ค้นหากิจกรรมยอดนิยมในไอซ์แลนด์ พร้อมอ่านคำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งที่ไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ประสบการณ์ทางวัฒนธรรม หรือจุดลับที่ซ่อนอยู่ เรียนรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเยือนในไอซ์แลนด์อย่างครบถ้วน
ไอซ์แลนด์เป็นดินแดนแห่งความแตกต่างอันน่าทึ่ง การขับรถเที่ยวรอบเกาะจะพาคุณผ่านธารน้ำแข็งและภูเขาไฟ และคุณยังสามารถชมแสงเหนือที่ส่องประกายบนภูมิประเทศฤดูหนาวอันมืดมิด ด้วยความงดงามและการผจญภัยที่อัดแน่นอยู่ในเกาะเดียว อาจทำให้คุณไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี!
เหตุผลที่คุณวางใจเนื้อหาของเราได้
Guide to Iceland คือแพลตฟอร์มท่องเที่ยวที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในไอซ์แลนด์ โดยช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหลายล้านคนในแต่ละปี เนื้อหาทั้งหมดของเราถูกเขียนและตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นที่รู้จักไอซ์แลนด์เป็นอย่างดี คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อถือได้
เพื่อให้ง่ายต่อการวางแผน คู่มือนี้จะเน้นสิ่งที่ควรสัมผัสในไอซ์แลนด์ ตั้งแต่กิจกรรมยอดนิยมไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด
หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมที่สุดในไอซ์แลนด์คือเช่ารถขับเอง เพื่อเที่ยวชม สถานที่ท่องเที่ยวตามถนนวงแหวน (Ring Road) พร้อมพักในโรงแรมชนบทแสนอบอุ่นตลอดเส้นทาง การขับรถเที่ยวมีความยืดหยุ่นและเป็นวิธีที่สวยงามในการสัมผัสธรรมชาติในจังหวะของตัวเอง แต่สำหรับผู้ที่ต้องการพักในเรคยาวิกเป็นฐาน เราก็มีตัวเลือกดีๆ ให้เลือกมากมายเช่นกัน
ไม่ว่าคุณจะตามล่าหาน้ำตก สำรวจธารน้ำแข็ง หรือผ่อนคลายในสปาความร้อนจากใต้พิภพ บทความนี้ได้รวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดของไอซ์แลนด์สำหรับการผจญภัยในฝันของคุณไว้ให้แล้ว
สถานที่ท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์
ไอซ์แลนด์เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ไม่ว่าคุณจะวางแผนทริปสั้นหรือยาว ก็สามารถสร้างแผนการเดินทางที่อัดแน่นด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้บริการแพ็กเกจท่องเที่ยว หรือทัวร์ขับรถเองราคาประหยัด ที่ช่วยให้คุณเที่ยวได้ตามใจ
ด้านล่างนี้คือคำแนะนำสั้น ๆ เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์และสิ่งที่แต่ละภูมิภาคมีให้ ก่อนที่เราจะเจาะลึกไปยังแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมยอดนิยม
1. เรคยาวิก - เมืองหลวงของไอซ์แลนด์

จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของการเดินทางในไอซ์แลนด์คือเรคยาวิก เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกเพียง 45 นาทีโดยรถยนต์
เมืองหลวงแห่งนี้เป็นที่ตั้งของแลนด์มาร์กที่โด่งดังที่สุดของไอซ์แลนด์ เช่น โบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยา (Hallgrimskirkja) ฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa) และพิพิธภัณฑ์เพอร์ลาน (Perlan) นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารที่ผสมผสานระหว่างอาหารไอซ์แลนด์ดั้งเดิมกับอาหารนอร์ดิกสมัยใหม่
เรคยาวิกเป็นเมืองขนาดกะทัดรัด เดินเที่ยวได้ง่าย เต็มไปด้วยบ้านสีสันสดใส ศิลปะบนกำแพง และคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น นักท่องเที่ยวจำนวนมากยังใช้เมืองนี้เป็นฐานในการออกเดินทางด้วยการเข้าร่วมกับทัวร์วันเดียวจากเรคยาวิก เพื่อไปยังไฮไลต์อย่างวงกลมทองคำ (Golden Circle) ชายฝั่งทางใต้ (South Coast) หรือคาบสมุทรสไนแฟลซเนส (Snaefellsnes)
2. วงกลมทองคำ (Golden Circle) - เส้นทางยอดนิยมที่สุดของไอซ์แลนด์

วงกลมทองคำ เป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ด้วยเหตุผลหลายประการ
เส้นทางนี้ครอบคลุม 3 สถานที่สำคัญของประเทศ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) มรดกโลกยูเนสโกที่มีความสำคัญทั้งทางธรณีวิทยาและประวัติศาสตร์ พื้นที่น้ำพุร้อนไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area) ที่น้ำพุร้อนสโทรคูร์ (Strokkur) ปะทุทุก ๆ ไม่กี่นาที และ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss Waterfall) หนึ่งในน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดของไอซ์แลนด์
วงกลมทองคำสามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากเรคยาวิก หรือเป็นทางแวะระหว่างเที่ยวถนนวงแหวน (Ring Road) ก็ได้ คุณสามารถเลือกทัวร์วงกลมทองคำหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบขับรถเอง ทัวร์พร้อมไกด์ หรือกิจกรรมเฉพาะจุด เช่น ดำน้ำตื้น ขับสโนว์โมบิล ขี่ม้า และแช่น้ำแร่ร้อน
3. ชายฝั่งทางใต้ (South Coast) - แนวชายฝั่งที่สวยที่สุดของไอซ์แลนด์
ชายฝั่งทางใต้ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์สำหรับการขับรถเที่ยวหรือไปกับทัวร์พร้อมไกด์ เพราะมีภูมิประเทศที่งดงามตระการตา ภูมิภาคนี้มีสถานที่โด่งดังมากมาย ทั้งน้ำตกหาดทรายดำ และวิวธารน้ำแข็ง
ทางใต้ของไอซ์แลนด์ยังเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินธารน้ำแข็ง สำรวจถ้ำน้ำแข็ง และขี่ม้า
สามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากเรคยาวิก หรือเลือกทัวร์ชายฝั่งทางใต้ แต่แนะนำให้ใช้เวลาอย่างน้อย 2 วันเพื่อสัมผัสประสบการณ์ได้เต็มที่ เพราะภูมิภาคนี้เต็มไปด้วยจุดลับและเส้นทางชมวิวสำหรับผู้ที่มีเวลามากกว่าแค่ไฮไลต์หลัก
4. คาบสมุทรสไนแฟลซเนส (Snaefellsnes) - ไอซ์แลนด์ฉบับย่อ

คาบสมุทรสไนแฟลซเนส มักถูกเรียกว่า "ไอซ์แลนด์ฉบับย่อ" เพราะรวมภูมิประเทศที่มีชื่อเสียงของประเทศไว้ในภูมิภาคเดียว ภายในอุทยานแห่งชาติสไนเฟลล์สโจกุล (Snaefellsjokull) คุณจะได้พบกับทุ่งลาวา ปล่องภูเขาไฟ หน้าผาริมทะเล และหาดทรายดำที่โดดเด่น
นอกจากการเที่ยวชมวิวและเดินเล่นริมชายฝั่งแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจหมู่บ้านชาวประมง ออกทัวร์ชมวาฬหรือพายเรือคายัค เดินป่าตามเส้นทางสวย ๆ ขึ้นรถสโนว์แคทบนธารน้ำแข็งสไนเฟลล์สโจกุล หรือผจญภัยในถ้ำลาวาอันน่าตื่นตา
สไนแฟลซเนสเหมาะกับทั้งทริปวันเดียวจากเรคยาวิก หรือเป็นทางแวะระหว่างเที่ยวถนนวงแหวน (Ring Road) มีทัวร์สไนแฟลซเนสให้เลือกหลายแบบ จึงวางแผนเที่ยวได้ตามเวลาที่มีและสไตล์การเดินทางที่ชอบ
5. ฟยอร์ดตะวันออก (Eastfjords) - ความงามเงียบสงบและเสน่ห์ชายฝั่ง
ไอซ์แลนด์ตะวันออกเป็นภูมิภาคที่เงียบสงบและงดงาม มีถนนเลียบชายฝั่งคดเคี้ยว หมู่บ้านชาวประมงเงียบ ๆ และฟยอร์ดที่น่าตื่นตา
ที่นี่คุณจะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก เช่น บ่อน้ำร้อนธรรมชาติ ฟยอร์ดเงียบสงบ น้ำตกซ่อนตัว และแคนยอน ซึ่งสามารถเที่ยวเองหรือเลือกไปกับทัวร์ฟยอร์ดตะวันออกก็ได้
โดยปกติแล้ว นักท่องเที่ยวจะมาเยือนฟยอร์ดตะวันออกเมื่อขับรถเที่ยวรอบถนนวงแหวน (Ring Road) เพราะอยู่ไกลจากเรคยาวิกเกินกว่าจะเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือบินจากเรคยาวิกไปยังเมืองเอกิลสตาดีร์ (Egilsstadir) แล้วเช่ารถขับเที่ยวต่อ
6. ไอซ์แลนด์เหนือ (North Iceland) - สัตว์ป่าและสิ่งมหัศจรรย์ภูเขาไฟ

ไอซ์แลนด์เหนือผสมผสานภูมิประเทศภูเขาไฟ พื้นที่น้ำพุร้อน และสัตว์ป่าหลากหลาย ไฮไลต์ของภูมิภาคนี้เชื่อมโยงกันด้วยเส้นทางไดมอนด์เซอร์เคิล (Diamond Circle) ที่รวมทั้งน้ำตก แคนยอน พื้นที่น้ำพุร้อน และเมืองชมวาฬฮูสาวิก (Husavik)
นอกจากภูมิประเทศแล้ว ไอซ์แลนด์เหนือยังเหมาะกับการพักผ่อนในบ่อน้ำร้อนธรรมชาติและสปา ในฤดูหนาว ที่นี่เป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับชมแสงเหนือและทัวร์นั่งเลื่อนที่ลากโดยสุนัข
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาเยือนไอซ์แลนด์เหนือระหว่างขับรถรอบถนนวงแหวน (Ring Road) แต่หากเดินทางตรงจากเรคยาวิก ควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 2-3 วันเพื่อสัมผัสภูมิภาคนี้อย่างเต็มที่
7. เวสต์ฟยอร์ด (Westfjords) - ภูมิประเทศสวยที่ซ่อนตัวและแนวชายฝั่งสุดตระการตา
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในไอซ์แลนด์จะขับรถเที่ยวรอบถนนวงแหวน (Ring Road) แต่มีเพียงไม่กี่คนที่แวะไปยังเวสต์ฟยอร์ด ทำให้ภูมิภาคที่เงียบสงบและน่าทึ่งนี้มักถูกมองข้ามจากลิสต์สถานที่ท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์
ที่นี่คุณจะได้พบหน้าผาริมทะเลที่เต็มไปด้วยนกพัฟฟิน ชายหาดห่างไกล น้ำตก และถนนคดเคี้ยวผ่านฟยอร์ดที่ยังคงความบริสุทธิ์ กิจกรรมยอดนิยมในทัวร์เวสต์ฟยอร์ด ได้แก่ เดินป่า พายเรือคายัค ดูนก และแช่น้ำแร่ธรรมชาติ
คุณสามารถขับรถหรือบินไปยังเมืองอีสาฟยอร์ดูร์ (Isafjordur) แล้วเช่ารถขับเที่ยวต่อ เวสต์ฟยอร์ดเหมาะกับการเที่ยวในฤดูร้อนเมื่อถนนเปิดและสภาพอากาศเอื้ออำนวย ควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 2-3 วันเต็มเพื่อเที่ยวไฮไลต์ต่าง ๆ ได้อย่างสบาย
8. คาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) - ความงามแห่งน้ำพุร้อนใกล้เรคยาวิก
คาบสมุทรเรคยาเนส เป็นจุดแรกและจุดสุดท้ายที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะได้เห็นในไอซ์แลนด์ เพราะเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก
สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดบนคาบสมุทรเรคยาเนสคือบลูลากูน (Blue Lagoon) สปาน้ำแร่ร้อนจากความร้อนใต้พิภพที่โอบล้อมด้วยภูมิประเทศภูเขาไฟ แต่ที่นี่มีอะไรให้เที่ยวมากกว่านั้น ทัวร์เรคยาเนสจะพาคุณไปยังจุดเด่นต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้
สำหรับผู้ที่มีเวลาครึ่งวันก่อนเดินทางกลับบ้านหรือหลังจากที่เครื่องบินมาถึงไอซ์แลนด์ เรคยาเนสสามารถขับรถเที่ยวได้ง่าย สถานที่น่าเที่ยวในภูมิภาคนี้ ได้แก่ พื้นที่ความร้อนใต้พิภพที่มีไอน้ำ ทุ่งลาวา ประภาคาร หน้าผาริมทะเล และภูเขาไฟใหม่ล่าสุดของไอซ์แลนด์อย่างปล่องซุนด์ฮนูคากีการ์ (Sundhnukagigar Craters)
9. ซิลเวอร์เซอร์เคิล (Silver Circle) - ความลับที่ดีที่สุดของไอซ์แลนด์ตะวันตก
ซิลเวอร์เซอร์เคิล เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเงียบสงบในไอซ์แลนด์ตะวันตก เดินทางจากเรคยาวิกได้สะดวก มักนิยมเที่ยวระหว่างทางไปคาบสมุทรสไนแฟลซเนส หรือเป็นส่วนหนึ่งของทริปรอบถนนวงแหวน (Ring Road)
ซิลเวอร์เซอร์เคิลมีชื่อเสียงเรื่องน้ำตก น้ำพุร้อน และแหล่งประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวยังจะได้พบหุบเขาเงียบสงบ วิวภูเขา และบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ หลายคนยังเพิ่มทัวร์ธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) เข้าไปในแผนด้วย ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเที่ยวซิลเวอร์เซอร์เคิลในหนึ่งวัน แต่สามารถรวมกับภูมิภาคใกล้เคียงได้หากมีเวลา
10. ไฮแลนด์ (Highlands) - ดินแดนธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และไร้การปรุงแต่งของไอซ์แลนด์
ภูมิภาคที่ห่างไกลที่สุดของไอซ์แลนด์แห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ ไฮแลนด์ มีภูเขาไรโอไลต์หลากสี หุบเขาน้ำพุร้อน ทะเลทรายดำ และแม่น้ำธารน้ำแข็ง
นักท่องเที่ยวเดินทางมาไฮแลนด์เพื่อเดินป่า แช่น้ำแร่ธรรมชาติ หรือชมทิวทัศน์ดิบ ๆ ที่ยังไม่ถูกรบกวน พื้นที่กว้างใหญ่แห่งนี้เข้าถึงได้เฉพาะกับ ทัวร์ไฮแลนด์พร้อมไกด์ หรือหากมาในฤดูร้อน สามารถเข้าถึงได้ด้วยรถเช่า 4x4 อย่าลืมตรวจสอบถนน F (F-Roads) ที่ต้องใช้ก่อนออกเดินทาง
เมื่อคุณได้รู้จักภูมิภาคต่าง ๆ ของไอซ์แลนด์แล้ว จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะไปที่ไหนตามเวลาที่มีและประสบการณ์ที่ต้องการ อ่านต่อเพื่อดูว่าสิ่งที่ไม่ควรพลาดในไอซ์แลนด์มีอะไรบ้าง ก่อนที่เราจะเจาะลึกกิจกรรมยอดนิยม!
สิ่งที่ควรไปเห็นในไอซ์แลนด์
ไม่ใช่ความลับเลยว่าไอซ์แลนด์มีธรรมชาติที่โดดเด่นและสวยงามไม่เหมือนใครมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ภูมิประเทศส่วนใหญ่ถูกหล่อหลอมโดยภูเขาไฟและธารน้ำแข็งตลอดเวลา จนเกิดความแตกต่างอันน่าทึ่ง
ประชากรที่น้อยของประเทศยิ่งทำให้ธรรมชาติเหล่านี้พิเศษขึ้นไปอีก เพราะส่วนใหญ่ยังคงความบริสุทธิ์และไม่ถูกรบกวน สิ่งที่ควรไปเห็นในไอซ์แลนด์ ได้แก่ น้ำตกทรงพลัง ธารน้ำแข็งกว้างใหญ่ สัตว์ป่าน่าทึ่ง แสงเหนือในฤดูหนาว และพระอาทิตย์เที่ยงคืนในฤดูร้อน
ด้านล่างนี้คือภาพรวมสั้น ๆ ของ 10 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติยอดนิยม เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าสิ่งไหนควรไปเห็นในไอซ์แลนด์
1. แสงเหนือ - มหัศจรรย์แห่งแสงฤดูหนาวของไอซ์แลนด์

ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเมษายน คุณสามารถชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์ อันน่าอัศจรรย์ได้ หลายคนถือว่านี่คือสิ่งที่ควรไปเห็นที่สุดในไอซ์แลนด์และเป็นไฮไลต์ของทริป
คุณสามารถออกตามล่าแสงเหนือด้วยตัวเอง หรือเลือกทัวร์แสงเหนือพร้อมไกด์ ที่จะพาคุณไปยังจุดลับที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือมากที่สุด
2. น้ำตก - ความมหัศจรรย์นับไม่ถ้วนทั่วประเทศ
ไอซ์แลนด์ขึ้นชื่อเรื่องน้ำตกที่สวยงาม หลายแห่งตั้งอยู่ติดถนนวงแหวน (Ring Road) เช่น น้ำตกสโคกาฟอสส์ (Skogafoss) น้ำตกหลายแห่งยังมีตำนานพื้นบ้านเกี่ยวข้อง เพิ่มความลึกลับให้กับสถานที่
น้ำตกบางแห่ง เช่น น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) มีขนาดใหญ่และทรงพลัง ขณะที่บางแห่งเล็กและอ่อนช้อยกว่า และยังมีน้ำตกหลายแห่งที่สามารถเดินลอดด้านหลังได้ เช่น น้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์ (Seljalandsfoss) อันโด่งดัง
3. ธารน้ำแข็งและทะเลสาบธารน้ำแข็ง - ผืนน้ำแข็งมหึมาและภูเขาน้ำแข็งลอยน้ำ

ธารน้ำแข็งคือหนึ่งในสิ่งที่ควรไปเห็นที่สุดในไอซ์แลนด์ ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของประเทศและหล่อเลี้ยงทะเลสาบอันงดงามอย่างทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon Glacier Lagoon) ที่มีภูเขาน้ำแข็งค่อย ๆ ลอยออกสู่ทะเล
หากอยากสัมผัสประสบการณ์ใกล้ชิดกับธรรมชาติอันน่าทึ่งนี้ สามารถเลือกทัวร์ธารน้ำแข็ง เพื่อเดินบนผืนน้ำแข็งหรือสำรวจถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่น่าจดจำในไอซ์แลนด์
4. ถ้ำน้ำแข็ง - สำรวจโลกที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนน้ำแข็ง

ในฤดูหนาว ถ้ำน้ำแข็งจะก่อตัวขึ้นตามธรรมชาติภายในธารน้ำแข็งของไอซ์แลนด์ ถ้ำสีน้ำเงินระยิบระยับเหล่านี้สามารถเข้าชมได้เฉพาะเมื่อเข้าร่วมกับทัวร์ถ้ำน้ำแข็งพร้อมไกด์ ซึ่งมักเปิดให้บริการระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม
ถ้ำน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงที่สุดคือถ้ำน้ำแข็งคริสตัลสีน้ำเงิน (Crystal Blue Ice Cave) ในธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajokull) ส่วนถ้ำน้ำแข็งแห่งเดียวในไอซ์แลนด์ที่เที่ยวได้ตลอดปีคือถ้ำน้ำแข็งคัทลา (Katla Ice Cave) ใต้ธารน้ำแข็งมิร์ดาลส์โจกุล (Myrdalsjokull)
5. หาดทรายดำ - ชายฝั่งภูเขาไฟสุดแปลกตา
หาดทรายดำในไอซ์แลนด์เกิดจากภูเขาไฟ มีความสวยงามแปลกตา หาดที่มีชื่อเสียงที่สุดคือหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่มีหน้าผาบะซอลต์และคลื่นกระหน่ำ
หาดไดมอนด์ (Diamond Beach) ใกล้ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนก็เป็นอีกหนึ่งหาดที่สวยงาม มีน้ำแข็งระยิบระยับ ส่วนจุดถ่ายภาพยอดนิยมคือโซลเฮมาซานดูร์ (Solheimasandur) ทุ่งทรายดำกว้างใหญ่ที่มีซากเครื่องบิน DC3 ตั้งอยู่
6. ภูเขาไฟและทุ่งลาวา - พลังดิบของโลก
ภูเขาไฟในไอซ์แลนด์ได้หล่อหลอมภูมิประเทศให้เกิดทุ่งทรายดำ ทุ่งลาวาขรุขระ และปล่องภูเขาไฟอันน่าตื่นตา การปะทุบนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) ล่าสุด แสดงให้เห็นว่าไอซ์แลนด์ยังคงเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
คุณสามารถเดินข้ามทุ่งลาวาโบราณ เที่ยวปล่องภูเขาไฟ หรือชมจุดปะทุใหม่อย่างปล่องซุนด์ฮนูคากีการ์ (Sundhnukagigar Craters) กับทัวร์ภูเขาไฟพร้อมไกด์ ภูมิประเทศภูเขาไฟยังคงเป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าตื่นตาที่สุดในไอซ์แลนด์
7. วาฬ - ยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเล

ไอซ์แลนด์เป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับชมวาฬ มีทัวร์ชมวาฬให้บริการตลอดทั้งปี สามารถพบเห็นวาฬมิงค์ วาฬหลังค่อม และโลมา บางครั้งอาจเห็นวาฬเพชฌฆาตหรือวาฬสีน้ำเงินด้วย
ทัวร์ที่ดีที่สุดออกจากฮูสาวิก (Husavik) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "เมืองหลวงชมวาฬแห่งยุโรป" รวมถึงเรคยาวิก อาคูเรย์รี (Akureyri) และเมืองชายฝั่งเล็ก ๆ อื่น ๆ ทั่วไอซ์แลนด์
8. นกพัฟฟิน - นกทะเลขวัญใจชาวไอซ์แลนด์

นกพัฟฟินเป็นหนึ่งในสิ่งที่นักท่องเที่ยวอยากเห็นมากที่สุดในไอซ์แลนด์ โดยพวกมันจะทำรังบนหน้าผาริมทะเลตั้งแต่พฤษภาคมถึงสิงหาคม อาณานิคมนกพัฟฟินที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ที่หมู่เกาะเวสต์แมน (Westman Islands) นอกชายฝั่งทางใต้
คุณสามารถเลือกทัวร์ดูนก เพื่อชมพัฟฟินใกล้ ๆ หรือบางครั้งอาจเห็นได้ระหว่างทัวร์ชมวาฬ จุดชมพัฟฟินมีอยู่ทั่วชายฝั่งไอซ์แลนด์
9. น้ำพุร้อนและพื้นที่ความร้อนใต้พิภพ - จุดที่ไฟและน้ำมาบรรจบกัน

เมื่อค้นหาสิ่งที่ควรไปเห็นในไอซ์แลนด์ น้ำพุร้อนธรรมชาติจากความร้อนใต้พิภพมักติดอันดับต้น ๆ บางแห่งอยู่ในที่ห่างไกล ขณะที่บางแห่งได้รับการพัฒนาเป็นสปาน้ำแร่ร้อน
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกทัวร์น้ำพุร้อน เพื่อผ่อนคลายในสระน้ำอุ่นตามธรรมชาติ หรือไปเยือนพื้นที่ความร้อนใต้พิภพ ที่เต็มไปด้วยไอน้ำดันขึ้นจากพื้นดิน ดินแร่สีสันสดใส และบ่อโคลนเดือดปุด ๆ
10. พระอาทิตย์เที่ยงคืน – แสงสว่างไม่สิ้นสุดในฤดูร้อนของอาร์กติก
หนึ่งในประสบการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดในไอซ์แลนด์คือพระอาทิตย์เที่ยงคืน ซึ่งเป็นช่วงที่พระอาทิตย์แทบไม่ตกดินในฤดูร้อน โดยเฉพาะรอบวันครีษมายันในเดือนมิถุนายน ช่วงเย็นจะยังคงสว่างจ้าไปจนถึงหลังเที่ยงคืน
ทัวร์พระอาทิตย์เที่ยงคืน ชวนให้นักเดินทางได้เพลิดเพลินกับกลางวันแบบยาว ๆ สำหรับเที่ยวชม ถ่ายภาพ และผจญภัยกลางแจ้ง แสงสว่างที่ยาวนานนี้เองที่ทำให้ฤดูร้อนเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวไอซ์แลนด์
การรู้จักไฮไลต์ธรรมชาติเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรโฟกัสกับเสน่ห์แบบไหนของไอซ์แลนด์ ต่อไปเราจะพาคุณไปรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของไอซ์แลนด์ที่ควรบรรจุไว้ในแผนการเดินทาง เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจ
10 สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดในไอซ์แลนด์

ไอซ์แลนด์เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าจดจำ แม้จะมีไฮไลต์มากมายที่กล่าวถึงไปแล้ว แต่ต่อไปนี้คือสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดที่ควรไปเยือนในไอซ์แลนด์
10. ภูเขาคิร์กจูเฟลล์ (Kirkjufell)
ภูเขาคิร์กจูเฟลล์เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่โดดเด่นที่สุดของไอซ์แลนด์ ตั้งตระหง่านราวกับพีระมิดบนคาบสมุทรสไนแฟลซเนส (Snaefellsnes) จนได้รับฉายาว่า “ภูเขาที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในไอซ์แลนด์” และคุณจะเข้าใจทันทีเมื่อได้มายืนอยู่ตรงหน้า
เมื่อจับคู่กับน้ำตกคิร์กจูเฟลล์ฟอสส์ ที่อยู่ใกล้กัน ก็จะได้ภาพถ่ายที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์
-
ระยะทางจากเรคยาวิก: ประมาณ 185 กิโลเมตร (115 ไมล์) ใช้เวลาขับรถประมาณ 2.5 ชั่วโมง
-
วิธีเดินทาง: เหมาะกับเดย์ทริปบนคาบสมุทรสไนแฟลซเนส ทั้งทัวร์พร้อมไกด์และทัวร์สำหรับขับรถเอง สามารถรวมคิร์กจูเฟลล์กับไฮไลต์อื่น ๆ เช่น ธารน้ำแข็งสไนเฟลล์สโจกุล (Snaefellsjokull) และหาดดยูปาลอนส์ซานดูร์ (Djupalonssandur)
9. พื้นที่ความร้อนใต้พิภพทะเลสาบมิวาทน์ (Lake Myvatn Geothermal Area)

ภูมิภาคทะเลสาบมิวาทน์ทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ เป็นจุดหมายที่น่าทึ่งซึ่งมีภูมิประเทศภูเขาไฟสุดอลังการ กิจกรรมความร้อนใต้พิภพ และนกนานาชนิด
ไฮไลต์ได้แก่ ลาวารูปทรงแปลกตาที่ดิมมูบอร์กีร์ (Dimmuborgir) บ่อโคลนเดือดที่ฮแวรีร์ (Hverir) และปล่องภูเขาไฟเทียมที่เกิดจากการปะทุในอดีต นักท่องเที่ยวยังสามารถแช่ตัวในเอิร์ธลากูน (Earth Lagoon) หรือที่เดิมเคยรู้จักกันในชื่อมิวาทน์เนเชอร์บาธส์ (Myvatn Nature Baths) ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่เงียบสงบแทนการไปบลูลากูน พร้อมวิวทะเลสาบกว้างไกล
-
ระยะทางจากเรคยาวิก: ประมาณ 480 กิโลเมตร (300 ไมล์) ใช้เวลาขับรถ 6–7 ชั่วโมง เมืองที่ใกล้ที่สุดคืออาคูเรย์รี (Akureyri) ห่างออกไปประมาณ 90 กิโลเมตร (55 ไมล์)
-
วิธีเดินทาง: เหมาะกับการเที่ยวด้วยทัวร์ไอซ์แลนด์เหนือหรือทัวร์ไดมอนด์เซอร์เคิล (Diamond Circle) หรือขับรถเองตามถนนวงแหวน (Ring Road)
8. อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir National Park)
อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) เป็นมรดกโลกยูเนสโก ที่นี่คือที่ตั้งรัฐสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ที่สร้างในปี ค.ศ. 930 และยังเป็นมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยา มีรอยแยกระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียและอเมริกาเหนือให้เห็นอย่างชัดเจน
ผู้มาเยือนสามารถสำรวจร่องเขาอัลมันนากยา (Almannagja) อันน่าตื่นตา ชมน้ำตกออกซาราร์ฟอสส์ (Oxararfoss) และดำน้ำตื้นในน้ำใสบริสุทธิ์ของรอยแยกซิลฟรา (Silfra Fissure)
-
ระยะทางจากเรคยาวิก: ประมาณ 47 กิโลเมตร (30 ไมล์) ใช้เวลาขับรถ 45 นาที
-
วิธีเดินทาง: ธิงเวลลีร์เป็นหนึ่งในสามจุดเที่ยวหลักของวงกลมทองคำ (Golden Circle) ที่รวมอยู่ในทัวร์พร้อมไกด์เกือบทุกแพ็กเกจและการขับรถไปเองก็สะดวกมาก
7. อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park)
อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 15% ของไอซ์แลนด์ รวมถึงธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ภูเขาไฟ หุบเขา และสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาตินับไม่ถ้วน
พื้นที่ยอดนิยมคือเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกาฟตาเฟลล์ (Skaftafell) ที่คุณสามารถร่วมกิจกรรมเดินธารน้ำแข็งและเยือนน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) น้ำตกเสาหินบะซอลต์สุดอลังการที่เป็นแรงบันดาลใจให้โบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยา (Hallgrimskirkja) ในเรคยาวิก
-
ระยะทางจากเรคยาวิก: ประมาณ 320 กิโลเมตร (200 ไมล์) ใช้เวลาขับรถ 4.5–5 ชั่วโมง
-
วิธีเดินทาง: เหมาะกับทริปหลายวันตามชายฝั่งทางใต้หรือถนนวงแหวน ทัวร์พร้อมไกด์มักรวมกิจกรรมที่สกาฟตาเฟลล์กับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
6. น้ำตกสโคกาฟอสส์ (Skogafoss Waterfall)
น้ำตกสโคกาฟอสส์ เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ สายน้ำกว้างและทรงพลังไหลลงมาอย่างสมมาตร มักมีสายรุ้งปรากฏในละอองน้ำ
มีบันไดข้างน้ำตกให้เดินขึ้นไปชมวิวชายฝั่งและแม่น้ำสโคกา (Skoga) จากมุมสูง
-
ระยะทางจากเรคยาวิก: ประมาณ 150 กิโลเมตร (95 ไมล์) ใช้เวลาขับรถราว 2 ชั่วโมงเศษ
-
วิธีเดินทาง: ตั้งอยู่ติดถนนวงแหวน เดินทางง่าย เหมาะกับจัดไว้ในเดย์ทริปเที่ยวชายฝั่งทางใต้หรือรวมในแผนขับรถเที่ยวเอง ทัวร์พร้อมไกด์ส่วนใหญ่ก็แวะที่นี่เช่นกัน
5. บลูลากูน (The Blue Lagoon)
บลูลากูน เป็นสปาน้ำแร่ร้อนชื่อดังของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ระหว่างสนามบินเคฟลาวิกกับเรคยาวิก น้ำอุ่นที่อุดมด้วยแร่ธาตุเหมาะสำหรับการผ่อนคลายก่อนหรือหลังเดินทาง
สามารถไปเยือนได้ตลอดปี แต่ควรจองบัตรเข้าบลูลากูน ล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น
-
ระยะทางจากเรคยาวิก: ประมาณ 50 กิโลเมตร (30 ไมล์) ใช้เวลาขับรถประมาณ 45 นาที
-
วิธีเดินทาง: เดินทางสะดวกทั้งโดยรถยนต์หรือรถชัตเทิลจากเรคยาวิกหรือสนามบินเคฟลาวิก บริการรับส่งสนามบินส่วนใหญ่จะพาแวะที่ลากูนด้วย
4. น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss Waterfall)
จุดแวะสำคัญบนเส้นทางวงกลมทองคำ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หรือ “น้ำตกทองคำ” เป็นน้ำตกสองชั้นขนาดใหญ่ที่ไหลลงสู่หุบเขาหินผาอย่างทรงพลัง
มีทางเดินชมวิวที่ดูแลอย่างดี เดินทางง่ายจากเรคยาวิกทั้งแบบทัวร์พร้อมไกด์หรือขับรถเอง
-
ระยะทางจากเรคยาวิก: ประมาณ 116 กิโลเมตร (72 ไมล์) ใช้เวลาขับรถ 1.5–2 ชั่วโมง สำหรับเส้นทางวงกลมทองคำแสนคลาสสิกทั้งหมดมีความยาว 300 กิโลเมตร (190 ไมล์) ซึ่งจะใช้เวลา 6-8 ชั่วโมง
-
วิธีเดินทาง: เที่ยวได้ง่ายในทริปวงกลมทองคำทั้งแบบขับเองหรือทัวร์พร้อมไกด์จากเรคยาวิก
3. หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara Black Sand Beach)
อยู่ใกล้เมืองวิก (Vik) บนชายฝั่งทางใต้ หาดเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) มีชื่อเสียงเรื่องทรายดำ เสาหินบะซอลต์ กองหินกลางทะเล และคลื่นแอตแลนติกที่รุนแรง
เป็นหนึ่งในจุดถ่ายภาพยอดนิยมของไอซ์แลนด์ แต่ควรระวังคลื่นสนีกเกอร์ (Sneaker waves) ที่ซัดแรงและอันตราย
-
ระยะทางจากเรคยาวิก: ประมาณ 185 กิโลเมตร (115 ไมล์) ใช้เวลาขับรถ 2.5–3 ชั่วโมง
-
วิธีเดินทาง: รวมอยู่ในทัวร์ชายฝั่งทางใต้ส่วนใหญ่ หรือสามารถขับรถไปเองได้ตามถนนวงแหวน
2. น้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์ (Seljalandsfoss Waterfall)
น้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์ (Seljalandsfoss) บนชายฝั่งทางใต้มีเอกลักษณ์ตรงที่สามารถเดินลอดหลังม่านน้ำได้ จึงสามารถเห็นวิวจากด้านในน้ำตก
มองเห็นได้จากถนนวงแหวน เป็นจุดแวะที่เข้าถึงง่ายและสวยงามสำหรับผู้ที่มุ่งหน้าไปน้ำตกสโคกาฟอสส์ เมืองวิก หรือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
-
ระยะทางจากเรคยาวิก: ประมาณ 130 กิโลเมตร (80 ไมล์) ใช้เวลาขับรถ 2 ชั่วโมง
-
วิธีเดินทาง: ขับรถเองสะดวกมาก และเป็นจุดแวะสำคัญของทัวร์ชายฝั่งทางใต้จากเรคยาวิก
1. ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon Glacier Lagoon)
ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนมักถูกยกให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของไอซ์แลนด์ เป็นไฮไลต์ของทริปไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ ที่นี่ก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาจากธารน้ำแข็งเบรดาแมร์คูร์โจกุล (Breidamerkurjokull) จะหลุดออกมาและลอยผ่านลากูนก่อนจะถึงทะเล
คุณสามารถเดินเล่นริมฝั่ง เข้าร่วมกับทัวร์ล่องเรือในโจกุลซาร์ลอนที่พาชมท่ามกลางภูเขาน้ำแข็ง หรือเดินไปยังหาดไดมอนด์ (Diamond Beach) ที่ก้อนน้ำแข็งถูกซัดขึ้นมาบนหาดทรายดำ
-
ระยะทางจากเรคยาวิก: ประมาณ 380 กิโลเมตร (235 ไมล์) ใช้เวลาขับรถ 5–6 ชั่วโมง
-
วิธีเดินทาง: เหมาะกับทริปขับรถเอง 2 วันพร้อมค้างคืนตามชายฝั่งทางใต้ หรือรวมอยู่ในทัวร์พร้อมไกด์ที่พาเที่ยวไอซ์แลนด์ใต้หรือถนนวงแหวน
15 ประสบการณ์ที่ต้องทำในไอซ์แลนด์

ไม่ว่าคุณจะเลือกขับรถเที่ยวเองรอบไอซ์แลนด์หรือร่วมทัวร์ เราได้รวบรวมกิจกรรมยอดนิยมมาให้ และไม่ใช่แค่ 10 แต่มีถึง 15 ประสบการณ์ที่ต้องทำในไอซ์แลนด์!
15. ขับรถเที่ยวรอบเกาะ สัมผัสไอซ์แลนด์แบบเต็มอิ่ม
ต้องยอมรับว่าการขับรถเที่ยวเองคือวิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสไอซ์แลนด์ ไม่ว่าคุณจะขับวนรอบเกาะบนถนนวงแหวน (Ring Road) หรือออกล่าแสงเหนือในฟยอร์ดเงียบสงบ การเดินทางเองนี่แหละที่มักสร้างความประทับใจที่สุด
ไม่มีอะไรเทียบได้กับอิสระบนถนนโล่ง ๆ ที่คุณสามารถจอดแวะชมจุดลับ อย่างน้ำตกไร้ชื่อ ฝูงม้าไอซ์แลนด์ หรือวิวภูเขาสุดตระการตา บนเส้นทางขับรถที่ดีที่สุดได้รวมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมตามถนนวงแหวน ที่เต็มไปด้วยไฮไลต์ไม่รู้จบ
ทัวร์ขับรถเองฤดูร้อน จะได้ประโยชน์จากพระอาทิตย์เที่ยงคืน ให้เที่ยวได้ยาวนานทั้งวันทั้งคืน ส่วนทัวร์ขับรถเองฤดูหนาว ก็ให้ประสบการณ์ต่างออกไป ท่ามกลางหิมะขาวโพลนและคืนที่ได้ล่าแสงเหนือ
นี่คือทัวร์ขับรถเองยอดนิยมที่ได้รับคะแนนสูงสุดสำหรับการผจญภัยในไอซ์แลนด์ที่ไม่มีวันลืม:
-
ทัวร์ขับรถเอง 10 วันรอบถนนวงแหวนไอซ์แลนด์ – เที่ยวครบทั่วประเทศทุกไฮไลต์ทั้งชายฝั่งทางใต้ ฟยอร์ดตะวันออก ทะเลสาบมิวาทน์ และคาบสมุทรสไนแฟลซเนส
-
ทัวร์ขับรถเอง 1 สัปดาห์รอบถนนวงแหวน (ฤดูร้อน) – เวอร์ชั่นกระชับบนถนนวงแหวน เหมาะกับผู้มีเวลาจำกัด เที่ยวได้มากขึ้นในแต่ละวันด้วยแสงสว่างยาวนานของฤดูร้อน
-
ทัวร์ขับรถเอง 1 สัปดาห์ล่าแสงเหนือในไอซ์แลนด์ใต้และตะวันตก (ฤดูหนาว) – ออกแบบมาเพื่อฤดูหนาวโดยเฉพาะ ล่าแสงเหนือ เที่ยวภูมิประเทศน้ำแข็ง และเยือนถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติระหว่างเดินทางผ่านภาคใต้และตะวันตก
แม้ทัวร์พร้อมไกด์จะเหมาะกับผู้ที่ไม่อยากขับรถเอง แต่ไม่มีอะไรเทียบได้กับความยืดหยุ่นและความเป็นส่วนตัวของการเดินทางตามจังหวะของตัวเอง
14. เยือนหมู่บ้านชาวประมงและชมกวางเรนเดียร์ป่าในอีสต์ฟยอร์ด (Eastfjords)
ฟยอร์ดตะวันออกหรืออีสต์ฟยอร์ด มักถูกนักเดินทางขับรถผ่านอย่างรวดเร็ว แต่ผู้ที่แวะมาจะได้พบกับหมู่บ้านชาวประมงสีสันสดใส ฟยอร์ดสุดอลังการ และวิถีชีวิตที่เนิบช้า เป็นมุมสงบของประเทศที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมและใกล้ชิดธรรมชาติ
ไอซ์แลนด์ตะวันออกถูกผนวกเข้าในโปรแกรมสำหรับทัวร์หลายวันพร้อมไกด์ และทัวร์ขับรถเองตามถนนวงแหวน หากคุณเลือกสำรวจพื้นที่นี้ นี่คือ เมืองน่าเที่ยวในฟยอร์ดตะวันออก:
-
เอกิลส์สตาดีร์ (Egilsstadir) – เมืองใหญ่ที่สุดของภูมิภาค มีร้านอาหารยอดเยี่ยมของอีสต์ฟยอร์ดหลายแห่ง
-
เซย์ดิสฟยอร์ดูร์ (Seydisfjordur) – เมืองเล็ก ๆ ที่มีถนนสายรุ้ง โบสถ์สีน้ำเงิน และน้ำตกมากมาย
-
ดยูปิวอกูร์ (Djupivogur) – หมู่บ้านชายฝั่งบรรยากาศเนิบช้า มีชื่อเสียงเรื่องดูนกและเส้นทางประติมากรรม
-
ฟาสครุดส์ฟยอร์ดูร์ (Faskrudsfjordur) – เมืองที่มีรากเหง้าฝรั่งเศส เห็นได้จากป้ายถนนสองภาษา
-
บอร์การ์ฟยอร์ดูร์ เอสทรี (Borgarfjordur Eystri) – หมู่บ้านวิวสวย เหมาะกับการเดินป่าและดูนกพัฟฟินในฤดูร้อน
นอกจากหมู่บ้านแล้ว ยังมีสถานที่น่าเที่ยวในไอซ์แลนด์ตะวันออกอีกมากมาย เช่น ภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn) บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ แคนยอนสตุดลากิล (Studlagil Canyon) ใกล้เอกิลส์สตาดีร์ และ น้ำตกเฮงกิฟอสส์ (Hengifoss) ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหน้าผาสีแดงดำอันโดดเด่น ทะเลสาบลาการ์ฟลจ็อต (Lagarfljot Lake) ที่เล่าขานกันว่ามีสัตว์ในตำนานอาศัยอยู่ ก็เพิ่มสีสันด้านนิทานพื้นบ้านให้ภูมิภาคนี้
หนึ่งในกิจกรรมที่ไม่เหมือนใครเมื่อเที่ยวฟยอร์ดตะวันออกคือการชมกวางเรนเดียร์ ไอซ์แลนด์ตะวันออกเป็นภูมิภาคเดียวที่คุณจะได้เห็นฝูงกวางเรนเดียร์ในธรรมชาติ
กวางเรนเดียร์ในไอซ์แลนด์ถูกนำเข้ามาจากนอร์เวย์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันมีจำนวนหลายพันตัว โดยจะย้ายถิ่นระหว่างไฮแลนด์ในฤดูร้อนและชายฝั่งในฤดูหนาว
หากอยากเห็นกวางเรนเดียร์ในธรรมชาติ แนะนำให้เลือกทัวร์ซูเปอร์จี๊ปชมกวางเรนเดียร์กับไกด์ท้องถิ่นที่รู้แหล่งหากินของฝูงกวาง หรือไปที่เรนเดียร์พาร์ค (Reindeer Park) ในเอกิลส์สตาดีร์ เพื่อพบกับกวางเรนเดียร์สองตัวที่ได้รับการช่วยเหลือมาดูแลอย่างใกล้ชิด
13. สำรวจธรรมชาติบริสุทธิ์ในเวสต์ฟยอร์ด (Westfjords) อันห่างไกล
การสำรวจเวสต์ฟยอร์ด หรือฟยอร์ดตะวันออก ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมผจญภัยที่สุดของไอซ์แลนด์ เหมาะกับผู้ที่มาเยือนครั้งที่สองหรือผู้ที่ชื่นชอบภูมิประเทศสุดอลังการและความสงบ
เวสต์ฟยอร์ดเป็นภูมิภาคที่ห่างไกลที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ อยู่ไกลจากถนนวงแหวนและไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเยือน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเดือนที่อากาศอุ่นซึ่งถนนส่วนใหญ่เปิดโล่ง ทัวร์ขับรถเองฤดูร้อนจึงเหมาะกับการสัมผัสภูมิภาคนี้
อีสาฟยอร์ดูร์ (Isafjordur) เป็นเมืองหลักของเวสต์ฟยอร์ด นอกจากวิวหุบเขาและฟยอร์ดแล้ว ยังมีร้านค้า บริการ และกิจกรรมมากมายในอีสาฟยอร์ดูร์ รวมถึงร้านอาหารที่ถนัดเมนูปลาที่สุดในไอซ์แลนด์ (ในความเห็นของเรา) ที่พักในอีสาฟยอร์ดูร์ก็เหมาะเป็นฐานสำหรับผจญภัยในเวสต์ฟยอร์ด
การขับรถที่นี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ ถนนคดเคี้ยวเลียบฟยอร์ดยาวไกล ต้องเตรียมพร้อมสำหรับถนนลูกรังและการเดินทางที่ช้ากว่าปกติ แต่ทิวทัศน์สุดอลังการก็คุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อไปถึงสถานที่ธรรมชาติยอดนิยมในเวสต์ฟยอร์ด:
-
น้ำตกดินยานดิ (Dynjandi Waterfall) – น้ำตกหลายชั้นสุดอลังการที่มักถูกยกให้เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์ เป็นจุดเด่นของทัวร์เวสต์ฟยอร์ดหลายเส้นทาง
-
หน้าผาลาทราบิยาร์ก (Latrabjarg Cliffs) – จุดตะวันตกสุดของยุโรปและจุดดูนกพัฟฟินยอดนิยม (พ.ค.–ส.ค.) เดินทางผ่านถนนฟยอร์ดวิวสวย
-
หาดเรยดาซานดูร์ (Raudasandur Beach) – หาดทรายแดงทองเงียบสงบทอดยาวหลายกิโลเมตร ติดอันดับหาดที่ดีที่สุดในโลกโดย Lonely Planet ปี 2025
-
เขตอนุรักษ์ธรรมชาติฮอร์นสตรานดิร์ (Hornstrandir Nature Reserve) – พื้นที่ห่างไกลที่สุดของไอซ์แลนด์ เดินทางได้เฉพาะทางเรือ เหมาะกับทัวร์เดินป่าและดูหมาจิ้งจอกอาร์กติกในธรรมชาติบริสุทธิ์
ภูมิภาคนี้ยังมีเมืองเล็ก ๆ วิวสวยที่ให้บริการพื้นฐานและเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมได้สะดวก พาเรกส์ฟยอร์ดูร์ (Patreksfjordur) เป็นเมืองใกล้หน้าผาลาทราบิยาร์กและหาดเรยดาซานดูร์ ส่วนโฮลมาวิก (Holmavik) ทางตะวันออกของเวสต์ฟยอร์ด มีพิพิธภัณฑ์เวทมนตร์และคาถาที่แปลกไม่เหมือนใคร
12. สัมผัสพระอาทิตย์เที่ยงคืนในฤดูร้อนไอซ์แลนด์
การมาเที่ยวไอซ์แลนด์ฤดูร้อนคือการได้สัมผัสปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดมหัศจรรย์อย่างพระอาทิตย์เที่ยงคืน
ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงต้นสิงหาคม พระอาทิตย์แทบไม่ตกดิน สาดแสงทองยาวนานถึงค่ำคืน เหมาะกับการเที่ยวชมธรรมชาติยามเย็น
ด้วยแสงสว่างที่ยาวนาน คุณจะมีเวลาเที่ยวมากขึ้น ไม่ว่าจะเดินป่ายามเย็น เที่ยวชมสถานที่ หรือถ่ายภาพกลางคืน แสงพิเศษนี้ยังทำให้ภูมิประเทศไอซ์แลนด์ดูเหนือจริงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในไฮแลนด์ ชายฝั่ง และน้ำตก
มีทัวร์พระอาทิตย์เที่ยงคืนมากมายที่จัดขึ้นเพื่อให้คุณได้สัมผัสช่วงเวลาทองของแสงอาทิตย์ ทัวร์เหล่านี้จะพาคุณดื่มด่ำกับธรรมชาติไอซ์แลนด์ใต้ท้องฟ้ายามค่ำที่เรืองรอง:
-
ทัวร์ ATV พระอาทิตย์เที่ยงคืนสุดมันส์จากเรคยาวิก – ขับรถ ATV ลุยทุ่งลาวาและเส้นทางภูเขาใกล้เมืองในช่วงเวลาที่มีพระอาทิตย์เที่ยงคืน
-
ทัวร์พายเรือคายัคชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน 3 ชั่วโมง ใกล้ภูเขาคิร์กจูเฟลล์ – พายเรือไปตามผืนน้ำสงบใกล้ภูเขาที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในไอซ์แลนด์ ขณะที่พระอาทิตย์ลอยต่ำอยู่บนขอบฟ้า
-
ทัวร์ล่องเรือชมวาฬยามมีพระอาทิตย์เที่ยงคืนจากเรคยาวิก – ออกเดินทางจากเมืองหลวงในทริปล่องเรือยามเย็นเพื่อชมวาฬ โลมา และนกทะเล ท่ามกลางแสงนุ่มนวลยามค่ำคืน
พระอาทิตย์เที่ยงคืนยังเปลี่ยนจังหวะชีวิตของผู้คนที่นี่อีกด้วย นี่คือช่วงเวลาหลักของเทศกาลต่าง ๆ ในไอซ์แลนด์ และคอนเสิร์ตกลางแจ้ง รวมถึงการพบปะสังสรรค์ที่ยืดเยื้อไปจนดึกดื่น เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวัฒนธรรมไอซ์แลนด์ในแบบที่เกิดขึ้นเฉพาะภายใต้แสงสว่างไม่รู้จบนี้เท่านั้น
11. ชื่นชมภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์บนคาบสมุทรสไนแฟลซเนส
ภูเขาคิร์กจูเฟลล์ (Kirkjufell) เป็นหนึ่งในยอดเขาที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในไอซ์แลนด์ รูปทรงแหลมข้างน้ำตกคิร์กจูเฟลล์ฟอสส์ (Kirkjufellsfoss) ทำให้ที่นี่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และแฟน ๆ ซีรีส์ Game of Thrones จะรู้จักที่นี่ในชื่อ “ภูเขาหัวลูกศร”
คาบสมุทรสไนแฟลซเนส (Snaefellsnes) มักถูกเรียกว่า “ไอซ์แลนด์ฉบับย่อ” เพราะรวมภูมิประเทศหลากหลายไว้ในที่เดียว เพียงสองชั่วโมงจากเรคยาวิก คุณจะได้เห็นทั้งธารน้ำแข็ง ภูเขาไฟ หาดทรายดำ ทุ่งลาวา และหน้าผาริมทะเลอันตระการตา
ด้วยความหลากหลายและการเดินทางที่สะดวก ทัวร์สไนแฟลซเนสจึงเป็นที่นิยมทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับจากเรคยาวิก หรือเป็นทางแวะระหว่างการเดินทางบนถนนวงแหวน (Ring Road)
สติกกิชโฮลมูร์ (Stykkisholmur) คือเมืองหลักของคาบสมุทรนี้ มีท่าเรือ ร้านอาหาร และแหล่งวัฒนธรรม อีกทั้งยังมีเรือเฟอร์รี่เชื่อมต่อไปยังเวสต์ฟยอร์ดส์ (Westfjords) และเกาะฟลาเตย์ (Flatey Island) หมู่บ้านเล็ก ๆ อย่างกรุนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjordur) โอลาฟส์วิก (Olafsvik) และ เฮลลิซซานดูร์ (Hellissandur) ก็มีบริการและตัวเลือกทัวร์เช่นกัน

กิจกรรมยอดนิยมบนคาบสมุทรสไนแฟลซเนส ได้แก่ การเยี่ยมชมสถานที่ธรรมชาติอันโดดเด่นเหล่านี้:
-
ภูเขาคิร์กจูเฟลล์ (Kirkjufell) – ยอดเขาที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในไอซ์แลนด์ อยู่ข้างน้ำตกคิร์กจูเฟลล์ฟอสส์
-
ธารน้ำแข็งสไนเฟลล์สโจกุล (Snaefellsjokull) – ภูเขาไฟที่มีธารน้ำแข็งปกคลุม ล้อมรอบด้วยอุทยานแห่งชาติ
-
หน้าผาลอนดรังการ์ (Londrangar Cliffs) – เสาหินบะซอลต์และหน้าผาริมทะเล มีนกทะเลและวิวมหาสมุทร
-
อาร์นาสทาปิ (Arnarstapi) & เฮลนาร์ (Hellnar) – หมู่บ้านชาวประมงที่เชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางเดินเลียบชายฝั่ง ผ่านหน้าผาและลาวา
-
หาดดยูปาลอนส์ซานดูร์ (Djupalonssandur Beach) – หาดทรายดำที่มีหินลาวา ซากเรืออับปาง และตำนานเก่าแก่
-
โบสถ์บูดีร์ (Budir Church) – โบสถ์สีดำโดดเด่นกลางทุ่งลาวา พร้อมวิวธารน้ำแข็งสไนเฟลล์สโจกุล
คาบสมุทรสไนแฟลซเนสคือภาพรวมของไอซ์แลนด์ที่กระชับแต่ประทับใจ สามารถเที่ยวได้ครบในทัวร์วันเดียวจากเรคยาวิก หรือหากต้องการใช้เวลามากขึ้น ก็สามารถพักที่ที่พักยอดเยี่ยมบนคาบสมุทรสไนแฟลซเนส แล้วค่อย ๆ สำรวจอย่างสบายใจ
10. เดินป่าในไฮแลนด์สุดตระการตาที่ลานมันนาเลยการ์ ธอร์สมอร์ก และแคร์ลิงการ์ฟยอลล์
การเยือนไฮแลนด์คือหนึ่งในประสบการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดในไอซ์แลนด์ ดินแดนกว้างใหญ่แห่งนี้เต็มไปด้วยภูเขาหินไรโอไลต์ หุบเขาไอน้ำร้อน ทะเลทรายสีดำ และแม่น้ำธารน้ำแข็ง การเดินป่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมที่สุดในการสัมผัสภูมิภาคนี้ และทิวทัศน์อันน่าตื่นตาทำให้ทุกเส้นทางน่าจดจำ
มีสถานที่ให้สำรวจมากมาย แต่สามแห่งที่โดดเด่นที่สุดคือลานมันนาเลยการ์ (Landmannalaugar) กับภูเขาหลากสีและบ่อน้ำร้อน ธอร์สมอร์ก (Thorsmork) หุบเขาเขียวชอุ่มระหว่างธารน้ำแข็ง และแคร์ลิงการ์ฟยอลล์ (Kerlingarfjoll) ดินแดนมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาแห่งเนินเขาสีแดงและไอน้ำร้อน ทั้งสามแห่งนี้สามารถเที่ยวแบบวันเดียวหรือผจญภัยหลายวันก็ได้
การขับรถเข้าไฮแลนด์ทำได้เฉพาะฤดูร้อน เมื่อหิมะละลายและถนน F-roads เปิด หากขับรถเองต้องเช่ารถ 4x4 และควรศึกษาข้อมูลการขับรถบนถนน F-roads ในไอซ์แลนด์ พร้อมวางแผนเส้นทางล่วงหน้า เพราะเส้นทางขรุขระเป็นเรื่องปกติ
การเข้าร่วมทัวร์ไฮแลนด์แบบมีไกด์เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าสำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่มีประสบการณ์ในไอซ์แลนด์ นี่คือทัวร์วันเดียวในไฮแลนด์ยอดนิยม เหมาะสำหรับผู้มีเวลาจำกัด:
-
ทัวร์ซูเปอร์จี๊ปสู่ลานมันนาเลยการ์จากเรคยาวิก – สัมผัสภูเขาหินไรโอไลต์หลากสีของลานมันนาเลยการ์ และปิดท้ายวันด้วยการแช่บ่อน้ำร้อนธรรมชาติ
-
ทัวร์ซูเปอร์จี๊ปและเดินป่าหุบเขาธอร์สมอร์ก – สำรวจ “หุบเขาแห่งธอร์” อันน่าตื่นตา รายล้อมด้วยธารน้ำแข็งและสันเขาป่า ในทริปซูเปอร์จี๊ปและเดินป่าแบบมีไกด์
-
ทัวร์วันเดียวสู่แคร์ลิงการ์ฟยอลล์ พร้อมเดินป่าฮแวราดาลีร์ – เยือนหุบเขาไอน้ำร้อนและภูเขาหลากสีแคร์ลิงการ์ฟยอลล์ พร้อมเวลาเดินป่าและแช่น้ำร้อนธรรมชาติ
ในฤดูร้อน มีรถบัสประจำทางเข้าไฮแลนด์ไปยังลานมันนาเลยการ์และธอร์สมอร์ก ทำให้เข้าถึงพื้นที่เหล่านี้ได้ แม้ไม่เช่ารถ 4x4 หรือไม่ร่วมทัวร์แบบมีไกด์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเดินป่าที่วางแผนเดินป่าหลายวันบนเส้นทางเลยกาแวกูร์ (Laugavegur) อันโด่งดัง
9. สัมผัสมหัศจรรย์ธรรมชาติแห่งไอซ์แลนด์เหนือและชมวาฬ

ไอซ์แลนด์เหนือมีประสบการณ์แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ผสมผสานธรรมชาติอันยิ่งใหญ่กับเสน่ห์ของเมืองเล็ก ๆ อย่างแท้จริง
จุดหมายห้ามพลาดในไอซ์แลนด์เหนือ ได้แก่ น้ำตกเสียงดังกึกก้อง ภูมิประเทศภูเขาไฟ หมู่บ้านชาวประมงเงียบสงบ และสัตว์ป่ามากมาย เช่น วาฬ แมวน้ำ และนก
อาคูเรย์รี (Akureyri) เมืองใหญ่อันดับสองของไอซ์แลนด์รองจากเรคยาวิก เป็นฐานที่ดีเยี่ยมสำหรับการสำรวจภาคเหนือ จากที่นี่คุณสามารถเข้าร่วม ทัวร์วันเดียวจากอาคูเรย์รี แล้วต่อด้วยการแวะร้านอาหารยอดนิยมในอาคูเรย์รี และสถานที่สำคัญของเมือง
แม้สองวันจะเพียงพอสำหรับไฮไลท์ แต่หากมีเวลา 3-4 วัน จะได้เที่ยวแบบสบาย ๆ และค้นพบจุดลับมากขึ้น หากมีเวลาจำกัด สามารถบินภายในประเทศจากเรคยาวิกแล้วเช่ารถที่อาคูเรย์รีได้

วงกลมไดมอนด์ (Diamond Circle) เชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในไอซ์แลนด์เหนือมากมาย ทั้งน้ำตก หุบเขา และพื้นที่ความร้อนใต้พิภพ สามารถขับรถเที่ยวเองหรือร่วมทัวร์วงกลมไดมอนด์ โดยปกติจะมีจุดแวะดังนี้:
-
น้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss) – น้ำตกกว้างโค้งมนที่ได้ชื่อว่า “น้ำตกแห่งเทพเจ้า”
-
ทัวร์ชมวาฬที่ฮูสาวิก (Husavik) – สำรวจสัตว์ทะเลจากเมืองหลวงแห่งการดูวาฬของยุโรป
-
หุบเขาอาสบิร์กิ (Asbyrgi) – หุบเขารูปเกือกม้าเกี่ยวโยงกับตำนานนอร์ส มีเส้นทางเดินและจุดชมวิว
-
น้ำตกเดตติฟอสส์ (Dettifoss) – น้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล
-
ทะเลสาบมิวาทน์ (Lake Myvatn) – ภูมิประเทศน่าทึ่ง มีทุ่งลาวา ไอน้ำร้อน ปล่องภูเขาไฟ และนกนานาชนิด
ยังมีสถานที่น่าสำรวจรอบทะเลสาบมิวาทน์อีกมากมาย ตั้งแต่ลาวารูปทรงแปลกตาอย่างดิมมูบอร์กีร์ (Dimmuborgir) ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่า ไปจนถึงถ้ำเกรียวทากยา (Grjotagja Cave) ที่โด่งดังจาก Game of Thrones เพิ่มความสนุกด้วยทัวร์ทะเลสาบมิวาทน์ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงใช้เวลาทั้งวันที่นี่
หากมีเวลามากขึ้น ลองเดินทางตามเส้นทางอาร์กติกโคสต์เวย์ เส้นทางนอกกระแสหลักที่เลียบชายฝั่งทางเหนือ พร้อมจุดแวะชมวิวอย่างซิกลูฟยอร์ดูร์ (Siglufjordur) และหินทะเลฮวิทแซร์คูร์ (Hvitserkur Sea Stack)
8. เดินเล่นบนถนนช้อปปิ้งเรคยาวิกและเยี่ยมชมแลนด์มาร์กสำคัญ
ไม่มีรายชื่อกิจกรรมในไอซ์แลนด์ใดจะสมบูรณ์ได้หากไม่พูดถึงเมืองหลวง เรคยาวิกมักเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้ายของนักเดินทางในไอซ์แลนด์ แม้หลายคนจะผ่านเมืองนี้อย่างรวดเร็วเพื่อไปชมธรรมชาติ แต่ผู้ที่อยู่ต่อจะได้รางวัลเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
ใจกลางเมืองเรคยาวิกเดินเที่ยวได้สะดวก เต็มไปด้วยบ้านสีสันสดใส ร้านบูติก และคาเฟ่บรรยากาศคึกคัก เดินเล่นบนถนนเลยกาแวกูร์ (Laugavegur Street) ย่านช้อปปิ้งหลักของเมือง ที่มีทั้งร้านดีไซน์ท้องถิ่น ร้านหนังสือ และของฝากไอซ์แลนด์สุดพิเศษ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คู่มือช้อปปิ้งเรคยาวิก
สัมผัสวัฒนธรรมของเมืองให้มากขึ้นด้วยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ยอดนิยมในเรคยาวิก หรือเดินชมงานศิลปะบนกำแพงและสตรีทอาร์ตที่มีสีสันทั่วเมือง
สายกินต้องไม่พลาดร้านอาหารยอดเยี่ยมในเรคยาวิก ที่มีทั้งเนื้อแกะ อาหารทะเลไอซ์แลนด์ ไปจนถึงอาหารนอร์ดิกสมัยใหม่
อย่าลืมสัมผัสชีวิตกลางคืนของเรคยาวิก ตั้งแต่บาร์ค็อกเทลไปจนถึงเวทีดนตรีสด บาร์ยอดนิยมในเรคยาวิกทำให้ค่ำคืนสนุกไม่แพ้กลางวัน
ระหว่างเพลิดเพลินกับอาหาร ช้อปปิ้ง และวัฒนธรรม อย่าลืมแวะไปสัมผัสกับประสบการณ์ผ่านกิจกรรมยอดนิยมในเรคยาวิกและชมแลนด์มาร์กสำคัญของเรคยาวิก ที่ห้ามพลาด เช่น:
-
โบสถ์ฮัลล์กริมสคิร์กยา (Hallgrimskirkja) – ขึ้นลิฟต์ชมวิวเมืองแบบพาโนรามาจากยอดหอคอย
-
ฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa) – ชมสถาปัตยกรรมกระจกและแสงสียามค่ำเหนืออ่าว
-
ซันโวยาจเจอร์ (Sun Voyager) – ถ่ายรูปกับประติมากรรมเหล็กรูปเรือไวกิ้งอันเป็นเอกลักษณ์
-
ท่าเรือเก่าเรคยาวิก – เดินเล่นริมฝั่งน้ำบรรยากาศคึกคักและร่วมทัวร์ล่องเรือ
-
พิพิธภัณฑ์เพอร์ลาน (Perlan) – ชมนิทรรศการในโดมกระจกและวิวบนเนินเขา
สัมผัสประสบการณ์ให้มากขึ้น ด้วยการพักในที่พักยอดนิยมในเรคยาวิก หลายคนเลือกใช้เมืองหลวงเป็นฐานแล้วออกไปเที่ยวกับเดย์ทัวร์วันเดียว เพื่อเที่ยวทั่วประเทศ
7. เที่ยวชมน้ำตก หาดทราย และธารน้ำแข็งบนชายฝั่งทางใต้ และขี่ม้าไอซ์แลนด์
ชายฝั่งทางใต้ (South Coast) ของไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในภูมิภาคยอดนิยมที่สุด ง่ายต่อการเดินทางจากเรคยาวิกและเต็มไปด้วยธรรมชาติอันน่าตื่นตา ทั้งน้ำตก หาดทรายดำ ธารน้ำแข็ง และหน้าผาริมทะเล พื้นที่นี้ถูกหล่อหลอมโดยภูเขาไฟและน้ำจากธารน้ำแข็งไหลที่ไหลเข้าท่วม ก่อให้เกิดที่ราบกว้างและชายฝั่งอันสวยงาม
คุณสามารถเที่ยวภูมิภาคนี้ด้วยการขับรถเที่ยว หรือร่วมทัวร์แอดเวนเจอร์แบบมีไกด์บนชายฝั่งทางใต้ เพื่อประสบการณ์ที่ผ่อนคลายและได้ข้อมูลเชิงลึกจากคนท้องถิ่น สถานที่ยอดนิยมตลอดเส้นทางชายฝั่งทางใต้ ได้แก่:
-
น้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์ (Seljalandsfoss) – มีจุดชมวิวจากทางเดินด้านหลังม่านน้ำตกอันเป็นเอกลักษณ์
-
น้ำตกสโคกาฟอสส์ (Skogafoss) – น้ำตกทรงพลังและถ่ายรูปสวย มักมีสายรุ้งปรากฏ
-
ธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล (Solheimajokull) – ธารน้ำแข็งที่สามารถร่วมทัวร์เดินหรือปีนน้ำแข็งได้
-
หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara Black Sand Beach) – มีเสาหินบะซอลต์ที่มีชื่อเสียงและคลื่นสนีกเกอร์อันตรายสาดซัดแรง
-
ฟยาดราร์กยูฟูร์ (Fjadrargljufur Canyon) – หุบเขาแคบสีเขียวพร้อมเส้นทางเดินและจุดชมวิว
-
ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon Glacier Lagoon) – ทะเลสาบชื่อดังที่มีภูเขาน้ำแข็งลอยในน้ำ ทะเลสาบอยู่ข้างหาดไดมอนด์ (Diamond Beach)
สถานที่ที่คนยังไม่ค่อยรู้จักแต่สวยงามไม่แพ้กัน เช่น คาบสมุทรดิร์โฮลาเอย์ (Dyrholaey Peninsula) จุดชมพัฟฟินที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ช่วงฤดูร้อน และน้ำตกกลูยฟราบูอิ (Gljufrabui Waterfall) ที่ซ่อนตัวหลังหน้าผา
ประสบการณ์ที่สะท้อนจิตวิญญาณของไอซ์แลนด์ได้ดีที่สุดอย่างหนึ่งคือการขี่ม้าไอซ์แลนด์บนหาดทรายดำอันเงียบสงบ ข้างหนึ่งเป็นทะเล อีกข้างเป็นหน้าผาหินแหลม
ม้าตัวเล็กแข็งแรงเหล่านี้ขึ้นชื่อเรื่องนิสัยอ่อนโยนและท่าทางเดิน "tölt" ที่นุ่มนวล เหมาะทั้งมือใหม่และนักขี่ม้าประสบการณ์สูง
การขี่ม้าท่ามกลางภูมิประเทศเหนือจริงกับทัวร์ขี่ม้าคือหนึ่งในกิจกรรมที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์สำหรับผู้ที่อยากเชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างแท้จริง หนึ่งในวิธีที่น่าจดจำที่สุดคือทัวร์ขี่ม้าชมหาดทรายดำจากวิก (Vik)
ทัวร์นี้ถือเป็นกิจกรรมยอดนิยมในวิก และเหมาะกับทุกระดับฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก ครอบครัว หรือเดินทางคนเดียว หลังจบทัวร์ แวะเติมพลังที่ร้านอาหารยอดนิยมในวิก
6. สำรวจอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลและไฮกิ้งบนธารน้ำแข็งที่สกัฟตาเฟลล์

ห่างจากวิกไปทางตะวันออกประมาณสองชั่วโมงคือวัทนาโจกุล (Vatnajokull) ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ครอบคลุมพื้นที่ 8% ของไอซ์แลนด์ การสำรวจธารน้ำแข็งแห่งนี้คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงที่สุดในไอซ์แลนด์ จากอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล คุณสามารถเข้าร่วมทัวร์ธารน้ำแข็งที่มีหลากหลาย ทั้งแบบเดินบนธารน้ำแข็งและเข้าไปในถ้ำน้ำแข็ง
การเดินทางจากเรคยาวิกไปวัทนาโจกุลถือเป็นหนึ่งในเส้นทางที่สวยที่สุดบนถนนวงแหวน ทิวทัศน์เปลี่ยนจากภูเขาและทุ่งหญ้าเขียวขจีเป็นทะเลทรายสีดำกว้างใหญ่ ก่อนที่ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลจะปรากฏตระหง่านขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมุ่งหน้าไปทางตะวันออก
ประตูสู่ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลที่ดีที่สุดคือเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell Nature Reserve) ซึ่งเดิมเคยเป็นอุทยานแห่งชาติของตัวเอง แต่ปัจจุบันรวมอยู่ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล ในบริเวณมีเส้นทางเดินป่าหลากหลายระดับ ไฮไลท์คือเส้นทางไปน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) น้ำตกที่มีเสาหินบะซอลต์สีดำล้อมรอบ
สกัฟตาเฟลล์ยังเป็นฐานหลักสำหรับทัวร์ไฮกิ้งเดินบนธารน้ำแข็งบนวัทนาโจกุล ทัวร์ยอดนิยมต่าง ๆ ในสกัฟตาเฟลล์จะพาคุณขึ้นธารน้ำแข็งโดยสวมรองเท้าตะปู (แครมปอน) และเดินตามไกด์ผู้เชี่ยวชาญในเส้นทางปลอดภัย ทัวร์เดินธารน้ำแข็งที่ได้รับคะแนนสูงสุด ได้แก่:
-
ทัวร์เดินธารน้ำแข็งสำหรับมือใหม่ที่สกัฟตาเฟลล์ – เหมาะกับทุกระดับประสบการณ์ เดินขึ้นธารน้ำแข็งอย่างปลอดภัยพร้อมไกด์ผู้เชี่ยวชาญ
-
ทัวร์เดินธารน้ำแข็งสกัฟตาเฟลล์ – ผจญภัย 3 ชั่วโมงบนธารน้ำแข็ง เรียนรู้การก่อตัวและการเปลี่ยนแปลงของธารน้ำแข็ง
-
ทัวร์เดินธารน้ำแข็ง 5 ชั่วโมงที่สกัฟตาเฟลล์ – เหมาะกับนักผจญภัย ทัวร์นี้พาเดินลึกเข้าไปในธารน้ำแข็งเพื่อสำรวจกำแพงน้ำแข็งและพื้นที่ห่างไกล
หากคุณพักใกล้เรคยาวิกหรือมีเวลาจำกัด ทัวร์เดินธารน้ำแข็งที่โซลเฮมาโจกุลเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงง่ายกว่า ธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล ตั้งอยู่ทางตะวันตกของวิก และยังมีทัวร์ที่รวมการเที่ยวชมสถานที่ เช่น ทัวร์ผจญภัยชายฝั่งทางใต้พร้อมเดินธารน้ำแข็ง
5. ล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็งที่ทะเลสาบโจกุลซาร์ลอนและเที่ยวหาดไดมอนด์
ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon Glacier Lagoon) คือหนึ่งในสถานที่ธรรมชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์และเป็นจุดหมายในฝันที่ต้องมาเยือนสักครั้ง ที่นี่ ธารน้ำแข็งแตกตัวออกจากธารน้ำแข็งเบรดาแมร์คูร์โจกุล (Breidamerkurjokull) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล แล้วค่อย ๆ ลอยผ่านทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน ก่อนจะไหลออกสู่ทะเล
วิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน คือการลงเรือออกไปในน้ำ ท่ามกลางภูเขาน้ำแข็งสูงตระหง่านและขอบธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลที่ล้อมรอบ ทะเลสาบแห่งนี้ยิ่งดูน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น นี่คือทัวร์ยอดนิยมของทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนที่จะพาคุณเข้าไปใกล้น้ำแข็งมากขึ้น:
-
ทัวร์ล่องเรือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน – ทัวร์เรือสุดคลาสสิกนี้จะพาคุณล่องเรืออย่างผ่อนคลายไปในทะเลสาบ พร้อมคำบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญขณะล่องผ่านภูเขาน้ำแข็งและชมสัตว์ป่า
-
ทัวร์ล่องเรือโซดิแอกในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน – ขึ้นเรือลำเล็กและเร็วกว่า ที่จะพาคุณเข้าใกล้ภูเขาน้ำแข็งและขอบธารน้ำแข็ง เหมาะสำหรับสายผจญภัย
-
พายคายัคในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน – พายเรือคายัคท่ามกลางภูเขาน้ำแข็งในทัวร์พร้อมไกด์ เพื่อสัมผัสความงามของทะเลสาบอย่างใกล้ชิดและสงบ
ทัวร์ล่องเรือที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนจะเปิดให้บริการตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง ส่วนในฤดูหนาวจะเป็นฤดูกาลของถ้ำน้ำแข็งแทน
เมื่อภูเขาน้ำแข็งจากทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนลอยออกสู่ทะเล คลื่นจะพัดพวกมันขึ้นมาบนชายหาดภูเขาไฟสีดำที่มีชื่อเล่นว่า หาดไดมอนด์ (Diamond Beach) ซึ่งเป็นภาพที่น่าหลงใหลอย่างยิ่ง
สีฟ้าของน้ำแข็งและสีขาวของคลื่นตัดกับทรายดำ ทำให้หาดไดมอนด์งดงามเป็นพิเศษและเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์
หากเพิ่มสีสันของแสงเหนือเหนือโจกุลซาร์ลอน หรือแสงพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่งดงาม ก็จะได้วิวที่เหมือนหลุดออกมาจากนิยายแฟนตาซี และถ้ายังไม่พอ บางครั้งคุณอาจได้เห็นแมวน้ำเล่นน้ำในทะเลสาบหรือทะเลอีกด้วย!
4. สำรวจถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าในฤดูหนาวของไอซ์แลนด์

ในช่วงฤดูหนาว ถ้ำน้ำแข็งของไอซ์แลนด์มอบประสบการณ์สุดมหัศจรรย์ให้กับผู้มาเยือน ทุก ๆ ฤดูหนาวในไอซ์แลนด์ ถ้ำน้ำแข็งใหม่จะก่อตัวขึ้นเองตามธรรมชาติจากน้ำละลายที่ไหลใต้ธารน้ำแข็งในฤดูร้อน เนื่องจากถ้ำเปลี่ยนแปลงไปทุกปี ถ้ำน้ำแข็งของฤดูกาลเที่ยวชมในแต่ละปีก็จะไม่เหมือนกันเลย มี 3 พื้นที่หลักที่คุณสามารถเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งในไอซ์แลนด์ได้:
-
ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajokull) – ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์และเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดสำหรับถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติ
-
ธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Myrdalsjokull) – ที่ตั้งของถ้ำน้ำแข็งแห่งเดียวในไอซ์แลนด์ที่เข้าชมได้ตลอดทั้งปี
-
ธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) – ตั้งอยู่ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ มีอุโมงค์น้ำแข็งที่มนุษย์สร้างขึ้น
ถ้ำน้ำแข็งในไอซ์แลนด์สามารถเข้าชมได้เฉพาะกับทัวร์ถ้ำน้ำแข็งพร้อมไกด์ เท่านั้น เนื่องจากสภาพภายในธารน้ำแข็งเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ โชคดีที่มีตัวเลือกทัวร์คุณภาพสูงมากมาย ตั้งแต่แบบที่ต้องเดินระยะสั้นเข้าไปในถ้ำ ไปจนถึงการผจญภัยลึกเข้าไปในธารน้ำแข็ง
ทัวร์ยอดนิยมส่วนใหญ่ออกเดินทางจากทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน รวมถึงประสบการณ์ที่ได้รับคะแนนสูงสุดอย่างทัวร์ถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าคริสตัลในธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ภายในถ้ำ ผนังน้ำแข็งสีฟ้าจะเปล่งประกายเมื่อแสงส่องผ่าน พร้อมลวดลายและพื้นผิวที่เปลี่ยนไปทุกฤดูกาล
อีกหนึ่งประสบการณ์สุดตื่นเต้นคือทัวร์ถ้ำน้ำแข็งคัทลา (Katla) ใกล้กับวิก (Vik) ถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติแห่งนี้อยู่ใต้ธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล และเป็นแห่งเดียวที่เปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปี ชั้นน้ำแข็งสีน้ำเงินและดำที่เกิดจากภูเขาไฟคัทลาช่วยสร้างบรรยากาศที่แตกต่างจากธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลอย่างสิ้นเชิง
สำหรับนักเดินทางที่พักอยู่ในเรคยาวิก ทัวร์ถ้ำน้ำแข็งอินทูดิกลาเซียร์ในธารน้ำแข็งลางโจกุล ก็เป็นอีกทางเลือกที่ไม่ไม่เหมือนใคร อุโมงค์น้ำแข็งที่มนุษย์สร้างขึ้นนี้จะพาคุณเดินลึกเข้าไปในธารน้ำแข็ง ผ่านห้องโถงที่มีแสงไฟส่องสว่าง พร้อมเรียนรู้โครงสร้างของธารน้ำแข็งขนาดมหึมาจากภายใน
3. ขับรถเที่ยววงกลมทองคำ (Golden Circle) พร้อมเส้นทางลับสุดพิเศษ
หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมที่สุดในไอซ์แลนด์คือการร่วมทัวร์วงกลมทองคำ (Golden Circle) เส้นทางท่องเที่ยวชมวิวระยะทาง 300 กิโลเมตร (186 ไมล์) สุดไอคอนิกนี้จะพาคุณไปสัมผัสสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่โดดเด่นที่สุดของไอซ์แลนด์ และสำหรับนักเดินทางหลายคน ที่นี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในธรรมชาติไอซ์แลนด์
จุดแรกคืออุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) มรดกโลกยูเนสโกที่มีความสำคัญทั้งทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ เป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ในปี ค.ศ. 930 และตั้งอยู่ในหุบเขารอยแยกระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเชียท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม
ไม่ไกลกัน พื้นที่ความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area) คือที่ตั้งของไกเซอร์ต้นแบบที่เป็นที่มาของชื่อ "geyser" ทั่วโลก แม้ไกเซอร์ดั้งเดิมจะไม่ค่อยปะทุแล้ว แต่เพื่อนบ้านอย่างสโทรคูร์ (Strokkur) จะปะทุทุก ๆ 5 นาที พ่นน้ำเดือดสูงกว่า 20 เมตร (65 ฟุต) ขึ้นสู่ท้องฟ้า
จุดสุดท้ายคือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss Waterfall) น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ ไหลตกลงสองชั้นอย่างอลังการสู่หุบเขาธารน้ำแข็งที่เกิดขึ้นในยุคน้ำแข็งสุดท้าย ในวันที่มีแดด ละอองน้ำตกจะสะท้อนแสงจนเกิดเป็นสายรุ้งสดใส
นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกเช่ารถขับเองเพื่อขับรถเที่ยววงกลมทองคำ และมักจะพักค้างคืนในที่พักแถบวงกลมทองคำ
หากคุณมีเวลาเพิ่มในเส้นทางวงกลมทองคำ ยังมีจุดแวะลับ ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายที่จะทำให้ทริปสนุกยิ่งขึ้น:
-
ปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerid Crater) – เดินวนรอบทะเลสาบปล่องภูเขาไฟสีสันสดใส
-
น้ำตกบรูอาร์ฟอสส์ (Bruarfoss Waterfall) – เดินป่าชมเส้นทางสวยสู่สายน้ำตกสีฟ้าสดใส
-
เลยการาส ลากูน (Laugaras Lagoon) – แช่น้ำแร่ร้อนท่ามกลางวิวธรรมชาติสวยงาม
-
สปาเลยการ์วาทน์ ฟอนทานา (Laugarvatn Fontana) – ผ่อนคลายในบ่อน้ำร้อนและห้องอบไอน้ำริมทะเลสาบ
-
ซีเคร็ต ลากูน (Secret Lagoon) – อาบน้ำแร่ในบ่อน้ำร้อนธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์
-
ฟาร์มเรือนกระจกฟริดเฮมาร์ (Fridheimar) – ลิ้มลองเมนูมะเขือเทศในฟาร์มพลังงานความร้อนใต้พิภพ
-
ดำน้ำสน็อกเกิลที่ซิลฟรา (Silfra) – ลอยตัวระหว่างสองทวีปในน้ำใสบริสุทธิ์
-
ขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุล – ตะลุยธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์
-
ขี่ม้าใกล้ฟลูดีร์ (Fludir) – ทำความรู้จักกับม้าไอซ์แลนด์และเที่ยวชนบทสวยงาม
2. ผ่อนคลายในบ่อน้ำร้อนชั้นนำของไอซ์แลนด์ เช่น บลูลากูน (Blue Lagoon)
ทริปไอซ์แลนด์จะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้สัมผัสประสบการณ์สปาน้ำแร่ร้อนชื่อดังระดับโลก ที่ขึ้นชื่อที่สุดคือบลูลากูน (Blue Lagoon) สถานที่ในฝันที่นักเดินทางทั่วโลกต่างใฝ่ฝันจะมาเยือนสักครั้ง
นอกจากสปาแล้ว คุณยังจะได้พบกับบ่อน้ำร้อนธรรมชาติทั่วชนบทไอซ์แลนด์ บ่อน้ำร้อนลับเหล่านี้มอบประสบการณ์ดิบ ๆ และแท้จริงในการสัมผัสพลังงานความร้อนใต้พิภพของไอซ์แลนด์
การแช่น้ำร้อนเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไอซ์แลนด์มานานหลายศตวรรษ เป็นวิธีผ่อนคลาย พบปะสังสรรค์ และรับประโยชน์จากแร่ธาตุในน้ำร้อน
ปัจจุบัน การเยี่ยมชมบ่อน้ำร้อนและสปาชั้นนำในไอซ์แลนด์ ถือเป็นกิจกรรมผ่อนคลายที่ดีที่สุดสำหรับนักเดินทาง ผสมผสานการดูแลสุขภาพจากธรรมชาติเข้ากับทิวทัศน์ที่น่าจดจำ
สปาน้ำแร่ร้อนที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ ได้แก่:
-
บลูลากูน (Blue Lagoon) – แช่ตัวในสปาน้ำแร่ร้อนที่โด่งดังที่สุดของไอซ์แลนด์ ท่ามกลางน้ำสีฟ้าน้ำนมและลาวา เหมาะเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดสุดท้ายของทริป ใกล้สนามบินเคฟลาวิก
-
สกายลากูน (Sky Lagoon) – ลอยตัวในสระอินฟินิตี้ริมทะเลใกล้เรคยาวิก พร้อมพิธีสปา 7 ขั้นตอนและวิวมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ
-
เลยการาส ลากูน (Laugaras Lagoon) – เที่ยววงกลมทองคำพร้อมแวะสปาใหม่ล่าสุดของไอซ์แลนด์ ที่มีสระน้ำร้อน ห้องซาวน่า และวิวธรรมชาติสุดผ่อนคลาย
-
ฮวามม์สวิก ฮอตสปริงก์ (Hvammsvik Hot Springs) – แช่ในสระน้ำร้อนริมทะเลที่ขึ้นลงตามน้ำในฮวาลฟยอร์ดูร์ (Hvalfjörður) ผสมผสานความอบอุ่นกับธรรมชาติบริสุทธิ์ของไอซ์แลนด์
-
ฟอเรสต์ลากูน (Forest Lagoon) – ผ่อนคลายในสระน้ำร้อนท่ามกลางป่าเบิร์ชใกล้อาคูเรย์รี (Akureyri) พร้อมบาร์ในสระและวิวฟยอร์ด เหมาะเป็นจุดแวะพักในไอซ์แลนด์เหนือ
-
เอิร์ธลากูน (Earth Lagoon) – แช่น้ำแร่ร้อนพร้อมชมวิวภูเขาไฟ เปรียบได้กับบลูลากูนแห่งไอซ์แลนด์เหนือ
-
เวิกบาธส์ (Vok Baths) – แช่ในสระน้ำร้อนลอยน้ำบนทะเลสาบอูร์ริดาวาทน์ (Urridavatn) ในไอซ์แลนด์ตะวันออก ผสมผสานการแช่น้ำร้อนกับการจุ่มน้ำเย็นสดชื่น
สำหรับตัวเลือกตั๋วพรีเมียมและบริการรับส่ง ลองดูทัวร์และบัตรเข้าใช้บริการบ่อน้ำร้อนในไอซ์แลนด์ทั้งหมด หากคุณมองหาประสบการณ์แช่น้ำร้อนราคาประหยัด สระว่ายน้ำสาธารณะในเรคยาวิกก็เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยม
1. ล่าแสงเหนือในท้องฟ้าฤดูหนาวของไอซ์แลนด์
กิจกรรมที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ช่วงฤดูหนาวคือการล่าแสงเหนือ
ด้วยตำแหน่งที่ตั้งใกล้ขั้วโลกเหนือ ไอซ์แลนด์จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกในการชมแสงออโรรา ปรากฏการณ์แสงสีเขียว ชมพู และม่วงที่เต้นระบำบนท้องฟ้าไอซ์แลนด์นี้สามารถชมได้ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเมษายน
หากโชคดี คุณจะได้เห็นแสงเหนือระยิบระยับเหนือภูเขาน้ำตก ธารน้ำแข็ง และทุ่งลาวา เปลี่ยนภูมิประเทศให้กลายเป็นภาพมหัศจรรย์ที่ไม่มีวันลืม
การจะชมแสงเหนือได้ต้องมีเงื่อนไขที่เหมาะสม: ท้องฟ้าโปร่ง กิจกรรมสุริยะสูง และแสงรบกวนน้อย หากกิจกรรมแสงเหนือแรง คุณอาจได้เห็นแสงเหนือในเรคยาวิกด้วย!
หากคุณวางแผนขับรถเที่ยวเองในฤดูหนาว และมีรถเช่า คุณสามารถล่าแสงเหนือได้ด้วยตัวเอง เพียงขับไปยังพื้นที่มืดและเช็กพยากรณ์แสงเหนือและ พยากรณ์เมฆ เพื่อหาท้องฟ้าโปร่ง นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกทัวร์ล่าแสงเหนือพร้อมไกด์ เพื่อความสะดวก โดยไกด์ผู้เชี่ยวชาญจะพาคุณไปยังจุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุดในแต่ละคืน นี่คือทัวร์ล่าแสงเหนือยอดนิยมจากเรคยาวิก:
-
ทัวร์ล่าแสงเหนือด้วยรถบัสจากเรคยาวิก – ตัวเลือกสะดวกและประหยัด พาไปยังจุดชมแสงเหนือที่มืดนอกเมือง พร้อมไกด์ผู้รู้จริง
-
ทัวร์ล่าแสงเหนือด้วยเรือจากเรคยาวิก – ล่องเรือออกสู่อ่าวฟาซาโฟลอิ (Faxafloi Bay) เพื่อชมแสงเหนือแบบเปิดโล่ง ห่างไกลแสงเมือง พร้อมห้องโดยสารอุ่นและชุดกันหนาว
-
ทัวร์ล่าแสงเหนือด้วยซูเปอร์จี๊ปจากเรคยาวิก – ผจญภัยนอกเส้นทางกับไกด์มืออาชีพ พร้อมรับภาพถ่ายกับแสงเหนือฟรี
แสงเหนือคือหนึ่งในประสบการณ์ที่น่าจดจำที่สุดที่คุณจะได้รับในไอซ์แลนด์ หากต้องการวางแผนทริปให้ตรงกับฤดูกาลแสงเหนือ ดูคำแนะนำฉบับเต็มของเราเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์
กิจกรรมใหม่ล่าสุดในไอซ์แลนด์ 2025
ไอซ์แลนด์ยังคงเพิ่มประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักเดินทาง โดยมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เปิดตัวในปี 2024 หรือจะเปิดในปี 2025 สถานที่เหล่านี้จะมอบวิธีใหม่ ๆ ในการสัมผัสภูมิประเทศภูเขาไฟ ผจญภัยในไฮแลนด์ ชมสัตว์ป่าชายฝั่ง และผ่อนคลายกับน้ำแร่ร้อน
ผ่อนคลายที่เลยการาส ลากูน (Laugaras Lagoon)
สปาน้ำแร่ร้อนแห่งใหม่ล่าสุดของไอซ์แลนด์ Laugaras Lagoon ตั้งอยู่บนเส้นทางวงกลมทองคำ มีสระน้ำหลายระดับพร้อมวิวป่าและแม่น้ำ ห้องอบไอน้ำ สระน้ำเย็น บาร์ในสระ และร้านอาหารในสถานที่ ออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกทดแทนบลูลากูน โดยมีความเงียบสงบและใกล้ชิดธรรมชาติ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2025 และคุณสามารถจองบัตรเข้าใช้บริการเลยการาส ลากูน ออนไลน์ได้แล้ว
ขับรถเที่ยวเส้นทางภูเขาไฟโวลเคนิกเวย์ (Volcanic Way)
เส้นทาง Volcanic Way เป็นเส้นทางขับรถเที่ยวด้วยตัวเองผ่านไอซ์แลนด์ตอนใต้และคาบสมุทรเรคยาเนส แบ่งเป็น 8 ช่วง โดยแต่ละช่วงเน้นภูเขาไฟสำคัญ เชื่อมต่อ 17 เมืองและหมู่บ้านตั้งแต่เคฟลาวิก (Keflavik) ถึงเฮิพน์ (Hofn) ภูเขาไฟเด่น ๆ ได้แก่:
-
ฟากราดาลสฟยาลล์ (Fagradalsfjall) – จุดเกิดการปะทุครั้งล่าสุดแห่งแรกของคาบสมุทรเรคยาเนส
-
เฮงกิลล์ (Hengill) – พื้นที่ความร้อนใต้พิภพใกล้วงกลมทองคำ
-
เฮกลา (Hekla) – หนึ่งในภูเขาไฟที่ยังปะทุอยู่บ่อยที่สุดของไอซ์แลนด์
-
เอยาฟยาลลาโจกุล (Eyjafjallajokull) – ภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงจากการปะทุในปี 2010
-
เอลด์เฟลล์ (Eldfell) – เปลี่ยนโฉมหมู่เกาะเวสต์แมน (Westman Islands) ในปี 1973
-
คัทลา (Katla) – ภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Mýrdalsjökull)
-
ลาคากีการ์ (Lakagigar) – มีชื่อเสียงจากลาวาไหลครั้งใหญ่ในปี 1783
-
ออไรวาโจกุล (Oraefajokull) – มีประวัติการปะทุครั้งใหญ่ในอดีต
พักที่ Highland Base Kerlingarfjoll
รีสอร์ทแนวรักษ์โลกแห่งใหม่ในใจกลางไฮแลนด์ มีที่พักตั้งแต่แคมป์ปิ้งไปจนถึงห้องหรู ที่ Highland Base Kerlingarfjoll คุณจะได้เพลิดเพลินกับการแช่น้ำร้อนที่ไฮแลนด์บาธส์ เส้นทางเดินป่า ดูดาว และทัวร์ผจญภัยในไฮแลนด์แบบมีไกด์ เช่น ทัวร์จักรยานไฟฟ้า สามารถเดินทางไปยังโรงแรมด้วยรถเช่า 4x4 หรือจองรถรับส่งจากเรคยาวิกไป Highland Base
โหนซิปไลน์บนธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล (Solheimajokull)
สัมผัสประสบการณ์โหนซิปไลน์สุดตื่นเต้นบนธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล (Solheimajokull) บนชายฝั่งทางใต้
คุณจะได้เดินขึ้นธารน้ำแข็งและโหนซิปไลน์เหนือกองตะกอนธารน้ำแข็ง พร้อมชมวิวธารน้ำแข็ง ภูเขา และที่ราบทรายดำสุดอลังการ
เพลิดเพลินกับโวลเคโนเอ็กซเพรส (Volcano Express) ที่ฮาร์ปา
Volcano Express คือประสบการณ์เสมือนจริงภายในฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa) ในเรคยาวิก การเดินทางเสมือนจริงนี้ใช้เทคโนโลยีจำลองการเคลื่อนไหวและเอฟเฟกต์ภาพ เพื่อถ่ายทอดประวัติภูเขาไฟของไอซ์แลนด์อย่างน่าตื่นเต้นและเข้าถึงได้ง่าย แนะนำให้จองบัตร Volcano Express ล่วงหน้า
เยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์วาฬเบลูกาในหมู่เกาะเวสต์แมน (Westman Islands)
ศูนย์อนุรักษ์วาฬเบลูกาในทะเลเปิดแห่งแรกของโลก บ้านของ Little White และ Little Grey นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทางทะเล และเยี่ยมชมศูนย์ช่วยเหลือนกพัฟฟินบนเกาะเฮมาเอย์ (Heimaey) ได้ด้วยบัตรเข้าชมศูนย์เบลูกา ซึ่งใช้เข้าได้ทั้งสองแห่ง
แผนที่กิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์
คู่มือท่องเที่ยวไอซ์แลนด์อาจหนาเท่าพจนานุกรม เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวและภูมิประเทศที่ไม่เหมือนใครมากมายจนยากจะเลือกใส่ไว้ในทริปเดียว เราจึงจัดทำแผนที่สถานที่ห้ามพลาดในไอซ์แลนด์ไว้ด้านบนให้คุณใช้วางแผนเที่ยว!
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในไอซ์แลนด์
มีบางสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในไอซ์แลนด์ด้วยเหตุผลต่าง ๆ เราได้รวบรวมไว้ในสิ่งที่ไม่ควรทำที่สุดในไอซ์แลนด์
ในแง่ของสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรหลีกเลี่ยง เราขอบอกว่าทุกแหล่งท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์สวยจริงเหมือนในรูป แต่เพื่อไม่ให้ผิดหวัง ควรจองล่วงหน้าสำหรับสถานที่ยอดนิยมอย่างบลูลากูน
อย่าลืมเคารพธรรมชาติขณะเดินทางในชนบท อย่าทิ้งขยะ และช่วยกันรักษาความสะอาดให้ไอซ์แลนด์ยังเหมือนกับอดีตที่ผ่านมากว่า 1,000 ปี
หวังว่าคู่มือนี้จะช่วยให้คุณค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์และกิจกรรมที่ดีที่สุดเพื่อให้ทริปของคุณคุ้มค่าที่สุด บอกเราด้วยว่าสถานที่ธรรมชาติที่คุณชอบที่สุดในไอซ์แลนด์คือที่ไหน และแบ่งปันจุดลับที่คุณค้นพบระหว่างเดินทางท่ามกลางภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์นี้!









