คู่มือท่องเที่ยว คู่มือท่องเที่ยว วงกลมทองคำ

9.4
14428 รีวิวที่ตรวจสอบแล้ว
ประสบการณ์ที่ดีทั้งหมด
บริการลูกค้า 24/7
เฉพาะบริการที่มีคุณภาพที่ผ่านการตรวจสอบแล้วเท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์
ประเภท
น้ำพุร้อน, ไกเซอร์, น้ำตก, แม่น้ำ, ถ้ำ, ทวีปเลื่อน, สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม, ทะเลสาบ, ป่า, พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพ
ตำแหน่ง
5X37+PF Veiðilundur, Iceland
ระยะทางจากศูนย์กลาง
24.3 กม.
ไฮซีซั่น
Summer
เป็นมิตรกับครอบครัว
ใช่
คะแนนเฉลี่ย
9.4
จำนวนรีวิว
14,428

วงกลมทองคำ หรือโกลเด้นเซอร์เคิล (Golden Circle) เส้นทางท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดของไอซ์แลนด์ จะพาคุณออกเดินทางสู่ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สวยงามตระการตาที่สุดของประเทศนี้ สามารถชมได้ทั่วภายในวันเดียว เป็นประสบการณ์ที่ต้องห้ามพลาดสำหรับผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ทุกคน!

วงกลมทองคำเป็นเส้นทางวงกลมระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร (190 ไมล์) ที่รวม 3 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของไอซ์แลนด์ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลิร์ (Thingvellir National Park) พื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area) และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss Waterfall) ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทัวร์วงกลมทองคำจำนวนหลายโปรแกรมยังเพิ่มปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerid Crater) เป็นจุดแวะเพิ่มเติม พร้อมกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่เราจะพูดถึงในคู่มือนี้

เหตุผลที่คุณวางใจในเนื้อหาของเราได้

Guide to Iceland คือแพลตฟอร์มท่องเที่ยวที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในไอซ์แลนด์ มีผู้ใช้บริการนับล้านคนต่อปี เนื้อหาทั้งหมดของเราถูกเขียนและตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นที่รู้จักไอซ์แลนด์เป็นอย่างดี คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับข้อมูลท่องเที่ยวที่ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อถือได้

วงกลมทองคำเหมาะสำหรับทริปแบบไปเช้าเย็นกลับจากเรคยาวิก (Reykjavik) และสามารถสัมผัสประสบการณ์ได้ทั้งแบบทัวร์มินิบัสโกลเด้นเซอร์เคิลสุดคลาสสิก หรือจะเช่ารถขับเองก็สะดวก หลายคนเริ่มต้นทริปขับรถเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยเส้นทางนี้เป็นจุดแรก

หากต้องการเที่ยวครบทุกจุดในวงกลมทองคำ ควรเผื่อเวลาไว้ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ได้สัมผัสแต่ละสถานที่อย่างเต็มที่ รวมถึงเผื่อเวลาสำหรับขับรถระหว่างจุดต่าง ๆ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณวางแผนทริปวงกลมทองคำได้อย่างสมบูรณ์ พร้อมข้อมูลแต่ละสถานที่ คำแนะนำจุดท่องเที่ยวใกล้เคียง และเคล็ดลับการเดินทางให้คุ้มค่าที่สุด

คู่มือฉบับย่อสำหรับวงกลมทองคำ

ภาพคอลลาจของวงกลมทองคำ มีรอยแยกธิงเวลลีร์ สโทรคูร์ที่ไกเซอร์ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ และปล่องภูเขาไฟเคริด

  • วงกลมทองคำเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ เดินทางจากเรคยาวิกได้ง่ายตลอดทั้งปี

  • นอกจากจุดไฮไลท์หลักแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงและจุดลับที่น่าสนใจให้ค้นหาอีกมากมาย

  • ประสบการณ์การรับประทานอาหารก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยร้านอาหารฟาร์มทูเทเบิลในบรรยากาศน่าประทับใจตลอดเส้นทาง

  • นักท่องเที่ยวสามารถเลือกทัวร์วงกลมทองคำได้หลากหลาย ทั้งแบบขับเอง ทัวร์กลุ่มเล็ก หรือทริปส่วนตัวแบบวันเดียว

  • แนะนำให้จองทัวร์และกิจกรรมสำหรับวงกลมทองคำล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนที่มีนักท่องเที่ยวมาก ส่วนฤดูหนาวควรตรวจสอบสภาพถนนก่อนขับรถ หรือเลือกทัวร์พร้อมไกด์เพื่อความปลอดภัย

แผนที่อินโฟกราฟิกของเส้นทาง Golden Circle ของไอซ์แลนด์ที่แสดงจุดแวะสำคัญๆ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ พื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์ และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ พร้อมด้วยจุดเด่นที่งดงามวงกลมทองคำคือเส้นทางที่รวมความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมไอซ์แลนด์เข้าด้วยกัน ดูทัวร์โกลเด้นเซอร์เคิลที่ดีที่สุด แล้วเริ่มวางแผนทริปของคุณได้เลย

จุดแวะสุดคลาสสิกของวงกลมทองคำ

เส้นทางวงกลมทองคำจะพาคุณสัมผัสภูมิประเทศอันน่าทึ่ง น้ำพุร้อน และทิวทัศน์ที่สวยงามของไอซ์แลนด์ภายในวันเดียว จุดแวะเหล่านี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของไอซ์แลนด์ และเดินทางจากเรคยาวิกได้สะดวก

อุทยานแห่งชาติธิงเวลลิร์ (Thingvellir National Park)

น้ำตกออกซาราฟอสส์ที่สวยงามตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์สถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของวงกลมทองคำและใกล้เรคยาวิกที่สุดคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลิร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก

รัฐสภาแห่งชาติของไอซ์แลนด์ หรืออัลธิงกิ (Alþingi) ก่อตั้งขึ้นที่นี่ในปี ค.ศ. 930 และใช้เป็นที่ประชุมจนถึงปี 1798 ถือเป็นรัฐสภาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงมีอยู่ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ประกาศอิสรภาพของไอซ์แลนด์ในปี 1944 และพิธีแต่งตั้งประธานาธิบดีคนแรกของประเทศ สเวนน์ บียอร์นสัน (Sveinn Björnsson)

ธิงเวลลิร์ตั้งอยู่ในหุบเขารอยแยกระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเชีย ตลอดเวลาหลายล้านปี การเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกได้สร้างหน้าผา แม่น้ำ และหุบเหวลึก ที่นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในโลกที่คุณสามารถเดินข้ามระหว่างสองทวีปได้ในรอยแยกมิดแอตแลนติก (Mid-Atlantic Rift)

อินโฟกราฟิกของอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ในประเทศไอซ์แลนด์ แสดงให้เห็นรอยแยกระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเซีย และจุดเด่นต่างๆนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าร่วมทัวร์เดินชมฟรีกับเจ้าหน้าที่อุทยาน เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับธรณีวิทยา สัตว์ป่า และประวัติศาสตร์ของธิงเวลลิร์ ทัวร์นี้มีเฉพาะฤดูร้อน เริ่มจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและโบสถ์ธิงเวลลิร์ เป็นวิธีที่ดีในการสำรวจและเรียนรู้ภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่

คุณสามารถชมความงามของอุทยานแห่งชาติธิงเวลลิร์ได้ในทัวร์เที่ยววงกลมทองคำหลากหลายรูปแบบ สำหรับสายผจญภัย สามารถดำน้ำตื้นหรือดำน้ำลึกที่รอยแยกซิลฟรา (Silfra) ซึ่งเป็นร่องน้ำที่ใสสะอาดจนมองเห็นได้ไกลกว่า 100 เมตร (330 ฟุต) เผยให้เห็นโครงสร้างทางธรณีวิทยาอันน่าทึ่ง

น้ำในซิลฟราไม่เคยกลายเป็นน้ำแข็งเพราะมีการไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา อุณหภูมิน้ำอยู่ที่ประมาณ 2°C (35°F) ตลอดทั้งปี นักดำน้ำจะได้รับชุดสูทดำน้ำมาสวมใส่เพื่อป้องกันความหนาวและเพื่อความปลอดภัยขณะเข้าร่วมทัวร์ดำน้ำสคูบา หรือทัวร์ดำน้ำตื้น

จุดเด่นอื่น ๆ ได้แก่ หุบเขาอัลมันนากยา (Almannagja Gorge) ที่คุณสามารถเดินลงไปในรอยแยกจากฝั่งแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือ และ ทะเลสาบธิงวาลลาวาทน์ (Thingvallavatn) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ซึ่งอยู่ทางใต้ของอุทยาน

การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติธิงเวลลิร์จากเรคยาวิก

ขับรถจากเรคยาวิกไปอุทยานแห่งชาติธิงเวลลิร์ ให้ใช้ถนนหมายเลข 1 (Route 1) ไปทางตะวันออก แล้วเลี้ยวเข้าถนนสาย 36 ขึ้นเหนือ ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพจราจรและอากาศ มีที่จอดรถใกล้จุดบริการหลัก เช่น หุบเขาอัลมันนากยา และน้ำตกออกซาราร์ฟอสส์ (Oxararfoss Waterfall) สามารถดูแผนที่ Google Maps ของอุทยานแห่งชาติธิงเวลลิร์ เพื่อวางแผนเส้นทางของคุณ

พื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area)

กลุ่มคนจำนวนหนึ่งรวมตัวกันบริเวณสโทรคูร์ในเขตความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางโกลเด้นเซอร์เคิลของไอซ์แลนด์พื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์ ตั้งอยู่ในหุบเขาเฮยคาดาลูร์ (Haukadalur Valley) เป็นจุดแวะที่ต้องห้ามพลาดบนเส้นทางวงกลมทองคำ ที่นี่มีชื่อเสียงจากไกเซอร์อันโด่งดัง ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่เป็นต้นแบบของคำว่า "Geyser" ทั่วโลก

แม้ไกเซอร์ตัวจริงจะไม่ค่อยปะทุแล้ว แต่สโทรคูร์ (Strokkur) ที่อยู่ใกล้กันจะปะทุทุก 5-10 นาที พ่นน้ำเดือดสูงกว่า 20 เมตร (66 ฟุต) และบางครั้งสูงถึง 40 เมตร (131 ฟุต) เลยทีเดียว

บริเวณรอบ ๆ เต็มไปด้วยปล่องไอน้ำ น้ำพุร้อน และบ่อโคลนเดือด ยังมีน้ำพุร้อนขนาดเล็กอีกสองแห่งคือสมิดูร์ (Smidur) และลิตลิ-สโทรคูร์ (Litli-Strokkur) ที่เดินไปชมได้ไม่ไกล มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านของที่ระลึก

อินโฟกราฟิกของพื้นที่ความร้อนใต้พิภพ Geysir แสดงให้เห็นไกเซอร์ Strokkur ที่กำลังปะทุและลักษณะทางธรณีวิทยาในบริเวณนั้น

พื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์เข้าชมฟรีและเปิดตลอดปี หากอยากสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ลองใช้บริการทัวร์สำหรับขับรถเที่ยววงกลมทองคำในไอซ์แลนด์ด้วยตัวเองในช่วงหน้าหนาว เพื่อชมสโทรคูร์ปะทุท่ามกลางแสงเหนือที่ส่องสว่าง

การเดินทางไปพื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์

จากอุทยานแห่งชาติธิงเวลลิร์ ขับรถต่อไปทางตะวันออกบนถนนสาย 36 แล้วเชื่อมต่อถนนสาย 365 ไปยังเลยการ์วาทน์ (Laugarvatn) ก่อนเลี้ยวเข้าถนนสาย 37 และ 35 เส้นทางนี้ผ่านหุบเขาเฮยกาดาลูร์ (Haukadalur)ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทางราว 60 กิโลเมตร 

หากเริ่มต้นจากเรคยาวิก พื้นที่นี้อยู่ห่างออกไปประมาณ 100 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที เมื่อถึงแล้วจะมีที่จอดรถ ห้องน้ำ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวพร้อมคาเฟ่และร้านของที่ระลึกอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสโทรคูร์

คุณสามารถดูเส้นทางไปพื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์บน Google Maps ได้เช่นกัน

น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss Waterfall)

น้ำตก Gullfoss มีความสวยงามทั้งในฤดูหนาวและฤดูร้อนกุลล์ฟอสส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “น้ำตกทองคำ” เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยและทรงพลังที่สุดของไอซ์แลนด์

น้ำตกนี้สูง 32 เมตร ไหลลดหลั่นสองชั้นลงสู่หุบเหวขนาดใหญ่ที่เกิดจากแม่น้ำฮวิทเอา (Hvita River) ซึ่งเป็นจุดยอดนิยมสำหรับล่องแก่งและชมวิว กุลล์ฟอสส์อยู่ห่างจากไกเซอร์เพียง 10 นาทีโดยรถยนต์ ถือเป็นจุดที่ไกลที่สุดของวงกลมทองคำหากมาจากเรคยาวิก

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กุลล์ฟอสส์เกือบถูกเปลี่ยนเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำโดยวิศวกรชาวอังกฤษ แต่ Sigríður Tómasdóttir หนึ่งในสตรีผู้มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ไอซ์แลนด์ ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้น้ำตกได้ต่อสู้เพื่อปกป้องน้ำตกแห่งนี้

สเวนน์ บียอร์นสัน (Sveinn Björnsson) ซึ่งต่อมากลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของไอซ์แลนด์ เป็นทนายความให้ซิกรีดูร์ในช่วงเวลาสำคัญนี้ จนในที่สุดโครงการก็ถูกยกเลิก

ซิกรีดูร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติคนแรกของไอซ์แลนด์ และมีอนุสรณ์สถานของเธออยู่บนหน้าผาเหนือจุดชมวิวน้ำตกตั้งแต่ปี 1978 ความทุ่มเทของเธอช่วยสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติของชาวไอซ์แลนด์

อินโฟกราฟิกของน้ำตก Gullfoss ที่แสดงชั้นน้ำตก 2 ชั้น และรายละเอียดเกี่ยวกับที่ตั้ง การเข้าถึง และอื่นๆปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถชมกุลล์ฟอสส์ได้ตลอดปี ในระหว่างทริปขับรถบนวงกลมทองคำในช่วงหน้าร้อน มักจะได้เห็นรุ้งกินน้ำปรากฏเหนือสายน้ำตกที่ส่องสว่างโดยพระอาทิตย์เที่ยงคืน ส่วนหน้าหนาว น้ำตกจะถูกโอบล้อมด้วยหิมะและน้ำแข็ง สร้างบรรยากาศเหนือจริงที่สวยงามไม่แพ้กัน

การเดินทางไปน้ำตกกุลล์ฟอสส์

จากพื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์ ขับรถต่อไปทางตะวันออกบนถนนสาย 35 ผ่านหุบเขาเฮยกาดาลูร์ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ระยะทางราว 10 กิโลเมตร มีที่จอดรถขนาดใหญ่ ห้องน้ำ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวใกล้จุดชมวิวหลัก

หากขับรถตรงจากเรคยาวิกไปน้ำตกกุลล์ฟอสส์ ให้ใช้ถนนสาย 1 ไปทางตะวันออก แล้วเลี้ยวเข้าถนนสาย 35 ที่เมืองเซลฟอสส์ (Selfoss) รวมระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที เพื่อความสะดวก คุณสามารถดูเส้นทางไปน้ำตกกุลล์ฟอสส์บน Google Maps ได้

5 กิจกรรมยอดนิยมในวงกลมทองคำของไอซ์แลนด์

น้ำตก Gullfoss ในไอซ์แลนด์ที่กลายเป็นน้ำแข็งบางส่วนในฤดูหนาว มีหน้าผาน้ำแข็งและน้ำจากธารน้ำแข็งไหลเชี่ยวผ่านหุบเขาตั้งแต่ผจญภัยธารน้ำแข็งไปจนถึงแช่น้ำพุร้อนธรรมชาติ วงกลมทองคำมีประสบการณ์ที่น่าจดจำมากมายให้เลือกตามสไตล์ของคุณ

ด้านล่างนี้คือกิจกรรมยอดนิยมที่ควรเพิ่มในแผนเที่ยววงกลมทองคำของคุณ

5. แช่น้ำพุร้อนธรรมชาติ

นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับน้ำอุ่นของทะเลสาบ Laugaras Lagoon ที่รายล้อมไปด้วยภูเขาที่สวยงามและชนบทที่เขียวชอุ่มการแช่น้ำพุร้อนธรรมชาติของไอซ์แลนด์เป็นวิธีผ่อนคลายร่างกายและเติมพลังระหว่างเที่ยววงกลมทองคำ พื้นที่นี้มีสระน้ำร้อนและสปาความร้อนใต้พิภพหลายแห่งให้คุณได้แช่ตัวท่ามกลางวิวสวย ๆ

การแช่น้ำอุ่นเหล่านี้ช่วยให้คุณได้พักเบรกจากการเดินทางและเพิ่มความผ่อนคลายให้กับทริปโกลเด้นเซอร์เคิลของคุณ ด้านล่างนี้คือบ่อน้ำร้อนและสปายอดนิยมในพื้นที่

a. เลยการ์วาทน์ ฟอนทานา สปา (Laugarvatn Fontana Spa)

สปาฟอนทานา ตั้งอยู่ในทำเลสะดวกในพื้นที่วงกลมทองคำตั้งอยู่ในเมืองเลยการ์วาทน์ ฟอนทานาสปา (Fontana Spa) มีทั้งห้องอบไอน้ำธรรมชาติ สระน้ำร้อน และวิวทะเลสาบเลยการ์วาทน์ นักท่องเที่ยวสามารถแช่น้ำอุ่น ใช้ห้องอบไอน้ำ หรือจะลงไปว่ายน้ำในทะเลสาบก็ได้

ควรเตรียมชุดว่ายน้ำและผ้าเช็ดตัวไปเอง แต่ที่สปาก็มีบริการให้เช่าผ้าเช็ดตัวและเสื้อคลุม แนะนำให้จองบัตรเข้าสปาฟอนทานาล่วงหน้า เพื่อรับประกันการเข้าใช้บริการ แล้วไปเพลิดเพลินกับการแช่น้ำร้อนในบรรยากาศสงบของสปาจากความร้อนใต้พิภพแห่งนี้

  • สิ่งอำนวยความสะดวกของฟอนทานาสปา:

    • สระน้ำร้อนกลางแจ้ง

    • ห้องอบไอน้ำและซาวน่าสไตล์ฟินแลนด์

    • ทางลงทะเลสาบสำหรับแช่น้ำเย็น

    • ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมฝักบัวและล็อกเกอร์

    • ของใช้ในห้องน้ำฟรี

    • คาเฟ่และเบเกอรี่ที่อบด้วยความร้อนจากใต้ดิน

  • สถานที่ตั้งของฟอนทานาสปา:
    Laugarbraut, 840 Laugarvatn, Iceland

  • เวลาเปิด-ปิดของฟอนทานาสปา:
    เปิดทุกวัน 10.00-21.00 น.

  • การเดินทางไปฟอนทานาสปา:
    ฟอนทานาสปาตั้งอยู่บนถนนสาย 37 ห่างจากเรคยาวิกประมาณ 75 กิโลเมตร และห่างจากอุทยานแห่งชาติธิงเวลลิร์ 25 กิโลเมตร เป็นจุดแวะที่สะดวกระหว่างธิงเวลลิร์กับไกเซอร์บนเส้นทางวงกลมทองคำ หากต้องการดูเส้นทาง สามารถใช้ Google Maps เพื่อค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุดจากตำแหน่งของคุณ

b. ซีเคร็ท ลากูน (The Secret Lagoon)

Secret Lagoon ตั้งอยู่ในจุดที่เหมาะสมที่สุดบนวงกลมทองคำตั้งอยู่ในหมู่บ้านฟลูดีร์ (Fludir) ซีเคร็ทลากูน (Secret Lagoon) เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ รายล้อมด้วยปล่องไอน้ำและไกเซอร์ขนาดเล็กที่ปะทุในทุก ๆ ไม่กี่นาที น้ำในบ่ออุ่นสบายตลอดปี

การแช่น้ำที่นี่ให้ประสบการณ์ผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศแบบดั้งเดิม จองบัตรเข้าสปาซีเคร็ทลากูนล่วงหน้า เพื่อรับประกันสิทธิ์เข้าใช้บริการ มีบริการให้เช่าผ้าเช็ดตัวและเสื้อคลุมหากต้องการ

  • สิ่งอำนวยความสะดวกของซีเคร็ทลากูน:

    • สระน้ำร้อนที่ได้ความร้อนจากใต้พิภพ

    • สระน้ำร้อนสำหรับแช่เท้า

    • สระน้ำเย็น

    • ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมล็อกเกอร์

    • ฝักบัวในร่มพร้อมสบู่ฟรี

    • บิสโทร/คาเฟ่

    • ทางเดินชมบ่อน้ำร้อนและน้ำพุร้อน

    • ห่วงยางสำหรับเด็ก

    • Wi-Fi มีค่าบริการเพิ่มเติม

  • สถานที่ตั้งของซีเคร็ทลากูน:
    Hvammsvegur, 845 Fludir, Iceland

  • เวลาเปิด-ปิดของซีเคร็ทลากูน:
    เปิดทุกวัน 10.00-20.00 น. (ฤดูร้อน) และ 10.00-18.00 น. (ฤดูหนาว)

  • การเดินทางไปซีเคร็ทลากูน:
    จากไกเซอร์ ขับรถลงใต้บนถนนสาย 35 แล้วเลี้ยวเข้าถนนสาย 30 ไปยังฟลูดีร์ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจากไกเซอร์ หรือ 1 ชั่วโมง 40 นาทีจากเรคยาวิก คุณสามารถดูเส้นทางจากตำแหน่งของคุณบน Google Maps ได้เพื่อความสะดวก

c. เรคยาดาลูร์ ฮอตสปริงส์ (Reykjadalur Hot Springs)

เรคยาดาลูร์เป็นธารน้ำร้อนที่ไหลลงมาจากภูเขาในฮแวราแกร์ดิ เรคยาดาลูร์ ฮอตสปริงส์ (Reykjadalur Hot Springs) ตั้งอยู่ใกล้เมืองฮแวราแกร์ดิ (Hveragerdi) เป็นหุบเขาน้ำพุร้อนที่เรียกกันว่า "หุบเขาไอน้ำ" นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงโดยใช้เทรลเดินป่าผ่านบ่อโคลนเดือดและปล่องไอน้ำ ก่อนจะถึงธารน้ำอุ่นที่ไหลผ่านหุบเขา

การแช่น้ำอุ่นท่ามกลางภูเขาและไอหมอกที่นี่ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมฟรีที่ดีที่สุดบนเส้นทางวงกลมทองคำ โปรดทราบว่าตลอดเส้นทางเดินไม่มีห้องน้ำหรือสิ่งปลูกสร้างให้เปลี่ยนเสื้อผ้า นักท่องเที่ยวควรเตรียมชุดว่ายน้ำ ผ้าเช็ดตัว และรองเท้าเดินป่าที่เหมาะสมไปเอง

  • สิ่งอำนวยความสะดวกของเรคยาดาลูร์ ฮอตสปริงส์:

    • พาร์ทิชั่นไม้สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้ากลางแจ้ง

    • ที่จอดรถและคาเฟ่ที่จุดเริ่มต้นเทรลในฮแวราแกร์ดิ

  • สถานที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเรคยาดาลูร์:
    Arholmi 1, 810 Hveragerdi, Iceland

  • เวลาเปิด-ปิดของเรคยาดาลูร์ ฮอตสปริงส์:
    เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน

  • การเดินทางไปเรคยาดาลูร์ ฮอตสปริงส์:
    เรคยาดาลูร์ ฮอตสปริงส์ อยู่ห่างจากเรคยาวิกประมาณ 45 นาทีโดยรถยนต์ ผ่านถนนสาย 1 (Ring Road) และสาย 378 เมื่อถึงฮแวราแกร์ดิ ให้ขับตามป้ายไปยังจุดเริ่มต้นเส้นทางเดินป่า จากนั้นจอดรถ (มีค่าจอด) แล้วเริ่มเดินป่าระยะทาง 3 กม. ไปยังธารน้ำร้อน
    หากต้องการดูเส้นทาง ใช้ Google Maps เพื่อดูเส้นทางจากตำแหน่งของคุณได้

d. เลยการาส ลากูน (Laugaras Lagoon)

วิวช่วงโกลเด้นอาวร์ของ Laugaras Lagoon ไอซ์แลนด์ สระน้ำร้อนธรรมชาติ ต้นไม้ในฤดูใบไม้ร่วง และสะพานแขวนแม่น้ำไวท์ริเวอร์เปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2025 เลยการาส ลากูน (Laugaras Lagoon) เป็นแหล่งน้ำร้อนธรรมชาติแห่งใหม่ที่ล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าและเนินเขาอันเงียบสงบ นักท่องเที่ยวสามารถแช่น้ำพร้อมชมวิวสวย ๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อนหลังเที่ยววงกลมทองคำ

มีบัตรเข้าใช้บริการให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Birki Pass (ราคาประหยัดสุด) Lerki Pass (สิทธิพิเศษเพิ่มเติม) และ Osp Pass (รวมอาหารแบบ 2 คอร์ส) จองบัตรเข้าใช้บริการล่วงหน้าเพื่อรับประกันว่ามีที่ว่างและเพลิดเพลินกับการเที่ยวแบบไร้กังวล

  • สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่เลยการาส ลากูน:

    • ทะเลสาบสองชั้นพร้อมขอบสระแบบอินฟินิตี้

    • สระน้ำอุ่นในป่า

    • สระน้ำเย็น

    • ซาวน่าแห้ง

    • ถ้ำกรอตโตและที่นั่งแบบบิลต์อิน

    • สวิมอัพบาร์

    • ร้านอาหารในสถานที่ (Ylja)

    • ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมล็อกเกอร์และฝักบัว

  • สถานที่ตั้งของเลยการาส ลากูน:
    Skalholtsvegur 1, 806 Laugaras, Iceland

  • เวลาเปิด-ปิดของเลยการาส ลากูน:
    เปิดทุกวัน 10.00-22.00 น. ในฤดูร้อน และ 10.00-21.00 น. ในฤดูหนาว

  • การเดินทางไปเลยการาส ลากูน:
    เลยการาส ลากูน อยู่ห่างจากซีเคร็ท ลากูน เพียง 10 นาที และประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีจากเรคยาวิกโดยใช้เส้นทางหมายเลข 35 มีที่จอดรถในสถานที่ และคุณสามารถดูเส้นทางจากตำแหน่งปัจจุบันของคุณผ่าน Google Maps

4. อบขนมปังข้าวไรย์ใต้ดินด้วยความร้อนจากธรรมชาติ

การอบขนมปังข้าวไรย์ด้วยความร้อนใต้พิภพของไอซ์แลนด์เป็นประเพณีที่น่าทึ่งซึ่งคุณสามารถสัมผัสได้ที่เลยการ์วาทน์ เมืองเล็ก ๆ บนเส้นทางวงกลมทองคำ ขนมปังนี้เรียกในภาษาท้องถิ่นว่า rúgbrauð มีเนื้อแน่นและรสหวานเล็กน้อย โดยจะฝังแป้งโดลงในดินที่ร้อนและมีไอน้ำนานถึง 24 ชั่วโมง วิธีการนี้สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนและยังคงเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมไอซ์แลนด์

คุณสามารถเข้าร่วมประสบการณ์อบขนมปังข้าวไรย์ด้วยความร้อนใต้พิภพที่เลยการ์วาทน์ ฟอนทานา สปา ซึ่งไกด์จะสาธิตขั้นตอนและแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีการทำอาหารแบบดั้งเดิมของไอซ์แลนด์ ทัวร์นี้เป็นกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร

3. ขี่ม้าท่องชนบทไอซ์แลนด์

นักเดินทางสองคนขี่ม้าในชนบทของไอซ์แลนด์ทัวร์วงกลมทองคำและกิจกรรมขี่ม้า เป็นวิธีที่ไม่เหมือนใครในการสัมผัสความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมไอซ์แลนด์ ม้าไอซ์แลนด์ขึ้นชื่อเรื่องนิสัยอ่อนโยน เดินมั่นคง และฝีเท้านุ่มนวล เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์

ทัวร์วงกลมทองคำจากเรคยาวิกหลายโปรแกรมมีกิจกรรมขี่ม้า โดยผู้ให้บริการจะแนะนำเกี่ยวกับม้าและเทคนิคพื้นฐานก่อนพาออกเดินทางไปตามเส้นทางธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจะได้ขี่ม้าบนทุ่งโล่ง เนินเขา และหุบเขาแม่น้ำ พร้อมชมวิวชนบทไอซ์แลนด์ที่สวยงามตลอดทาง

2. ดำน้ำตื้นที่รอยแยกซิลฟรา

ดำน้ำตื้นที่ซิลฟรา เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุณจะได้สำรวจน้ำใสจากธารน้ำแข็งระหว่างรอยแยกของแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียและอเมริกาเหนือที่อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ทัวร์นี้ให้บริการตลอดปีและเหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และผู้ที่มีประสบการณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำตื้นจะต้องว่ายน้ำเป็น

การดำน้ำตื้นที่ซิลฟราต้องใส่ชุดกันหนาวเพื่อความปลอดภัยและความสบาย ซึ่งผู้ให้บริการทัวร์จะจัดเตรียมให้ โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 30–50 นาทีในน้ำ ขณะที่ระยะเวลาทัวร์ทั้งหมด (รวมการบรีฟ ใส่อุปกรณ์ และเดินทางไปจุดดำน้ำ) จะขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของทัวร์

ตัวอย่างเช่น ทัวร์ดำน้ำตื้นที่เริ่มจากอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ส่วนทัวร์วงกลมทองคำจากเรคยาวิกที่รวมดำน้ำตื้นที่ซิลฟรา อาจใช้เวลาสูงสุดถึง 9 ชั่วโมง

1. ขับสโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล

การได้ไปเล่นสโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งในประเทศไอซ์แลนด์เป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืมขับสโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) ผสมผสานความตื่นเต้นกับทิวทัศน์อาร์กติกที่สวยงาม เหมาะสำหรับนักเดินทางที่มองหากิจกรรมผจญภัยที่เต็มไปด้วยอะดรีนาลีนและเหมาะกับทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์

ทัวร์สโนว์โมบิลในไอซ์แลนด์ จะจัดขึ้นในฤดูหนาวและต้นฤดูใบไม้ผลิ เมื่อธารน้ำแข็งปกคลุมด้วยหิมะ หากมาเที่ยวช่วงนี้ การใช้บริการทัวร์เที่ยววงกลมทองคำแบบที่รวมกิจกรรมสโนว์โมบิล จะเพิ่มความสนุกให้กับการเดินทาง

สำหรับนักเดินทางที่ขับรถเที่ยวเอง แนะนำให้จองทัวร์พร้อมไกด์เพิ่มหากต้องการทำกิจกรรมนี้ เพราะเส้นทางไปฐานธารน้ำแข็งลางโจกุลอาจท้าทาย โดยทัวร์ส่วนใหญ่จะมีรถซูเปอร์จี๊ปและคนขับมืออาชีพให้บริการ คุณจึงสามารถสนุกกับกิจกรรมได้อย่างปลอดภัยและสบาย ทัวร์ลางโจกุลหลายโปรแกรมจะออกเดินทางจากกุลล์ฟอสส์โดยตรง ทำให้สามารถเพิ่มกิจกรรมนี้หลังจากที่คุณไปเที่ยวไกเซอร์หรือก่อนที่จะกลับเข้าเรคยาวิกได้ง่าย

นอกจากสโนว์โมบิลแล้ว ลางโจกุลยังมีถ้ำน้ำแข็งที่น่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เดินผ่านอุโมงค์น้ำแข็งที่มนุษย์สร้างขึ้นและชมชั้นน้ำแข็งสีน้ำเงินเข้มที่ก่อตัวมานานนับศตวรรษ ทัวร์ถ้ำน้ำแข็งจะเปิดให้บริการตามฤดูกาลจากบริเวณเบสแคมป์ของถ้ำน้ำแข็งลางโจกุล โดยมีจุดออกเดินทางทั้งจากกุลล์ฟอสส์ เรคยาวิก และฮูสาเฟลล์ (Husafell) ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์

สำรวจกิจกรรมทั้งหมดในวงกลมทองคำเพื่อเปรียบเทียบทัวร์ ค้นหาสถานที่ลับ และจองประสบการณ์ที่จะเปลี่ยนการเดินทางของคุณให้เป็นการผจญภัยที่น่าจดจำ

10 สถานที่ท่องเที่ยวและจุดลับบนเส้นทางวงกลมทองคำ

ทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วงที่อุทยานแห่งชาติ Þingvellir ในไอซ์แลนด์ พร้อมด้วยทุ่งลาวามอส หุบเขาหิน และทะเลสาบยามพระอาทิตย์ตกแม้วงกลมทองคำจะมีสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นมากมาย แต่ยังมีจุดหมายใกล้เคียงที่ช่วยให้คุณขยายทริปหรือปรับเส้นทางได้ตามใจ สถานที่เหล่านี้เหมาะกับนักเดินทางหลากหลายสไตล์และเปิดมุมมองใหม่ ๆ สู่ธรรมชาติและวัฒนธรรมไอซ์แลนด์

10. มหาวิหารสกัลโฮลท์ (Skalholt Cathedral)

มหาวิหาร Skalholt เป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมในไอซ์แลนด์ ซึ่งคุณสามารถเยี่ยมชมได้ง่ายๆ ด้วยทัวร์ Golden Circleมหาวิหารสกัลโฮลท์ เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไอซ์แลนด์และเป็นจุดแวะเที่ยวทางวัฒนธรรมที่เงียบสงบบนเส้นทางวงกลมทองคำ ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางศาสนาและการศึกษาของประเทศในยุคกลาง และเป็นที่ประทับของบิชอปไอซ์แลนด์นานกว่า 700 ปี

ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมมหาวิหาร สำรวจซากปรักหักพังใต้โบสถ์ และดูนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวสำคัญของโบสถ์แห่งนี้ในประวัติศาสตร์ไอซ์แลนด์ ที่นี่มีคอนเสิร์ตและกิจกรรมวัฒนธรรมตามฤดูกาล เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม ดูเคล็ดลับและไฮไลต์เพิ่มเติมได้ที่สิ่งที่ควรรู้เมื่อมาเยือนมหาวิหารสกัลโฮลท์

9. หุบเขาธยอร์ซาร์ดาลูร์ (Thjorsardalur Volley)

บ้านไม้สไตล์ชนบทหลังหนึ่งตั้งโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้า ตั้งอยู่ในบริเวณหุบเขา Thjorsardalur อันเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติหุบเขาธยอร์ซาร์ดาลูร์อยู่นอกเส้นทางวงกลมทองคำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสงบ ต้องการเดินป่า และชมวิวธรรมชาติที่แตกต่างจากเส้นทางหลัก เนื่องจากที่นี่อยู่ห่างไกล ควรตรวจสอบว่ารถที่ใช้สามารถวิ่งบนถนนลูกรังได้ และตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง

ในหุบเขามีน้ำตกสวยงาม ทุ่งลาวา ป่าเบิร์ช และวิวภูเขาไฟเฮกลา (Hekla) หนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นของไอซ์แลนด์ จุดเด่นที่ต้องแวะชม ได้แก่ ฟาร์มเฮาส์ยุคไวกิ้งที่สร้างขึ้นใหม่ที่สตอง (Stong) หุบเขากยาอิน (Gjain) และน้ำตกไฮฟอสส์ (Haifoss) หนึ่งในน้ำตกที่สูงที่สุดของไอซ์แลนด์ นักเดินทางที่ไปวงกลมทองคำจำนวนมากมักแวะที่นี่พร้อมกับซีเคร็ท ลากูน หรือเลยการาส ลากูน

8. หมู่บ้านรักษ์โลกโซลเฮมาร์ (Solheimar)

หมู่บ้านรักษ์โลกโซเฮมาร์ เป็นจุดแวะเที่ยวทางวัฒนธรรมและการศึกษาที่มีความหมายใกล้เส้นทางวงกลมทองคำ ก่อตั้งในปี 1930 หมู่บ้านนี้เน้นการดูแลสิ่งแวดล้อม เกษตรอินทรีย์ และการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม

นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมโรงเรือน ร้านค้า แกลเลอรีศิลปะ และคาเฟ่ที่ดำเนินการโดยชาวบ้านที่อาศัยและทำงานในชุมชนนี้ มีกิจกรรมเวิร์กช็อปและทัวร์พร้อมไกด์สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้แนวทางรักษ์โลก

สำหรับผู้เดินทางไปวงกลมทองคำ นี่เป็นโอกาสในการพักผ่อน พบปะคนท้องถิ่น และเรียนรู้วิถีชีวิตยั่งยืนแบบลงมือทำจริง หากสนใจพักค้างคืน สามารถจองที่พักใน Solheimar Guesthouse ซึ่งเป็นที่พักรักษ์โลกในหมู่บ้านได้ด้วย

  • สถานที่ตั้ของของหมู่บ้านรักษ์โลกโซลเฮมาร์:
    Solheimar Eco-Village, Selfoss, Iceland

  • การเดินทางไปหมู่บ้านรักษ์โลกโซลเฮมาร์:
    โซลเฮมาร์อยู่ห่างจากเลยการ์วาทน์ไปทางตะวันออกประมาณ 15 นาทีโดยใช้ถนนสาย 35 และ 36 เหมาะสำหรับแวะหลังเที่ยวอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ และก่อนหรือหลังจากเที่ยวไกเซอร์ตามแผนการเดินทางของคุณ
    หมู่บ้านมีป้ายบอกทางชัดเจนและมีที่จอดรถขนาดเล็กสำหรับผู้มาเยือน คุณสามารถเปิด Google Maps เพื่อดูเส้นทางไปหมู่บ้านรักษ์โลกโซลเฮมาร์จากตำแหน่งปัจจุบันของคุณ

7. น้ำตกแฟกซาฟอสส์ (Faxafoss)

ทิวทัศน์อันงดงามของน้ำตก Faxafoss ในประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นน้ำตกที่เงียบสงบไหลไปตามแม่น้ำ Tungufljot ท่ามกลางบรรยากาศอันเขียวขจีแฟกซาฟอสส์ (Faxafoss) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Faxi" เป็นน้ำตกกว้างและสงบที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทุงกูฟลย็อต (Tungufljot) มักถูกเปรียบว่าเป็นน้องเล็กที่เงียบสงบของกุลล์ฟอสส์

ที่นี่มีจุดชมวิว โต๊ะปิกนิก และร้านอาหารเล็ก ๆ ใกล้ ๆ เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม โดยเฉพาะช่วงเช้าเมื่อมีหมอกลอยเหนือน้ำ

  • สถานที่ตั้งของน้ำตกแฟกซาฟอสส์:
    35, 806, Iceland

  • การเดินทางไปน้ำตกแฟกซาฟอสส์:
    เนื่องจากอยู่ใกล้ถนนสาย 35 น้ำตกแฟกซาฟอสส์จึงเป็นทางเบี่ยงที่สะดวกจากไกเซอร์ เริ่มจากไกเซอร์ ให้ขับรถลงใต้บนสาย 35 ประมาณ 5 กิโลเมตร ที่แยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าสาย 35 ไปทางเซลฟอสส์ (Selfoss) และเรคโฮลท์ (Reykholt) ขับต่ออีกประมาณ 6 กิโลเมตรจนเห็นป้าย "Við Faxa" แล้วให้ขับตามป้ายท้องถิ่นไปยังน้ำตก
    เพื่อความสะดวก เปิด Google Maps เพื่อดูเส้นทางไปน้ำตกแฟกซาฟอสส์จากตำแหน่งปัจจุบันของคุณ

6. เมืองน้ำพุร้อนฮแวราแกร์ดิ (Hveragerdi)

ในเมือง Hveragerdi ไอน้ำพวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินในทุ่ง สะท้อนให้เห็นถึงทัศนียภาพความร้อนใต้พิภพและน้ำพุร้อนอันเลื่องชื่อของเมืองฮแวราแกร์ดิ หรือที่เรียกว่า "เมืองน้ำพุร้อนไอซ์แลนด์" เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจสุขภาพ กิจกรรมความร้อนใต้พิภพ และเดินป่าสั้น ๆ เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำพุร้อน โรงเรือนที่ใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพ และศูนย์สุขภาพหลากหลาย เหมาะเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดสุดท้ายของเส้นทางวงกลมทองคำ 

ฮแวรแกร์ดิเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินป่าเรคยาดาลูร์ ฮอตสปริงก์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้แช่น้ำในลำธารน้ำอุ่นธรรมชาติหลังเดินป่าไป-กลับประมาณ 2–3 ชั่วโมง หุบเขานี้มีวิวบ่อน้ำร้อน ทุ่งลาวา และทุ่งดอกไม้ เหมาะกับการถ่ายรูป เดินเล่น และสำรวจเส้นทางที่ไม่ซ้ำใคร

นอกจากเดินป่าแล้ว ยังมีกิจกรรมน่าสนใจในฮแวราแกร์ดิ เช่น อุทยานความร้อนใต้พิภพฮแวราแกร์ดิ ทัวร์ซิปไลน์ชมวิวไอซ์แลนด์ใต้ และทัวร์ขี่ม้า เมืองนี้มีขนาดกะทัดรัดและบรรยากาศอบอุ่น เหมาะกับผู้ที่มองหาสุขภาพ ผจญภัย และประสบการณ์ไอซ์แลนด์แท้ ๆ

  • การเดินทางไปฮแวราแกร์ดิ:
    จากเรคยาวิก ขับรถตรงตามถนนสาย 1 ถึงเมืองนี้ในเวลาประมาณ 45 นาที หากเดินทางต่อไปตามวงกลมทองคำ ฮแวราแกร์ดิจะเชื่อมต่อกับสาย 35 ไปทางอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ และจุดสำคัญอื่น ๆ เช่น ไกเซอร์ และกุลล์ฟอสส์ คุณสามารถเปิดหาฮแวราแกร์ดิใน Google Maps เพื่อดูเส้นทาง

5. เซลฟอสส์นิวโอลด์ทาวน์ (Selfoss New Old Town)

ครอบครัวหนึ่งเพลิดเพลินกับการเดินเล่นในเมืองเซลฟอสส์ เมืองที่งดงามริมเส้นทางโกลเด้นเซอร์เคิล ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องร้านอาหารและสระน้ำร้อนใต้พิภพเซลฟอสส์ เป็นจุดแวะพักที่สะดวกบนเส้นทางวงกลมทองคำ เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องสระว่ายน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพและร้านอาหารที่นำเสนอรสชาติไอซ์แลนด์แท้ ๆ สายกินสามารถสำรวจร้านอาหารยอดนิยมในเซลฟอสส์ ร้านอาหารเหล่านี้หลายแห่งตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าแห่งใหม่ที่มีเสน่ห์

สำหรับผู้ขับรถบนเส้นทางนี้ เซลฟอสส์อยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ เหมาะสำหรับแวะพักเติมพลัง สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือแวะก่อนหรือหลังเที่ยวไกเซอร์ มีที่โรงแรมและที่พักในเซลฟอสส์หลากหลายรูปแบบ นักเดินทางจึงนิยมพักค้างคืนที่นี่เพื่อแบ่งทริปวงกลมทองคำให้ไม่เหนื่อยเกินไป

นอกจากร้านอาหารและที่พักแล้ว กิจกรรมน่าสนใจในเซลฟอสส์ เช่น ไปผ่อนคลายที่สระว่ายน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพ เดินเล่นเส้นทางธรรมชาติ หรือเยี่ยมชมสถานที่วัฒนธรรมท้องถิ่น เมืองนี้เดินทางสะดวกและมีกิจกรรมหลากหลาย เหมาะกับทั้งครอบครัว นักเดินทางเดี่ยว และผู้ที่มองหาความผ่อนคลายผสมผสานกับประสบการณ์ไอซ์แลนด์แท้ ๆ

  • การเดินทางไปเซลฟอสส์:
    เซลฟอสส์อยู่ห่างจากเรคยาวิกไปทางตะวันออกประมาณ 50 นาทีโดยใช้ถนนสาย 1 เหมาะเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดสุดท้ายของเส้นทางวงกลมทองคำ จากเรคยาวิก ขับตรงตามถนนสาย 1 ก็ถึงเมืองนี้ได้เลย
    หากเดินทางต่อไปตามวงกลมทองคำ เซลฟอสส์จะเชื่อมต่อกับสาย 35 ไปยังอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ และจุดสำคัญอื่น ๆ เช่น ไกเซอร์ และกุลล์ฟอสส์ คุณสามารถเปิดหาเซลฟอสส์ใน Google Maps เพื่อดูเส้นทาง

4. ถ้ำเลยการ์วาทน์ (Laugarvatnshellir Caves) 

ผู้หญิงคนหนึ่งโพสท่าข้างถ้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งมีหน้าผาหินลาวาอันน่าทึ่งในพื้นที่ Laugarvatnตั้งอยู่ท่ามกลางหน้าผาลาวาใกล้ทะเลสาบเลยการ์วาทน์ ถ้ำเลยการ์วาทน์ (Laugarvatnshellir Caves) เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวไอซ์แลนด์ในอดีต ถ้ำเล็ก ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งถือเป็นกลุ่มสุดท้ายที่อาศัยอยู่ในถ้ำของไอซ์แลนด์ ภายในมีของใช้และเฟอร์นิเจอร์เรียบง่ายที่จำลองชีวิตของผู้คนที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างชาญฉลาดและอดทน

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ประมาณ 30-45 นาที เพื่อเข้าร่วมทัวร์พร้อมไกด์ในถ้ำเลยการ์วาทน์ที่มนุษย์สร้าง ถ่ายรูป และพักผ่อนที่คาเฟ่ใกล้ ๆ ทัวร์ใช้เวลาประมาณ 25 นาที สามารถจองออนไลน์หรือที่คาเฟ่ข้าง ๆ ได้ โดยเฉพาะหน้าร้อนมักมีรอบว่างสำหรับวอล์กอิน

ทางเดินจากที่จอดรถไปถ้ำค่อนข้างง่าย และวิวทุ่งลาวารอบ ๆ ก็สวยงาม เหมาะเป็นจุดพักชมวัฒนธรรมระหว่างเที่ยวธิงเวลลีร์ ไกเซอร์ และกุลล์ฟอสส์บนเส้นทางวงกลมทองคำ

  • สถานที่ตั้งของถ้ำเลยการ์วาทน์:
    Laugarvatnshellir, 840 Laugarvatn, Iceland

  • การเดินทางไปถ้ำเลยการ์วาทน์
    ถ้ำเลยการ์วาทน์ตั้งอยู่ริมถนนสาย 37 ห่างจากหมู่บ้านเลยการ์วาทน์ไปทางตะวันตกประมาณ 2 กิโลเมตร ขับรถจากธิงเวลลีร์ใช้เวลาประมาณ 30 นาที มองหาป้ายข้างทางเขียนว่า "The Cave People" และที่จอดรถเล็ก ๆ ทางขวามือ ทางเดินไปถ้ำเป็นทางหญ้าและกรวด แนะนำให้ใส่รองเท้าสำหรับเดินทางไกล เพื่อความสะดวกในการเดินทาง คุณสามารถใช้ Google Maps เพื่อนำทางไปยังถ้ำเลยการ์วาทน์ได้โดยตรง

3. เมืองเลยการ์วาทน์ (Laugarvatn Town)

น้ำทะเลสาบ Laugarvatn อันเงียบสงบ ล้อมรอบด้วยหญ้าภายใต้ท้องฟ้าสีฟ้าใสการแวะเมืองเลยการ์วาทน์เป็นทางเลือกที่สวยงามและผ่อนคลายระหว่างอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์กับพื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์ หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเลยการ์วาทน์ ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำร้อนธรรมชาติที่มีไอน้ำอุ่นลอยขึ้นตลอดปี ผิวน้ำที่สงบมักสะท้อนภาพภูเขาและท้องฟ้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

นักท่องเที่ยวจำนวนมากนิยมแวะพักสั้น ๆ เพื่อชมวิวทะเลสาบ หรือเยี่ยมชม เลยการ์วาทน์ ฟอนทานา สปา สปาแห่งนี้มีขนมปังไรย์สูตรดั้งเดิมที่อบด้วยความร้อนจากใต้พิภพ เป็นของขึ้นชื่อที่ต้องลองและเป็นรสชาติแห่งพลังภูเขาไฟของไอซ์แลนด์อย่างแท้จริง

เลยการ์วาทน์เหมาะกับการแวะพักในเส้นทางขับรถวงกลมทองคำ หลังจากเที่ยวอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ และก่อนมุ่งหน้าไปยังไกเซอร์และกุลล์ฟอสส์  ที่นี่เป็นจุดพักกลางทางที่สะดวกสำหรับรับประทานอาหารหรือแวะสปาก่อนเดินทางต่อ

  • การเดินทางไปเลยการ์วาทน์:
    ตั้งอยู่บนถนนสาย 37 เลยการ์วาทน์อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ไปทางตะวันออกประมาณ 20 นาที ห่างจากพื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์ไปทางตะวันตก 15 นาที และห่างจากเรคยาวิกประมาณ 80 กิโลเมตร
    จากเรคยาวิก ใช้ถนนสาย 1 มุ่งหน้าไปทางตะวันออก แล้วเลี้ยวเข้าสู่ถนนสาย 36 ไปยังธิงเวลลีร์ จากนั้นขับต่อไปตามถนนสาย 365 ผ่านชนบทที่สวยงาม ก่อนจะเข้าสู่ถนนสาย 37 เพื่อไปถึงเลยการ์วาทน์ คุณสามารถเปิดแผนที่เลยการ์วาทน์ใน Google Maps เพื่อดูเส้นทางแบบละเอียดได้เช่นกัน

2. น้ำตกบรูอาร์ฟอสส์ (Bruarfoss Waterfall)

น้ำตก Bruarfoss มีน้ำสีฟ้าใสสวยงามไหลผ่านหินรูปร่างแปลกตา เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและช่างภาพน้ำตกบรูอาร์ฟอสส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “น้ำตกที่น้ำสีฟ้าที่สุดในไอซ์แลนด์” มีชื่อเสียงจากสีน้ำฟ้าครามสดใสและรูปทรงน้ำตกที่เป็นเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงามนี้หลังจากเดินเท้าระยะสั้นประมาณ 3.5 กิโลเมตรตามเส้นทางเลียบแม่น้ำบรูอารา (Bruara) ซึ่งจะผ่านน้ำตกเล็ก ๆ หลายแห่งก่อนถึงจุดชมวิวหลัก

ที่นี่เหมาะสำหรับช่างภาพธรรมชาติหรือผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่าที่ต้องการประสบการณ์เงียบสงบ ห่างไกลจากแหล่งท่องเที่ยวที่แออัด แนะนำให้สวมรองเท้าที่เหมาะกับการเดินป่า เพราะเส้นทางอาจมีโคลนโดยเฉพาะหลังฝนตก

  • สถานที่ตั้งของน้ำตกบรูอาร์ฟอสส์:
    Hlauptunga, 806 Blaskogabyggd, Iceland

  • การเดินทางไปน้ำตกบรูอาร์ฟอสส์:
    จากไกเซอร์ ขับรถลงใต้ตามถนนสาย 355 แล้วเลี้ยวซ้ายแรกเข้าสู่เขตที่อยู่อาศัยเบรคคูร์สโคกูร์ (Brekkuskogur) เมื่อสุดถนนจะพบลานจอดรถขนาดเล็กสำหรับน้ำตกบรูอาร์ฟอสส์ จากนั้นเดินเท้าต่ออีกประมาณ 5 นาทีตามป้ายบอกทางไปยังน้ำตก
    เพื่อความสะดวก เปิด Google Maps เพื่อดูเส้นทางไปน้ำตกบรูอาร์ฟอสส์จากตำแหน่งปัจจุบันของคุณได้เลย

1. ปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerid Crater)

คนมักไปชมปล่องภูเขาไฟเคริดเมื่อเที่ยววงกลมทองคำปล่องภูเขาไฟเคริด เพิ่มสีสันอันโดดเด่นให้กับเส้นทางวงกลมทองคำ และสามารถแวะเที่ยวได้ง่าย ๆ เมื่อใช้บริการทัวร์รถบัสเต็มวันราคาประหยัด การแวะไปยังปล่องภูเขาไฟเคริดจะเปลี่ยนบรรยากาศระหว่างอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์กับพื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์ได้อย่างน่าประทับใจ

ปล่องภูเขาไฟแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อน มีผนังปล่องสีแดงชันล้อมรอบทะเลสาบสีฟ้า-เขียวสดใส สีสันที่ตัดกันอย่างโดดเด่นนี้ทำให้ที่นี่เป็นจุดโปรดของช่างภาพ ผู้สนใจธรณีวิทยา และผู้รักธรรมชาติ

นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเส้นทางสั้น ๆ รอบขอบปล่อง หรือเดินลงไปชมทะเลสาบใกล้ ๆ ก็ได้ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกจะยิ่งสวยงามเป็นพิเศษ หากเข้าร่วมทัวร์วงกลมทองคำที่พาแวะเคริดเป็นจุดสุดท้ายจะได้ภาพถ่ายที่สวยงามที่สุดของปล่องภูเขาไฟแห่งนี้

  • สถานที่ตั้งของปล่องภูเขาไฟเคริด:
    Klausturholar, 805 Selfoss, Iceland

  • การเดินทางไปปล่องภูเขาไฟเคริด:
    จากอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ขับรถไปทางตะวันออกประมาณ 15 นาทีตามถนนสาย 35
    หากเดินทางจากเรคยาวิก ให้ขับรถไปทางตะวันออกตามถนนสาย 1 (Ring Road) ประมาณ 50 กิโลเมตร แล้วออกทางแยกเข้าสู่ถนนสาย 35 ไปทางธิงเวลลีร์ ขับต่อไปตามถนนสาย 35 อีกประมาณ 12–15 กิโลเมตรจนถึงปล่องภูเขาไฟ คุณสามารถเปิดแผนที่ปล่องภูเขาไฟเคริดใน Google Maps เพื่อดูเส้นทางแบบละเอียดได้เช่นกัน

จากหมู่บ้านน้ำพุร้อนและทะเลสาบสวยงาม ไปจนถึงธารน้ำแข็ง ถ้ำลาวา และเมืองวัฒนธรรม ทุกจุดแวะเหล่านี้จะเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของคุณ วางแผนเดย์ทริปเที่ยววงกลมทองคำแบบวันเดียวหรือหลายวัน ผสมผสานแลนด์มาร์กชื่อดังกับจุดลับที่น่าค้นหา เพื่อการเดินทางในไอซ์แลนด์ที่น่าจดจำ

ที่พักยอดนิยมบนเส้นทางวงกลมทองคำ

ทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วงของอุทยานแห่งชาติ Þingvellir ในประเทศไอซ์แลนด์ พร้อมด้วยหุบเขาน้ำแข็งที่ปกคลุมไปด้วยมอส บ่อน้ำ และโบสถ์ Þingvallakirkja อันเก่าแก่การเที่ยววงกลมทองคำจะสนุกและคุ้มค่าที่สุดหากคุณพักค้างคืนในพื้นที่นี้ เพราะจะได้สัมผัสธรรมชาติอันโดดเด่นของไอซ์แลนด์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรูใกล้น้ำพุร้อน หรือฟาร์มสเตย์แสนอบอุ่น ที่พักบนเส้นทางวงกลมทองคำก็มีให้เลือกหลากหลายสำหรับนักเดินทางทุกสไตล์

Hotel Geysir

เหมาะสำหรับคู่รักและนักเดินทางสายหรูที่ต้องการสัมผัสพลังธรรมชาติของไอซ์แลนด์อย่างใกล้ชิด

ห้องนอนอันหรูหราพร้อมการตกแต่งที่ทันสมัยและทิวทัศน์ภูเขาอันน่าทึ่งที่ Hotel Geysir ใกล้กับพื้นที่ความร้อนไกเซอร์Hotel Geysir เป็นโรงแรมหรูที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับพื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์โดยตรง ห้องพักตกแต่งทันสมัยพร้อมวิวสวยของสโทรคูร์และธรรมชาติโดยรอบ ผู้เข้าพักจะได้เพลิดเพลินกับอาหารชั้นเลิศที่ห้องอาหารของโรงแรม เลานจ์บรรยากาศอบอุ่น และสามารถเดินออกไปชมไกเซอร์ชื่อดังของไอซ์แลนด์ได้ทันที

จองที่พักที่ Hotel Geysir เพื่อค้างคืนใกล้สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่โด่งดังที่สุดของไอซ์แลนด์

  • สถานที่ตั้งของ Hotel Geysir: Geysir Haukadalur, 806, Iceland

  • การเดินทางไป Hotel Geysir: จากเรคยาวิก ขับรถไปทางตะวันออกตามถนนสาย 1 แล้วเลี้ยวเข้าสู่ถนนสาย 35 ไปยังไกเซอร์ โรงแรมตั้งอยู่ตรงข้ามลานจอดรถของพื้นที่น้ำพุร้อนโดยตรง คุณสามารถเปิดแผนที่ Hotel Geysir ใน Google Maps เพื่อดูเส้นทางแบบละเอียดได้เช่นกัน

Litli Geysir Hotel

เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความสะดวกสบาย คุ้มค่า และอยู่ใกล้สโทรคูร์เพียงไม่กี่ก้าว

Litli Geysir Hotel offers comfortable accommodations near Geysir and geothermal wonders.Litli Geysir Hotel เป็นโรงแรม 3 ดาวบรรยากาศอบอุ่นใกล้ไกเซอร์ ห้องพักตกแต่งอย่างลงตัวและครบครัน พร้อมห้องอาหารที่เสิร์ฟอาหารไอซ์แลนด์แบบดั้งเดิม โรงแรมอยู่ใกล้บ่อน้ำร้อนเบลซี (Blesi) และสนามกอล์ฟ

จองที่พักที่ Litli Geysir Hotel เพื่อเป็นฐานที่พักสะดวกสบายใกล้เส้นทางวงกลมทองคำ

  • สถานที่ตั้งของ Litli Geysir Hotel: Geysir 846, Iceland

  • การเดินทางไป Litli Geysir Hotel: จากกุลล์ฟอสส์ ขับรถประมาณ 10 นาทีไปทางตะวันออกเฉียงเหนือบนถนนสาย 35 มีที่จอดรถในโรงแรม สำหรับการนำทางเปิดแผนที่ Litli Geysir Hotel ใน Google Maps

Blue Hotel Fagrilundur 

เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความสงบ การออกแบบทันสมัย และความสะดวกแบบบริการตนเอง

Aerial view of Blue Hotel Fagrilundur nestled in a serene forest near Fridheimar Tomato Farm.

Blue Hotel Fagrilundur ตั้งอยู่ในป่าเงียบสงบใกล้ฟาร์มมะเขือเทศฟริดเฮมาร์ (Fridheimar) ให้บริการห้องพักทันสมัย อ่างน้ำร้อนกลางแจ้ง และเดินทางสะดวกไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของวงกลมทองคำ ผู้เข้าพักชื่นชอบระบบเช็คอิน-เช็คเอาต์แบบไร้สัมผัส รวมถึงร้านสะดวกซื้อและปั๊มน้ำมันใกล้ ๆ

จองที่พักที่ Blue Hotel Fagrilundur เพื่อพักผ่อนอย่างมีสไตล์ท่ามกลางป่าไอซ์แลนด์

  • สถานที่ตั้งของ Blue Hotel Fagrilundur: Skolabraut, 801 Reykholt, Iceland

  • การเดินทางไป Blue Hotel Fagrilundur: จากอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ใช้ถนนสาย 36 ลงใต้ แล้วต่อถนนสาย 35 ไปยังเรคโฮลท์ (Reykholt) จากนั้นขับตามป้ายไปยัง Fagrilundur มีที่จอดรถในโรงแรม เปิดแผนที่ Blue Hotel Fagrilundur ใน Google Maps เพื่อดูเส้นทาง

Efstidalur Farm Hotel 

เหมาะสำหรับครอบครัวและสายกินที่อยากสัมผัสประสบการณ์ฟาร์มสเตย์ในไอซ์แลนด์แท้ ๆ

ห้องนอนแสนสบายพร้อมผนังไม้และเตียง ให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนในชนบทที่ Efstidalur Farm Hotel ในไอซ์แลนด์Efstidalur Farm Hotel ผสมผสานการต้อนรับแบบไอซ์แลนด์ดั้งเดิมกับความสะดวกสบายสมัยใหม่ ห้องพักสไตล์รัสติกมองเห็นวิวชนบทโดยรอบ ผู้เข้าพักจะได้ลิ้มลองอาหารสดใหม่จากฟาร์มและไอศกรีมโฮมเมด พร้อมชมวัวนมในฟาร์ม

จองที่พักที่ Efstidalur Farm Hotel เพื่อสัมผัสประสบการณ์ชนบทไอซ์แลนด์แท้ ๆ พร้อมอาหารสดใหม่จากฟาร์ม

Skálholt Cottages

เหมาะสำหรับสายวัฒนธรรมที่ต้องการพักผ่อนใกล้โบสถ์สกัลโฮลท์อันเก่าแก่

กระท่อมสไตล์ชนบทในทุ่งนา เหมาะสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความสะดวกสบายและวัฒนธรรมใกล้กับมหาวิหาร Skálholt และ Golden CircleSkálholt Cottages ให้บริการที่พักบรรยากาศอบอุ่นใกล้โบสถ์สกัลโฮลท์ (Skálholt) อันเก่าแก่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผสมผสานความสะดวกสบายกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในเส้นทางวงกลมทองคำ ทุกหลังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในสไตล์รัสติกแบบไอซ์แลนด์ พร้อมวิวโบสถ์และชนบทโดยรอบที่เงียบสงบ

จองที่พักที่ Skálholt Cottages เพื่อพักผ่อนอย่างสงบและสัมผัสวัฒนธรรมใกล้สถานที่สำคัญของวงกลมทองคำ

  • สถานที่ตั้งของ Skálholt Cottages: Skálholt 806, Iceland

  • การเดินทางไป Skálholt Cottages: 
    จากไกเซอร์ ขับรถประมาณ 20 นาทีไปทางตะวันออกเฉียงใต้ตามถนนสาย 31 มีที่จอดรถในที่พัก เปิดแผนที่ Skálholt Cottages ใน Google Maps เพื่อดูเส้นทางแบบละเอียดได้เช่นกัน

พักค้างคืนในพื้นที่วงกลมทองคำ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ เลือกโรงแรมและที่พักที่ดีที่สุดในเส้นทางวงกลมทองคำ แล้วตื่นเช้ามาพร้อมออกเดินทางสู่ธรรมชาติอันโด่งดังของไอซ์แลนด์ การจองที่พักล่วงหน้าจะช่วยให้คุณได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ไกเซอร์ พระอาทิตย์ตกที่น้ำตก และวางแผนเที่ยวได้อย่างไร้กังวล

ร้านอาหารแนะนำบนเส้นทางวงกลมทองคำ

มะเขือเทศที่เติบโตภายในเรือนกระจกพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ร้านอาหาร Friðheimar ในไอซ์แลนด์วงกลมทองคำไม่ได้มีดีแค่ทิวทัศน์สวยงาม แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางของอาหารท้องถิ่นรสเลิศอีกด้วย ระหว่างทางที่คุณแวะชมน้ำตก น้ำพุร้อน และปล่องภูเขาไฟ จะได้ลิ้มลองอาหารอร่อยหลากหลายเมนู

ตั้งแต่ร้านอาหารฟาร์มทูเทเบิลไปจนถึงคาเฟ่ในเรือนกระจกสุดอบอุ่น ร้านอาหารเหล่านี้จะเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของคุณในเส้นทางวงกลมทองคำได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Fridheimar Restaurant

เหมาะสำหรับสายกิน นักเดินทางสายรักษ์โลก ครอบครัว และผู้ที่มองหาประสบการณ์รับประทานอาหารไม่เหมือนใคร

คู่สามีภรรยาสูงวัยชนแก้วกันในเรือนกระจกอันเขียวชอุ่ม ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันมีชีวิตชีวาของร้าน Fridheimarร้านฟริดเฮมาร์ (Fridheimar) ตั้งอยู่ในเมืองเรคโฮลท์ (Reykholt) มอบประสบการณ์รับประทานอาหารท่ามกลางเรือนกระจกที่เต็มไปด้วยต้นมะเขือเทศสด นักท่องเที่ยวต่างชื่นชมซุปมะเขือเทศสดใหม่ ขนมปังอบร้อน และบรรยากาศที่รายล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจี พนักงานเป็นกันเอง และยังได้ชมการปลูกมะเขือเทศอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

การจองทัวร์วงกลมทองคำที่พาแวะฟาร์มฟริดเฮมาร์เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจอาหารไอซ์แลนด์และวัฒนธรรมท้องถิ่น จองโต๊ะที่ฟริดเฮมาร์ เพื่อสัมผัสรสชาติสดใหม่ในบรรยากาศเรือนกระจกสุดพิเศษ

  • เวลาเปิด-ปิดของ Fridheimar Restaurant:

    • ร้านอาหาร: ทุกวัน 11.30 – 16.00 น.

    • Wine Bar & Bistro: ทุกวัน 12.00 – 22.00 น. (ครัวปิด 20.00 น.)

    • Little Tomato Shop: ทุกวัน 9.00 – 17.00 น.

    • เข้าชมเรือนกระจกและโชว์ม้า กรุณานัดหมายล่วงหน้า

  • สถานที่ตั้งของ Fridheimar Restaurant: Fridheimar, 806 Reykholt, Iceland

  • การเดินทางไป Fridheimar Restaurant: 
    จากไกเซอร์ ขับรถลงใต้ประมาณ 15–20 นาทีตามถนนสาย 35 หากมาจากกุลล์ฟอสส์ ให้ขับต่อมาอีกไม่กี่นาทีตามเส้นทางเดียวกันไปยังเรคโฮลท์ ฟริดเฮมาร์มีป้ายบอกทางชัดเจนและมีที่จอดรถในฟาร์ม สำหรับความสะดวก คุณสามารถดูเส้นทางไป Fridheimar Tomato Farm ใน Google Maps

Efstidalur Farm Restaurant

เหมาะสำหรับคนชอบอาหารสไตล์ฟาร์มทูเทเบิล ครอบครัว และผู้ที่ชอบบรรยากาศอบอุ่น

ภายในร้านอาหาร Efstidalur เคาน์เตอร์ไม้วางชามซีเรียลไว้ เน้นย้ำถึงประสบการณ์การรับประทานอาหารที่อบอุ่นและเป็นกันเองแบบครอบครัวEfstidalur Restaurant ตั้งอยู่ในเลยการ์วาทน์ มอบประสบการณ์รับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร เพราะคุณจะได้ชมวัวขณะรับประทานอาหาร ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องไอศกรีมโฮมเมดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในร้านไอศกรีมที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ ไอศกรีมทำจากวัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่น มีหลายรสชาติให้เลือกและเป็นของหวานที่ต้องลอง

Efstidalur ยังมีเมนูอาหารจานหลักหลากหลาย เช่น เบอร์เกอร์ เมนูทั้งหมดเสิร์ฟท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองที่สนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น

ไม่ต้องจองล่วงหน้าสำหรับกลุ่มต่ำกว่า 10 คน คุณยังสามารถจองที่พักที่ Efstidalur Farm Hotel เพื่อเพลิดเพลินกับอาหารสดใหม่และการต้อนรับแบบไอซ์แลนด์แท้ ๆ

Lindin Restaurant

เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบอาหารทะเล มังสวิรัติ และผู้ที่ต้องการรับประทานอาหารริมทะเลสาบ

Lindin Restaurant ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Laugarvatn มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารอันเงียบสงบเครดิตภาพ: Lindin Restaurant (Facebook)

ร้าน Lindin ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเลยการ์วาทน์ มอบประสบการณ์รับประทานอาหารในบรรยากาศสงบ พร้อมเมนูปลาสด เบอร์เกอร์เนื้อกวางเรนเดียร์ และอาหารมังสวิรัติ นักท่องเที่ยวต่างชื่นชมการบริการที่ใส่ใจและบรรยากาศผ่อนคลาย เหมาะสำหรับมื้ออาหารที่ต้องการความสงบ

ติดต่อร้าน Lindin โดยตรงเพื่อจองโต๊ะและเพลิดเพลินกับมื้ออาหารพร้อมวิวสวย ๆ ได้เลย

  • เวลาเปิด-ปิดของร้านอาหาร Lindin:

    • วันจันทร์–วันเสาร์: 12.00 น. – 16.00 น. & 18.00 น. – 21.00 น.

    • เวลาเปิด-ปิดอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบ Facebook ของร้าน Lindin Restaurant เพื่อข้อมูลล่าสุด

  • สถานที่ตั้งของร้านอาหาร Lindin: Lindarbraut 2, 840 Laugarvatn, Iceland

  • วิธีเดินทางไปยังร้านอาหาร Lindin:
    จากเรคยาวิก ร้านอาหาร Lindin อยู่ห่างออกไปประมาณ 80 กม. โดยใช้เส้นทาง Route 1 และ Route 36 ร้านเป็นจุดแวะที่สะดวกระหว่างธิงเวลลีร์และไกเซอร์ หากต้องการเส้นทางจากตำแหน่งปัจจุบันของคุณ สามารถเปิดดูร้าน Lindin Restaurant ใน Google Maps ได้เลย

Geysir Glima Restaurant

เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการมื้ออาหารอิ่มท้องแบบรวดเร็ว ใกล้กับพื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์ 

ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของทางเข้าโรงไวน์ที่ร้านอาหาร Geysir Glíma ซึ่งมีแสงไฟนวลๆ และบรรยากาศที่น่าดึงดูดเครดิตภาพ: Geysir Glima (Instagram)

ร้านอาหาร Geysir Glíma ตั้งอยู่ในพื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์ ให้บริการอาหารบุฟเฟ่ต์สไตล์ไอซ์แลนด์หลากหลายเมนู เช่น ซุปปลา ซุปแกะ และสลัดผักสด ระบบบริการตนเองช่วยให้คุณรับประทานอาหารได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด

แวะรับประทานอาหารที่ร้าน หรือจองที่พักที่ Hotel Geysir เพื่อเติมพลัง ก่อนออกเดินทางผจญภัยในเส้นทางวงกลมทองคำต่อ

  • เวลาเปิด-ปิดของร้านอาหาร Geysir Glima:

    • ทุกวัน 10.00 น. – 18.00 น.

  • ที่อยู่ของร้านอาหาร Geysir Glima: Geysir, 806 Blaskogabyggd, Iceland 

  • วิธีเดินทางไปยังร้านอาหาร Geysir Glima:
    จากเรคยาวิก ร้านอาหาร Geysir Glíma อยู่ห่างออกไปประมาณ 100 กม. โดยใช้เส้นทาง Route 1 และ Route 35 ตั้งอยู่ในพื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์โดยตรง เป็นจุดแวะที่ง่ายระหว่างทัวร์วงกลมทองคำ สามารถดูเส้นทางไปยังร้าน Geysir Glíma Restaurant ใน Google Maps ได้

Fludasveppir Farmers Bistro

เหมาะสำหรับคนรักเห็ด มังสวิรัติ และผู้ที่มองหาประสบการณ์รับประทานอาหารเมนูที่แปลกใหม่

โต๊ะบุฟเฟ่ต์ที่ Fludasveppir Farmers Bistro จัดแสดงอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายรายการสำหรับลูกค้าเครดิตภาพ: Farmers Bistro (Facebook)

Flúðasveppir Farmers Bistro ตั้งอยู่ในเมืองฟลูดีร์ เชี่ยวชาญเมนูที่ทำจากเห็ดสด ๆ เพาะในท้องถิ่น มีบริการอาหารแบบบริการตนเอง เช่น ซุป แซนด์วิช และสลัด ลูกค้าต่างชื่นชมวัตถุดิบสดใหม่และบรรยากาศชนบทที่อบอุ่น

จองโต๊ะที่ Flúðasveppir Farmers Bistro เพื่อสัมผัสประสบการณ์อาหารจากฟาร์มสู่โต๊ะที่ไม่เหมือนใคร

  • เวลาเปิด-ปิดของ Fludasveppir Farmers Bistro:

    • ทุกวัน 12.00 น. – 17.00 น.

  • ที่อยู่ Fludasveppir Farmers Bistro: Gardastigur, 845 Fludir, ไอซ์แลนด์

  • วิธีเดินทางไปยัง Fludasveppir Farmers Bistro:
    จากเรคยาวิก Flúðasveppir Farmers Bistro อยู่ห่างออกไปประมาณ 120 กม. โดยใช้เส้นทาง Route 1 และ Route 35 ตั้งอยู่ในเมืองฟลูดีร์ เป็นจุดแวะพักที่สะดวกระหว่างไกเซอร์และกุลล์ฟอสส์ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ดูเส้นทางไปยัง Flúðasveppir Farmers Bistro ใน Google Maps ได้เลย

หลังจากเที่ยวน้ำตก น้ำพุร้อน และปล่องภูเขาไฟ ร้านอาหารในเส้นทางวงกลมทองคำเหล่านี้คือจุดแวะพักที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารจากฟาร์มสู่โต๊ะหรือบรรยากาศบิสโทรชนบทแสนอบอุ่นช่วยเติมเต็มประสบการณ์ไอซ์แลนด์แท้ ๆ ให้กับการเดินทางของคุณ วางแผนเส้นทางท่องเที่ยวของคุณให้ลงตัวด้วยการจับคู่ประสบการณ์อาหารกับทริปสุดประทับใจ เลือกดูทัวร์และประสบการณ์บนวงกลมทองคำที่ดีที่สุด เพื่อให้ทริปของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ท่องเที่ยวตามฤดูกาลบนเส้นทางวงกลมทองคำของไอซ์แลนด์

น้ำตก Öxarárfoss ไหลผ่านหน้าผาหินและสีสันฤดูใบไม้ร่วงในอุทยานแห่งชาติ Þingvellir ประเทศไอซ์แลนด์วงกลมทองคำเป็นจุดหมายปลายทางที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยแต่ละฤดูกาลจะเผยเสน่ห์ที่แตกต่างของไอซ์แลนด์ ตั้งแต่แสงแดดไม่รู้จบในฤดูร้อน ไปจนถึงความเงียบสงบขาวโพลนในฤดูหนาว ทุกช่วงเวลามีประสบการณ์ ทิวทัศน์ และสภาพการเดินทางที่ควรคำนึงถึงเมื่อวางแผนมาเยือน

วงกลมทองคำในฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม)

รุ้งสีสันสดใสพาดผ่านท้องฟ้าเหนือน้ำตกกุลฟอสส์ เน้นให้เห็นทิวทัศน์ฤดูร้อนอันเขียวชอุ่มของวงแหวนทองคำของไอซ์แลนด์ฤดูร้อนในไอซ์แลนด์ มาพร้อมกับกลางวันที่ยาวนาน ธรรมชาติสีเขียวขจี และแสงแดดเกือบ 24 ชั่วโมง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเที่ยวชมวงกลมทองคำ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10°C ถึง 15°C เป็นฤดูที่อากาศอบอุ่นและเดินทางสะดวกที่สุด เส้นทางเดินป่า น้ำตก และพื้นที่น้ำพุร้อนเปิดให้เที่ยวอย่างเต็มที่ ดอกไม้ป่าบานสะพรั่งทั่วชนบท

วงกลมทองคำในฤดูหนาว (พฤศจิกายน - มีนาคม)

โบสถ์ Thingvallakirkja ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะข้างแม่น้ำ ล้อมรอบด้วยความงามของฤดูหนาว ธิงเวลลีร์ ประเทศไอซ์แลนด์ฤดูหนาวในไอซ์แลนด์ เปลี่ยนวงกลมทองคำให้กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์สีขาว น้ำตกที่กลายเป็นน้ำแข็งระยิบระยับในแสงอ่อน ๆ ของกลางวัน และกลางคืนที่ยาวนานเหมาะกับการล่าแสงเหนือ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ -10°C ถึง 5°C และมีแสงแดดเพียง 4–7 ชั่วโมงต่อวัน

วงกลมทองคำในฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - ตุลาคม)

สระน้ำใสที่รายล้อมไปด้วยสีสันของฤดูใบไม้ร่วงและหินลาวามอสในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์บนวงกลมทองคำของไอซ์แลนด์ฤดูใบไม้ร่วงในไอซ์แลนด์ เติมแต่งวงกลมทองคำด้วยสีทอง ส้ม และน้ำตาลแดง อากาศเย็นสบายและเริ่มเห็นแสงเหนือในช่วงที่กลางคืนยาวขึ้น อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 0°C ถึง 10°C สลับกับแสงแดด ฝน และน้ำค้างแข็งแรกของปี ทำให้ภูมิประเทศดูสวยงามเป็นพิเศษ

  • ไฮไลท์:

    • เส้นทางเดินป่าที่เงียบสงบ

    • ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ 

    • เริ่มต้นฤดูกาลล่าแสงเหนือ

    • ทัวร์ถ้ำน้ำแข็งที่ธารน้ำแข็งลางโจกุล

  • เคล็ดลับ:
    ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่ประหยัดงบที่สุดในการเที่ยวไอซ์แลนด์ ทั้งค่าเช่ารถและที่พักถูกกว่าฤดูร้อน นักท่องเที่ยวน้อย เดินทางสบายขึ้น แต่กลางวันจะสั้นลง ควรเตรียมเสื้อผ้าหลายชั้นและกันน้ำเพื่อรับมือกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง

วงกลมทองคำในฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน - พฤษภาคม)

ทุ่งหญ้าอันมีชีวิตชีวาในอุทยานแห่งชาติ Thingvellir ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งมีพืชพันธุ์แตกใบอ่อนขณะที่ประเทศกำลังเปลี่ยนจากฤดูหนาวมาเป็นสีเขียวขจีฤดูใบไม้ผลิในไอซ์แลนด์ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูหนาวสู่ความเขียวขจี เหมาะกับการเที่ยววงกลมทองคำ หิมะที่ละลายเติมน้ำให้กับน้ำตก และนกอพยพกลับสู่พื้นที่ชุ่มน้ำ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 0°C ถึง 10°C และกลางวันยาวขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมาะกับการเที่ยวชมโดยไม่ต้องเจอคนเยอะเหมือนฤดูร้อน

  • ไฮไลท์:

  • เคล็ดลับ:
    เส้นทางบนภูเขาบางแห่งอาจยังเปียกหรือมีน้ำแข็ง แต่ถนนส่วนใหญ่เดินทางได้สะดวก ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่สมดุลทั้งเรื่องราคา แสงแดด และจำนวนนักท่องเที่ยว

แต่ละฤดูกาลเติมสีสันให้วงกลมทองคำแตกต่างกันไป ตั้งแต่ทุ่งหญ้าสีสดในฤดูร้อน ไปจนถึงท้องฟ้าสีเงินในฤดูหนาว ไม่ว่าคุณจะชอบผจญภัย ความสงบ หรือทั้งสองอย่าง การวางแผนเที่ยวตามฤดูกาลจะทำให้คุณได้ประสบการณ์ที่น่าจดจำ เลือกดู ประสบการณ์ที่ดีที่สุดในวงกลมทองคำตลอดทั้งปี เพื่อหาช่วงเวลาที่เหมาะกับคุณที่สุดในการสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวไอซ์แลนด์สุดคลาสสิกนี้

สัมผัสไอซ์แลนด์กับทัวร์วงกลมทองคำ 

แสงออโรร่าส่ายไปมาเหนือท้องถนน ยิ่งทำให้ไอซ์แลนด์งดงามเดินทางง่าย ถ่ายรูปสวยทุกมุม และเต็มไปด้วยธรรมชาติอัศจรรย์ วงกลมทองคำคือจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบของการเที่ยวไอซ์แลนด์ และเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมใกล้เรคยาวิก เลือกได้ทั้งทัวร์วันเดียว ทัวร์กลุ่มเล็ก หรือขับรถเที่ยวเองตามสไตล์คุณ จองทัวร์วงกลมทองคำของคุณวันนี้ แล้วเปลี่ยนทริปไอซ์แลนด์ให้เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม!

Link to appstore phone
ติดตั้งแอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์

ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว

สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด