คู่มือท่องเที่ยว โซลเฮมาโจกุล

โซลเฮมาโจกุล (Sólheimajökull) เป็นธารน้ำแข็งที่เชื่อมต่อกับมหาสมุทรของแผ่นน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลที่มีขนาดมหึมาบนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ นี่เป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายที่สุดจากเมืองเรคยาวิก ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 158 กิโลเมตร (98 ไมล์)

ภาพข้างบนโดย Adri Ramdeane

สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเรคยาวิก ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมในการปีนธารน้ำแข็ง แต่หากพูดถึงระดับประเทศจะเป็นรองก็แต่สวีนาเฟลล์สโจกุลทางตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น นอกจากนี้ ที่นี่ยังเหมาะกับการเป็นตัวเลือกเสริมในทริปด้วย หรือจะไปเยี่ยมชมด้วยแพ็คเกจขับรถเที่ยวเองและแพ็คเกจเที่ยวแบบต่างๆ ก็ได้ เช่น ทริป 6 วันพร้อมไกด์ ผู้ที่เช่ารถสามารถขับรถเข้ามาใกล้ธารน้ำแข็งได้ แต่ไม่สามารถปีนขึ้นไปได้ เว้นแต่จะมีไกด์นำเที่ยวพาขึ้นไป

ภูมิศาสตร์ของโซลเฮมาโจกุล

ด้วยความยาวประมาณ 8 กิโลเมตรและกว้าง 2 กิโลเมตร โซลเฮมาโจกุลเป็นสถานที่ที่น่าประทับใจ และเนื่องจากการที่โซลเฮมาโจกุลเคลื่อนตัวลงมาจากมิร์ดาลสโจกุล ทำให้ธารน้ำแข็งทั้งสองกลืนกันเป็นผืนเดียว จึงทำให้ที่นี่ดูกว้างใหญ่มาก

มิร์ดาลสโจกุลมีธารน้ำแข็งหลายแห่ง โดยรวมแล้วถือเป็นแผ่นน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในประเทศไอซ์แลนด์ และข้างใต้พื้นผิวน้ำแข็งที่หนาทึบมีภูเขาไฟคัทลาที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ

เอยาฟยาลลาโจกุลที่อยู่ใกล้เคียงปะทุขึ้นในปี 2010 ทำให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวางต่อสนามบินหลายแห่งในยุโรป และจากประวัติศาสตร์ การปะทุของเอยาฟยาลลาโจกุล สามารถบอกได้ว่าอีกไม่นานคัทลาก็จะปะทุตามมาเช่นกัน และภูเขาไฟกำลังจะดับมอดลงในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม ภูเขาไฟและการเกิดแผ่นดินไหวในไอซ์แลนด์นั้นได้รับการตรวจสอบอย่างดี ซึ่งหมายความว่ามีความปลอดภัยอย่างยิ่งหากจะเดินทางไปรอบๆ บริเวณนี้และแม้แต่ทัวร์เที่ยวถ้ำน้ำแข็งในธารน้ำแข็งด้านบนด้วย

น่าเสียดายที่โซลเฮมาโจกุลก็หดตัวอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับธารน้ำแข็งอื่นๆ ในไอซ์แลนด์ ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่บริเวณฐานเผยให้เห็นว่าธารน้ำแข็งกำลังหดตัวลงเร็วมากในแต่ละปี ซึ่งอยู่ในระดับพอๆ กับความยาวของสระว่ายน้ำโอลิมปิก ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่แก้ไขไม่ได้อยู่แล้ว และธารน้ำแข็งก็อาจหายไปภายในไม่กี่ทศวรรษ

ดังนั้นผู้ที่มาเยือนไอซ์แลนด์ควรจะไปชมผืนน้ำแข็งในขณะที่ผืนน้ำแข็งเหล่านี้ยังมีอยู่

โซลเฮมาโจกุลมีลักษณะพิเศษที่ต่างจากธารน้ำแข็งอื่นๆ หลายประการประการแรก มันหาได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ โดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนวงแหวนที่ล้อมรอบไอซ์แลนด์ ประการที่สอง สถานที่แห่งนี้ไม่ได้ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ขึ้นไปสามารถมองเห็นวิวชายฝั่งทางใต้อันน่าทึ่งได้ ประการที่สาม ที่นี่เป็นที่ตั้งของกำแพงน้ำแข็งหลายแห่งซึ่งโปรแกรมทัวร์บางรายการจะพานักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปได้ด้วยการใช้ขวานน้ำแข็ง

นอกจากนี้ยังมีรอยแยกคดเคี้ยวอยู่บนพื้นผิว มีสันเขาและชั้นน้ำแข็งอันตระการตา และสีสันที่สดใสแทรกอยู่ระหว่างสีขาวแวววาว สีน้ำเงินเข้ม และสีดำของขี้เถ้า บางครั้งคุณจะได้พบเจอกับถ้ำน้ำแข็งด้วยซ้ำ แม้จะรับประกันไม่ได้ก็ตาม

มีแม่น้ำสายหนึ่งที่เกิดจากน้ำที่ละลายจากลิ้นธารน้ำแข็ง เรียกว่า โจกุลซา อา โซลเฮมาซันดี แม่น้ำสายนี้ไหลผ่านที่ราบน้ำแข็งที่อยู่ห่างไกลออกไป หรือที่รู้จักกันในชื่อทะเลทรายทรายสีดำของโซลเฮมาซานดูร์ ไปจนถึงมหาสมุทรใกล้เคียง

ทัวร์บนโซลเฮมาร์โจกุล

ทัวร์แบบหลายวันจะพาเดินทางจากเรคยาวิกไปยังโซลเฮมาโจกุล เพื่อไปไฮกิ้งเดินป่าบนธารน้ำแข็งโดยตรงหรือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในทัวร์เที่ยวชายฝั่งทางใต้ที่ยิ่งใหญ่กว่า

ทัวร์ชายฝั่งทางใต้ส่วนใหญ่รวมถึงการเยี่ยมชมสถานที่อื่นๆ เช่น น้ำตกสโกการ์ฟอสส์และน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ หาดทรายสีดำเรย์นิสฟยารา และบางโปรแกรมพาไปถึงอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลและทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนด้วยซ้ำ

รอยแยกที่ซ่อนอยู่และถ้ำน้ำแข็ง พื้นผิวที่ลื่น และการคุกคามของหินหรือน้ำแข็ง ล้วนก่อให้เกิดอันตรายในการปีนธารน้ำแข็ง แต่ไกด์ธารน้ำแข็งจะต้องผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมหลายหลักสูตรเพื่อจัดการกับเหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้กิจกรรมนี้ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงเหมาะสม

นักท่องเที่ยวทุกคนจะสวมหมวกกันน็อค ขวานน้ำแข็ง และรองเท้าตะปู และควรมาถึงโดยสวมเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นและรองเท้าเดินป่าที่แข็งแรง

ห้ามมิให้ขึ้นไปบนธารน้ำแข็งโดยไม่มีอุปกรณ์หรือการฝึกอบรมที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้อื่น โซลเฮมาโจกุลเคยมีนักท่องเที่ยวที่ฝ่าฝืนจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตมาก่อน และไกด์ธารน้ำแข็งต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ฝ่าฝืนกฎ