คู่มือท่องเที่ยว เฮมาเอย์
เฮมาเอย์ (Heimaey) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะเวสต์แมนและเป็นเกาะเดียวที่มีคนอาศัยอยู่
เกาะมีประชากรประมาณ 4,000 คนและมีประวัติศาสตร์ที่มืดมน เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภูมิภาคนี้ด้วยการเข้าร่วมกับทัวร์หมู่เกาะเวสต์แมน และเพลิดเพลินกับการเข้าพักในที่พักในเฮมาเอย์
เฮมาเอย์ในปัจจุบัน
เฮมาเอย์เป็นเกาะที่มีชีวิตชีวา ซึ่งดึงดูดทั้งคนท้องถิ่นและผู้มาเยือนตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม การมาดูนกพัฟฟินแอตแลนติกจะได้รับความนิยมมากกว่าในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากมีนกพัฟฟินแอตแลนติกมาวางไข่ที่นี่และบริเวณอื่นๆ ของหมู่เกาะเวสต์แมนมากกว่าที่อื่นๆ ในโลก
ทัวร์ล่องเรือหลายแห่งจะพานักท่องเที่ยวออกไปดูตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน และในทัวร์เหล่านี้ คุณยังจะได้เห็นวาฬและโลมาหลายประเภทอีกด้วย หมู่เกาะเวสต์แมนมีชื่อเสียงว่าเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ในการดูแลวาฬออร์กาและวาฬฟิน
นกพัฟฟินยังสามารถพบเห็นบนบกด้วยเช่นกัน และในเดือนสิงหาคมและกันยายนนั้นพวกมันอาจเข้ามาอยู่ในเมืองด้วย เพราะเกิดสับสนกับแสงไฟในเมืองและคิดว่าเป็นมหาสมุทรจึงเดินเตร่เข้ามา ทำให้เกิดเป็นประเพณีที่เด็กๆ จะไล่จับนกพัฟฟินโยนลงทะเลอย่างปลอดภัย (หรือจะจับพวกมันไปขายให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อให้พวกเขาปล่อยมันลงทะเล)
หากต้องการดูนกพัฟฟินวางไข่ สถานที่ที่ดีที่สุดคือ Stórhöfði หรือ "แหลมใหญ่" ทางตอนใต้ของเฮมาเอย์อย่างไม่ต้องสงสัย มีจุดชมวิวที่นี่ และเส้นทางหลายเส้นทางที่คุณสามารถเดินไปตามหน้าผาเพื่อชมวิวที่สวยงามยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้กระทั่งในช่วงกลางฤดูร้อน อย่าลืมแต่งตัวให้อบอุ่นเพราะที่สตอร์เฮิฟดิเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีลมแรงที่สุดในไอซ์แลนด์ วัดลมที่รุนแรงที่สุดที่เคยบันทึกไว้ในซีกโลกเหนือได้ที่นี่
เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชน คุณสามารถไปชมนกพัฟฟินได้บนหน้าผาทางตอนเหนือ เช่น บริเวณ Dalfjall และ Heimaklettur และอ่าว Stakkabót ทางตะวันออก นกทะเลชนิดอื่นๆ ก็สามารถพบเห็นมาทำรังปะปนกันได้ตามพื้นที่อันกว้างใหญ่ได้ทั่วเกาะ
ประวัติศาสตร์ของเฮมาเอย์ซึ่งมีการกล่าวถึงในรายละเอียดด้านล่าง นั้นสามารถเรียนรู้ได้จากในพิพิธภัณฑ์ โดยพิพิธภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุดคือพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟ Eldheimar ซึ่งกล่าวถึงการปะทุของเอลด์เฟลล์ในปี 1973 นอกจากนี้ยังสามารถเดินขึ้นไปยังปล่องภูเขาไฟเอลด์เฟลล์ ซึ่งเป็นจุดที่ภูเขาไฟภัยพิบัติลูกนี้ปะทุ
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sæheimar ที่สวยงาม พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน Sagnheimar สนามกอล์ฟ และสระว่ายน้ำ
ทาส โจรสลัด ภูเขาไฟ และเฮมาเอย์
บุคคลแรกที่ขึ้นฝั่งบนเฮมาเอย์เป็นทาสสองคนที่หลบหนีมาซึ่งพวกเขาก็มีชีวิตรอดได้ไม่นาน เนื่องจากสองคนนี้เป็นชาวไอริชและเป็นเชลยของ Ingólfur Arnarson น้องชายบุญธรรมของผู้ก่อตั้งเมืองเรคยาวิก แต่ทาสทั้งสองกลับลงมือสังหารผู้เป็นนายและมาที่เฮมาเอย์เพื่อหลบหนีจากการแก้แค้น
อย่างไรก็ตาม อาร์นาร์สันมาพบศพน้องชายก่อนที่ทาสจะสามารถหลบหนีไปได้ และเห็นเรือของพวกเขามุ่งหน้าไปยังเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่นอกชายฝั่งทางใต้ เขาจึงติดตามไล่ล่าทั้งสอง โดยได้ฆ่าทาสไปคนหนึ่ง ส่วนอีกคนเขาได้ไล่ต้อนจนต้องโดดหน้าผาให้ตาย
เนื่องจากสมัยนั้นเรียกชาวไอริชว่าเวสต์แมน หมู่เกาะต่างๆ ของหมู่เกาะซึ่งรวมถึงเฮมาเอย์ด้วยจึงถูกเรียกชื่อว่าหมู่เกาะเวสต์แมนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ส่วนเนินเขาที่ทาสอีกคนโดดหน้าผานั้นก็ได้รับการตั้งชื่อตามเขาว่า เนินเขาของดัฟฟี่ หรือดูฟเอคจา (Duffy’s Hill หรือ Dufþekja)
อาจเป็นไปได้ว่ามีผู้ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เฮมาเอย์ก่อนที่ทาสเหล่านี้จะไปถึงที่นั่น เนื่องจากการขุดค้นทางโบราณคดีเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นหลักฐานของบ้านเรือนจากประมาณคริสตศักราช 800 (หลายปีก่อนที่ Ingólfur จะเกิดด้วยซ้ำ) แต่จากหลักฐานในหนังสือแห่งการตั้งถิ่นฐาน บุคคลแรกที่สร้างบ้านถาวรที่นี่มาในปีคริสตศักราช 900
จำนวนประชากรของเฮมาเอย์เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อมีผู้ตั้งถิ่นฐานเข้ามามากขึ้น ครอบครัวก็ขยายตัวขึ้น และแหล่งประมงอันอุดมสมบูรณ์รอบๆ ก็เป็นที่รู้จัก เดนมาร์กได้ก่อตั้งอาคารขึ้นที่นั่นเมื่อพวกเขาเข้าควบคุมไอซ์แลนด์ ซึ่งทำให้ที่นี่มีความสำคัญในฐานะท่าเรือ
อย่างไรก็ตาม เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นในปี 1627 เมื่อโจรสลัดที่ดูเหมือนว่ามาจากแอลเจียร์และเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือบาร์บารีที่จักรวรรดิออตโตมันเคยคุกคามทะเลในขณะนั้น บุกโจมตีชายฝั่งและเกาะต่างๆ ของไอซ์แลนด์ ในขณะที่บนแผ่นดินใหญ่ ชาวไอซ์แลนด์สามารถหลบหนีไปสู่ธรรมชาติได้ แต่บนเฮมาเอย์นั้นพวกเขาไม่มีที่จะไป และมีคน 237 คนถูกจับได้
คนที่ถูกจับไปไม่ถึงหนึ่งร้อยคนที่ได้กลับไอซ์แลนด์ ที่เหลือส่วนใหญ่ถูกขายในตลาดค้าทาส ความหวาดกลัวและความเจ็บปวดที่ผู้คนต้องทนทุกข์ทรมานเหล่านี้ถูกบันทึกโดยนักบวชผู้รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์
การต่อสู้ที่ชาวเฮมาเอย์ต้องทนทุกข์ทรมานไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น แม้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นบนเกาะนี้อีกสามศตวรรษก็ตาม แต่จู่ๆ วันหนึ่งก็เกิดการระเบิดของภูเขาไฟอย่างรุนแรง
ในปี 1973 ชาวเมืองเฮมาเอย์ตื่นขึ้นมาพบกับการปะทุที่เกิดขึ้นกลางเมืองของพวกเขา รอยแยกยาวกว่า 1 กิโลเมตรผ่าไปโดนบ้านเรือนมากมายและลาวาและเถ้าถ่านได้ทำลายบ้านเรือนกว่า 400 หลัง ถึงแม้จะคาดไม่ถึงและน่ากลัวก็ตาม แต่การตอบสนองต่อภัยพิบัติครั้งนั้นยอดเยี่ยมมาก ผู้อยู่อาศัยทั้ง 5,300 คนถูกพาออกไปยังแผ่นดินใหญ่ได้อย่างปลอดภัย มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่คาดว่าเสียชีวิตเนื่องจากการปะทุครั้งนี้
เพื่อจำกัดการแพร่กระจายของลาวา กองทหารสหรัฐฯ และหน่วยกู้ภัยไอซ์แลนด์ได้สูบน้ำทะเลมาใส่ลาวาเพื่อเร่งให้เกิดการแข็งตัว เทคนิคนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ท่าเรือไม่ถูกปิด ซึ่งอาจทำลายเศรษฐกิจและอนาคตของเมือง แต่ยังช่วยปรับปรุงสภาพของท่าเรือให้ดีขึ้นอีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ
หมวดหมู่ยอดนิยม
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด