ฮวอลสโวลลูร์ (Hvolsvöllur) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีประชากรประมาณ 950 คน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ ติดกับถนนวงแหวนสายหลัก เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการแวะพักหรือผ่านระหว่างการเที่ยวชายฝั่งทางใต้หรือขับรถวนรอบประเทศ
เมืองนี้ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการพักในกระท่อมเคบินหรือบังกะโล เพื่อใกล้ชิดกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางตะวันตกและใต้ เช่น โกลเด้นเซอร์เคิล (Golden Circle) แต่ยังห่างไกลความวุ่นวายของเรคยาวิก
เหตุผลที่คุณวางใจเนื้อหาของเราได้
Guide to Iceland คือแพลตฟอร์มท่องเที่ยวที่น่าเชื่อถือที่สุดในไอซ์แลนด์ มีผู้ใช้บริการนับล้านคนต่อปี เนื้อหาทั้งหมดของเราถูกเขียนและตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นที่รู้จักไอซ์แลนด์เป็นอย่างดี คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับข้อมูลท่องเที่ยวที่ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อถือได้
จองทัวร์โกลเด้นเซอร์เคิล เพื่อใช้เวลาในพื้นที่นี้ให้คุ้มค่าที่สุด
เศรษฐกิจและการเดินทาง
เศรษฐกิจหลักของฮวอลสโวลลูร์คือการให้บริการแก่พื้นที่เกษตรกรรมโดยรอบ ซึ่งมีประชากรเพิ่มอีกประมาณ 600 คน เมืองนี้ยังเติบโตด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเดินทางสะดวกจากเมืองหลวงและสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติสำคัญของไอซ์แลนด์
การตั้งอยู่บนถนนวงแหวนสายหลัก ทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาใช้บริการของฮวอลสโวลลูร์อยู่เสมอ ที่นี่มีสนามบินเล็ก ๆ ให้บริการเที่ยวบินไปยังหมู่เกาะเวสต์แมนอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์
พื้นที่รอบ ๆ ฮวอลสโวลลูร์มีบทบาทสำคัญในหนึ่งในมหากาพย์ซากาไอซ์แลนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ Njál’s saga ซึ่งเป็นวรรณกรรมที่ผสมผสานประวัติศาสตร์และตำนานพื้นบ้านของไอซ์แลนด์ในยุคแรกเริ่ม
Njál’s saga มักถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในซากาที่ดีที่สุด หลายคนเชื่อว่าเขียนโดยนักประวัติศาสตร์และกวีชื่อดัง Snorri Sturluson
ในเมืองมีศูนย์ซากาไอซ์แลนด์ (Icelandic Saga Centre) ที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ ไม่ควรพลาดแวะชม
‘The Exhibition of Njál’ เป็นนิทรรศการแรกในสองนิทรรศการของที่นี่ แนะนำตัวละครในซากา พร้อมทั้งจักรวาลของชาวไวกิ้งและศิลปะวรรณกรรมที่มีมายาวนานในไอซ์แลนด์
อีกนิทรรศการหนึ่งนำเสนอประวัติศาสตร์การค้า เศรษฐกิจ และขบวนการสหกรณ์ในศตวรรษที่ 20 แม้ฟังดูอาจไม่น่าสนใจ แต่เรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของไอซ์แลนด์ในช่วงเวลานี้กลับน่าติดตามอย่างยิ่ง
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ประเทศไอซ์แลนด์แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากยุคกลาง ผู้คนยังคงทำประมงและเกษตรกรรม อาศัยอยู่ในบ้านหญ้าเทิร์ฟหรือถ้ำหากยากจนมาก และแทบไม่มีอุตสาหกรรมหรือโครงสร้างพื้นฐาน ประเทศยังอยู่ภายใต้การปกครองของเดนมาร์กและแทบไม่มีการติดต่อกับโลกภายนอก
แต่เมื่อถึงปี 1999 ไอซ์แลนด์ได้กลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วเหมือนอย่างปัจจุบันนี้ นำหน้าประเทศอื่น ๆ ในด้านความเท่าเทียมทางเพศ เทคโนโลยี ความยุติธรรมทางสังคม และสิทธิพลเมือง
คุณยังสามารถชมแบบจำลองของอัลธิงกิ (Alþingi) รัฐสภาไอซ์แลนด์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นที่ธิงเวลลีร์ในปี ค.ศ. 930 ได้ที่นี่
ฮวอลสโวลลูร์ยังเป็นที่ตั้งของลาวาเซ็นเตอร์ (Lava Centre) ตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์อินเทอร์แอคทีฟที่ให้ความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวและภูเขาไฟที่หล่อหลอมประเทศนี้
ในเมืองยังมีแกลเลอรี่น่ารัก ๆ และร้านอาหารดี ๆ อยู่ในซากาฮอลล์ (Saga Hall) ซึ่งเป็นอาคารจำลองบ้านยาว (Longhouse) ในยุคกลาง
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ฮวอลสโวลลูร์มีเส้นทางเดินป่าที่น่าสนใจหลายเส้นทางในบริเวณใกล้เคียง หนึ่งในจุดเด่นคือก้อนหินขนาดใหญ่และรูปร่างแปลกตาชื่อดรังกูรินน์ (Drangurinn) ใกล้ฟาร์มดรังก์ชลีด (Drangshlíð) ใต้เทือกเขาเอยาฟยอลล์ (Eyjafjöll)
จากฮวอลสโวลลูร์ยังสามารถขับรถไปยังสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของไอซ์แลนด์ได้อีกมากมาย เซลยาวาลลาเลยก์ (Seljavallalaug) หนึ่งในสระว่ายน้ำที่เก่าแก่ที่สุดของไอซ์แลนด์อยู่ห่างจากเมืองประมาณ 44 กิโลเมตร ส่วนพื้นที่ชนบท
ฟลโยตชลีด (Fljótshlíð) และฟาร์มฮลีดาร์เรนดิ (Hlíðarendi) อยู่ห่างออกไป 14 กิโลเมตร ตามตำนาน Njál’s Saga ฮีโร่ของเรื่องที่ชื่อว่า Gunnar เคยอาศัยอยู่ที่นี่
แม่น้ำใกล้ ๆ มีปลาเทราต์และปลาแซลมอนให้ตกมากมาย นอกจากนี้ยังมีถ้ำธรรมชาติและถ้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นหลายแห่งในระยะขับรถจากฮวอลสโวลลูร์
ยังมีน้ำตกสวย ๆ หลายแห่งไม่ไกลจากเมือง ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือเซลยาแลนด์สฟอสส์ (Seljalandsfoss) ซึ่งสามารถเดินลอดหลังน้ำตกได้ และสโคกาฟอสส์ (Skógafoss) หนึ่งในน้ำตกที่สูงและสวยที่สุดของไอซ์แลนด์
แน่นอนว่า เมืองนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเที่ยวโกลเด้นเซอร์เคิล ซึ่งประกอบด้วย พื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area) น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) และอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir)
