18 สิ่งที่ควรทำในไอซ์แลนด์ | สถานที่เที่ยวและกิจกรรม

18 สิ่งที่ควรทำในไอซ์แลนด์ | สถานที่เที่ยวและกิจกรรม

ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรอง
ไปที่เรื่อง
ค้นหาสิ่งที่ห้ามพลาดทำในประเทศไอซ์แลนด์และอ่านเกี่ยวกับสถานที่และสิ่งที่คุณควรเดินทางไปชม ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ประสบการณ์ด้านวัฒนธรรม หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่น้อยคนจะมีโอกาสได้เดินทางไป มาเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาดในไอซ์แลนด์กันเลยดีกว่า
 

สิ่งที่ควรทำในประเทศไอซ์แลนด์นั้นมีอยู่มากมายจนนับไม่หมดและมีความแตกต่างขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงด้วย เพราะเกาะแห่งนี้มีภูมิประเทศที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มีแม่น้ำที่ไหลผ่านทะเลทราย และมีลาวาที่หลอมละลายปะทุออกมาจากผืนน้ำแข็ง ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีองค์ประกอบทางธรรมชาติแปลกประหลาดอย่างสุดขั้วระหว่างไฟและน้ำแข็ง ในช่วงกลางฤดูหนาวนั้นที่ไอซ์แลนด์จะมีช่วงเวลากลางคืนยาวนานไม่สิ้นสุด ในขณะที่ในช่วงกลางฤดูร้อนนั้นพระอาทิตย์จะไม่เคยตกดินเลย

ดังนั้นจึงอาจจะตัดสินใจยากนิดหน่อย เมื่อคุณต้องเลือกว่าควรจะไปทำอะไรที่ไหนในไอซ์แลนด์ และมีสิ่งที่คุณควรต้องคำนึงหลายอย่างก่อนที่คุณจะตัดสินทำการจองทริปเที่ยวของคุณในครั้งนี้ เช่น การค้นหาที่พักที่เหมาะสมที่สุดจากบรรดาตัวเลือกที่พักที่คัดสรรมาให้เลือกมากที่สุดในไอซ์แลนด์ และการเลือกหาแพ็คเกจท่องเที่ยวที่มีอยู่หลากหลายรูปแบบ และเพื่อให้คุณเที่ยวได้ครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในประเทศนี้มากที่สุด คุณควรเช่ารถขับ ซึ่งที่นี่เราก็มีตัวเลือกรถเช่าราคาถูกที่สุดในไอซ์แลนด์ด้วย

แผนที่กิจกรรม 18 สิ่งที่ควรทำเมื่อมาเที่ยวไอซ์แลนด์

โดยทั่วไปแล้วคู่มือท่องเที่ยวไอซ์แลนด์มักจะเล่มหนาเท่าพจนานุกรม เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวและภูมิประเทศที่โดดเด่นอยู่มากมายในไอซ์แลนด์และการเที่ยวให้ครบทั้งหมดภายในทริปเดียวนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้ทำแผนที่นี้ขึ้นมา เพื่อรวมสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของประเทศไอซ์แลนด์เอาไว้ให้คุณใช้อ้างอิง

คุณอาจจะสังเกตว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่บนแผนที่นี้แค่ 17 แห่งเท่านั้น แต่นั่นเป็นเพราะว่าแห่งที่ 18 นั้นไม่ได้มีพิกัดตายตัวแน่ชัด

และเพื่อให้คุณใช้เวลาในไอซ์แลนด์ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด เราแนะนำให้คุณศึกษาจากแผนการขับรถเที่ยวไอซ์แลนด์ที่ดีที่สุดอันนี้ด้วย

แต่ถ้าคุณไม่ได้ต้องการขับรถเอง คุณก็อาจจะจองเป็นแพ็คเกจท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ ซึ่งมีทั้งที่ออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกและออกเดินทางจากเมืองเรคยาวิก โดยแพ็คเกจทัวร์กลุ่มเล็กแบบมีไกด์ที่น่าสนุกสนานเหล่านี้จะพาคุณไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด

ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจขับรถเที่ยวรอบไอซ์แลนด์หรือไปกับทัวร์ก็สามารถอ้างอิงจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่อไปนี้ได้ ซึ่งเราไม่ได้รวมมาให้แค่ 10 เท่านั้น แต่รวมมาให้ถึง 18 แห่งเลยทีเดียว โดยในนี้มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด กิจกรรมและสิ่งที่ต้องทำในไอซ์แลนด์ และสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยงด้วย

18. หาแรงบันดาลใจจากธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์สโจกุลล์ 

นักท่องเที่ยวเดินขึ้นธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์สโจกุลล์หากคุณต้องการเห็นลักษณะของภูมิประเทศที่หลากหลายของไอซ์แลนด์ สิ่งที่คุณต้องทำคือวางแผนเดย์ทริปไปเที่ยวคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snaefellsnes Peninsula)

คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสได้สมญานามว่าเป็น "ไอซ์แลนด์ย่อส่วน" เนื่องจากมีภูมิประเทศที่หลากหลายให้เห็น ซึ่งบนคาบสมุทรมีอะไรให้คุณได้ชมและทำมากมาย ซึ่งคุณสามารถเข้าไปอ่านได้จากคู่มือเที่ยวคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสของเรา

แต่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ห้ามพลาดบนคาบสมุทรแห่งนี้คือธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์สโจกุลล์ (Snaefellsjokull glacier) ธารน้ำแข็งยอดฝาแฝดแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาไฟที่อยู่บริเวณปลายคาบสมุทร ล้อมรอบด้วยทุ่งลาวาขรุขระและแนวชายฝั่งที่สวยงามทั้งสามด้าน ซึ่งคุณสามารถมองเห็นธารน้ำแข็งได้จากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งอื่นๆ บนคาบสมุทร เช่น จากหมู่บ้านบูดิร์ (Hamlet of Budir) ที่ถูกทิ้งร้าง และจากบริเวณโขดทะเลโลนดรังการ์ (Londrangar sea stacks)

โขดทะเลโลนดรังการ์ตั้งตระหง่านบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส

ชาวไอซ์แลนด์ให้ความสำคัญกับธารน้ำแข็งแห่งนี้มากจนมีการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติในปี 2001 ร่วมกับอุทยานฯ อีกสองแห่งของประเทศ (อยู่ในลิสต์นี้เช่นกัน)

มีผลงานศิลปะมากมายโดยเฉพาะในด้านวรรณกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์สโจกุลล์ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือนวนิยายวิทยาศาสตร์คลาสสิกของจูลส์ เวิร์น เรื่อง A journey to the center of the earth ในปี 1864 หากคุณกำลังเลือกมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์อยู่ล่ะก็ สไนล์เฟลล์สโจกุลล์ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก

ในวันที่อากาศแจ่มใสคุณจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพได้อย่างชัดเจนตั้งแต่เมืองเรคยาวิกไปจนถึงอ่าวฟาซาโฟลอิ (Faxafloi Bay) เลยทีเดียว แต่ก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับการได้ไปเห็นธารน้ำแข็งอย่างใกล้ชิด

โบสถ์บูดิร์ใต้แสงเหนือ

คุณสามารถขับรถไปกลับธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์สโจกุลล์ได้ภายในวันเดียว แต่คุณน่าจะต้องการใช้เวลาอยู่บนธารน้ำแข็งมากกว่าหนึ่งวันแน่ๆ และที่นี่ก็มักจะถูกนำไปรวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์แบบขับรถเที่ยวเองจำนวนมาก เช่น ทัวร์ขับรถเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง 6 วันในหน้าร้อนที่คุณจะได้เดินทางไปชมวงกลมทองคำและสไนล์แฟลซเนส

มีทัวร์และแพ็คเกจเที่ยวสไนล์แฟลซเนสให้คุณเลือกได้มากมาย รวมถึงแพ็คเกจนี้ที่พาคุณไปนั่งสโนว์แคทขึ้นไปบนธารน้ำแข็งด้วย

17. ตื่นตาตื่นใจไปกับภูเขาเคิร์กจูเฟลล์อันงดงาม

เขาเคิร์กจูเฟลล์และน้ำตกเคิร์กจูเฟลล์ฟอสส์ในยามโพล้เพล้ในบรรดาสถานที่สวยงามทั้งหมดในประเทศไอซ์แลนด์ ภูเขาเคิร์กจูเฟลล์​ (Kirkjufell) เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าประทับใจมากที่สุด และเคิร์กจูเฟลล์เป็นภูเขาที่มีคนมาถ่ายรูปมากที่สุดในไอซ์แลนด์ด้วย ซึ่งคุณเองก็น่าจะพอคุ้นตามาบ้างจากภูเขาหัวลูกศรในทางเหนือของกำแพงในซีรีส์เกมออฟโธรนส์

เคิร์กจูเฟลล์แปลว่าภูเขาโบสถ์ เขาลูกนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง และผืนน้ำที่อยู่ด้านหน้าภูเขาก็เป็นองค์ประกอบที่เสริมให้เขาลูกนี้งดงามมากยิ่งขึ้นโดยเป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนภาพของภูเขาและในหน้าหนาวก็เป็นลานกว้างที่ห่มคลุมด้วยหิมะสีขาว นักปีนเขาที่มีประสบการณ์สามารถปีนเขาลูกนี้ได้

16. สนุกสนานบนหาดทรายดำทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์

เรย์นิสดรังการ์ในไอซ์แลนด์ โดย Iurie Belegurschiแนวชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และทุกคนที่กำลังคิดอยู่ว่าจะไปทำอะไรในไอซ์แลนด์ดี ไม่ควรพลาดมาเยือนภูมิภาคนี้

ธารน้ำแข็งและการกัดเซาะตามแนวชายฝั่งของไอซ์แลนด์ทำให้พื้นที่ริมทะเลส่วนใหญ่ของประเทศมีลักษณะขรุขระ โดยเกิดเป็นฟยอร์ดอยู่ในทางตะวันตก ทางเหนือ และทางตะวันออก แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ตามแนวชายฝั่งทางใต้นั้นเป็นพื้นที่มีน้ำจากธารน้ำแข็งเข้าท่วมทำให้พื้นดินแถวนี้ราบเรียบและเต็มไปด้วยทรายสีดำ

ภาพถ่ายทางอากาศของหาดทรายดำเรย์นิสฟยาราทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ในยามโพล้เพล้หากคุณตัดสินใจเลือกไปเที่ยวบริเวณชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ อย่าลืมไปสำรวจหาดทรายดำที่มีอยู่หลายแห่งตามแนวชายฝั่งด้วย

หาดทรายดำที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือหาดเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านวิก (Vik) และหาดทรายดำเรย์นิสฟยารานี้ก็เหมือนกับสถานที่สวยงามอีกหลายแห่งในไอซ์แลนด์ที่มีบรรยากาศอึมครึมออกแนวน่ากลัวหน่อยๆ

และแม้ว่าหาดทรายดำจะเป็นหนึ่งในสถานที่น่าสนใจในประเทศไอซ์แลนด์ แต่หาดเหล่านี้อันตรายและไม่สามารถลงเล่นน้ำได้เลย เพราะน้ำเย็นจัดและมีคลื่นพัดรุนแรง โดยเฉพาะหาดเรย์นิสยารานั้นเป็นสถานที่ที่มีอันตรายมากเพราะมีคลื่นลูกใหญ่มากซัดเข้าฝั่งมาโดยไม่มีวี่แววบ่อยๆ

คลื่นซัดเข้าหาฝั่งที่หาดทรายดำเรย์นิสฟยาราคุณควรยืนอยู่ห่างจากคลื่นอย่างน้อย 20-30 เมตรตลอดเวลาและควรปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยของสถานที่แต่ละแห่งอย่างเคร่งครัด

15. ไปดูให้เห็นกับตาว่าทำไมหาดไดมอนด์จึงได้ชื่อเช่นนั้น

เรย์นิสฟยาราไม่ได้เป็นหาดเดียวบนชายฝั่งทางใต้ที่คู่ควรกล่าวถึงในที่นี้ ไกลออกไปทางตะวันออกยังมี "สถานที่ไฮไลต์ของธรรมชาติของไอซ์แลนด์" อีกหนึ่งแห่งนั่นก็คือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) และข้างๆ ก็ยังมีหาดไดมอนด์ (Diamond Beach) อีกแห่ง

คลื่นกระทบกับน้ำแข็งบนไดมอนด์บีชทะเลสาบแห่งนี้เต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกสู่มหาสมุทรอย่างช้าๆ หลังจากที่แตกตัวออกมาจากผืนน้ำแข็งของธารน้ำแข็งตลอดทั้งปี และเมื่อภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้เดินทางออกทะเลได้แล้ว พวกมันจะถูกคลื่นซัดขึ้นไปกองกันอยู่บนหาดเกิดเป็นภาพที่สวยงามมาก

สีน้ำเงินของน้ำแข็งและสีขาวของเกลียวคลื่นนั้นตัดกันกับสีดำของผืนทราย ทำให้หาดไดมอนด์มีความงดงามและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปชมมากที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์

และหากไปเยือนในช่วงที่มีสีสันของแสงเหนือหรือมีแสงเรืองรองจากพระอาทิตย์เที่ยงคืนด้วยแล้ว รับรองว่าคุณจะรู้สึกเหมือนว่ากำลังอยู่ในฉากในนิยายแฟนตาซีเลย

แต่ความพิเศษยังไม่หมดแค่นั้นเพราะว่าคุณยังอาจจะได้เห็นแมวน้ำออกมาเล่นอยู่ในบริเวณทะเลสาบและทะเลแถวนี้ด้วย

14. พิสูจน์ให้เห็นชัดๆ ว่าเรย์นิสดรังการ์นั้นแท้จริงคือแท่งหินบะซอลต์หรือโทรลล์ที่ตัวแข็งเป็นหิน 

โขดหินบะซอลต์เรย์นิสดรังการ์คลื่นลมรุนแรงในทางใต้ของไอซ์แลนด์ถาโถมเข้าใส่จนโขดหินบะซอลต์สองแท่งที่เรียกว่าเรย์นิสดรังการ์ (Reynisdrangar) เกิดเป็นรูปทรงเช่นทุกวันนี้ กองหินเหล่านี้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านวิกและถูกใช้เป็นฉากอีสต์วอตช์บายเดอะซีในเกมออฟโธรนส์ด้วย

ที่นี่ก็เช่นเดียวกับการก่อตัวของหินหลายแห่งในไอซ์แลนด์ที่หลายคนบอกว่าแท้จริงแล้วเป็นยักษ์โทรลล์ที่โดนแสงแดดในตอนเช้าจนตัวแข็งกลายเป็นหิน และพวกมันยืนหันหน้าเข้าหาภูเขาเรย์นิสฟยาลล์ (Reynisfjall) ซึ่งเป็นเขาที่คุณจะได้เห็นเสาหินบะซอลต์รูปทรงหกเหลี่ยมอันโด่งดังของประเทศไอซ์แลนด์

13. ชมวิวซุ้มหินโค้งดิร์โฮลาเอย์

ดิร์โฮลาเอย์เป็นซุ้มหินที่อยู่ใกล้กับเรย์นิสฟยาราทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์เดินจากเรย์นิสฟยาราไปไม่ไกลก็จะเจอกับดิร์โฮลาเอย์ (Dyrholaey) ซึ่งเป็นหินผาที่โค้งเว้าสวยงาม จากบนหน้าผาแห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของบริเวณโดยรอบและบนหินโค้งนี้มีนกพัฟฟินมาทำรังในช่วงหน้าร้อนด้วย ดิร์โฮลาเอย์เป็นสถานที่ชมนกพัฟฟินในไอซ์แลนด์ที่ได้รับความนิยมมากอีกแห่งหนึ่ง

12. ไปเยือนธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

นักท่องเที่ยวสำรวจธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลล์สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์คือธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลล์ (Vatnajokull glacier) ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และกินพื้นที่บนบกถึง 8% ของไอซ์แลนด์ ในธารน้ำแข็งแห่งนี้มีถ้ำน้ำแข็งที่สวยงามจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งเป็นผลงานที่น่าอัศจรรย์ของธรรมชาติ

ผืนน้ำแข็งที่นี่ยังปกคลุมภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอย่างน้อย 3 ลูกเอาไว้ที่ด้านล่างและมียอดเขาที่มีความสูงมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ด้วย นอกจากนี้ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลล์ยังหล่อเลี้ยงแม่น้ำและผืนน้ำแข็งส่วนที่ยื่นออกไปจากธารน้ำแข็งอีกเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ที่นี่เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำเกมออฟโธรนส์และภาพยนตร์สายลับเจมส์ บอนด์อีกสองเรื่อง

11. เพลิดเพลินกับธรรมชาติบำบัดที่บลูลากูน

บลูลากูนมีทรีตเมนต์ให้เลือกมากมายบลูลากูน (Blue Lagoon) เป็นสปาพลังงานความร้อนใต้พิภพที่มีคนไปใช้บริการมากที่สุดในประเทศและก็น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของไอซ์แลนด์ด้วย น้ำที่นี่เป็นสีฟ้าขุ่นเหมือนน้ำนม ซึ่งเป็นลักษณะที่ไม่เหมือนที่ไหนบนโลกใบนี้

สระน้ำร้อนแห่งนี้อุดมไปด้วยแร่ธาติและมีแบคทีเรียชนิดที่มีประโยชน์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้ที่มาใช้บริการทุกท่านจะได้รับมาส์กซิลิกาไปบำรุงผิวด้วย ซึ่งทั้งน้ำสีฟ้าและมาส์กนี้เป็นสิ่งที่สร้างชื่อให้กับบลูลากูน

บลูลากูนตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่น่าทึ่งของภูมิประเทศแบบภูเขาไฟบนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes peninsula) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีสภาพกันดารโหดร้ายและบรรยากาศที่วังเวงน่ากลัว

สะพานข้ามสระน้ำในบลูลากูนสปา

บริเวณโดยรอบของสปาแห่งนี้เป็นทุ่งลาวาที่มีมอสส์สีเทาปกคลุม เมื่อมองผ่านไอน้ำจึงเป็นฉากที่แปลกตาราวกับไม่ใช่สถานที่บนโลก

บลูลากูนจะทำให้คุณสดชื่นและผ่อนคลายไม่ว่าคุณจะมาก่อนเริ่มต้นทริปหรือก่อนขึ้นเครื่องกลับ สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความหรูหราสะดวกสบายก็สามารถลองใช้บริการทรีตเมนต์แบบไพรเวทดูได้

ทรีตเมนต์ที่ให้บริการที่บลูลากูน มีทั้งการนวดในระหว่างที่แช่น้ำและทรีตเมนต์บำรุงผิวสูตรธรรมชาติที่ออกแบบมาให้เข้ากับผิวของคุณโดยเฉพาะ ซึ่งจะใช้สาหร่ายและแร่ธาตุหายากมาบำรุง และมีการดูแลผิวเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิว เช่น โรคสะเก็ดเงินด้วย

ทะเลสาบแห่งนี้อยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก 22 กิโลเมตร และห่างจากใจกลางเมืองเรคยาวิก 49 กิโลเมตร โดยมีบริการรับส่งจากสนามบินในราคาประหยัดเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการบลูลากูนด้วย

ทั้งนี้เนื่องจากบลูลากูนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไอซ์แลนด์ ดังนั้น คุณควรจองบัตรเข้าใช้บริการล่วงหน้า

10. ดูวาฬในฮูสาวิก

ฮูสาวิกเป็นศูนย์กลางการดูปลาวาฬในทางเหนือของไอซ์แลนด์

ภาพจากทัวร์ล่องเรือแบบดั้งเดิมไปดูวาฬ 3 ชั่วโมง พร้อมบริการรับส่งจากฮูสาวิก

มีวาฬ โลมา และพอร์พอยส์อาศัยอยู่ในน่านน้ำของไอซ์แลนด์มากกว่า 20 สายพันธุ์ และมีทัวร์ล่องเรือให้บริการในหลายเมือง

การดูวาฬเป็นกิจกรรมที่พบได้ทั่วไปตามบริเวณเมืองท่าอย่างเรคยาวิกและอาคูเรย์ริ และในแถบฟยอร์ดทางตะวันตกนั้นคุณสามารถมองเห็นวาฬได้จากบนฝั่งเลย แต่ฮูสาวิก (Husavik) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในทางเหนือนั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการดูวาฬในประเทศไอซ์แลนด์

เมืองฮูสาวิกที่ได้รับสมญานามว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งการดูวาฬของยุโรป" นั้นตั้งอยู่ข้างอ่าวสกัลฟานดิ (Skjalfandi) ซึ่งมีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ในช่วงหน้าร้อน คุณจึงมีโอกาสเห็นฮาร์เบอร์พอร์พอยส์ โลมาปากขาว และวาฬหลังค่อมได้เกือบทุกวัน

พบวาฬหลังค่อมเกยตื้นนอกชายฝั่งไอซ์แลนด์บางครั้งนักท่องเที่ยวที่โชคดีก็อาจจะได้เห็นสายพันธุ์ที่พบเห็นได้ยากอย่างวาฬออร์กา วาฬสีน้ำเงิน วาฬฟิน และวาฬนาร์วาฬด้วย

หน้าร้อนยังเป็นฤดูที่มีนกอพยพหลากหลายสายพันธุ์เข้ามาทำรังในไอซ์แลนด์ด้วย และที่มีให้เห็นมากที่สุดคือนกพัฟฟิน

คุณสามารถพบเห็นนกเหล่านี้ได้เมื่อไปกับทัวร์ดูวาฬที่ออกเดินทางจากเรคยาวิก อาคูเรย์ริ และฮูสาวิก และมีทัวร์ดูนกพัฟฟินและดูวาฬรวมกันที่ออกเดินทางจากฮูสาวิกด้วย

9. ส่องชีวิตสัตว์ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติฮอร์นสตรานดิร์

ฮอร์นสตรานดิร์เป็นสถานที่เดินป่าที่ยอดเยี่ยมมาก

ภาพจากทัวร์ชมชีวิตสัตว์ในฟยอร์ดตะวันตก 2 ชั่วโมงที่ฮอร์นสตราดิร์และฮอร์นวิก พร้อมบริการรับส่งจากอิสาฟยอร์ดูร์

ทางเหนือสุดของฟยอร์ดตะวันตกที่เรียกว่าฮอร์นสตรานดิร์ (Hornstrandir) เป็นพื้นที่ที่มีความเกี่ยวพันกับนิยายซากาและมีคนอยู่อาศัยจนถึงแค่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และการที่สถานที่แห่งนี้ถูกทิ้งร้างเนื่องจากอยู่ห่างไกลและไม่มีความสำคัญทางด้านอุตสาหกรรมเลย ทำให้หลายคนคิดว่ามันไม่น่าจะมารวมอยู่ในลิสต์ของสิ่งที่ต้องทำในไอซ์แลนด์ได้

แต่เมื่อไม่นานมานี้สถานที่แห่งนี้ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์แบบมาก

มีสัตว์ป่ามากมายที่อาศัยในเขตอนุรักษ์ฯ ของไอซ์แลนด์แห่งนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดของไอซ์แลนด์สำหรับคนรักสัตว์และสำหรับช่างภาพด้วย ในผืนป่าแห่งนี้มีประชากรอาศัยอยู่น้อยที่สุดในประเทศถ้าไม่นับรวมพื้นที่ไฮแลนด์ (Highlands) ซึ่งไม่มีคนอาศัยอยู่เลย

ช่างภาพบังเอิญได้เจอสุนัขจิ้งจอกอาร์กติกในไอซ์แลนด์

ภาพโดย Fabianna Rizzi

หน้าผาสวยงามแห่งนี้สูงถึง 534 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลและเป็นที่อยู่ของนกทะเลหลายหมื่นตัว ซึ่งตามทุ่งหญ้าสูงๆ แถวนี้คุณมีโอกาสที่จะได้เห็นสุนัขจิ้งจอกอาร์กติกซึ่งเป็นสัตว์บกที่เลี้ยงลูกด้วยนมเพียงชนิดเดียวของไอซ์แลนด์

สัตว์ต่างๆ ในบริเวณนี้ไม่ตื่นคนด้วยจึงเข้าไปดูใกล้ๆ ได้ แต่ไม่แนะนำให้ป้อนอาหารพวกมันเป็นอันขาด แม้ว่าสุนัขจิ้งจอกเหล่านี้จะชอบเข้ามากินอาหารจากมือของคุณก็ตาม

คุณสามารถเดินทางไปยังฮอร์นสตรานดิร์ได้โดยนั่งเฟอร์รี่จากอิสาฟยอร์ดูร์ (Isafjordur) และสตรานดิร์ (Strandir) และก็ยังสามารถจองทัวร์ฟยอร์ดตะวันตกเพื่อที่จะได้เที่ยวแบบสบายๆ ได้ด้วย

8. ขับรถไปยังฟยอร์ดทางตะวันออก

นกพัฟฟินสามารถพบเห็นได้ที่ฟยอร์ดทางตะวันออก

คุณควรจะไปเที่ยวที่ไหนในไอซ์แลนด์ดี หากคุณเป็นคนชอบเที่ยวและทำกิจกรรมแบบไม่เหมือนใคร? นอกจากฮอร์นสตรานดิร์แล้ว ฟยอร์ดทางตะวันออกก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีประชากรน้อยและมีระยะทางห่างไกลจากเมืองเรคยาวิกมากที่สุด

เฉพาะผู้ที่จะขับรถเที่ยวแบบวนรอบถนนวงแหวน และผู้ที่จองแพ็คเกจทัวร์แบบที่พาเที่ยวรอบประเทศเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้ไปเยือนพื้นที่แถบนี้ และคนที่ได้ไปเห็นมาก็มักจะบอกว่าที่นี่เป็นภูมิภาคที่พวกเขาชอบมากที่สุดในไอซ์แลนด์

ดินแดนส่วนที่ห่างไกลจากผู้คนและนักท่องเที่ยวแห่งนี้มีความเงียบสงบในแบบที่หลายคนเสาะหาสำหรับทริปเที่ยวไอซ์แลนด์ และคุณจำเป็นต้องเช่ารถขับเพื่อเดินทางมาสำรวจสถานที่ห่างไกลแห่งนี้ด้วยตัวเอง

ดยูปิโวกูร์ในฟยอร์ดตะวันออกเป็นหมู่บ้านที่งดงามมาก

เมื่อขับรถขึ้นเขาลงเขาที่สูงชันและลัดเลาะไปตามริมหน้าผาที่งดงาม คุณจะมองเห็นวิวทะเลสวยๆ และมองเห็นวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลล์ (Vatnajokull) รวมถึงธารน้ำแข็งขนาดมหึมาที่อยู่ตรงกลางด้วย

แม้ว่าจะอยู่ห่างไกล แต่ในทางภาคตะวันออกนี้ก็มีชุมชนหลายแห่ง เช่น ดยูปิโวกูร์ (Djupivogur) เซย์ดิสฟยอร์ดูร์ (Seydisfjordur) และเอกิลสตาดิร์ (Egilsstadir) ซึ่งคุณสามารถแวะเติมน้ำมัน รับประทานอาหาร และใช้บริการที่พักที่สะดวกสบายในเมืองเหล่านี้ได้ เมืองและหมู่บ้านแบบดั้งเดิมเหล่านี้ล้วนล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่งดงามอย่างไม่น่าเชื่อ

เอกิลสตาดิร์ตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่สวยงาม

เซย์ดิสฟยอร์ดูร์นั้นมีความงดงามอย่างน่าประทับใจ โดยตั้งอยู่ลึกเข้าไปในฟยอร์ดที่โอบล้อมด้วยหน้าผาสูงชันและวิวมหาสมุทร และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของภาคตะวันออกของไอซ์แลนด์จำนวนหลายแห่ง อย่างฮูเซย์ (Husey) และบอร์กายฟยอร์ดูร์ เอสตรี (Borgafjordur Eystri) ก็ตั้งอยู่ในเมืองนี้

7. ตามหากวางเรนเดียร์ในฟยอร์ดทางตะวันออก

เรนเดียร์ป่าในฟยอร์ดตะวันออก

เมื่อคุณขับรถผ่านเข้าไปในฟยอร์ดทางตะวันออกให้คุณคอยมองหาสัตว์ประจำถิ่นกันด้วย แถวนี้มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ที่เต็มไปด้วยสัตว์น้ำและมีนกทะเลหลายชนิดบินฉวัดเฉวียนอยู่บนท้องฟ้า และฟยอร์ดตะวันออกยังเป็นเพียงภูมิภาคเดียวของไอซ์แลนด์ที่คุณสามารถเจอกวางเรนเดียร์เดินเล่นอย่างอิสระ

แต่เหตุผลเพียงข้อเดียวที่ทำให้พวกมันไม่ได้ถูกนำไปรวมอยู่ในลิสต์ของสิ่งที่ต้องมาดูในไอซ์แลนด์ก็เพราะเรนเดียร์ไม่ใช่สัตว์พื้นเมืองของประเทศไอซ์แลนด์ กวางเหล่านี้ถูกนำมาจากนอร์เวย์และเดนมาร์กในศตวรรษที่ 18 ตามคำสั่งของชนชั้นปกครอง แต่มีเพียงฝูงที่อยู่ในฟยอร์ดตะวันออกเท่านั้นที่รอดชีวิต

จุดที่เหมาะกับการไปดูเรนเดียร์คือบริเวณฟยอร์ดที่อยู่ใกล้กับเมืองเซย์ดิสฟยอร์ดูร์ หรือจะเลือกไปกับทัวร์ซูเปอร์จี๊ปที่พาตามส่องเรนเดียร์ก็ได้

6. สำรวจพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพรอบทะเลสาบมิวาทน์

มิวาทน์เป็นพื้นที่มหัศจรรย์ในทางตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์

ดินแดนมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาและพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพที่เรียกว่าพื้นที่ทะเลสาบมิวาทน์ (Lake Myvatn) อยู่ห่างออกไปทางเหนือของอาคูเรย์ริ (Akureyri) ที่ได้ชื่อว่าเป็น "เมืองหลวงของภาคเหนือของไอซ์แลนด์" ราว 78.8 กิโลเมตร

ทะเลสาบแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นหลังจากการปะทุของภูเขาไฟครั้งใหญ่เมื่อกว่าสองพันปีก่อน ปัจจุบันพื้นที่บริเวณนี้ถือเป็นสิ่งล้ำค่า และคุณสามารถเดินทางเข้าไปชมได้โดยเลือกจากแพ็คเกจทัวร์ที่พาชมมิวาทน์

ทะเลสาบมิวาทน์มีรูปทรงที่งดงามและมีสิ่งมีชีวิตมากมายที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้

ภาพมุมสูงของทะเลสาบมิวาทน์

นกทะเลหลายสิบชนิดจะบินมารวมกันที่นี่ในช่วงหน้าร้อน และผู้ที่สนใจเกี่ยวกับพืชพรรณไม้น่าจะชอบที่ได้เห็นมอสส์บอล ซึ่งมีให้เห็นอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก

แต่ลักษณะทางธรณีวิทยารอบทะเลสาบมิวาทน์นั้นน่าอัศจรรย์ยิ่งกว่า ตามพื้นที่ริมฝั่งน้ำจะมีปากปล่องภูเขาไฟเทียมเรียงรายให้เห็นอย่างสวยงาม และคุณสามารถเดินขึ้นไปชมรอบๆ เพื่อค้นหาความลับที่ซ่อนอยู่ของภูเขาไฟในประเทศไอซ์แลนด์ได้ด้วย

ปากปล่องภูเขาไฟเทียมที่มิวาทน์

ส่วนดิมมูบอร์กิร์ (Dimmuborgir) เป็นทุ่งลาวาที่สวยงามที่มักจะเรียกกันว่าป้อมปราการดำ และในทุ่งลาวาแห่งนี้ยังมีถ้ำน้ำพุร้อนกริโยแทกยา (Grjotagja) ที่เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นทุกวันซ่อนตัวอยู่อีกแห่งด้วย

แต่คุณจะไม่สามารถลงไปแช่น้ำในถ้ำนี้ได้เนื่องจากน้ำมีอุณหภูมิไม่คงที่ และน้ำพุร้อนในถ้ำแห่งนี้ยังเคยถูกเลือกใช้เป็นฉากพลอดรักระหว่างจอน สโนว์ และอีกริตในซีรีส์เกมออฟโธรนส์ ซึ่งยกกองมาถ่ายทำกันในประเทศไอซ์แลนด์จำนวนหลายฉากด้วย

ทะเลสาบมิวาทน์มีสีฟ้าและสีเขียวหลากเฉดสีอย่างไรก็ตามผู้ที่ต้องการแช่น้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไหนไกล เพราะในบริเวณนี้มีอ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ (Myvatn Nature Baths) ให้ใช้บริการเพื่อผ่อนคลายร่างกายหลังจากเดินทางท่องเที่ยวกันจนเมื่อย

นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแถวทะเลสาบมิวาทน์ยังสามารถขับรถไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลได้อีกหลายแห่ง

เช่น ทะเลสาบมิวาทน์อยู่ใกล้กับช่องเขาเนามาสการ์ด (Namaskard Pass) ซึ่งคุณสามารถไปชมพุก๊าซฟูมาโรลและบ่อโคลนเดือดปุดๆ ที่อยู่บนที่ราบสูงบนภูเขา

ดอกเดซี่หน้าน้ำตกเดตติฟอสส์นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับน้ำตกสวยๆ อย่างน้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ทรงพลังมากที่สุดในยุโรปด้วย

5. เที่ยวนอกเส้นทางวงกลมทองคำ

โร้ดทริปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไอซ์แลนด์อย่างไม่ต้องสงสัยคือการขับรถเที่ยววงกลมทองคำ (Golden Circle) อันโด่งดัง  หากคุณต้องการเพิ่มความสนุกสนานให้กับทัวร์ขับรถเที่ยววงกลมทองคำด้วยตัวเอง คุณก็สามารถเพิ่มกิจกรรมยอดนิยมในไอซ์แลนด์เข้าไปในโร้ดทริปนี้ได้ โดยจะต้องขับรถออกนอกเส้นทางกันเล็กน้อย

นักท่องเที่ยวดำน้ำพร้อมไฟฉายในมือในรอยแยกซิลฟรา

ภาพจากกิจกรรมดำน้ำที่ซิลฟราและเดย์ทัวร์เที่ยววงกลมทองคำ 

เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้รับความนิยมมากและสามารถเที่ยวได้รอบภายในเวลาเพียงครึ่งวัน ผู้ให้บริการทัวร์จำนวนมากจึงเพิ่มกิจกรรมเสริมที่สนุกสนานเข้าไปในทัวร์เที่ยววงกลมทองคำด้วย

ผู้ที่ชอบความท้าทายสามารถลงไปดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิลในหุบเขารอยแยกซิลฟรา ซึ่งรอยแยกซิลฟราเป็นแหล่งน้ำจืดธรรมชาติที่เหมาะกับการดำน้ำและมีทัศนียภาพใต้น้ำงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หรือจะไปเข้าร่วมกับทัวร์ดำน้ำที่เป็นการดำน้ำเย็นก็ได้ (หากคุณมีคุณสมบัติครบ) 

สำหรับผู้ที่ชอบทำอะไรแอดเวนเจอร์หน่อยก็สามารถเพิ่มทริปขี่สโนว์โมบิลที่ออกเดินทางจากน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) และพาคุณขึ้นไปเที่ยวบนธารน้ำแข็งลางโจกุลอันยิ่งใหญ่

4. ถ่ายภาพหุบเขาอาสบิร์กิ

หุบเขา Asbyrgi ทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ในฤดูร้อน

ในทางตะวันออกเฉียงเหนือของไอซ์แลนด์ ออกนอกเส้นทางหลักไปหน่อยจะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ก่อตัวขึ้นอย่างประณีตงดงาม และตำนานบอกว่าหุบเขาแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังเหนือธรรมชาติ

โดยเล่าต่อกันมาว่าหุบเขาทรงเกือกม้าอาสบิร์กิ (Asbyrgi) นี้เกิดจากกีบเท้าของม้าไอซ์แลนด์แปดขาซึ่งเป็นพาหนะของเทพโอดินกระทืบลงบนดิน ดังนั้นที่นี่เป็นสถานที่หนึ่งที่ห้ามพลาดหากคุณสนใจในตำนานเทพเจ้านอร์ส

หุบเขานี้มีหน้าผาล้อมรอบและมีที่ราบโผล่ขึ้นมาตรงกลาง ทำให้เป็นสถานที่ที่มีวิวสวยงามและเหมาะสำหรับถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ

บริเวณด้านในของหุบเขาแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยพุ่มไม้หนาทึบ มีทั้งเบิร์ช วิลโลว์ เฟอร์ ลาร์ช และต้นสน และความจริงแล้วบริเวณนี้มีพืชพรรณอุดมสมบูรณ์จนยากจะเชื่อว่าอยู่ในประเทศไอซ์แลนด์

และไม่แปลกเลยที่ในบริเวณนี้จะมีตำนานมากมายเกี่ยวกับฮิดเด้นพีเพิล (เอลฟ์) ของชาวไอซ์แลนด์ 

3. เดินป่าในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์

น้ำตกสวาร์ติฟอสส์ในสกัฟตาเฟลล์ข้างอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล

เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell Nature Reserve) มีภูมิประเทศที่หลากหลายและครั้งหนึ่งเคยเป็นอุทยานแห่งชาติมาก่อน

แต่ตอนนี้พื้นที่สวยงามชวนหลงใหลแห่งนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajokull National Park)

ธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุลในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์

คุณสามารถตั้งแคมป์ท่ามกลางป่าต้นเบิร์ชอันเขียวขจีริมลำธารที่ไหลมาจากธารน้ำแข็ง ซึ่งสามารถเดินเท้ามาจากหาดทรายดำและทุ่งลาวาอันวังเวงได้

ผืนน้ำแข็งส่วนที่ยื่นออกมาจากธารน้ำแข็งและทะเลสาบลากูนทั้งหมดในเขตอนุรักษ์แห่งนี้มีต้นกำเนิดมาจากธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ผู้ที่ต้องการขึ้นไปชมวิวที่ด้านบนสามารถจองทัวร์ปีนธารน้ำแข็งที่จะพาขึ้นไปบนธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุลล์ (Svinafellsjokull) ซึ่งเป็นหนึ่งในผืนน้ำแข็งจำนวนหลายแห่งของธารน้ำแข็งแห่งนี้ได้

สวีนาเฟลล์โจกุลล์ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์

แต่หากคุณไม่อยากขึ้นไปเดินบนน้ำแข็ง คุณก็สามารถเที่ยวชมความงามของเส้นทางเดินป่าที่มีอยู่หลายเส้นทางในบริเวณนี้ได้

เส้นทางที่เป็นทางไปน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) นั้นเป็นเส้นทางที่โดดเด่นที่สุดและมีน้ำไหลผ่านหน้าผาเสาหินบะซอลต์สีดำเป็นภาพที่งดงามน่าประทับใจ

สกัฟตาเฟลล์ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ห่างจากทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนและหาดไดมอนด์ 56 กิโลเมตร 

2. ขับรถบนเส้นทางวงกลมทองคำ

เพิ่มกิจกรรมแอดเวนเจอร์ให้กับทริปเที่ยววงกลมทองคำของคุณเราไม่ได้ล้อเล่นที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าวงกลมทองคำเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไอซ์แลนด์ เส้นทางนี้มีระยะทางทั้งหมด 300 กิโลเมตร และจะพาคุณไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุดในทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir National Park) พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area) และน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss)

สามารถดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกบนวงกลมทองคำได้ตลอดทั้งปีอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์เป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกเพียงแห่งเดียวบนแผ่นดินใหญ่ของไอซ์แลนด์ อุทยานฯ นี้ตั้งอยู่ในหุบเขาที่เป็นรอยแยกระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเชีย โดยมีภูมิประเทศเป็นทุ่งลาวาและผืนป่าที่สวยงามเคียงข้างกับลำธารที่มีน้ำใสสะอาด

น้ำพุร้อนสโตรคูร์ปะทุในพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์

พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์เป็นที่ตั้งของไกเซอร์ (Geyser) ซึ่งน้ำพุร้อนต้นแบบที่ทำให้เรียกน้ำพุร้อนทั่วไปว่า "ไกเซอร์" ด้วย

แม้ว่าไกเซอร์ต้นฉบับนี้จะสงบนิ่งไปแล้ว แต่น้ำพุร้อนสโทรคูร์ (Strokkur) ที่อยู่ข้างๆ กันยังคงพ่นน้ำสูงกว่า 20 เมตรในทุกๆ ห้านาที ทำให้ถ่ายภาพออกมาสวยงามมาก

น้ำตกกุลล์ฟอสส์

น้ำตกกุลล์ฟอสส์เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์และมีมวลน้ำพลังมหาศาลไหลลดหลั่นเป็นสองชั้นลงสู่หุบเขาโบราณที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ยุคน้ำแข็งสุดท้าย ในวันที่มีแดดอาจจะมีรุ้งกินน้ำหนึ่งหรือสองตัวออกมาปรากฏตัวให้เห็นบนม่านละอองน้ำด้วย!

มีแพ็คเกจทัวร์แบบมีไกด์มากมายที่พาไปเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำ แต่นักท่องเที่ยวจำนวนมากก็นิยมขับรถเที่ยวด้วยตัวเองเพื่อที่จะได้ใช้เวลาเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ในไอซ์แลนด์อย่างอิสระ

1. ดูพระอาทิตย์เที่ยงคืนหรือล่าแสงเหนือ

แสงเหนือเหนือภูเขาในไอซ์แลนด์

เสน่ห์ของพระอาทิตย์ที่ไม่เคยลับขอบฟ้าและแสงเหนือที่สวยงามเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ต้องมาชมในประเทศไอซ์แลนด์ และแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม แต่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดในอันดับต้นๆ เมื่อมาเที่ยวไอซ์แลนด์ และมีการจัดทัวร์สำหรับทั้งพระอาทิตย์เที่ยงคืนและแสงเหนือโดยเฉพาะมากมาย

เราเคยโพสต์บทความเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการมาเที่ยวไอซ์แลนด์เพื่อชมแสงเหนือไปแล้ว และโดยทั่วไปแล้วช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดคือตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมไปจนถึงเมษายน และช่วงกลางฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่มีโอกาสได้เห็นแสงเหนือมากที่สุด และการเข้าร่วมกับทัวร์ดูแสงเหนือแบบมีไกด์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจะช่วยเพิ่มโอกาสในการมองเห็นแสงออโรราบอเรลลิสได้อย่างแน่นอนภูเขาเคิร์กจูเฟลล์บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสสะท้อนบนผิวน้ำ

แต่หากคุณชอบอากาศที่อบอุ่นขึ้นมาหน่อยให้เดินทางมาเยือนไอซ์แลนด์ในระหว่างเดือนพฤษภาคมและสิงหาคม และคุณก็จะได้เพลิดเพลินไปกับวันที่พระอาทิตย์ไม่ตกดินแทน เราเคยพูดถึงการชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนไปแล้ว และมีทัวร์ที่พาไปชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนให้เลือกมากมายเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับช่วงเวลามหัศจรรย์นี้

เนื่องจากทั้งสองปรากฏการณ์นี้เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การมาชมในประเทศไอซ์แลนด์ทั้งคู่ คุณจึงอาจจะอยากมาไอซ์แลนด์สองครั้ง เพื่อชมความมหัศจรรย์ของแสงเหนือในหน้าหนาวและพระอาทิตย์เที่ยงคืนในหน้าร้อน

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในไอซ์แลนด์

มีหลายสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยงเมื่อมาเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป และเราเคยเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งเมื่อมาไอซ์แลนด์ไปแล้ว

สำหรับสถานที่ที่ควรหลีกเลี่ยง เราขอบอกว่าสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดในประเทศไอซ์แลนด์ของจริงก็สวยงามเหมือนกับในรูปถ่าย ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิดหวัง เราแนะนำให้จองทริปเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ในไอซ์แลนด์ล่วงหน้า โดยเฉพาะบลูลากูน

นักท่องเที่ยวลอยตัวในน้ำที่บลูลากูน

เราหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่ดีที่สุดสำหรับทริปเที่ยวไอซ์แลนด์ของคุณในครั้งนี้ หากคุณมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ ที่คุณโปรดปรานในไอซ์แลนด์ หรือมีสถานที่ท่องเที่ยวนอกเส้นทางหลักที่คุณบังเอิญค้นพบระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยวท่ามกลางภูมิประเทศที่โดดเด่นไม่เหมือนใครของไอซ์แลนด์ก็สามารถแบ่งปันให้เราทราบได้

อย่ารีรอที่จะแบ่งปันความคิดเห็นของคุณหรือส่งคำถามที่คุณมีเข้ามาที่ช่องคอมเมนต์ด้านล่าง

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความอื่นที่น่าสนใจ

Link to appstore phone
ติดตั้งแอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์

ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว

สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ เพิ่มหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด