ทัวร์ 2 วันพาเที่ยวชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสและชมถ้ำลาวาวิดเกลมิร์

น้ำตกที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทุ่งลาวาที่งดงาม ถ้ำลาวามหัศจรรย์ น้ำพุร้อนเดือดปุดๆ และมรดกทางวัฒนธรรมจากยุคกลางของไอซ์แลนด์ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณจะได้เห็นในทริปวันนี้

หลังจากพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มและรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว วันที่สองของคุณจะเป็นการเที่ยวทางตะวันออก โดยเดินทางไปตามเส้นทางวงกลมซิลเวอร์ (Silver Circle) และเริ่มต้นด้วยการเที่ยวบอร์การ์ฟอย์ดูร์ ซึ่งเป็นพื้นที่เก่าแก่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย อันดับแรกของกำหนดการในวันนี้คือการไปชมเดลตาร์ทุงกุแควร์ น้ำพุร้อนที่ทรงพลังมากที่สุดในยุโรป ที่นี่มีอัตราการผลิตน้ำร้อนเดือดมากกว่า 180 ลิตรต่อวินาที แต่คุณจะได้เดินชมอย่างปลอดภัยบนเส้นทางเดินที่ทำเอาไว้อย่างดี และจะได้เห็นถึงพลังอันเกรี้ยวกราดของธรรมชาติเมื่อคุณเดินไปตามทางผ่านกลุ่มไอน้ำหนาทึบที่พวยพุ่งปกคลุมอยู่รอบน้ำพุร้อน หรือคุณจะเลือกยืนมองจากจุดชมวิวก็ได้เช่นกัน

จุดต่อไปคือน้ำตกเฮิร์นฟอซซ่าร์ (น้ำตกลาวา) ซึ่งเป็นน้ำตกหลายสายที่เกิดจากธารน้ำที่ไหลผ่านระยะทางประมาณ 900 เมตร (เกือบจะ 300 ฟุต) และผ่านทุ่งลาวาฮาลล์มุนตาร์เฮิร์น ที่ไหลออกมาจากการปะทุของภูเขาไฟที่อยู่ภายใต้ธารน้ำแข็งลางโจกุล โดยน้ำตกแห่งนี้จะไหลลงไปยังแม่น้ำฮวิทเอาผ่านรูพรุนของหินลาวา

เดินย้อนตามน้ำขึ้นไปจากน้ำตกเฮินฟอซซ่าร์อีกเล็กน้อย คุณก็จะได้เจอกับน้ำตกอีกแห่งที่ชื่อว่าบาร์นาฟอสส์ ที่มีความหมายว่า "น้ำตกของเด็กๆ" ซึ่งชื่อนี้ได้มาจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นที่นี่ในศตวรรษที่แล้ว ที่นี่เคยมีสะพานหินธรรมชาติที่พาดผ่านสำหรับใช้เป็นทางข้ามน้ำตก และเด็กสองคนจากพื้นที่เกษตรใกล้เคียงได้ตกลงไปน้ำและเสียชีวิต หลังจากนั้นแม่ของเด็กทั้งสองจึงได้ทำลายสะพานแห่งนี้ทิ้งเสีย

ไฮไลท์ของทัวร์นี้คือการเดินทางไปชมสีสันของถ้ำลาวาวิดเกลมิร์ ที่ซ่อนอยู่ลึกถึง 1,600 เมตร ถ้ำนี้มีสีสันและการก่อตัวของลาวาที่น่ามหัศจรรย์มาก ซึ่งการเดินทางหนึ่งชั่วโมงครึ่งในวันนี้จะพาคุณเข้าไปชมที่ด้านในของถ้ำลาวาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ ที่มีทั้งหินงอกและหินย้อยสวยงามมาก และแค่ไปเห็นบริเวณรอบๆ ปากถ้ำ คุณก็จะรู้สึกถึงพลังอันรุนแรงจากการระเบิดของภูเขาไฟแล้ว 

หลังจากที่ใช้เวลาอยู่ใต้ดินเกือบ 2 ชั่วโมง ทัวร์นี้จะไปจบที่ฮูสาเฟลล์ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าโอเอซิสที่มีความมหัศจรรย์และเหมาะสำหรับการพักผ่อนให้หายเหนื่อยหลังจากตื่นตาตื่นใจกันมาทั้งวัน ที่นี่มีป่าต้นเบิร์ช น้ำตก ทุ่งลาวาตะปุ่มตะป่ำ แหล่งน้ำพุธรรมชาติที่ใสราวกับคริสตัล เศษซากปรักหักพังจากยุคกลาง และอื่นๆ อีกมากมาย

และปิดท้ายด้วยการไปชมเรค์คอร์ค ซึ่งคุณจะได้เห็นสนอร์ราเลยก์ (Snorralaug) หรือสระน้ำของสนอร์รี่ น้ำพุร้อนขนาดย่อมที่คนในพื้นที่ใช้อาบมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 สระน้ำแห่งนี้เคยถูกกล่าวถึงครั้งแรกในงานเขียนในยุคกลางของสนอร์รี่ สตูร์ลูซัน (Snorri Sturluson) กวีมีชื่อและชนชั้นผู้นำของไอซ์แลนด์ ซึ่งตัวสนอร์รี่เองก็เคยอาศัยแถวนี้และลงแช่น้ำที่นี่มาก่อนเหมือนกัน ปัจจุบันนี้สนอร์ราเลยก์เป็นแหล่งโบราณคดีที่ได้รับการคุ้มครองแล้ว และเรื่องราวของสนอร์รี่เองก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของชาวไอซ์แลนด์ 

นอกจากนี้คุณยังมีเวลาสำหรับถ่ายภาพโบสถ์ไม้เก่าแก่ที่งดงามของแถวนี้ด้วย โบสถ์แห่งนี้มีอายุนับย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 19 ซึ่งคุณสามารถเข้าไปชมด้านในโบสถ์ได้ และหากมองออกมาจากหน้าต่างกระจกคุณจะเห็นบ่อน้ำเก่าของยุคกลางตั้งอยู่ที่ด้านนอก

จากนั้นก็ได้เวลาเดินทางกลับไปยังเมืองเรคยาวิกและคุณจะไปถึงตามเวลาที่กำหนด เพื่อที่คุณจะได้ใช้เวลาช่วงค่ำคืนเพลิดเพลินกับเมืองหลวงและนึกย้อนถึงความทรงจำที่ดีจากทริป 2 วันในทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ รีบจองทริปนี้เลยแล้วออกไปสัมผัสกับประสบการณ์ที่หาได้ยากยิ่งด้วยกัน