คู่มือท่องเที่ยว เอยาฟยาลลาโจกุล
ภูเขาไฟธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุลมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเพราะสร้างความเสียหายให้กับการเดินทางทางอากาศในปี 2010 และทำให้ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ทั่วโลกต้องงุนงงกับการพยายามจะออกเสียงชื่อสถานที่ ภูเขาลูกนี้มีความสูง 1,651 เมตร (5,427 ฟุต) ทำให้เป็นหนึ่งในลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของชายฝั่งทางใต้
สามารถไปชมเอยาฟยาลลาโจกุลได้ในทัวร์ชายฝั่งทางใต้หลายโปรแกรม แพ็คเกจเที่ยว 6 วัน และแพ็คเกจขับรถเที่ยวเองช่วงฤดูร้อน 10 วันเป็นเพียงสองตัวอย่างจากทัวร์มากมายที่ผ่านเอยาฟยาลลาโจกุล ผู้เช่ารถสามารถเดินทางไปทางใต้เพื่อไปชมภูเขาไฟธารน้ำแข็งลูกนี้ได้อย่างอิสระ
ภูมิศาสตร์
ธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุลมีพื้นที่ประมาณ 100 ตารางกิโลเมตร (39 ตารางไมล์) ทำให้เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับหกของประเทศ ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสี่อย่างมิร์ดาลสโจกุล ซึ่งปกปิดภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงอีกลูกหนึ่งด้วย ซึ่งลูกนี้เรียกว่าคัทลา
แม้ว่าการปะทุของเอยาฟยาลลาโจกุลจะใหญ่โตและก่อกวน แต่ก็ดูไม่รุนแรงเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับศักยภาพของคัทลา ที่สามารถระเบิดได้รุนแรงมากกว่ามากและข้างใต้ก็มีชั้นน้ำแข็งที่หนากว่ามาก การปะทุที่นี่ในสภาพที่ลมฟ้าไม่เอื้ออำนวยอาจส่งผลกระทบไปทั่วโลกได้
โถงแมกมาระหว่างภูเขาไฟอันยิ่งใหญ่ทั้งสองลูกนี้เชื่อมต่อกัน และโชคไม่ค่อยดีนักที่การปะทุที่เอยาฟยาลลาโจกุลมักจะตามมาด้วยการปะทุที่คัทลาภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งทศวรรษ
เอยาฟยาลลาโจกุลมีผืนน้ำแข็งที่เชื่อมกับมหาสมุทรหลายแห่ง แต่ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือกิกโจกุล แม่น้ำหลายสายไหลเกิดมาจากน้ำที่ละลายจากที่นี่ และมีสายหนึ่งที่ไหลลงสู่น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) ที่สวยงามบนชายฝั่งทางใต้ ซึ่งสามารถเดิมชมได้รอบน้ำตก
การปะทุ
การปะทุครั้งล่าสุดของเอยาฟยาลลาโจกุล ถือเป็นการปะทุครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของไอซ์แลนด์อย่างไม่ต้องสงสัย (แม้ว่าภูขาไฟลากีที่ปะทุในปี 1783-1784 ต่างหากที่น่าจะได้รับเกียรตินี้ เพราะทำให้เกิดเมฆเถ้าถ่านครั้งใหญ่จนยุโรปตกอยู่ในความอดอยาก ซึ่งนักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่าการปะทุนี้นำไปสู่การปฏิวัติฝรั่งเศส) โดยแมกมาเริ่มเป็นฟองจากใต้พื้นผิวโลกเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2010 และเมื่อถึงวันที่ 14 เมษายน เถ้าภูเขาไฟก็เริ่มลอยขึ้นมาจากยอดเขา
ผู้คน 800 คนถูกอพยพออกจากพื้นที่ โดยพวกเขาไม่เกรงกลัวแมกมา แต่กลัวน้ำท่วมจากธารน้ำแข็งที่อันตรายพอๆ กัน ซึ่งเคยทำลายเมืองต่างๆ ของไอซ์แลนด์ในอดีตมาแล้ว มีการประกาศเตือนให้เก็บสัตว์เลี้ยงไว้ข้างใน และสัตว์ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจก็ควรต้องหลบอยู่แต่ในบ้านด้วย
การเดินทางทางอากาศทั่วยุโรปถูกระงับ เนื่องจากในตอนเย็นของวันที่ 15 เมษายน เถ้าถ่านได้ปกคลุมทั่วสหราชอาณาจักร สแกนดิเนเวีย และบางส่วนของเยอรมนีแล้ว นักท่องเที่ยวติดอยู่ตามที่ต่างๆ เพื่อรอฟังข่าว และต้องติดอยู่นานถึงแปดวัน ในสกอตแลนด์และไอร์แลนด์ มีแม้กระทั่งเที่ยวบินที่ล่าช้าไปถึงเดือนพฤษภาคมเนื่องจากผลกระทบที่ยืดเยื้อ
โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แม้ว่าเถ้าถ่านดังกล่าวจะทำให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจสำหรับบางคนทางตอนใต้ของประเทศก็ตาม ฟาร์มหลายแห่งยังเสียหายจากเถ้าถ่านและน้ำท่วม โดยเกษตรกรบางส่วนยังคงดิ้นรนเพื่อฟื้นตัวจนทุกวันนี้
นับตั้งแต่การตั้งถิ่นฐานในปี 874 เอยาฟยาลลาโจกุลก็ปะทุขึ้นในปี 900, 1612 และระหว่างปี 1821 ถึง 1823 การระเบิดครั้งหลังได้ปล่อยฟลูออไรด์จำนวนมหาศาล ซึ่งเชื่อกันว่าส่งผลต่อสุขภาพกระดูกของมนุษย์และสัตว์ในขณะนั้น
เอยาฟยาลลาโจกุลวันนี้
ขณะนี้เอยาฟยาลลาโจกุลปลอดภัยในการเยี่ยมชมและในวันที่สภาพอากาศแจ่มใสสามารถมองเห็นได้จากการเข้าร่วมทัวร์ชายฝั่งทางใต้หลายโปรแกรม ในเมืองฮวอลส์โวลลูร์นั้นมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ที่ภูเขาไฟด้วย ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของครอบครัวหนึ่งที่ฟาร์ม Þorvaldseyri ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆ ฟาร์มที่ถูกทำลายจากน้ำท่วม ลาวา และเถ้าถ่าน
ไม่น่าเป็นไปได้มากที่เอยาฟยาลลาโจกุลจะปะทุอีกครั้งในเร็วๆ นี้ โดยจะใช้เวลาหลายร้อยปีระหว่างการปะทุแต่ละครั้ง แต่ดังที่กล่าวไว้ คัทลา เพื่อนบ้านของมันอาจเริ่มส่งเสียงดังกึกก้อง...
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ
หมวดหมู่ยอดนิยม
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด