คู่มือท่องเที่ยว สตุดลากิล แคนยอน

ภาพจาก Pierre-Axel Cotteret

สตุดลากิล แคนยอน (Studlagil Canyon) อยู่ทางตะวันออกของไอซ์แลนด์ในหุบเขาธารน้ำแข็งที่เรียกว่าโจกุลดาลูร์ ด้วยจำนวนเสาหินบะซอลต์ที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์และแม่น้ำน้ำแข็งสีฟ้าเขียวที่น่าทึ่ง สตุดลากิลจึงเป็นหนึ่งในอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของประเทศไอซ์แลนด์

เลือกดูทัวร์ฟยอร์ดตะวันออกที่หลากหลาย

ประวัติศาสตร์

สตุดลากิล แคนยอน ถูกสร้างขึ้นเมื่อแม่น้ำที่ทรงพลังมากไหลจากพื้นที่ไฮแลนด์ไปสู่ทางเหนือของเกาะ

พลังของแม่น้ำน้ำแข็งแห่งนี้ซึ่งมีความยาว 90 ไมล์ (150 กิโลเมตร) และระดับน้ำมีปริมาณมากจนถือว่าเป็นพื้นที่อันตราย ส่งผลให้พื้นที่รอบๆ หุบเขาเป็นที่อยู่อาศัยของแกะเท่านั้นมาเป็นเวลานาน

มีการเปิดตัวโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Karahnjukavirkjun ในบริเวณใกล้เคียงในปี 2009 ภูมิทัศน์ของพื้นที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และ Hálslón ถูกสร้างขึ้นในไอซ์แลนด์ตะวันออกเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่

เมื่อระดับน้ำลดลง และโรงไฟฟ้าพลังน้ำได้รับพลังจากน้ำ แม่น้ำก็เริ่มรุนแรงน้อยลง นี่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในขณะนั้นเพื่อจัดหาพลังงานไฟฟ้าให้กับโรงงานอะลูมิเนียมในเรย์ดาร์ฟยอร์ดูร์ 

ตอนนี้น้ำสงบลงและระดับน้ำลดลง ความงามตามธรรมชาตินี้จึงได้รับความสนใจและความชื่นชมจากนักเดินทางและคนในพื้นที่มากขึ้น

ภาพจาก Thomas Bennie

สิ่งที่จะได้เห็น

เสาหินบะซอลต์ที่คุณสามารถมองเห็นได้ที่สตุดลากิลเป็นเสาประเภทเดียวกับที่หาดทรายสีดำเรย์นิสฟยาราอันโด่งดังใกล้กับหมู่บ้านวิก แต่สตุดลากิลได้ชื่อว่ามีเสาหินบะซอลต์จำนวนมากที่สุดในไอซ์แลนด์

มีน้ำตกที่สวยงามชื่อสตุดลาฟอสส์ (ซึ่งแปลว่าน้ำตกเสาหินบะซอลต์) ในโจกุลดาลูร์ตอนบน น้ำตกที่สวยงามแห่งนี้คุ้มค่าแก่การเยี่ยมชมหากคุณอยู่ในพื้นที่และมีเวลาสำรวจเพิ่มเติม

ภูมิประเทศรอบๆ หุบเขายังคงค่อนข้างบริสุทธิ์ และเช่นเดียวกับประเทศไอซ์แลนด์ส่วนใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ยังไม่มีในสถานที่ ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมของตนเองและเดินทางด้วยความเสี่ยงของตนเอง ภูมิประเทศเป็นพื้นดินหลวมๆ ดังนั้นจึงควรสวมรองเท้าเดินป่า ระวังนกที่ทำรัง โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เช่น ห่านตีนสีชมพูจะวางไข่ตามช่องเขาในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ดังนั้นช่วงนี้ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

ภาพจาก Serafin Lichtenhahn

การรวมการไปเยือนสตุดลากิลไว้ในทริปขับรถเที่ยวในไอซ์แลนด์นั้นคุ้มค่าหากคุณมีเวลามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก แม้ว่าคุณอาจต้องการเยี่ยมชมสถานที่ยอดนิยมบางแห่งของประเทศไอซ์แลนด์ เช่น สปาความร้อนใต้พิภพบลูลากูน น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ที่สวยงาม และทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนสีฟ้าใสอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ก็คุ้มค่าที่จะสำรวจไอซ์แลนด์นอกเส้นทางที่ไม่มีใครเคยรู้จักเช่นกัน

คุณสามารถใช้เวลาสองถึงสามชั่วโมงที่สตุดลากิลและพื้นที่โดยรอบได้อย่างง่ายดาย ชื่นชมความงามของเกทน้ำแข็งและประหลาดใจกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินี้

สีของน้ำมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงกรกฎาคม น้ำจะมีสีฟ้าเขียวสวยงาม แต่เมื่อน้ำที่ละลายจากธารน้ำแข็งใกล้เคียงเพิ่มขึ้นไปจนถึงปลายฤดูร้อน สีจะเปลี่ยนเป็นสีเทาอ่อน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแม่น้ำน้ำแข็ง

ในฤดูหนาวคุณอาจมองเห็นแสงเหนือได้จากพื้นที่ห่างไกลเช่นนี้ และในฤดูร้อน คุณสามารถใช้ประโยชน์จากพระอาทิตย์เที่ยงคืนและไปที่นั่นในตอนเย็นที่ยังสว่างอยู่

วิธีเดินทาง

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้สตุดลากิลยังคงไม่เป็นที่รู้จักมาเป็นเวลานานก็เนื่องมาจากการเดินทางไปที่นั่นทำได้ยาก แทบไม่มีป้ายหรือเครื่องหมายสำหรับหุบเขาหินบะซอลต์ที่สวยงามแห่งนี้บนเส้นทาง

วิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางคือมุ่งหน้าไปทางเหนือบนถนนวงแหวน (เส้นทาง 1) จากเอกิลสตาดีร์ เมืองเล็กๆ ทางตะวันออกของไอซ์แลนด์ มุ่งหน้าไปยังเกสต์เฮาส์ Skjoldolfsstadir ขับเลยมาจนถึงทางแยกเข้าถนนหมายเลข 923

หลังจากการเดินทางระยะสั้นๆ บนถนนหมายเลข 923 คุณจะเริ่มเห็นทางเปิดสู่ส่วนล่างของโจกุลดาลูร์ และทางแยกไปโจกุลดาลสเวกูร์ ที่นั่นคุณจะได้เห็นน้ำตกหินบะซอลต์ที่สวยงามที่เรียกว่าสตุดลาฟอสส์ หากคุณมีรถขับเคลื่อนสี่ล้อ คุณอาจจะขับต่อไปตามโจกุลดาลสเวกูร์ได้ แต่เราขอแนะนำให้จอดรถของคุณในลานจอดรถแล้วเดินไปตามทางที่เหลือ ด้วยวิธีนี้คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีสะพานสีขาวที่คุณสามารถข้ามได้ซึ่งเฉพาะคนเดินถนนเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้

บริเวณนี้เหมาะอย่างยิ่งหากคุณชอบเดินเล่นในธรรมชาติ และมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงามมากมายรอบหุบเขา จริงๆ แล้ว การเดินไปยังหุบเขาหินบะซอลต์นั้นใช้เวลาประมาณ 4 กิโลเมตร ดังนั้น คุณจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเดินไปยังเกทน้ำแข็งที่สวยงามของสตุดลาแบร์ก

หากคุณวางแผนที่จะเดินป่าในพื้นที่นี้ อย่าลืมเข้าไปลงบันทึกแผนการเดินทางของคุณเอาไว้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะปลอดภัยในขณะที่อยู่ในไอซ์แลนด์