่งทางใต้ของถนนวงแหวน โดยแวะที่สถานที่สำคัญต่างๆ ตลอดทาง

จุดแรกของคุณคือน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์และน้ำตกสโคกาฟอสส์

ทั้งสองมีความสูงประมาณ 197 ฟุต (ประมาณ 60 เมตร) แต่ความคล้ายคลึงกันมีแค่นี้ น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์นั้นแคบและอ่อนโยน ในขณะที่น้ำตกสโคกาฟอสส์นั้นกว้างและทรงพลัง การเยี่ยมชมน้ำตกทั้งสองแห่งในวันเดียวกันจะทำให้คุณมีจุดเปรียบเทียบที่ดีเยี่ยมและทำให้คุณเห็นว่าน้ำตกในประเทศไอซ์แลนด์มีความหลากหลายเพียงใด

เมื่อขับรถไปตามชายฝั่ง คุณจะเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของมหาสมุทรทางด้านขวาและทิวทัศน์ของธารน้ำแข็งที่น่าทึ่งทางด้านซ้ายของคุณ คุณจะผ่านธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล ซึ่งปกคลุมภูเขาไฟคัทลาและภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุลที่เป็นสาเหตุทำให้การเดินทางทางอากาศของยุโรปต้องหยุดชะงักลงเมื่อเกิดการปะทุในปี 2010

ต่อไป คุณจะได้เยี่ยมชมหาดทรายสีดำเรย์นิสฟยารา หนึ่งในชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ที่ปรากฏในรายการทีวีและภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมถึง Game of Thrones และ Star Wars: Rogue One ดังนั้นคุณอาจจะพอจำสถานที่แห่งนี้ได้ ทรายภูเขาไฟตัดกันอย่างสวยงามกับหิมะสีขาวและน้ำแข็งในฤดูหนาว

เดินเลียบชายฝั่งและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของโขดทะเลเรย์นิสแดรงการ์และซุ้มหินดิร์โฮลาเอย์ โดยไกด์จะช่วยให้แน่ใจว่าคุณจะไม่หลงไปเดินใกล้กับริมน้ำมากเกินไป เพราะอาจมีคลื่นยักษ์ที่อันตรายปรากฏขึ้นได้จากทุกที่ ดังนั้นโปรดใช้ความระมัดระวัง

คณะของคุณจะหยุดเพื่อแวะหาเครื่องดื่มในหมู่บ้านชาวประมงที่งดงามอย่างวิก ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนที่อยู่ทางใต้สุดของแผ่นดินใหญ่ไอซ์แลนด์

จุดหมายปลายทางสุดท้ายสำหรับวันนี้เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดของวัน คุณจะได้มุ่งหน้าไปยังเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลเพื่อชมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนอันน่าทึ่ง

ก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาแตกออกจากลิ้นของธารน้ำแข็งและลอยอยู่ในน้ำของทะเลสาบ ภูเขาน้ำแข็งค่อยๆ เคลื่อนตัวออกสู่ทะเลอย่างช้าๆ และมักเกยตื้นขึ้นฝั่งที่หาดไดมอนด์ ซึ่งเป็นหาดภูเขาไฟที่เต็มไปด้วยโครงสร้างน้ำแข็งอันกว้างใหญ่

คุณจะมีเวลาถ่ายรูปและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของที่นี่ การชมภูเขาน้ำแข็งค่อยๆ พลิกหมุน แตกออกจากกัน และล่องเรือในทะเลสาบเป็นสิ่งที่ยากจะลืมเลือน หากคุณโชคดี คุณก็จะได้เห็นแสงออโรร่า บอเรลลิส เต้นรำบนท้องฟ้าเหนือทะเลสาบก่อนที่คุณจะพักผ่อนในคืนนี้

ที่พักของคุณในคืนนี้อยู่ในโรงแรมสไตล์ชนบททางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์

ในวันก่อนวันสุดท้ายของทริปหนึ่งสัปดาห์ในไอซ์แลนด์ คุณจะได้สำรวจถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าใสใต้ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล

หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่ที่พักของคุณ คุณจะได้พบกับไกด์ธารน้ำแข็งผู้มากประสบการณ์ที่จะเป็นผู้นำการผจญภัยในตอนเช้าของคุณ ถ้ำน้ำแข็งในประเทศไอซ์แลนด์จะปรากฏขึ้นทุกฤดูหนาวเมื่อธารน้ำแข็งละลายและกลายเป็นน้ำแข็งอีกครั้ง โดยมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการมาเยือนถ้ำทุกครั้งจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไกด์จะเลือกถ้ำอย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของกลุ่มของคุณ

ไกด์ของคุณจะพาคุณขึ้นไปบนธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลด้วยรถซูเปอร์จี๊ป ซึ่งเป็นยานพาหนะที่ได้รับการดัดแปลงเป็นพิเศษให้เหมาะสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด คุณจะได้รับอุปกรณ์นิรภัยและข้อมูลเบื้องต้นที่จำเป็นก่อนที่จะเดินข้ามแผ่นน้ำแข็งเพื่อไปยังถ้ำที่เลือก

เมื่อคุณเข้าไปในถ้ำ คุณจะประทับใจกับความงามอันน่าหลงใหลที่อยู่ตรงหน้าคุณ การเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตสำหรับคนส่วนใหญ่ และจะเป็นไฮไลท์ของการเดินทางของคุณอย่างแน่นอน

ภายในถ้ำเป็นสีฟ้าและสีขาวสว่าง โดยมีรูปร่างและโครงสร้างที่แปลกประหลาดซึ่งเกิดจากน้ำแข็งในขณะที่ละลายและแข็งตัวใหม่ ถ้ำเหล่านี้ให้ความรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างจากนิยายแฟนตาซี คุณจะมีเวลาเหลือเฟือที่จะประหลาดใจกับสี รูปร่าง และพื้นผิว และคุณสามารถถามคำถามจากไกด์เกี่ยวกับกระบวนการที่สร้างรูปทรงเยือกแข็งเหล่านี้ได้

หลังจากสร้างความทรงจำที่จะคงอยู่ชั่วชีวิตแล้ว คุณจะเริ่มเดินทางกลับสู่เมืองเรคยาวิก โดยจะไปแวะที่โจกุลซาร์ลอนอีกครั้งเพื่อชมทะเลสาบในมุมมองใหม่ หากเมื่อวานไม่มีเวลามากพอให้ไปชมหาดไดมอนด์ที่อยู่ใกล้เคียง คุณก็สามารถไปในวันนี้ได้

พระอาทิตย์จะตกดินในระหว่างที่คุณเดินทางไปตามชายฝั่งทางใต้ หากแสงเหนือปรากฏบนท้องฟ้า พนักงานขับรถของคุณจะหยุดเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะได้เห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่งนี้

คุณจะเดินทางถึงเมืองเรคยาวิกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับค่ำคืนสุดท้ายในเมือง เราขอแนะนำให้คุณใช้เวลาคืนสุดท้ายให้คุ้มค่าที่สุดด้วยการไปเยี่ยมชมบาร์และผับที่ตั้งอยู่ในบริเวณใจกลางเมือง สั่งเครื่องดื่มมาสังสรรค์กับคนท้องถิ่นก่อนบอกลาไอซ์แลนด์ในวันพรุ่งนี้