คู่มือท่องเที่ยว ดิมมูบอร์กิร์

ดิมมูบอร์กิร์ (Dimmuborgir) หรือป้อมปราการสีดำคือทุ่งลาวาที่กว้างใหญ่ในบริเวณทะเลสาบมิวาทน์ ด้วยความที่มีนิทานพื้นบ้านเล่าขานมากมาย ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเดินทางที่มาเยือนทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์

เยี่ยมชมบริเวณนี้โดยไปกับทัวร์ทะเลสาบมิวาทน์ หรือแวะเที่ยวเมื่อใช้บริการทัวร์ขับรถเที่ยวเองซึ่งมีเวลาเที่ยวได้มากกว่า

ภาพด้านบนจาก Wikimedia, Creative Commons โดย Gestur Pálsson ไม่มีการแก้ไขใดๆ

ธรณีวิทยาของดิมมูบอร์กิร์

ดิมมูบอร์กิร์เกิดจากการปะทุที่เกิดขึ้นในพื้นที่เมื่อ 2,300 ปีก่อน และเนื่องจากบริเวณทะเลสาบมิวาทน์เป็นเขตภูเขาไฟ ทำให้สามารถพบเห็นกิจกรรมจากภูเขาไฟได้เพิ่มเติมในสถานที่ใกล้เคียงอีก เช่น ช่องเขาพลังงานความร้อนใต้พิภพนามาสการ์ด ถ้ำน้ำพุร้อนเกรียวตาเกา และรอยแยกคราฟลาอันน่าทึ่ง

เมื่อลาวาไหลผ่านบริเวณนั้น มันก็ไหลผ่านทะเลสาบด้วย จึงทำให้น้ำเดือด สิ่งนี้จะทำให้ลาวาเย็นตัวเร็วขึ้น และทำให้ไอน้ำจับตัวเป็นแท่งๆ ซึ่งจะทำให้ลาวาบางส่วนแตกออก และหลังจากที่แข็งตัวแล้ว พื้นที่ดิมมูบอร์กิร์ก็กลายเป็นกองหินขนาดใหญ่ รวมถึงมีถ้ำเล็กถ้ำน้อยหลายแห่งที่เกิดจากฟองไอน้ำ

ด้วยเหตุนี้ หลายๆ คนจึงเปรียบเทียบดิมมูบอร์กิร์ว่าเป็นปราสาทยุคกลาง ซึ่งมีห้องที่ซ่อนอยู่มากมายและหอคอยสูงตระหง่าน

ตำนานพื้นบ้านของดิมมูบอร์กิร์

ในวัฒนธรรมไอซ์แลนด์ ว่ากันว่าถ้ำลาวาเป็นบ้านของโทรลล์ที่โหดร้ายและเลวทราม ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือนางกรีลา ครึ่งโทรลล์ครึ่งอสูร และเลปปาลูดิ สามีผู้ยอมจำนนของเธอ กรีลากินเด็กเป็นอาหาร และแมวขนาดมหึมาที่นางเลี้ยงก็จะกินเด็กๆ ที่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าใหม่ในช่วงคริสต์มาส (ซึ่งเป็นอุบายให้เด็กๆ ทอผ้า ถักนิตติ้ง และเย็บผ้าให้เสร็จก่อนที่ฤดูกาลจะเริ่มต้น)

กรีลาและเลปปาลูดิมีบุตรชาย 13 คนที่อาศัยอยู่ในดิมมูบอร์กิ และปัจจุบันเป็นที่รู้จักในนาม "ซานตาคลอสไอซ์แลนด์" หรือ Yule Lads ในสิบสามคืนก่อนวันคริสต์มาส โทรลล์เหล่านี้จะมาปรากฏตัวทีละคนเพื่อคุกคามชาวไอซ์แลนด์ โดยแต่ละคนจะมีกลยุทธ์ของตัวเองตามที่ได้รับการตั้งชื่อ

ตัวอย่างเช่น Sheep-Colt Clod จะก่อกวนปศุสัตว์ Skyr-Gobbler จะขโมยและเลียเสบียงที่มีลักษณะคล้ายโยเกิร์ตของบ้านที่มันไป และ Window-Peeper จะจ้องมองเข้าไปในบ้าน มองหาของที่จะขโมย

เช่นเดียวกับเรื่องราวที่น่ากลัวที่สุดของไอซ์แลนด์ Yule Lads ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ ออกไปข้างนอกในคืนฤดูหนาวอันหนาวเย็นของประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นช่วงที่มักมีเด็กหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยมานานหลายศตวรรษแล้ว เมื่อประเทศชาติทันสมัยขึ้น ตัวละครเหล่านี้ก็ถูกเล่าขานให้กลายเป็นคนเจ้าเล่ห์มากกว่าเป็นสัตว์ประหลาดที่ชั่วร้าย และตอนนี้พวกเขาดูเหมือนจะมีคาแรกเตอร์แบบอเมริกันแทนแล้ว และแทนที่จะสวมชุดไอซ์แลนด์แบบดั้งเดิม พวกเขากลับสวมชุดซานต้า และแม้ว่ายูลแลดยังขโมยสกีร์อยู่ แต่ตอนนี้พวกเขาก็มีการนำของขวัญมาให้ด้วย

เนื่องจากไอซ์แลนด์อยู่ห่างไกลและความชื่นชอบในการเล่าเรื่อง ประเทศไอซ์แลนด์จึงได้พัฒนาประเพณีคริสต์มาสที่ไม่ธรรมดาหลายอย่าง

เมื่อคริสต์ศาสนาเข้ามาในประเทศไอซ์แลนด์ ดิมมูบอร์กิร์ก็มีนิทานชุดใหม่มาเล่าขาน ด้วยบรรยากาศอึมครึมของสถานที่แห่งนี้ ทำให้หลายคนเริ่มเชื่อว่านี่คือสถานที่ที่ซาตานลงมาถึงเป็นที่แรกเมื่อถูกขับจากสวรรค์ และเป็นสุสานเพื่อใช้เป็นทางลงนรกด้วย

ดิมมูบอร์กิร์กับวัฒนธรรมป๊อป

เมื่อเร็วๆ นี้ ดิมมูบอร์กิร์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเคยปรากฏใน Game of Thrones ทาง HBO ในซีรีส์นี้ ดิมมูบอร์กิร์คือจุดที่ Mance Raider สร้างกองทัพอันดุร้ายของเขาขึ้นมา และได้ถูกยิงที่นี่ในฤดูหนาว

วงดนตรีแบล็กเมทัลชื่อดังของนอร์เวย์ Dimmu Borgir ก็ตั้งชื่อตามพื้นที่นี้เช่นกัน