คู่มือท่องเที่ยว คู่มือท่องเที่ยว เซลยาวาลลาเลยก์

มาทำความรู้จักกับเซลยาวาลลาเลยก์ (Seljavallalaug) สระน้ำร้อนธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ คู่มือท่องเที่ยวนี้จะบอกวิธีเดินทาง สิ่งที่ควรคาดหวัง และช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือน เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจอย่างเต็มที่

สระว่ายน้ำเซลยาวาลลาเลยก์เป็นหนึ่งในสถานที่ลับในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ในหุบเขาแคบใต้ภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุล (Eyjafjallajokull) สร้างขึ้นในปี 1923 เคยเป็นสระว่ายน้ำที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ และยังคงเปิดให้เข้าฟรีตลอดทั้งปี คุณสามารถเดินทางมาเซลยาวาลลาเลยก์ได้โดยเช่ารถขับเอง หรือร่วมทัวร์ชายฝั่งทางใต้ที่มีสระนี้อยู่ในโปรแกรม 

สระว่ายน้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างเซลยาแลนด์สฟอสส์ (Seljalandsfoss) และสโคกาฟอสส์ (Skogafoss) เพียงแวะออกจากถนนวงแหวน (Ring Road) เล็กน้อย จากลานจอดรถต้องเดินเท้าประมาณ 15-20 นาที ตามเส้นทางหินที่เดินได้ไม่ยากและมีลำธารเล็ก ๆ ไหลผ่านหุบเขา

สระนี้สร้างจากคอนกรีต มีน้ำร้อนธรรมชาติไหลเข้าตลอด ทำให้น้ำอุ่นแต่ไม่ร้อนมาก อาสาสมัครจะมาทำความสะอาดปีละครั้ง ให้บรรยากาศเรียบง่ายและสะท้อนวัฒนธรรมการว่ายน้ำยุคแรกของไอซ์แลนด์

ข้อมูลสรุปสำหรับเซลยาวาลลาเลยก์

• ที่ตั้ง: ชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ ใต้ภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุล

• พิกัด: 63.5656° N, 19.6076° W

• ระยะทางจากเรคยาวิก: ประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง

• ระยะทางเดิน: เดินเท้าประมาณ 15-20 นาทีต่อขา จากลานจอดรถที่ใกล้ที่สุด

• ความยากของเส้นทาง: ง่ายถึงปานกลาง พื้นขรุขระและมีหิน

• ค่าเข้า: ฟรี

• อุณหภูมิน้ำ: ประมาณ 20-35 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับฤดูกาล

• สิ่งอำนวยความสะดวก: มีเพียงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบเรียบง่าย ไม่มีฝักบัวหรือระบบน้ำประปา

• การทำความสะอาด: ปีละครั้ง โดยอาสาสมัคร

• ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือน: พฤษภาคมถึงกันยายน อากาศดีและเส้นทางเดินสะดวก

เซลยาวาลลาเลยก์อยู่ที่ไหน?

เซลยาวาลลาเลยก์ตั้งอยู่ในหุบเขาเซลยาเวลลีร์ (Seljavellir) บนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ ใต้ภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุล อยู่ระหว่างน้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์ (Seljalandsfoss) และสโคกาฟอสส์ (Skogafoss) ห่างจากฟาร์ม Ásólfsskáli ไปทางตะวันออกประมาณ 10 กิโลเมตร พิกัดที่แน่นอนคือ H98V+FC9, 861 Evindarhólar, Iceland

สระนี้อยู่ห่างจากเรคยาวิกประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง และอยู่ไม่ไกลจากถนนวงแหวน (Route 1) จึงเหมาะสำหรับแวะเที่ยวระหว่างทริปชายฝั่งทางใต้ ไม่ว่าจะขับรถเองหรือร่วมทัวร์

ประวัติของเซลยาวาลลาเลยก์

เซลยาวาลลาเลยก์สร้างขึ้นในปี 1923 โดยอาสาสมัครท้องถิ่นนำโดย Björn Andrésson Berjaneskoti ในยุคนั้นชาวไอซ์แลนด์ส่วนใหญ่ยังว่ายน้ำไม่เป็น ทั้งที่ทำงานเกี่ยวกับทะเล สระนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อสอนว่ายน้ำและเพิ่มความปลอดภัยในชุมชน หลายปีหลังเปิดใช้งาน ที่นี่เป็นสถานที่สอนว่ายน้ำภาคบังคับสำหรับเด็กนักเรียน

สระว่ายน้ำในไอซ์แลนด์แห่งนี้มีขนาด 25 เมตร กว้าง 10 เมตร ถือว่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ยุคนั้น และเป็นทั้งสถานที่ฝึกซ้อมและจุดนัดพบของชาวบ้าน ก่อนจะมีสระใหม่ ๆ สร้างขึ้นใกล้เคียง

ในปี 2010 ภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุลปะทุ ทำให้สระและหุบเขารอบ ๆ ถูกปกคลุมด้วยเถ้าภูเขาไฟ หนึ่งปีต่อมาอาสาสมัครได้กลับมาทำความสะอาดด้วยมือและฟื้นฟูให้ใช้งานได้อีกครั้ง ปัจจุบันเซลยาวาลลาเลยก์ได้รับการอนุรักษ์ในฐานะหนึ่งในสระว่ายน้ำที่เก่าแก่ที่สุดของไอซ์แลนด์ และเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันกับธรรมชาติ ชุมชน และการพึ่งพาตนเอง

การว่ายน้ำที่เซลยาวาลลาเลยก์

น้ำในเซลยาวาลลาเลยก์ได้รับความร้อนจากน้ำพุร้อนธรรมชาติใกล้ ๆ แต่ไม่ถึงกับร้อนเหมือนอ่างน้ำร้อน อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส และอาจสูงถึง 35 องศาเซลเซียสในฤดูร้อน

บริเวณที่น้ำพุร้อนไหลเข้าจะอุ่นที่สุด ส่วนปลายอีกด้านจะเย็นกว่า โดยเฉพาะในฤดูหนาว น้ำในสระมีการไหลเวียนตลอดเวลาจากธรรมชาติ จึงปลอดภัยสำหรับการว่ายน้ำแม้จะอยู่ในที่ห่างไกล

สระนี้ทำความสะอาดปีละครั้งโดยอาสาสมัคร น้ำอาจดูขุ่นหรือมีสีเขียวเล็กน้อยจากตะไคร่น้ำ ซึ่งเป็นเรื่องปกติและเป็นธรรมชาติ พื้นและขอบสระอาจลื่น ควรระมัดระวังขณะขึ้นลง ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลหรือไลฟ์การ์ด การว่ายน้ำจึงเป็นความรับผิดชอบของผู้มาเยือนเอง

ผู้มาเยือนควรเคารพสถานที่และธรรมชาติ ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามา และไม่ควรส่งเสียงดังหรือมาเป็นกลุ่มใหญ่เพื่อรักษาความสงบ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่มีฝักบัวหรือระบบน้ำประปา ควรเตรียมตัวมาให้พร้อมและเก็บขยะกลับออกไปด้วย

วิธีเดินทางไปเซลยาวาลลาเลยก์

ขับรถจากเรคยาวิกไปเซลยาวาลลาเลยก์ใช้เวลาประมาณ 1.5-2 ชั่วโมงตามถนนวงแหวน (Ring Road) มุ่งหน้าไปทางตะวันออกผ่านเมืองฮวอลสโวลลูร์ (Hvolsvollur) และขับเลยน้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์ ซึ่งเป็นจุดสังเกตสำคัญ

หลังจากผ่านเซลยาแลนด์สฟอสส์ ให้มองหาทางแยกเข้าถนนหมายเลข 242 (Raufarfell) ขับตามถนนนี้เข้าสู่หุบเขาเซลยาเวลลีร์ (Seljavellir) จนถึงลานจอดรถเล็ก ๆ ที่สุดถนน ไม่มีป้ายบอกทางอย่างเป็นทางการ แต่สามารถใช้ GPS พิกัด 63.5656° N, 19.6076° W ได้

จากลานจอดรถต้องเดินเท้าประมาณ 15-20 นาทีต่อขา เส้นทางส่วนใหญ่เรียบแต่เป็นทางหินและมีลำธารเล็ก ๆ ให้ข้าม ควรใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าเดินป่าที่เกาะพื้นดี เพราะพื้นอาจลื่นโดยเฉพาะหลังฝนตก สระจะอยู่หลังโค้งหุบเขาและจะมองเห็นเมื่อเดินเข้าใกล้เท่านั้น

ควรเตรียมอะไรมาเมื่อมาเซลยาวาลลาเลยก์

เซลยาวาลลาเลยก์ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกนอกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบเรียบง่าย ควรเตรียมชุดว่ายน้ำ ผ้าเช็ดตัว และน้ำดื่มมาให้เพียงพอสำหรับการเดินและว่ายน้ำ

แนะนำให้ใส่รองเท้าเดินป่าหรือรองเท้าผ้าใบที่เกาะพื้นดี เพราะเส้นทางเดินขรุขระและมีหิน ควรเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นสำหรับเปลี่ยนหลังว่ายน้ำ เพราะแม้หน้าร้อนหุบเขาก็ยังลมแรงและเย็น

กระเป๋ากันน้ำจะช่วยป้องกันของมีค่าไม่ให้เปียก โดยเฉพาะเวลาข้ามลำธารเล็ก ๆ หากต้องการถ่ายรูปควรเตรียมกล้องหรือโทรศัพท์ที่กันน้ำและฝุ่น ไม่มีห้องน้ำ ฝักบัว หรือถังขยะในพื้นที่ ควรรับผิดชอบขยะของตนเองและนำกลับออกไป

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเซลยาวาลลาเลยก์ 

เซลยาวาลลาเลยก์เปิดให้เข้าตลอดปี แต่ช่วงที่ดีที่สุดคือปลายฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง (พฤษภาคมถึงกันยายน) ในช่วงนี้เส้นทางเดินไม่มีน้ำแข็ง อากาศอบอุ่น หุบเขาเขียวขจี เดินทางสะดวก และน้ำในสระจะรู้สึกอุ่นขึ้นในอากาศฤดูร้อน

ฤดูหนาวยังสามารถมาได้ แต่สภาพอากาศไม่แน่นอน เส้นทางอาจมีน้ำแข็งหรือหิมะปกคลุม และช่วงเวลากลางวันสั้น น้ำในสระยังคงอุ่นเท่าเดิม แต่การเปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินในอากาศหนาวอาจลำบาก หากวางแผนมาในฤดูหนาว ควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวและตรวจสอบสภาพอากาศก่อนขับรถบนเส้นทางชายฝั่งทางใต้

เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด ควรมาแต่เช้าหรือช่วงเย็นที่คนไม่พลุกพล่าน แม้ในฤดูท่องเที่ยว เซลยาวาลลาเลยก์ก็ไม่ค่อยแออัด และการหลีกเลี่ยงช่วงกลางวันจะทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศสงบมากขึ้น

ที่พักใกล้เซลยาวาลลาเลยก์ 

มีที่พักหลายแห่งใกล้เซลยาวาลลาเลยก์ และเช่นเดียวกับที่พักในไอซ์แลนด์ตอนใต้ ซึ่งมีทั้งโรงแรมสมัยใหม่และเกสต์เฮาส์ที่สะดวกสบายริมชายฝั่งทางใต้

ที่พักที่ใกล้และสะดวกที่สุดคือ Umi Hotel อยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นเดินไปเซลยาวาลลาเลยก์ประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นโรงแรมสี่ดาว ห้องพักทันสมัย มองเห็นวิวทะเลและภูเขาโดยรอบ

ถ้าต้องการประหยัดงบ The Garage เป็นอพาร์ตเมนต์พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อยู่ห่างจากสระประมาณ 10 นาที ให้บรรยากาศเงียบสงบและเดินทางสะดวกไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น สโคกาฟอสส์และเซลยาแลนด์สฟอสส์

ทั้งสองแห่งเหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการเที่ยวชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์และเดินทางไปเซลยาวาลลาเลยก์ได้สะดวก

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เซลยาวาลลาเลยก์

เซลยาวาลลาเลยก์ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ รายล้อมด้วยน้ำตก ธารน้ำแข็ง และชายหาดทรายดำ ไม่ว่าจะวางแผนขับรถเที่ยวทั้งวันหรือแวะสั้น ๆ นี่คือสถานที่ใกล้เคียงที่ไม่ควรพลาด:

• น้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์ (Seljalandsfoss): อยู่ห่างไปทางตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร สามารถเดินลอดหลังม่านน้ำตกเพื่อชมวิวรอบด้าน

• น้ำตกกลูยฟราบูอิ (Gljufrabui): น้ำตกซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแคบ ๆ ใกล้เซลยาแลนด์สฟอสส์ เดินผ่านช่องหินเข้าไปจะพบกับน้ำตกเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ

• น้ำตกสโคกาฟอสส์ (Skogafoss): น้ำตกสูง 60 เมตร มีละอองน้ำและสายรุ้งในวันที่แดดออก มีบันไดขึ้นไปชมวิวชายฝั่งและพิพิธภัณฑ์สโคการ์ (Skogar) ที่จัดแสดงบ้านหญ้าเทิร์ฟไอซ์แลนด์โบราณ

• ภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุล (Eyjafjallajokull): ภูเขาไฟชื่อดังของไอซ์แลนด์ที่ปะทุในปี 2010 จนส่งผลกระทบต่อการบินในยุโรป ยอดเขาปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งและเป็นฉากหลังอันงดงามของน้ำตกใกล้เคียง

• ธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล (Solheimajokull): อยู่ทางตะวันออกประมาณ 25 นาที เป็นธารน้ำแข็งที่เข้าถึงง่ายที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ และมีทัวร์ไฮกิ้งบนธารน้ำแข็งสำหรับผู้เข้าร่วมทุกระดับ

• หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara): หนึ่งในชายหาดที่ถ่ายรูปมากที่สุดในไอซ์แลนด์ มีทรายดำ เสาหินบะซอลต์หกเหลี่ยม และ แท่งหินเรย์นิสดรังการ์ (Reynisdrangar) ที่โผล่ขึ้นจากทะเล

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเซลยาวาลลาเลยก์

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามยอดนิยมเกี่ยวกับการมาเยือนเซลยาวาลลาเลยก์บนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์

สระเซลยาวาลลาเลยก์มีความลึกแค่ไหน?

สระนี้ลึกประมาณ 1.2-1.8 เมตร แล้วแต่บริเวณ ด้านตื้นเหมาะสำหรับยืนแช่ ส่วนด้านลึกใกล้ผนังด้านหลังเหมาะสำหรับว่ายน้ำ ไม่มีบันไดหรือราวจับ ต้องค่อย ๆ ลงจากขอบคอนกรีต

ต้องเดินป่าไกลแค่ไหนกว่าจะไปถึงเซลยาวาลลาเลยก์?

ต้องเดินเท้าประมาณ 15-20 นาทีต่อขา ระยะทางประมาณ 0.9 กิโลเมตร เส้นทางส่วนใหญ่เรียบแต่เป็นทางหินและมีลำธารเล็ก ๆ ให้ข้าม ถือว่าเป็นเส้นทางง่าย เหมาะกับนักเดินทางทุกคน แต่ควรใส่รองเท้ากันน้ำโดยเฉพาะหลังฝนตก

เซลยาวาลลาเลยก์เข้าฟรีไหม?

ใช่ เซลยาวาลลาเลยก์เปิดให้เข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายหรือบัตรผ่านใด ๆ และสามารถมาได้ตลอดปี สระนี้ดูแลโดยอาสาสมัครท้องถิ่น ไม่ใช่หน่วยงานท่องเที่ยว จึงยังคงเปิดให้สาธารณชนใช้งานได้

เซลยาวาลลาเลยก์เป็นสระน้ำร้อนหรือไม่?

เซลยาวาลลาเลยก์ได้รับความร้อนจากน้ำพุร้อนธรรมชาติ ทำให้น้ำอุ่นตลอดปี อุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ที่ 20-30 องศาเซลเซียส และอาจสูงถึง 35 องศาเซลเซียสในฤดูร้อน อุ่นพอสำหรับว่ายน้ำสบาย ๆ แต่เย็นกว่าสปาหรือบ่อน้ำร้อนที่สร้างขึ้น

ว่ายน้ำที่เซลยาวาลลาเลยก์ในฤดูหนาวได้ไหม?

ได้ สามารถว่ายน้ำที่เซลยาวาลลาเลยก์ในฤดูหนาวได้ เพราะน้ำยังคงอุ่นแม้อากาศจะหนาวจัด อย่างไรก็ตาม เส้นทางเดินอาจมีน้ำแข็งหรือหิมะปกคลุม และช่วงเวลากลางวันสั้น หากวางแผนมาในฤดูหนาว ควรตรวจสอบสภาพอากาศ ใส่รองเท้าบูทที่เหมาะสม และเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นสำหรับเปลี่ยนหลังว่ายน้ำ

เซลยาวาลลาเลยก์ปลอดภัยไหม?

น้ำในเซลยาวาลลาเลยก์ไหลเวียนจากน้ำพุร้อนธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปแล้วจึงมีความปลอดภัยสำหรับว่ายน้ำ แต่พื้นและขอบสระอาจลื่นจากตะไคร่น้ำ โดยเฉพาะในฤดูร้อน สระนี้ทำความสะอาดปีละครั้งและยังเหมาะสำหรับว่ายน้ำ แต่หากมีผิวแพ้ง่ายอาจหลีกเลี่ยงการแช่น้ำเต็มตัว

มีที่จอดรถใกล้กับเซลยาวาลลาเลยก์ไหม?

มี ลานจอดรถโรยกรวดเล็ก ๆ อยู่สุดถนนหมายเลข 242 (Raufarfell Road) จากลานจอดรถต้องเดินเท้าประมาณ 15-20 นาทีต่อขาเพื่อไปถึงสระ ที่จอดรถฟรี แต่ไม่มีห้องน้ำหรือสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียง ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเริ่มเดิน

สัมผัสประสบการณ์เซลยาวาลลาเลยก์ในไอซ์แลนด์

เซลยาวาลลาเลยก์เป็นจุดแวะพักเงียบสงบบนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ที่ผสมผสานประวัติศาสตร์กับธรรมชาติอันโดดเด่น ต้องเดินเท้าผ่านหุบเขาเซลยาเวลลีร์สั้น ๆ แต่เต็มไปด้วยวิวหน้าผาสูงชันและทิวทัศน์ภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุลที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็ง สำหรับการขับรถ สามารถไปได้สะดวกจากถนนวงแหวน และเหมาะกับทัวร์ชายฝั่งทางใต้ หรือเส้นทางที่ไปน้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์และสโคกาฟอสส์ 

ตัวสระอาจดูเรียบง่าย แต่ทำเลที่ตั้งทำให้มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น เมื่อยืนอยู่ในหุบเขาคุณจะได้สัมผัสธรรมชาติอันดิบของไอซ์แลนด์และสามารถเข้าใจถึงวิถีชีวิตที่ผู้คนเคยใช้ประโยชน์จากน้ำพุร้อนธรรมชาติแห่งนี้ เป็นจุดแวะที่เรียบง่ายแต่เชื่อมโยงกับธรรมชาติรอบตัวอย่างแท้จริง