เที่ยวชมทัศนียภาพในเมืองเรคยาวิก
- วิธีชมรอบๆเมืองเรคยาวิก
- สถานที่ประวัติศาสตร์ของเมืองเรคยาวิก
- บ้านเฮิปดิร์
- อัลธิงกิ (Alþingi) และโบสถ์
- สำนักนายกรัฐมนตรีและเมนน์ตาสโกลินน์ อิ เรคยาวิก
- ห้องแถวปรักหักพัง
- เลยการ์แวกูร์
- สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในเมืองเรคยาวิก
- โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา
- โถงคอนเสิร์ตฮาร์ปา
- โรงละครแห่งชาติ
- สถานที่ทางศิลปะของเมืองเรคยาวิก
- การเดินทางของพระอาทิตย์
- สวนประติมากรรมไอนาร์ จอห์นสัน
- ประติมากรรมอื่นๆ
- ศิลปะตามท้องถนนเมืองเรคยาวิก
- สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในเมืองเรคยาวิก
- ประภาคารโกรททา
- อาคารพาร์ลานและเอิสคูฮลีด
- สวนสาธารณะเลยการ์ดาลูร์
สถานที่โดดเด่นที่สุดของเมืองเรคยาวิก (Reykjavik) คืออะไร เราจะสามารถมองหาศิลปะ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่ดีที่สุดของเมืองนี้ได้ที่ไหน สามารถอ่านข้อมูลล่วงหน้าที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในและรอบๆเมืองหลวงที่สดใสของประเทศไอซ์แลนด์ได้จากที่นี่.
ประเทศไอซ์แลนด์เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางเนื่องจากความเป็นธรรมชาติของประเทศนี้ เช่น แสงเหนือ ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ น้ำตกที่น่าตื่นตา ที่ราบสูงที่งดงามและแน่นอนการระเบิดของภูเขาไฟจำนวนมาก บ่อยครั้งที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะคิดว่ามีอะไรทำในเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) บ้าง.
เมืองหลวงที่ไม่ว่าจะอย่างไรก็จะเต็มไปด้วยเรื่องประหลาดใจและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่ได้ดึงดูดผู้คนที่มีความสนใจที่หลากหลาย.
ผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จะต้องรู้สึกประทับใจกับตึกเก่าแก่ของเมืองนี้ รวมถึงเรื่องราวของชาวไวกิ้งและเรื่องราวในอดีตช่วงยุดกลาง วัฒนธรรมที่น่าสนใจ เช่น โถงคอนเสิร์ตฮาร์ปา (Harpa) และโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) ผู้ที่มีความหลงไหลในทัศนศิลป์จะได้ชมรูปปั้นที่น่าประทับใจมากมาย ทั้งประติมากรรมและศิลปะตามท้องถนนทั่วเมืองเรคยาวิก และผู้ที่ชื่นชอบในธรรมชาติก็จะได้ชมทิวทัศน์ที่งดงามมากมายโดยไม่ต้องออกจากเมือง.
ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางของทัวร์ชมทัศนียภาพเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามคุณสามารถใช้เวลาทั้งวันในการสำรวจเมืองเรคยาวิกและเพลิดเพลินไปกับเมืองนี้ ที่นี่มีเสน่ห์ที่เกิดจากความแตกต่างมากมายอย่างน่ามหัศจรรย์.
บ้านที่มีอายุเก่าแก่และหลังคาดีบุกที่มีสีสันสดใสถูกล้อมรอบด้วยโครงสร้างอาคารแบบทันสมัยและมีความซับซ้อน แคบ ถนนเป็นเนินและเต็มไปด้วยตึกที่ถูกคั่นด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดกว้างและเงียบสงบซึ่งที่นี่เป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถพักผ่อนอย่างสงบและมีระยะทางไม่ไกลจากตัวเมืองที่เต็มไปด้วยความเจริญ.
ในเมืองหลวงแห่งนี้มีทั้งสองบรรยากาศทั้งชุมชนเมืองและเมืองที่อยู่ห่างออกไป นอกจากเป็นพื้นที่ที่มีสเน่ห์ตามธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยความหลากหลายของแกลลอรี่ พิพิธภัณฑ์ ร้านขายเสื้อผ้าและบาร์ รวมไปถึงการแสดงสดและเทศกาลประจำเมือง เรคยาวิก (Reykjavík) ยังได้รับการยอมรับให้เป็นเป็นหนึ่งในเมืองหลวงทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของโลก.
- ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ: ประวัติศาสตร์ของเมืองเรคยาวิก
วิธีชมรอบๆเมืองเรคยาวิก
มีวิธีที่หลากหลายเพื่อที่จะเพลิดเพลินกับการชมเมืองเรคยาวิค และตัวเลือกก็ได้มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมด้วยการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน คาดว่ามีประชากรที่มาท่องเที่ยวถึงกว่าสองล้านคนในเมืองหลวงปี 2017 และมีการจัดทัวร์เพื่อให้เหมาะกับรสนิยมที่แตกต่าง หลากหลายเช่นกัน.
ภาพถ่ายจาก Reykjavík Walking Tour | Explore Iceland's Capital with a Local Guide
ไกด์ทัวร์เดินชมเมืองสามารถไปได้ตลอดทั้งปี ที่จะนำคุณไปยังสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นที่ได้ถูกเลือกไว้ ส่วนใหญ่จะไม่มีค่าใช้จ่าย เว้นแต่อาจมีค่าใช้จ่ายหากคุณต้องการทัวร์ส่วนตัว และเลือกที่เพิ่มกิจกรรมทางวัฒนธรรมเข้าไปด้วย เช่น การชิมเบียร์.
จะมีการขึ้นและลงรถประจำทางที่จะทำให้คุณสามารถไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นในสถานที่ที่ต้องใช้เวลาในการเดินทางนาน เช่นเดียวกับรถมินิบัสนำเที่ยวและทัวร์รถส่วนตัว และทัวร์ขี่รถจักรยานสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย.
แต่หากตัวเลือกเหล่านี้ไม่ดึงดูดคุณพอ ยังมีทัวร์ "การบินชมทิวทัศน์" ที่จะนำคุณไปชมมุมมองที่น่าสนใจของอาคารต่างๆที่โดดเด่นที่สุดของเมืองและภูมิทัศน์โดยรอบ.
การเดินทางที่น่าตื่นตานี้จะต้องไปโดยเฮลิคอปเตอร์ หรือ เครื่องบิน และการเดินทางแบบนี้จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้น ทัวร์นี้จะออกเดินทางจากสนามบินในประเทศของเมืองเรคยาวิกได้ตลอดทั้งปีหากสภาพอากาศเอื้ออำนวย.
ภาพถ่ายจาก Reykjavík Summit Helicopter Tour
ตัวเลือกสุดท้ายจะเป็นการชมเมืองแบบง่ายๆด้วยตัวคุณเอง เลือกให้เหมาะกับความสนใจ และรสนิยมของคุณไม่ว่าจะเป็นทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศิลปะหรือธรรมชาติ.
สถานที่ประวัติศาสตร์ของเมืองเรคยาวิก
จากหนังสือเกี่ยวกับการตั้งถิ่งฐาน (Book of Settlements) เมืองเรคยาวิกถูกใช้เป็นที่อยู่อาศัยตั้งแต่ปีคริสตศักราชที่ 874 ที่นี่จึงมีอดีตที่น่าหลงไหลเป็นการเพิ่มสีสันให้กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ต่างๆ ที่ตั้งของอาคารที่ได้รับอิทธิพลจากช่วงปลายของสงครามเย็น รัฐสภาที่มีการดำเนินการมานานที่สุดในโลก และซากปรักหักพังจากชาวไวกิ้งตั้งแต่ทศวรรษที่ 10 เมืองเรคยาวิกเต็มไปด้วยสถานที่ที่สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะต้องเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนที่หลงไหลในจิตวิญญาณของประวัติศาสตร์.
บ้านเฮิปดิร์
เครดิตรูปภาพโดย : Wikimedia, ครีเอทีฟคอมมอนส์ รูปภาพโดย Polarlys
บ้านเฮิปดิร์ (Höfði House) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญระดับนานาชาติในไอซ์แลนด์ ที่นี่เดิมทีเป็นสถานกงสุลฝรั่งเศส ในปี 1986 ทีนี่มีบทบาทที่ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าลักษณะที่คุณได้เห็น การประชุมสุดยอดเรคยาวิกได้ถูกจัดขึ้นที่นี่ เป็นสถานที่ที่ประธานาธิบดีเรย์แกน (Reagan) และเลขากอร์บาชอฟ (Gorbachev) ได้พบกันเพื่อหารือเรื่องการป้องกันขีปนาวุธระหว่างประเทศระหว่างช่วงสงครามเย็น.
ในขณะที่การเจรจาล้มเหลวพวกเขาแสดงให้เห็นถึงการเรียกร้องสัมปทานที่ทำให้อีกฝ่ายพอใจ และดังนั้นการประชุมสุดยอดในบ้านเฮิฟดิร์ มีความสำคัญในการผ่านสนธิสัญญากองกำลังนิวเคลียร์ระดับกลางเมื่อปี 1987 ทำให้หลายคนคิดว่าการประชุมครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดของสงครามเย็น.
อัลธิงกิ (Alþingi) และโบสถ์
เครดิตรูปถ่าย: Wikimedia, ครีเอทีฟคอมมอนส์, รูปภาพโดย Zinneke
ตรงบริเวณใจกลางเมือง คุณสามารถพบกับรัฐสภาของชาวไอซ์แลนด์ (อัลธิงกิ) และโบสถ์แห่งเมืองเรคยาวิกที่อยู่บริเวณใกล้ๆ รัฐสภาได้ถูกตั้งขึ้นที่นี่ในปี 1849 และเป็นศูนย์รวมอำนาจในประเทศไอซ์แลนด์ในเมืองเรคยาวิกหลังจากที่ถูกตั้งขึ้นในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์มากกว่า 7 ทศวรรษ.
อัลธิงกิถือเป็นรัฐสภาที่มีการดำเนินงานที่ยาวนานที่สุดในโลก และคุณมักจะเห็นกองกำลังของประชาธิปไตยยังทำงานอยู่ที่นี่ การประท้วงส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นที่นี่ตรงด้านนนอกประตูหน้า และทำให้เกิดเป็นข่าวออกไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตอบสนองต่อความผิดพลาดทางเศรษฐกิจและสนธิสัญญาปานามา.
เครดิตรูปถ่ายโดย: Wikimedia, ครีเอทีฟคอมมอนส์, รูปถ่ายโดย JuTa
โบสถ์แห่งเมืองเรคยาวิกอาจจะถูกมองข้าม เพราะหลายคนมักจะนึกถึงเพียงโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) ที่เป็นโบสถ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมือง อย่างไรก็ตามโบสถ์ที่มีรูปร่างแปลกตาแห่งนี้ถือเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองเรคยาวิก ที่ได้รับการยกย่องเมื่อปี 1796 โบสถ์ในแบบลูเธอแรน (Lutheran) ที่บ่งบอกเรื่องราวทางศาสนาของประเทศไอซ์แลนด์.
สำนักนายกรัฐมนตรีและเมนน์ตาสโกลินน์ อิ เรคยาวิก
รูปถ่ายโดย Matito
สคยอนาร์เราฮูซิด (Stjórnarráðshúsið) , บนไลคยาทอร์ก (Lækjartorg) ที่อยู่ใกล้ๆกับบริเวณใจกลางเมือง ที่นี่เป็นที่ทำการนายกรัฐมนตรีและถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 1904 ในใจกลางเมืองโดยที่ไม่มีรั้วกั้นหรือการรักษาความปลอดภัย สถานที่นี้บ่งบอกถึงความสงบ และปลอดภัยของประเทศไอซ์แลนด์ ( หรือ ในตอนที่เต็มไปด้วยกระดาษทิชชู่และรอยขูดขีด ประชาชนไม่พอใจต่อผู้ที่รับผิดชอบ).
สำนักงานตั้งอยู่บนถนนแห่งเดียวกับโรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ที่ชื่อว่าเมนทาสโกลินน์ อิ เรคยาวิก (Menntaskólinn í Reykjavík) โรงเรียนนี้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1056 โดยการปกครองของบาทหลวงแห่งสกาลล์คอร์ค (Skálholt) และได้ย้ายมายังเมืองเรคยาวิกในปี 1786 และตั้งอยู่บนพื้นที่ปัจจุบันในปี 1846.
ห้องแถวปรักหักพัง
รูปถ่ายจาก The Settlement Exhibition
แม้ว่าในรายชื่อเหล่านี้เป็นการกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวและไม่ได้รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ แต่จะต้องยอมรับว่านิทรรศการการตั้งถิ่งฐานของเมืองเรคยาวิกจะต้องได้รับการยกเว้น เพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มีความหลงไหลในประวัติศาสตร์ ที่นี่คุณจะได้เห็นหลักฐานโบราณวัตถุในทางโบราณคดีที่ถูกตั้งขึ้นเก่าแก่ที่สุดที่สามารถพบได้ในเมืองเรคยาวิก ในบางชิ้นสามารถนับถอยหลังไปได้ถึงศตวรรษที่ 9 และที่นี่ยังมีห้องโถงที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีและส่วนที่เป็นผนังจากห้องแถวตั้งแต่ศตวรรษที่ 10.
นิทรรศการผู้ก่อตั้งมีค่าธรรมเนียม 1600 ISK สำหรับผู้ใหญ่ในการเข้าชมและไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปีและมากกว่า 67 ปี ที่นี่ตั้งอยู่บนถนนอาดาลสตราติ (Aðalstræti) ถนนที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองเรคยาวิกที่ถูกสร้างในช่วงกลางศตวรรษที่ 18.
- หาข้อมูลเกี่ยวกับ สุดยอดพิพิธภัณฑ์ยอดฮิตในเมืองเรคยาวิก
เลยการ์แวกูร์
รูปภาพจาก Happy Hour | Reykjavík's cheapest beers
เลยการแวกูร์ (Laugavegur)เป็นถนนสายช้อปปิ้งหลักๆ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเสื้อผ้า ร้านอาหาร และบาร์ และที่นี่ยังถือเป็นถนนสายเก่าแก่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ชื่อของถนนสายนี้แปลได้ว่า "ถนนแห่งการซักล้าง" หรือ "ถนนแห่งน้ำ" เพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่คนในท้องถิ่นส่วนใหญ่นำเสื้อผ้าของพวกเขามาทำความสะอาดในน้ำพุร้อนในเลยการ์ดาลูร์ (Laugardalur).
ถนนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1885 และมีอาคารประวัติศาสตร์จำนวนมากบนถนนสายนี้ เช่น ร้าอาหารที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองเรคยาวิกที่ชื่อว่า ปริกิด (Prikið) และเป็นบ้านเกิดของนักเขียนรางวัลโนเบลที่ชื่อว่า ฮาลดอร์ แลกซ์เนสส์ (Halldor Laxness).
- ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สุดยอดชาวไอซ์แลนด์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์
สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในเมืองเรคยาวิก
ในช่วงทศวรรษที่ 20 และ 21 วัฒนธรรมของเมืองเรคยาวิกได้มีการแพร่หลายขึ้น ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นี่ไม่ค่อยมีสถานที่ที่สำคัญมากนัก ไม่ว่าจะเป็นอาคารหรือสถานที่สวยงามที่ผู้คนสามารถเพลิดเพลินกับศิลปะและรวมตัวกัน แต่หลังจากการเกิดสงครามที่นี่ได้มีการมุ่งเน้นไปในเรื่องของการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามเมืองเรคยาวิกได้พัฒนาอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อจนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเก้าเมืองแห่งวัฒนธรรมของยุโรปในปี 2000.
โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา
โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) ถือได้ว่าเป็นอาคารที่โดดเด่นที่สุดในเมืองเรคยาวิก ด้วยความสูง 74.5 เมตรทำให้ที่นี่ถือเป็นโครงสร้างที่สูงที่สุดในประเทศ และตรงตำแหน่งที่สูงสุดของอาคารก็ได้บ่งบอกถึงความสูงได้มากขึ้น โบสถ์นิกายลูเธอรันแห่งนี้ได้ถูกแต่งตั้งขึ้นในปี 1986 หลังจากการก่อสร้างถึง 41 ปีและได้ถูกตั้งชื่อตามนักกวีและนักบวชชาวไอซ์แลนด์ ที่ชื่อว่าฮัลล์กรีมมูร์ เพทเทอร์สัน (Hallgrímur Pétursson).
ความงามของคริสตจักรนี้ส่วนใหญ่มาจากแรงบันดาลใจในสุนทรียภาพ ความคลาสสิกในแบบของประเทศไอซ์แลนด์เกิดจากอิทธิพลหลักสามประการ คือความเรียบง่ายของการออกแบบโปรเตสแตนต์ คอลัมน์หินบะซอลต์หกเหลี่ยมที่สามารถพบได้ทั่วประเทศ (ที่พบเห็นได้ง่ายที่สุดที่น้ำตกสวาร์ติฟอสส์) และรูปร่างของค้อนธอร์ (Þór) เทพเจ้าสายฟ้าที่เก่าแก่ของชาวนอสส์.
โบสถ์แห่งนี้ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม ด้วยห้องโถงที่กว้าง ออร์แกนขนาดใหญ่และศิลปะที่มีรสนิยมทำให้ที่นี่มีความงดงาม หอคอยแห่งนี้สามารถปีนขึ้นไปด้านบนได้เช่นกัน เพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างน่าเหลือเชื่อในสีสันหลังคาดีบุกของเมืองเรคยาวิกและธรรมชาติโดยรอบ ในราคา 900 ISK สำหรับผู้ใหญ่ และ 100 ISK สำหรับเด็กที่มีอายุ 7 ถึง 14 ปี.
โถงคอนเสิร์ตฮาร์ปา
ที่นี่ได้เปิดตัวขึ้นตั้งแต่ปี 2011 ฮาร์ปา (Harpa) กลายเป็นเหมือนคู่แข่งของโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยาที่จะได้เป็นอาคารที่โดดเด่นที่สุดในเมืองหลวง ด้วยความสำเร็จของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ กับซุ้มกระจกที่ประกอบเป็นหน้าต่างในรูปทรงที่แตกต่างกันทั้งหมด ที่นี่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับพื้นที่หินบะซอลต์ตามธรรมชาติของไอซ์แลนด์ เสียงสะท้อนด้านในถือเป็นเสียงที่ไพเราะที่สุดในโลก ทำให้เกิดการยกระดับเสียงของวงซิมโฟนี ออร์เคสตร้า (Symphony Orchestra) และ โอเปราแห่งชาติที่ถูกจัดขึ้นที่นี่ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ.
ที่นี่ใช้เวลาถึง 4 ปีในการก่อสร้าง ใช้งบประมาณของทั้งปี 2007/8 จริงๆแล้วมีความกลัวว่าการก่อสร้างอาจจะต้องหยุดลงเนื่องจากความต้องการในการประหยัดค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ แต่ได้มีการระดมทุนกลับเข้ามา ตอนนี้ที่นี่ได้ถูกเลือกให้เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตจากศิลปินต่างประเทศ การแสดงที่หลากหลาย เช่น บัลเล่ต์ ตลกและเทศกาลที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น แอร์เวฟ (Airwaves) และ โซนาร์ (Sónar).
- สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับ เทศกาลยอดฮิตในประเทศไอซ์แลนด์ ได้ที่นี่
โรงละครแห่งชาติ
เ
เครดิตภาพถ่ายโดย : the National Theatre, www.leikhusid.is
โรงละครแห่งชาติของประเทศไอซ์แลนด์เปิดขึ้นตั้งแต่ปี 1950 และมีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นสถาปัตยกรรมที่แปลกตาและการแสดงที่น่าตื่นเต้น ในขณะที่การแสดงทั้งเก่าและใหม่ส่วนใหญ่เป็นภาษาไอซ์แลนด์ แต่ก็ยังมีการจัดเป็นภาษาอังกฤษด้วย เช่น การแสดงหุ่นละคร และการแสดงสำหรับเด็ก นักแสดงจำนวนมากได้รับรางวัลทั้งระดับประเทศและระดับชาติ และได้เปิดการแสดงไปทั่วโลก
- สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับ กิจกรรมยอดฮิตในเมืองเรคยาวิก ได้ที่นี่
สถานที่ทางศิลปะของเมืองเรคยาวิก
งานศิลปะส่วนใหญ่มักจะพบเห็นได้รอบๆเมืองเรคยาวิก ตั้งแต่รูปปั้นทางประวัติศาสตร์ไปจนถึงจิตรกรรมฝาผนังที่อยู่บนผนังอาคาร เมืองเรคยาวิกถือเป็นเมืองแห่งงานฝีมือและศิลปะซึ่งมักจะได้รับค่าจ้างสำหรับทักษะและการทำงานอย่างหนักของผู้คน ผู้ที่มีความสามารถพิเศษจะได้รับความสนใจจากงานที่จัดแสดงขึ้น ในขณะที่นักท่องเที่ยวเที่ยวชมไปตามสถานที่ต่างๆไปทั่วทั้งเมือง.
การเดินทางของพระอาทิตย์
การเดินทางของพระอาทิตย์หันหน้าออกมาจากเมืองเรคยาวิกมุ่งหน้าจากอ่าวฟาซาโฟลอิ (Faxaflói) ไปยังภูเขาเอสจา (Esja) เป็นแรงบันดาลใจของ โจน กันนาร์ (Jón Gunnar) ผู้ที่ต้องการให้เป็นตัวแทนสัญลักษณ์การเย้ายวนของการผจญภัย การตัดสินใจที่จะออกไปค้นหา ความต้องการที่จะเดินหน้าต่อไปและเป็นสะพานเชื่อมระหว่างขณะหลับและขณะตื่น ความต้องการที่จะอธิบายถึง "การอธิฐานต่อพระอาทิตย์" และที่เป็นรูปปั้นที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองเรคยาวิก.
การเดินทางของพระอาทิตย์เริ่มต้นด้วยการออกแบบเพื่อเขาร่วมการแข่งขันในปี 1986 เพื่อให้เป็นเหมือนอนุสรณ์การฉลองการครบรอบ 200 ปีของเมืองเรคยาวิกอย่างเป็นทางการ และได้รับการประกาศใน"วันเกิด"ของเมืองหลวงแห่งนี้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ปี 2000 แต่น่าเศร้าที่กันนาร์ ไม่ได้มีชีวิตอยู่จนถึงการประกาศอย่างยิ่งใหญ่นี้ แต่ด้วยสัญลักษณ์และข้อความที่เขาได้ทิ้งไว้ให้กับเมืองนี้ได้แสดงให้เห็นว่า เขาจะไม่มีวันถูกลืมเลือนไปจากเมืองนี้อย่างแน่นอน.
สวนประติมากรรมไอนาร์ จอห์นสัน
ไอนาร์ จอห์นสัน (Einar Jónsson) เป็นหนึ่งในศิลปินที่มีความสามารถและโดดเด่นที่สุดของไอซ์แลนด์ เขาเกิดในปี 1874 เขาใช้เวลาถึง 20 ปีในต่างประเทศเพื่อที่จะเรียนรู้เรื่องประติมากรรม รูปแบบศิลปะที่แทบจะไม่มีใครรู้จักในไอซ์แลนด์ในเวลานั้น ได้ถูกวิเคราะห์มาจากการคัดลอกมาจากศิลปินคนอื่นๆ และความหลงใหลเกี่ยวกับการแกะสลักแนวทางงานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์ เขาได้สร้างชื่อในระดับสากลว่าอัลธิงกิ (Alþingi) ได้เชิญให้เขาเดินทางกลับบ้านเพื่อทำงานให้แก่ประเทศชาติ พร้อมเสนอสตูดิโอและบ้านให้เขา.
จนกระทั่งปี 1954 เขาได้สร้างงานศิลปะที่น่าตื่นตา ที่ถูกสร้างจากปูนพลาสเตอร์และใช้เวลาในการสร้างกว่าทศวรรษ ผลงานของเขาส่วนใหญ่ถูกวางไว้ที่สวนประติมากรรมไอนาร์ จอห์นสัน ตรงข้างโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) สวนแห่งนี้สามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และการเข้าชมที่นั้นแน่นอนว่าจะทำให้เกิดความหลงไหลและความรู้ในจิตวิญญาณในศิลปะงานฝีมือที่น่าเหลือเชื่อ พิพิธภัณฑ์ไอนาร์ จอห์นสันก็ตั้งอยู่ที่นั่นเช่นกันโดยมีค่าเข้าชม 1000 ISK สำหรับผู้ใหญ่ 500 ISK สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 67 ปี และฟรีสำหรับเด็ก.
ประติมากรรมอื่นๆ
นับตั้งแต่สมัยไอนาร์ จอห์นสัน ประติมากรรมได้กลายเป็นรูปแบบศิลปะที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไอซ์แลนด์ เขาได้สร้างผลงานที่โดดเด่นไปทั่วเมือง เช่น เขาได้ปั้นรูปปั้นตรงด้านนอกของสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยพระราชาแดนิช คริสเตียนที่ 9 ที่ถือรัฐธรรมนูญฉบับแรกให้กับประเทศไอซ์แลนด์ และฮานเนส ฮาฟสเตน (Hannes Hafstein) นายกรัฐมนตรีคนแรกหลังจากประเทศไอซ์แลนด์ได้รับกฏหมายบ้านเมือง เขายังได้สร้างรูปปั้นผู้ค้นพบของเมืองเรคยาวิกที่ชื่อว่า อินกอร์ลฟูร์ อาร์นาร์สัน (Ingólfur Arnarson) ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาอาร์นาร์ฮอลล์ที่กำลังมองลงมาด้านล่าง.
ยังมีศิลปินคนอื่นจำนวนมากที่มีส่วนทำให้ประติมากรรมของบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง อย่างเช่นตรงหน้าโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยาได้มีรูปปั้นของ เลิฟ เอริคสัน (Leif Eriksson) ชาวยุโรปคนแรกที่เดินทางมายังอเมริกา ซึ่งเป็นของขวัญจากประเทศสหรัฐฯในปี 1930 หรือ รูปปั้นของนักกวี โธมัส กัดมุนส์สัน (Tómas Guðmundsson) ที่นั่งอยู่บนม้านั่งตรงใจกลางเมืองซึ่งถูกสร้างโดย ฮัลลา กันนาร์สดอททิร์ (Halla Gunnarsdóttir).
นอกจากนี้ยัมีงานศิลปะอีกหลายชิ้นที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของวิถีชีวิตประจำวันแบบสมัยใหม่ เช่น ประติมากรรม "ลูกชาย" ,"เด็กสาว"และ "นักดนตรี" โดยโอลาฟ ปาลสดอททิร์ (Ólöf Pálsdóttir) และผู้คนในประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นที่สุดได้แก่ "คนแบกน้ำ" โดยอาสมันดูร์ สเวนส์สัน (Ásmundur Sveinsson) ที่เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่กำลังขนน้ำขึ้นและลงเลยการแวกูร์ (Laugavegur) จากที่ตั้งถิ่นฐาน.
อนุสรณ์แด่ข้าราชการนิรนาม, ตรงใจกลางเมืองเรคยาวิก
ไม่ใช่ว่าประติมากรรมทั้งหมดจะถูกนำออกมาเสนอให้กับผู้คน อย่างไรก็ตามบางภาพอาจเป็นภาพแนวแอบสแตรก (abstract) เช่น ภาพชิ้นส่วนที่บิดไปมาที่เรียกง่ายๆว่า "ประติมากรรม" ของเกอร์ดูร์ เฮลกาดอตติ (Gerður Helgadóttir) งานบางชิ้นที่แสดงออกถึงการเมือง เช่น"อนุสรณ์ของข้าราชการนิรนาม" ของ แมกนัส โธมัสสัน (Magnús Tómasson) ที่อยู่ในรูปด้านบน ,ผลงานปี 2012 "กรวยสีดำ,อนุสาวรีย์แด่ประชากรที่ไม่เชื่อฟัง" โดย ซานติเอโก เซียร่า (Santiago Sierra) เพื่อเป็นการฉลองของชนชั้นรากหญ้าที่ได้ทำลายล้างการทุจริต โดยการแสดงให้เห็นถึงกรวยโลหะขนาดเล็กทำให้ก้อนหินขนาดใหญ่แตกออกจากกัน.
ศิลปะตามท้องถนนเมืองเรคยาวิก
หนึ่งในไฮไลท์ของการชมทัศนียภาพรอบๆเมืองเรคยาวิกคือความมั่งคั่งของศิลปะบนท้องถนนที่มีชีวิตชีวาที่ประดับประดาเมือง ที่มีแรงบันดาลใจจากดนตรี,นิทานพื้นบ้านไอซ์แลนด์และจินตนาการ กำแพงของเมืองจำนวนมากถูกทาสีไว้อย่างงดงามทำให้เกิดความสุขแก่ผู้ที่เดินผ่านไปมา.
- ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : ภาพวาดลายเส้นและศิลปะตามท้องถนนของเมืองเรคยาวิก
มีรายชื่อผลงานศิลปะจำนวนมาก แต่ผลงานศิลปะบางชิ้นมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาในปี 2015 มีการรณรงค์ในเรื่อง บทกวีบนกำแพง ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเทศกาลคลื่นวิทยุและคนเมือง (Urban Nation) เบอร์ลิน ถนนสายศิลปะทั้ง 10 สายทำงานร่วมกับนักดนตรี 10 คนร่วมกันสร้างภาพจิตรกรรมฝาผนังทั่วบริเวณงานเทศกาลซึ่งเป็นตัวแทนของงานศิลปะของทั้งสองฝ่ายและถือเป็นการยกระดับเมืองขึ้นด้วย.
เป็นไปได้ว่าศิลปะตามท้องถนนส่วนใหญ่มีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบ อย่างไรก็ตามมักมีภาพวาดที่อยู่รอบ ๆ ท่าเรือเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ปี 2013 เกวโด แวน เฮลเตน (Guido van Helten) นักศิลปะชาวออสเตรเลียได้วาดภาพวินเทจ ในรูปแบบของภาพถ่าย บนกำแพงที่ไม่แข็งแรง ได้เปลี่ยนหนึ่งในพื้นที่ที่ทรุดโทรมที่สุดของเมืองเรคยาวิกให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดได้.
- ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แกลลอรี่ศิลปะในเมืองเรคยาวิก
สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในเมืองเรคยาวิก
สามารถดื่มด่ำไปกับธรรมชาติของเมืองเรคยาวิกได้ทั่วทั้งเมือง ในวันที่อากาศที่สดใส มีสถานที่มากมายที่คุณสามารถมองเห็นพื้นที่ที่แห้งแล้ง ภูมิประเทศแบบภูเขาไฟของคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) หิมะที่ปกคลุมอยู่บนยอดของคาบมหาสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snæfellsnes) และเงาที่ลึกลับของเบลาเฟยืล (Bláfjöll) ที่เป็นภูเขาสีฟ้า ยิ่งไปกว่านั้นทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวที่คุณจะสามารถหลบหนีจากความวุ่นวายของใจกลางเมือง.
ประภาคารโกรททา
ประภาคารโกรททา (Grótta) ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามตั้งอยู่ในเซลล์ทจาร์นาร์เนส (Seltjarnarnes) สถานที่ที่คุณสามารถชมทัศนียภาพของเมืองได้ทั่วทั้งเมือง พร้อมทั้งมหาสมุทรและธรรมชาติโดยรอบ ความสงบและความโรแมนติกจะช่วยทำให้ทัวร์ชมทัศนียภาพของคุณสมบูรณ์ด้วยการนำคุณเดินทางออกจากเมืองหลวงที่วุ่นวาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก และระหว่างช่วงคืนฤดูหนาวที่สดใสเหมาะสำหรับการชมแสงเหนือ.
มีสระน้ำร้อนเล็กๆที่นักท่องเที่ยวสามารถให้ความอบอุ่นกับเท้าในขณะที่คุณกำลังชื่นชมกับทัศนียภาพของพื้นที่นี้ อีกทั้งยังสามารถเดินข้ามไปยังประภาคาร แต่เฉพาะช่วงน้ำลง ช่วงน้ำขึ้นทางเดินจะถูกปิดไว้และบางคนอาจจะต้องติดอยู่ที่นั่น.
อาคารพาร์ลานและเอิสคูฮลีด
เครดิตรูปถ่าย : Wikimedia, creative commons, รูปถ่ายโดย Tillea Benutzer
ทั้งโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา และฮาปาร์ พาร์ลาน (Perlan) หรือ "ไข่มุก" เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่สุดในเมืองเรคยาวิก สถานที่ที่ตั้งอยู่กลางป่าบนเนินเขาสูงที่เรียกว่าเอิสคูฮลีด (Öskjuhlíð) ที่มีมีลักษณะเป็นรูปโดมและด้านบนถูกใช้เป็นภัตตาคารหมุน ที่ผู้ที่มาเยือนจะได้ชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งทัศนียภาพแบบพาโนรามาที่นี่ ป่าไม้ ตัวเมืองและชายฝั่งทะเลรวมถึงภูเขาที่อยู่ล้อมรอบ ที่มีความงดงามที่สุด.
ป่าเอิสคูฮลีด เป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดภายในเมืองเรคยาวิกที่จะได้หลบหนีจากเสียงและผู้คน ต้นไม้ที่มีอยู่อย่างหนาแน่นจะเป็นสิ่งที่กั้นจากสิ่งรบกวนทั้งหมดในขณะที่คุณอยู่ในตัวเมืองหลวง และยังมีเส้นทางเดินป่ามากมายอยู่บริเวณรอบๆด้วย.
บางส่วนของแนวหินเหล่านี้นำไปสู่การสร้างป้อมปราการสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ต้องขอบคุณเพราะอย่างน้อยที่นี่ก็ไม่เคยถูกใช้งาน คนอื่นไปยังวิหารอาซาทรู (Ásatrú) ที่อยู่ของเทพเจ้านอร์สโบราณ ตรงด้านล่างของป่าแห่งนี้เป็นชายหาดเนยโทลส์วิค (Nauthólsvík) ที่สร้างโดยมนุษย์ ซึ่งน้ำอุ่นที่คุณได้ลงไปแช่เป็นน้ำแข็งจากแอตแลนติกเหนือที่ได้รับความร้อนจากพลังงานใต้พิภพแบบที่ไม่มีความยุ่งยากใดๆ.
สวนสาธารณะเลยการ์ดาลูร์
เเ
เครดิตรูปภาพโดย : Wikimedia, creative commons, รูปภาพโดย Helgi Haldórsson
สวนสาธารณะเลยการ์ดาลูร์ (Laugardalur) เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ภายในตัวเมือง ที่มีจุดที่เหมาะสำหรับการวาดรูปทัศนียภาพของเมืองเรคยาวิกหลายจุด สวนดอกไม้ที่งดงาม ที่มีความหลากหลายของดอกไม้และพืชพันธุ์ของแถบอาร์คติก และเปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่ดีที่สุดคือช่วงฤดูร้อนในตอนที่ดอกไม้บาน สวนสำหรับครอบครัวและสวนสัตว์เปิดให้เข้าไปได้ตลอดทั้งปีและรวมไปถึงยังมีสัตว์สายพันธุ์ท้องถิ่นของประเทศไอซ์ให้ได้ชม นั่นหมายถึงสุนัขจิ้งจอกอาร์คติกและกวางเรนเดียร์ด้วย.
สวนสาธารณะแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำเลยการ์ดาสเลยก์ (Laugardalslaug) ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเรคยาวิก ที่มีทั้งสไลด์เดอร์ สระน้ำร้อน ซาวน์น่า ห้องอบไอน้ำและพื้นที่ว่ายน้ำที่กว้างขวาง การไปเที่ยวชมยังสวนสาธารณะเลยการ์ดาลูร์จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับดอกไม้และสัตว์ประจำถิ่นของประเทศไอซ์แลนด์ พร้อมทั้งได้สนุกสนานกับกิจกรรมจากพลังงานได้พิภพโดยไม่ต้องเดินทางออกไปนอกเมือง.
เครดิตรูปถ่าย :Wikimedia, creative commons, Helgi Halldórsson
จุดหมายปลายทางสุดท้ายในลิสต์นี้ต้องใช้เรือในการเดินทางแต่จะเป็นประสบการณ์ที่งดงามสำหรับผู้ที่มองหาความเงียบสงบตามธรรมชาติ ไปพร้อมกับการผสมผสานกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอีกเล็กน้อย เรือเดินทางไปยังเกาะ วิดเอย์ (Viðey) ที่อยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งเมืองเรคยาวิก เรือเดินทางออกทุกวันในช่วงฤดูร้อนและช่วงวันสุดสัปดาห์ในช่วงฤดูหนาว.
ไม่มีผู้อยู่อาศัยบนเกาะแห่งนี้ในตอนนี้ แต่ยังคงมีความบันเทิงมากมายให้กับนักท่องเที่ยว ซากปรักหักพังจากครั้งที่เคยยังมีผู้อยู่อาศัยยังคงเป็นเหมือนจุดอยู่บนเกาะ ซึ่งคุณสามารถเดินชมได้อย่างเป็นอิสระ รวมถึงอาคารก็ยังคงอยู่และเป็นร่องรอยของเรื่องราวในอดีต โบสถ์บนเกาะแห่งนี้เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ และบ้านไวดีเป็นอาคารแห่งแรกที่ถูกสร้างด้วยหิน.
ไวดียังเป็นที่ตั้งของโครงการศิลปะถึงสองโครงการ "โครงการไมล์สโตน (Milestone)" ของริชาร์ด เซียร่า (Richard Serra) ที่เป็นจุดเด่นที่นี่ตั้งแต่ปี 1990 และอีกโครงการเมื่อเร็วๆนี้และมีชื่อเสียงมากกว่า เกาะกลายเป็นที่ตั้งของหอคอยจินตนาการเสรีภาพของโยโกะ โอโน่ (Yoko Ono) ที่ปล่อยลำแสงที่เป็นเหมือนตัวแทนของเธอและข้อความเพื่อสันติภาพโลกของจอห์น เลนนอนในท้องฟ้าช่วงค่ำคืนในช่วงเวลาเดียวกันของปี.
- หาข้อมูลเกี่ยวกับ หอคอยจินตนาการสันติภาพ ในบล๊อคของเรจินาได้ที่นี่
เรคยาวิกได้กลายเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา ทันสมัย มีเอกลักษณ์ เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศิลปะและธรรมชาติ ที่นี่สามารถดึงดูดผู้คนได้จากทุกๆความสนใจ และมีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆเข้ามาเที่ยวชม และถูกคาดหวังว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเจริญเติบโตและก้าวหน้า.
- หาข้อมูลเกี่ยวกับ : 10 สิ่งสุดยอดกิจกรรมในเมืองเรคยาวิก
บทความอื่นที่น่าสนใจ
คู่มือท่องราตรีในเรคยาวิก: บาร์และคลับที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์
ศึกษาข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการท่องราตรีในเมืองเรคยาวิกในบทความนี้ อะไรที่ทำให้ชีวิตกลางคืนในไอซ์แลนด์แตกต่างไปจากที่อื่นๆ ในโลก? การเที่ยวกลางคืนในเรคยาวิกเริ่มกี่โมง และบาร์และคลับไหนที่ควรค่าแก่กา...Read moreร้านอาหารที่ดีที่สุดในเรคยาวิก
ร้านอาหารประเภทไฟน์ไดนิ่งที่ดีที่สุดในเรคยาวิกมีร้านไหนบ้าง อาหารของชาวไอซ์แลนด์เป็นอย่างไร พบกับร้านชั้นนำที่เหมาะสำหรับไปรับประทานมื้อค่ำและเพลิดเพลินกับการดื่มกินในเรคยาวิกได้ที่นี่ ดูแพ็กเกจทัว...Read more14 อันดับกิจกรรมยอดฮิตในเมืองเรคยาวิก
ค้นพบสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำในเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์มีโอกาสไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับการผจญภัย ตั้งแต่สถานที่แสดงศิลปะที่มีชีวิตชีวาไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก อ่า...Read more
Download Iceland’s biggest travel marketplace to your phone to manage your entire trip in one place
Scan this QR code with your phone camera and press the link that appears to add Iceland’s biggest travel marketplace into your pocket. Enter your phone number or email address to receive an SMS or email with the download link.