สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดบนถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์

สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดบนถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์

Hlín Eyjólfsdóttir
ผู้เขียน: Hlín Eyjólfsdóttir
ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรอง

สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ตามถนนวงแหวนอ่านเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุดตามเส้นทางถนนวงแหวน (Ring Road) ของไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นทางหลวงสายหลักที่โอบล้อมเกาะทั้งเกาะ

ถนนสายนี้รู้จักกันอีกชื่อว่า Route 1 เส้นทางโรดทริปอันงดงามที่ทอดยาวกว่า 1,332 กิโลเมตร เชื่อมโยงภูมิทัศน์อันตระการตาของไอซ์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกสูงตระหง่าน ชายหาดทรายดำ ทะเลสาบธารน้ำแข็ง ไปจนถึงปล่องภูเขาไฟ

ไม่ว่าคุณจะเดินทางเพื่อตามล่าแสงเหนือ หรือออกสำรวจท่ามกลางพระอาทิตย์เที่ยงคืน ถนนวงแหวนคือเส้นทางที่สมบูรณ์แบบในการสัมผัสความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นของไอซ์แลนด์

ทำไมคุณถึงวางใจในเนื้อหาของเราได้

Guide to Iceland คือแพลตฟอร์มท่องเที่ยวที่น่าเชื่อถือที่สุดในไอซ์แลนด์ ในแต่ละปี เราช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหลายล้านคน เนื้อหาทั้งหมดของเราเขียนและตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นที่รู้จักไอซ์แลนด์อย่างลึกซึ้ง คุณจึงมั่นใจได้ว่าคำแนะนำด้านการท่องเที่ยวของเรามีความถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อถือได้

คุณสามารถเลือกเที่ยวชมภูมิทัศน์อันงดงามด้วยการเข้าร่วมทัวร์ต่างๆ รอบไอซ์แลนด์ ซึ่งมีโปรแกรมหลากหลายให้เลือก หรือเลือกท่องเที่ยวอย่างอิสระโดยใช้บริการแพ็คเกจทัวร์ที่ออกแบบมาสำหรับการขับรถเที่ยวเองโดยเฉพาะ หรือแค่เพียงเช่ารถขับเที่ยวเองก็ได้เช่นกัน

เมื่อวางแผนการเดินทาง การรู้ล่วงหน้าว่าการขับรถในไอซ์แลนด์เป็นอย่างไรถือว่าสำคัญ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ตลอดเส้นทางคุณจะได้พบกับน้ำตกอันงดงาม ชายหาดทรายดำ จุดชมกวางเรนเดียร์ ธารน้ำแข็งตระการตา และภูเขาไฟสูงตระหง่าน!

คุณสามารถเลือกพักในโรงแรมในไอซ์แลนด์ที่สะดวกสบายและกระจายอยู่ตามเมืองและหมู่บ้านเล็กๆ ทั่วชนบทของไอซ์แลนด์ หรือจะเติมเต็มความเป็นนักผจญภัยด้วยการเช่ารถบ้านแคมเปอร์แวน หรือกางเต็นท์นอนกลางแจ้งใต้ท้องฟ้าโล่งก็ได้เช่นกัน

เรียนรู้ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้สำหรับการเดินทางรอบเกาะ และวางแผนทริปในฝันด้วยคู่มือเส้นทางถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์ฉบับนี้!

สรุปสิ่งสำคัญสำหรับการเดินทางบนเส้นทางถนนวงแหวน 

  • ระยะทาง & เวลา: เส้นทางถนนวงแหวน (Route 1) มีระยะทางประมาณ 1,322 กิโลเมตร ใช้เวลาอย่างน้อย 7–10 วัน หากรวมการแวะชมสถานที่ท่องเที่ยว

  • ทิศทางยอดนิยม: นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักขับทวนเข็มนาฬิกา โดยเริ่มจากชายฝั่งทางใต้ เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมายตั้งแต่ช่วงต้นของทริป

  • ภูมิภาคที่ครอบคลุม: ถนนวงแหวนจะพาคุณผ่านไอซ์แลนด์ตอนใต้ ตะวันออก เหนือ และตะวันตก แต่จะไม่ครอบคลุมคาบสมุทรสไนแฟลซเนส เวสต์ฟยอร์ด หรือไฮแลนด์ ซึ่งสามารถเพิ่มสถานที่เหล่านี้ด้วยออกไปเที่ยวนอกเส้นทางได้

  • สภาพถนน: ถนนวงแหวนลาดยางมะตอยตลอดเส้นทางและสามารถขับได้ตลอดทั้งปี แต่การขับช่วงฤดูหนาวอาจท้าทายมากขึ้นเพราะมีน้ำแข็งและหิมะ

  • การเลือกยานพาหนะ: รถยนต์ขนาดเล็กมาตรฐานก็เพียงพอสำหรับการขับบนถนนวงแหวน แต่หากเป็นฤดูหนาวหรือมีแผนขับไปตามเส้นทางที่สมบุกสมบัน ควรใช้รถ 4x4

ความแตกต่างของการขับรถบนถนนวงแหวนในแต่ละฤดูกาล 

บางส่วนของถนนวงแหวนของประเทศไอซ์แลนด์อาจถูกปิดในช่วงฤดูหนาว

การขับรถในประเทศไอซ์แลนด์ถือเป็นความท้าทายที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากถนนอาจไม่คุ้นเคยเหมือนที่บ้าน ถนนบางสายอาจแคบกว่าที่คุณคุ้นเคย และมียอดเขาที่มองไม่เห็น ทางแคบ และแม้แต่สะพานเลนเดียว

ขับรถด้วยความระมัดระวัง ค่อยๆ ไป และขับด้วยความเร็วปานกลางเพื่อให้คุณสามารถตอบสนองต่อความท้าทายที่ไม่คาดคิดได้

มีจุดแวะมากมายตามเส้นทางถนนวงแหวนที่เต็มไปด้วยความสวยงาม เช่น ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน ทะเลสาบมิวาทน์ และธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ซึ่งตั้งอยู่ติดถนนหลัก เกือบตลอดทั้งปี คุณสามารถเดินทางได้ด้วยรถเช่าขนาดเล็ก แต่ควรทราบว่ารถประเภทนี้จะจำกัดตัวเลือกในการออกนอกเส้นทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่ห่างไกลกว่านี้

ด้วยเหตุนี้ คุณอาจต้องการจัดสรรงบประมาณไว้ 10-14 วันเพื่อเพลิดเพลินกับการเดินทางรอบถนนวงแหวนของประเทศไอซ์แลนด์ ขอแนะนำให้คุณเดินทางในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน หรือฤดูใบไม้ร่วง



หากคุณจะเดินทางไปทั่วไอซ์แลนด์ในฤดูหนาว (ตุลาคมถึงมีนาคม) ควรขยายเวลาออกไปให้นานขึ้นอีก เพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เว้นแต่คุณจะขับรถเที่ยวอยู่แค่ในวงกลมทองคำและชายฝั่งทางใต้ ซึ่งเราขอแนะนำให้คุณใช้เวลา 5-8 วัน

การขับรถบนถนนวงแหวนในฤดูหนาวจะเดินทางได้ช้ากว่าในฤดูร้อน คุณอาจต้องขับรถฝ่าพายุหิมะ และบางครั้งถนนก็ถูกปิดเนื่องจากมีหิมะตกหรือลมแรง ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสเสมอที่คุณจะต้องรอในสถานที่แห่งหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งถึงสองวันเนื่องจากสภาพถนน

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ หากคุณมาเยือนไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูหนาว เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณเช่ารถขับเคลื่อนสี่ล้อ รถจี๊ป หรือรถเอสยูวีสำหรับการเดินทางบนถนนวงแหวน ด้วยวิธีนี้ คุณจะพร้อมรับมือกับสภาพถนนที่ยากลำบากได้ดีขึ้น

แม้ว่าการเดินทางบนถนนวงแหวนในฤดูหนาวจะเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่าในฤดูร้อน แต่ก็สามารถมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจได้ คุณสามารถเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งที่สวยงามและเข้าร่วมทัวร์แสงเหนือท่ามกลางความมืดมิดได้!

ตรวจสอบสภาพถนนทุกครั้งก่อนออกเดินทาง (แม้ในช่วงฤดูร้อน) รวมถึงพยากรณ์อากาศของประเทศไอซ์แลนด์ด้วย

นอกจากนี้เรายังแนะนำให้ตรวจสอบเว็บไซต์ SafeTravel เป็นประจำและดาวน์โหลดแอปมือถือเพื่อรับข้อมูลอัปเดตด้านความปลอดภัย นี่คือรวมแอปที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางในไอซ์แลนด์



อีกเรื่องที่ควรจำไว้ก็คือการจราจรบนถนนวงแหวนมักจะไม่หนาแน่น แต่ไม่ควรหยุดรถกลางถนนเพื่อถ่ายรูป หากต้องการจอดรถเพื่อถ่ายรูปหรือชมวิว ควรใช้จุดพักรถที่มีอยู่หลายแห่งตลอดเส้นทางเพื่อความปลอดภัย

เส้นทางท่องเที่ยวและแผนที่ถนนวงแหวนที่ดีที่สุด

นี่คือแผนที่ถนนวงแหวนจากทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 10 วันตามถนนวงแหวนที่จะพาคุณไปทั่วไอซ์แลนด์และรวมถึงคาบสมุทรสไนแฟลซเนสด้วย

หมุดบนแผนที่คือสถานที่ท่องเที่ยว และคุณสามารถซูมเข้าเพื่อดูแต่ละสถานที่ได้ใกล้ยิ่งขึ้น ช่วยให้มีไอเดียดีๆ เกี่ยวกับสถานที่ทั้งหมดที่คุณสามารถเยี่ยมชมได้ตามแนวถนนวงแหวน!



การวางแผนการเดินทางบนถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์

มีแผนการเดินทางบนถนนวงแหวนให้เลือกมากมาย แต่การตัดสินใจครั้งสำคัญที่ต้องทำคือเลือกว่าจะขับรถเที่ยวรอบถนนด้วยตัวเอง หรือไปกับทัวร์แบบมีไกด์

การใช้บริการรถบัสสาธารณะจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งนั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากรถบัสจะวิ่งแค่วันละครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น และคุณจะไม่สามารถแวะลงระหว่างทางเพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ 

การเช่ารถแล้วขับรถวนรอบถนนวงแหวนด้วยตัวเองจะทำให้คุณมีความยืดหยุ่นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น และสามารถเลือกระยะเวลาที่คุณต้องการชมสถานที่แต่ละแห่งได้ เมื่อเดินทางด้วยแพ็กเกจทัวร์สำหรับขับรถเที่ยวเองในฤดูร้อน คุณสามารถเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวได้จนถึงกลางดึกเพราะพระอาทิตย์เที่ยงคืน!

หากคุณเลือกที่จะใช้บริการแพ็คเกจทัวร์สำหรับขับรถเที่ยวเองในฤดูหนาว ช่วงกลางวันจะมีความมืดปกคลุมนานกว่า ดังนั้นคุณจึงสามารถออกไปตามล่าแสงเหนือได้ทุกเมื่อหากท้องฟ้าแจ่มใส!

แสงเหนือเหนือน้ำพุร้อน Gunnuhver บนคาบสมุทรเรคยาเนสในไอซ์แลนด์

ควรขับรถในไอซ์แลนด์ช่วงฤดูหนาวก็ต่อเมื่อคุณมั่นใจอย่างมากในการขับบนหิมะและถนนที่มีน้ำแข็งเท่านั้น เพราะสภาพถนนในไอซ์แลนด์เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ของกรมทางหลวงไอซ์แลนด์และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก

หากคุณไม่ต้องการขับรถในไอซ์แลนด์ไม่ว่าฤดูกาลใด หรือเพียงต้องการข้อมูลเชิงลึกจากคนท้องถิ่นเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวหลัก คุณสามารถเลือกใช้บริการทัวร์แบบมีไกด์หรือทัวร์ขับรถเที่ยวถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์ที่เราวางแผนไว้ให้ ทัวร์ฤดูร้อนพร้อมไกด์นี้เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างช่วงเวลาว่างในเรคยาวิกและการท่องเที่ยวตามเส้นทางถนนวงแหวนรอบเกาะ 

ถ้าคุณมีงบจำกัด อย่าลืมลองดูทัวร์ขับรถเที่ยวด้วยตัวเองแบบประหยัดของเรา มีหลายตัวเลือกในการสัมผัสประสบการณ์เส้นทางวงแหวนรอบเกาะโดยไม่จำเป็นต้องใช้งบมาก!

สถานที่เที่ยวนอกเส้นทางที่อยู่ใกล้ถนนวงแหวน

บริเวณแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์คุ้มค่าแก่การแวะชมจากถนนวงแหวน

แม้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในไอซ์แลนด์จะอยู่ใกล้กับถนนวงแหวน แต่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญบางแห่งในไอซ์แลนด์กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เช่น วงกลมทองคำและบลูลากูน เช่นเดียวกับฟยอร์ดส่วนใหญ่ในไอซ์แลนด์ตะวันออก คาบสมุทรสไนแฟลซเนส ฟยอร์ดทางตะวันตก และพื้นที่ไฮแลนด์ที่น่าประทับใจ

โปรดทราบว่าเพื่อที่จะสำรวจไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์ คุณจะต้องเช่ารถขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือจองทัวร์เที่ยวไฮแลนด์แบบมีไกด์นำทาง และพื้นที่นี้สามารถเข้าถึงได้ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนเท่านั้น

ในไอซ์แลนด์เหนือ เราขอแนะนำให้คุณขับอ้อมสั้นๆ ออกจากถนนวงแหวนเพื่อไปชมสถานที่ยอดนิยม เช่น หุบเขาอาสบิร์กิ น้ำตกเดตติฟอสส์ และเมืองฮูสาวิก ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งการชมปลาวาฬของไอซ์แลนด์ คุณจะต้องเพิ่มเวลาในการเดินทางให้มากขึ้นอีกหากต้องการไปชมสถานที่เหล่านี้ แต่มันก็คุ้มค่า

สิ่งที่ควรรู้ก่อนการเดินทางท่องเที่ยวแบบโร้ดทริปในไอซ์แลนด์

กุญแจสำคัญในการขับรถท่องเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์ให้ประสบความสำเร็จนั้นอยู่ที่การเตรียมตัวอย่างรอบคอบและทำความเข้าใจกับสภาพท้องถิ่น อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มการเดินทาง

ทำความรู้จักกับกฎจราจรของประเทศไอซ์แลนด์

ทำความรู้จักกฎการขับรถในประเทศไอซ์แลนด์

ใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับกฎจราจรและป้ายจราจรของไอซ์แลนด์ก่อนเริ่มการเดินทาง การเข้าใจกฎเฉพาะของไอซ์แลนด์ เช่น ขีดจำกัดความเร็ว ให้รถที่อยู่เลนด้านในวงเวียนไปก่อน และกฎระเบียบสำหรับการขับรถบนถนนลูกรัง เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินทางอย่างปลอดภัย

การรู้ว่าป้ายจราจรต่างๆ บ่งบอกอะไร โดยเฉพาะป้ายสะพานเลนเดียว เนินเขาตาบอด และสภาพถนนที่แตกต่างกัน จะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น!

สิ่งนี้จะทำให้แน่ใจได้ว่าการขับรถไปตามถนนวงแหวนของประเทศไอซ์แลนด์จะน่าตื่นเต้นและน่าจดจำและช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงค่าปรับหรือสถานการณ์ที่เป็นอันตรายได้

ชาร์จไฟหรือเติมน้ำมันรถเมื่อมีโอกาส

ชาร์จไฟหรือเติมน้ำมันรถเช่าของคุณให้เต็มเมื่อคุณมีโอกาสในไอซ์แลนด์ความพร้อมของน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในระหว่างการเดินทาง ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องคิดมากในเมืองเรคยาวิกและเมืองใหญ่ๆ แต่ปั๊มน้ำมันในพื้นที่ห่างไกลอาจหายากกว่า

ปั๊มน้ำมันที่พบบ่อยที่สุดคือปั๊มน้ำมัน N1 ซึ่งเป็นเครือข่ายปั๊มน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ พวกเขามีปั๊มน้ำมันแบบบริการตนเองทั่วประเทศ นอกจากนี้ N1มีศูนย์บริการแบบครบวงจรที่คุณสามารถแวะรับประทานอาหารกลางวันหรืออาหารเย็นร้อนๆ ซื้อของชำขั้นพื้นฐาน อุปกรณ์การเดินทาง สิ่งของในรถยนต์ หรือเข้าห้องน้ำสาธารณะได้

ทำให้ N1 เป็นจุดแวะพักที่สะดวกสบายในการเดินทางของคุณ คุณสามารถหาสิ่งของที่คุณอาจลืมได้ เช่น สายชาร์จโทรศัพท์ในรถ หรือซื้อแซนด์วิชเพื่อนำไปเป็นอาหารกลางวันในการเดินป่า

หากคุณกำลังมองหาตัวเลือกเติมน้ำมันที่ประหยัดกว่า สามารถใช้บริการปั๊มของ Atlantsolía, Olís, และ Orkan ซึ่งมีหลายแห่งทั่วไอซ์แลนด์ โดยเฉพาะนอกพื้นที่เมืองหลวง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบบบริการตัวเอง หากคุณมีบัตร Costco ที่ยังใช้งานได้ บัตรนี้สามารถใช้ระหว่างประเทศได้ด้วย และคุณสามารถเติมน้ำมันที่ปั๊ม Costco ซึ่งมีแห่งเดียวอยู่ในเรคยาวิก และถือว่าเป็นน้ำมันที่ราคาถูกที่สุดในไอซ์แลนด์

หากคุณขับรถไฟฟ้าในไอซ์แลนด์ คุณก็สามารถสำรวจถนนวงแหวนได้ครบทั้งเส้นทาง เพียงแต่ต้องวางแผนเรื่องการชาร์จให้ดี สถานีชาร์จมีอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น อาคูเรย์รี และเอกิลสตาดีร์ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบางแห่ง

แอปอย่าง ON Charging ช่วยให้หาสถานีชาร์จใกล้ตัวได้ง่าย แต่ในพื้นที่ห่างไกล สถานีอาจมีน้อย จึงควรชาร์จแบตเตอรี่เมื่อมีโอกาส รถเช่าส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีตัวเลือกเป็นรถไฟฟ้า ทำให้คุณเดินทางได้อย่างสะดวกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ไม่ว่าคุณจะขับรถประเภทใด ควรเติมน้ำมันหรือชาร์จแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะคุณจะจอดรถเพื่อหาอะไรรับประทานหรือยืดเส้นยืดสาย ใช้โอกาสนี้ชาร์จไฟหรือเติมน้ำมันรถทุกครั้งที่ทำได้  อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หรือน้ำมันเหลือน้อยโดยเฉพาะเมื่อขับในชนบท เพราะสถานีน้ำมันหรือจุดชาร์จต่อไปอาจอยู่ไกลกว่าที่คาดไว้! 



ขับรถตามเส้นทางวงแหวนรอบไอซ์แลนด์: ควรขับตามเข็มนาฬิกาหรือทวนเข็มนาฬิกา?

ทิวทัศน์อันงดงามบนถนนวงแหวน ไอซ์แลนด์ฃ

หนึ่งในเรื่องที่ต้องตัดสินใจเป็นอันดับต้นๆ เมื่อวางแผนเที่ยวรอบถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์คือการเลือกว่าอยากขับรถวนตามเข็มนาฬิกา หรือ ทวนเข็มนาฬิกา

เนื่องจากเส้นทางเป็นวงแหวนเต็มรูปแบบ คุณจะสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางเดียวกันได้ทั้งสองทาง แต่การเลือกทิศทางจะมีผลต่อจังหวะการเดินทางและวิธีที่คุณสัมผัสกับภูมิทัศน์หลากหลายของไอซ์แลนด์

การขับทวนเข็มนาฬิกาเป็นตัวเลือกยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และเราแนะนำสำหรับผู้มาเยือนครั้งแรก แต่การขับตามเข็มนาฬิกาก็มีข้อดีเช่นกัน ลองศึกษาก่อนว่าคุณจะต้องพบกับอะไรบ้างในแต่ละทิศทาง และตัดสินใจว่าตัวเลือกไหนเหมาะกับการเดินทางของคุณที่สุด

การขับรถรอบถนนวงแหวนแบบทวนเข็มนาฬิกา

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกขับทวนเข็มนาฬิกา โดยออกจากเรคยาวิกไปทางใต้ เส้นทางนี้ช่วยให้คุณได้เยี่ยมชมแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ตั้งแต่ต้นทริป เช่น วงกลมทองคำ และชายฝั่งทางใต้

เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยม การเริ่มต้นที่นี่จะช่วยให้คุณค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากฝูงชนเมื่อเดินทางต่อไปทางทิศตะวันออกและเหนือ

ทิศทางนี้ยังช่วยให้คุณได้สัมผัสภูมิทัศน์ของไอซ์แลนด์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่น้ำตกและธารน้ำแข็งไปจนถึงชายหาดภูเขาไฟ โดยวิวทิวทัศน์จะเริ่มห่างไกลและสงบมากขึ้นเมื่อเดินทางต่อไป

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เราแนะนำให้ขับทวนเข็มนาฬิกา เริ่มที่ชายฝั่งทางใต้และจบที่ไอซ์แลนด์ตะวันตก ซึ่งช่วยให้การเที่ยวชมแลนด์มาร์กสำคัญของไอซ์แลนด์มีจังหวะที่ดีและไม่รู้สึกเร่งรีบ

การขับรถรอบถนนวงแหวนแบบตามเข็มนาฬิกา

อีกทางเลือกหนึ่งคือการขับตามเข็มนาฬิกา จากเรคยาวิกคุณจะผ่านไอซ์แลนด์ตะวันตกและขึ้นไปทางเหนือ ซึ่งให้มุมมองที่แตกต่างออกไป ทิศทางนี้ช่วยให้คุณเริ่มต้นสำรวจพื้นที่ที่เงียบสงบก่อน และค่อยไปเยี่ยมชมแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงที่สุดทางใต้ในช่วงท้ายของทริป

แม้ว่าจะทำให้เริ่มต้นการเดินทางอย่างสงบ แต่ก็อาจทำให้เวลาสำหรับชมสถานที่สำคัญในช่วงท้ายจำกัด คุณอาจรู้สึกเร่งรีบเมื่อไปเยือนชายฝั่งทางใต้และวงกลมทองคำซึ่งเป็นจุดเด่นที่สุดของเส้นทาง ดังนั้นควรวางแผนให้รอบคอบ

สุดท้ายแล้ว ทั้งสองทิศทางมอบประสบการณ์ที่แตกต่าง แต่การขับทวนเข็มนาฬิกาจะช่วยให้การวางแผนทริปราบรื่นขึ้น และมีเวลาเยอะขึ้นสำหรับจุดหมายที่ต้องไปเยือน

รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวหลักบนเส้นทางถนนวงแหวนแบบครบถ้วน

ทัศนียภาพของถนนวงแหวนไอซ์แลนด์นั้นสวยงามมาก

เพื่อให้การวางแผนทริปรอบถนนวงแหวนของคุณง่ายขึ้น ด้านล่างนี้ เราได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญตามเส้นทางทั้งหมดตามลำดับเมื่อขับทวนเข็มนาฬิกา

นั่นหมายความว่าเราเริ่มจากภาคตะวันตกเฉียงใต้และตะวันออกเฉียงใต้ ตามด้วยอีสต์ฟยอร์ด ไอซ์แลนด์เหนือ และจบที่ไอซ์แลนด์ตะวันตกซึ่งรวมเรคยาวิก หากคุณต้องการเดินทางตามเข็มนาฬิกา ก็เพียงแค่เรียงลำดับรายการในทิศทางตรงข้าม!

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนถนนวงแหวนในไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้

มีสถานที่ท่องเที่ยวทางชายฝั่งตอนใต้มากมายให้ชม

ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ขึ้นชื่อเรื่องทุ่งเกษตรสีเขียวราบเรียบ แต่เมื่อคุณขับตามถนนวงแหวน ภูมิทัศน์จะเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

คุณจะผ่านทะเลทรายที่มีทรายสีดำตัดกับภูเขาเขียวชอุ่มในระยะไกล อีกทั้งยังเห็นภูเขาไฟบ้างเป็นครั้งคราว รวมถึงภูเขาเฮกลา และธารน้ำแข็งเอยาฟยาลลาโจกุลที่มีชื่อเสียงจากการปะทุในปี 2010

ด้วยความหลากหลายของสถานที่ให้สำรวจในภูมิภาคนี้ นี่คือรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวหลักบนถนนวงแหวนในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ จัดเรียงตามลำดับที่คุณจะพบเจอเมื่อขับรถตามชายฝั่งทางใต้จากเรคยาวิก



1. หุบเขาเรคยาดาลูร์ข้างฮแวราแกร์ดิ

การได้อาบน้ำในแม่น้ำร้อนเรคยาดาลูร์ถือเป็นความสุขอย่างยิ่ง

ฮแวราแกร์ดิเป็นเมืองเล็กๆ น่ารักที่อยู่ห่างจากเรคยาวิกประมาณ 45 กิโลเมตร หรือขับรถเพียง 40 นาที เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องกิจกรรมความร้อนใต้พิภพ และในระหว่างการเยี่ยมชม คุณจะเห็นน้ำพุร้อนเรียงรายไปตามไหล่เขาโดยรอบ

นอกจากนี้ยังมีเรือนกระจกหลายแห่งในฮแวราแกร์ดิที่ใช้ความอบอุ่นของโลกในการปลูกผักและดอกไม้ตลอดทั้งปี!

หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมในฮแวราแกร์ดิคือการเดินป่าไปยังหุบเขาเรคยาดาลูร์ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแช่น้ำในธารน้ำอุ่นธรรมชาติท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่สวยงาม เราขอแนะนำให้ใช้เวลาช่วงบ่ายเพื่อเพลิดเพลินไปกับการเดินป่าพร้อมไกด์ไปยังหุบเขาเรคยาดาลูร์ ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับการแช่ตัวในน้ำอุ่นได้

คุณยังสามารถข้ามการเดินป่าและทำให้การเดินทางมีมนต์ขลังยิ่งขึ้นได้ด้วยการเข้าร่วมทัวร์ขี่ม้าไปยังเรคยาดาลูร์ ม้าไอซ์แลนด์เป็นม้าที่อ่อนโยนมาก และทัวร์นี้เหมาะสำหรับทุกคนที่อายุมากกว่า 8 ปี

2. วงกลมทองคำ

Golden Circle เป็นเส้นทางท่องเที่ยวคลาสสิกในไอซ์แลนด์คุณสามารถขับรถออกจากถนนวงแหวนเพื่อไปชมเส้นทางวงกลมทองคำก่อน แล้วค่อยขับเข้าถนนวงแหวนอีกครั้งที่เมืองเซลฟอสส์ นี่เป็นหนึ่งในเส้นทางอ้อมที่ดีที่สุดสำหรับแผนการเดินทางของคุณ เพราะคุณจะได้เห็นอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์อันโด่งดัง น้ำตกกุลล์ฟอสส์ และพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์!

สถานที่ทั้งหมดเป็นสถานที่ที่ต้องไปชมเมื่อมาเยือนไอซ์แลนด์และสามารถทำได้อย่างง่ายดายภายในครึ่งวัน หากคุณต้องการเวลามากขึ้นในการสำรวจพื้นที่ คุณสามารถหาที่พักที่ดีเยี่ยมในวงกลมทองคำ ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเหล่านี้ได้อย่างสะดวก มันคุ้มค่าที่จะพักหนึ่งคืนก่อนที่จะเดินทางต่อบนถนนวงแหวน



3. น้ำตกเซยลาแลนด์สฟอสส์และกลูยฟราบูอิ

น้ำตก Seljalandsfoss มีถ้ำอยู่ด้านหลังซึ่งคุณสามารถเดินผ่านได้ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์!น้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของไอซ์แลนด์และด้วยเหตุผลบางประการ! น้ำตกแห่งนี้ลดหลั่นลงมาจากหน้าผาบนภูเขาอันเขียวชอุ่มเหนือถ้ำ และคุณสามารถเดินเข้าไปหลังม่านน้ำตกได้ในช่วงเดือนที่อากาศอบอุ่น

คุณสามารถชมน้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์ที่สวยงามได้จากถนนวงแหวน ที่จอดรถของน้ำตกอยู่ไม่ไกลจากถนนเส้นหลัก และคุณสามารถเดินตรงไปยังน้ำตกได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที

น้ำตกแห่งนี้อยู่ห่างจากเรคยาวิก 110 กิโลเมตร และคุณยังสามารถเยี่ยมชมน้ำตกกลูยฟราบูอิที่ซ่อนอยู่ในหุบเขางดงามใกล้เคียงได้ในขณะที่คุณอยู่ที่นั่น การไปชมน้ำตกคุณจะต้องเขย่งเท้าเดินข้ามโขดหินสองสามจุดในแม่น้ำเพื่อเข้าไปในหุบเขา แต่มันก็คุ้มค่า!



4. หมู่เกาะเวสต์แมน

เมื่อคุณขับผ่านช่วงนี้ของถนนวงแหวน คุณจะได้ชมวิวสวยของหมู่เกาะเวสต์แมน ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่ง เราขอแนะนำให้แวะเยี่ยมชมด้วย เพราะหมู่เกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงด้านหน้าผาสูงชัน ประวัติภูเขาไฟ และเป็นอาณาจักรของนกพัฟฟินที่มารวมกลุ่มมากที่สุดในยุโรป

ในการไปยังหมู่เกาะเวสต์แมน ขับรถไปยังท่าเรือแลนเดย์ยาฮอฟน์ ซึ่งอยู่ใกล้กับน้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์ จากนั้นขึ้นเรือเฟอร์รี่แฮร์โยลฟูร์ (Herjolfur) ซึ่งให้บริการตลอดทั้งปี ใช้เวลาข้ามฟากประมาณ 35 นาทีไปยังเฮมาเอย์ เกาะที่ใหญ่ที่สุดและเกาะเดียวที่มีคนอาศัยอยู่ในหมู่เกาะนี้

เรือเฟอร์รี่แฮร์โยลฟูร์ ให้บริการระหว่างท่าเรือแลนเดย์ยาฮอฟน์และเกาะเฮมาเอย์วันละ 7 เที่ยว การจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าถือว่าดีมาก หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย เรืออาจออกจากเมืองธอร์ลัคชอฟน์แทน ซึ่งอยู่ห่างจากเรคยาวิกเพียง 52 กิโลเมตร

คุณสามารถจอดรถเช่าบนแผ่นดินใหญ่แล้วเดินเที่ยวรอบเกาะเฮมาเอย์ได้ แต่จะสะดวกกว่าถ้านำรถไปด้วย เพียงแต่ต้องจองที่จอดรถล่วงหน้า และราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดความยาวของรถ

ระหว่างอยู่บนเกาะ อย่าพลาดพิพิธภัณฑ์เอลด์เฮมาร์ เพื่อเรียนรู้ผลกระทบจากการปะทุของภูเขาไฟในปี 1973 บนเกาะเฮมาเอย์ นอกจากนี้ยังมีทัวร์หมู่เกาะเวสต์แมนที่น่าสนใจให้เลือก เช่น ทัวร์ล่องเรือพาชมวิวหน้าผาสวยๆ ของหมู่เกาะ รวมถึงหินช้างที่งดงาม

ไม่ว่าคุณจะเลือกไปแบบวันเดียวหรือค้างคืนในที่พักบนเกาะ คุณก็จะพบกิจกรรมและสถานที่น่าสนใจมากมาย ทำให้หมู่เกาะเวสต์แมนเป็นการเที่ยวนอกเส้นทางที่ยอดเยี่ยมจากถนนวงแหวน



5. สระว่ายน้ำกลางแจ้งเซลยาวาลลาเลยก์

สระว่ายน้ำ Seljavallalaug ล้อมรอบด้วยเนินเขาที่สวยงาม

สำหรับการแวะพักผ่อนระหว่างการเดินทางบนชายฝั่งทางใต้ของคุณ คุณสามารถขับออกจากถนนวงแหวนไปยังหุบเขาเซลยาดาลูร์เพื่อแช่ตัวในสระว่ายน้ำเก่าแก่เซลยาวาลลาเลยก์ หนึ่งในสระว่ายน้ำที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ สร้างขึ้นในปี 1927 และตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาที่ปกคลุมด้วยหญ้าสีเขียวสวยงาม

สระว่ายน้ำเปิดให้ทุกคนเข้าใช้ได้ฟรี แต่ผู้เข้าใช้สระต้องให้ความเคารพแก่พื้นที่ โปรดทราบว่าไม่มีไลฟ์การ์ดหรือเจ้าหน้าใดๆ ในสถานที่ และมีสาหร่ายลื่นๆ อยู่ในสระ

เพื่อไปถึงสระว่ายน้ำ คุณจะต้องเดินประมาณ 1.2 กิโลเมตรจากลานจอดรถ การเดินเท้าไม่ยากนัก และสามารถชมวิวธรรมชาติรอบข้างได้ ทำให้เป็นจุดแวะพักที่สงบและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพสวยงามได้อย่างเต็มที่

6. น้ำตกสโคกาฟอสส์

ในวันที่อากาศสดใส คุณจะเห็นสายรุ้งบริเวณหน้าน้ำตกสโคกาฟอสส์

สโคกาฟอสส์เป็นหนึ่งในน้ำตกที่โดดเด่นที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ โดยลดหลั่นจากความสูง 196 ฟุต (60 เมตร) และกว้าง 82 ฟุต (25 เมตร) ใช้เวลาขับรถเพียง 30 นาทีจากน้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์

น้ำตกตั้งอยู่ริมแม่น้ำสโคกาและขึ้นชื่อในเรื่องสายรุ้งที่มักจะปรากฏบนละอองน้ำในวันที่มีแสงแดดสดใส ที่นี่ยังมีตำนานพื้นบ้านของไอซ์แลนด์เล่าว่ามีสมบัติของผู้ตั้งถิ่นฐานชาวไวกิ้งซ่อนอยู่หลังน้ำตก

คุณสามารถเดินเข้าไปใกล้น้ำตกตามแนวริมแม่น้ำ หรือขึ้นบันไดที่นำไปสู่ด้านบนได้ บันไดยังเป็นจุดเริ่มต้น (หรือสิ้นสุด) ของการเดินป่ายอดนิยมที่เรียกว่าเส้นทางฟิมม์วอร์ดูฮัลส์เทรล ซึ่งจะพาคุณผ่านภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุลและหุบเขาธอร์สมอร์ก เราแนะนำว่าทางที่ดีควรเดินป่าพร้อมไกด์ที่รู้ภูมิประเทศดี เช่น ทัวร์เดินป่าฟิมม์วอร์ดูฮัลส์ 12 ชั่วโมงนี้!

หากคุณไม่มีเวลาเดินป่าระยะไกลแต่ต้องการขยายเวลาเที่ยว เราขอแนะนำให้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สโคการ์หรือที่รู้จักในชื่อสโคการ์ซาฟน์ พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ติดกับน้ำตกสโคกาฟอสส์และคุ้มค่าที่จะไปเยี่ยมชมหากคุณสนใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น

7. ซากเครื่องบิน DC3

ซากเครื่องบิน DC3 แตกต่างอย่างน่าทึ่งกับสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง

ซากเครื่องบิน DC3 อยู่บนหาดทรายสีดำทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ และเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมที่สุดในประเทศสำหรับช่างภาพ เศษซากของเครื่องบินอับปางบนพื้นทรายสีดำนั้นน่าทึ่งมาก!

ลานจอดรถสำหรับไปชมซากเครื่องบินนี้จะอยู่ติดกับถนนวงแหวนเลย ซึ่งคุณสามารถจอดรถไว้ได้อย่างปลอดภัย แต่ต้องเดินทางต่อไปอีก 7 กิโลเมตรจึงจะถึงซากเครื่องบิน หากคุณวางแผนจะเดินเท้า อย่าคาดหวังว่านี่จะเป็นการแวะเที่ยวแบบสั้นๆ คุณจะต้องเดินผ่านทรายดำที่แห้งแล้งเกือบหนึ่งชั่วโมงเพื่อไปยังจุดหมายของคุณ

แต่หากที่นี่คือหนึ่งในสถานที่ในฝันของคุณในไอซ์แลนด์และคุณต้องการที่จะลิ้มรสชาติการเยี่ยมชม เราขอแนะนำให้คุณนั่งรถชัทเทิลไปยังซากเครื่องบิน DC3 แทน ซึ่งจะช่วยเร่งสปีดการเดินทางไปยังซากเครื่องบินในเวลาเพียง 15 นาที!

หากคุณต้องการเพิ่มสีสันให้กับการมาเยือนของคุณ คุณยังสามารถไปกับทัวร์รถเอทีวี 2 ชั่วโมงที่น่าตื่นเต้นไปชมซากเครื่องบิน เพื่อเพิ่มอะดรีนาลีนให้กับการเดินทาง!

บนชายหาดมักจะมีลมแรงและหนาว ดังนั้นควรสวมเสื้อผ้าที่อบอุ่นและรองเท้าเดินป่าที่ดี ถ้าเป็นไปได้ควรไปชมแต่เช้าหรือไปค่ำๆ หน่อยเพราะคนจะน้อย ด้วยวิธีนี้ คุณจะได้รับโอกาสในการถ่ายภาพที่ดีขึ้น

8. คาบสมุทรดิร์โฮลาเอย์

วิวพระอาทิตย์ตกดินจาก Dyrholaey หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์

คาบสมุทรดิร์โฮลาเอย์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มองเห็นได้จากถนนวงแหวน แต่ต้องขับรถต่อออกไปอีกเล็กน้อยเพื่อไปยังคาบสมุทรแห่งนี้ พื้นที่นี้มีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์ของคลื่นที่ซัดสาดบนหาดทรายสีดำและทุ่งหญ้าสีเขียวที่ทอดยาวไปจนถึงธารน้ำแข็งที่อยู่ไกลออกไป

ลักษณะเด่นของที่นี่คือส่วนโค้งขนาดใหญ่ของแหลมที่ถูกทะเลกัดเซาะ ซึ่งทำให้ได้ชื่อดิร์โฮลาเอย์ ซึ่งแปลว่า "เกาะรูประตู" บริเวณนี้เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการดูนก เนื่องจากเป็นที่อยู่ของนกพัฟฟินและนกทะเลอื่นๆ นับพันตัว



9. หาดทรายดำเรย์นิสฟยารา

หาดทรายสีดำเรย์นิสฟยาราในวันที่เงียบสงบยังคงเป็นอันตรายได้! ถึงกระนั้นที่นี่ก็ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในไอซ์แลนด์

หาดทรายดำเรย์นิสฟยาราที่สวยงามอยู่ห่างจากถนนวงแหวนเพียงระยะสั้นๆ และเป็นจุดแวะเที่ยวระหว่างทางของคุณ หาดแห่งนี้เป็นที่รู้จักจากหาดทรายสีเข้มโดดเด่นที่ล้อมรอบด้วยเสาหินบะซอลต์ที่หันหน้าเข้าหาคลื่นแอตแลนติกอันทรงพลัง

นอกชายฝั่งมีกลุ่มหินขรุขระที่รู้จักกันในชื่อเรย์นิสดรังการ์ที่โผล่จากทะเล โดยตำนานบอกว่าคือโทรลล์ที่กลายเป็นหิน

แม้ว่าการมาเยือนชายหาดแห่งนี้จะอยู่ในรายการของสิ่งที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนอยากทำ แต่ชายหาดเรย์นิสฟยาราก็อาจเป็นอันตรายได้ เนื่องจากมีคลื่นสนีกเกอร์เวฟที่มักโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้และซัดกลืนเอาผู้ที่อยู่ใกล้ชายฝั่งมากเกินไปออกสู่ทะเล

เมื่อมาเยือน อย่าลืมอยู่ห่างจากคลื่น 30-50 เมตร เพื่อชื่นชมพลังอันแข็งแกร่งของธรรมชาติจากระยะไกลที่ปลอดภัย ภายในสถานที่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยเตือนอยู่มากมาย พร้อมด้วยระบบไฟนิรภัยที่มีไฟสีเขียว เหลือง และแดงบ่งบอกถึงสภาวะความปลอดภัย ตราบใดที่คุณปฏิบัติตามกฎ คุณก็ปลอดภัยที่จะเพลิดเพลินไปกับพื้นที่อันน่าทึ่งแห่งนี้

10. วิก

วิกเป็นหมู่บ้านทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือนในทริปถนนวงแหวนของคุณ

วิก หรือวิกอีมิร์ดาล เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีประชากรประมาณ 650 คน และตั้งอยู่บนหนึ่งในชายหาดสีดำที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์ พร้อมด้วยวิวของโขดทะเลเรย์นิสดรังการ์

หมู่บ้านแห่งนี้เป็นจุดแวะพักผ่อนยอดนิยมหลังจากท่องเที่ยวไปตามชายฝั่งทางใต้ และขณะพักอยู่ในที่พักในวิก คุณสามารถลองแวะไปร้านกาแฟ ร้านอาหาร และสัมผัสประสบการณ์สนุกสนานในวิกได้

หนึ่งในกิจกรรมที่ดีที่สุดในวิกคือการไปชมการแสดงลาวาโชว์ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งคุณจะได้เห็นลาวาหลอมเหลวของจริงได้อย่างปลอดภัยอย่างใกล้ชิด และรับฟังเกี่ยวกับพลังภูเขาไฟอันน่าทึ่งของประเทศไอซ์แลนด์!

หลังจากนั้น ไปดื่มด่ำกับช็อกโกแลตร้อนที่คาเฟ่ Skool Beans ซึ่งตั้งอยู่ภายในรถโรงเรียนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ และเพลิดเพลินกับการเดินเล่นตามแนวชายฝั่งที่งดงาม

ในบริเวณใกล้เคียง คุณยังจะได้พบกับธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล ซึ่งเป็นที่ตั้งของคัทลา ภูเขาไฟที่คุกรุ่นมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ขณะที่อยู่ในวิก คุณสามารถไปเข้าร่วมกับทัวร์เที่ยวถ้ำน้ำแข็งคัทลาได้ตลอดทั้งปี!

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนถนนวงแหวนในไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้

คุณจะเห็นทิวทัศน์อันงดงามจากถนนวงแหวนเช่นภูเขาโลมักนูปูร์ไอซ์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้มีลักษณะเด่นคือภูมิประเทศที่หลากหลาย ซึ่งแม่น้ำธารน้ำแข็งพันเกี่ยวกันกับชายหาดทรายดำและแผ่นน้ำแข็งที่โดดเด่น

ภูมิภาคนี้เป็นที่ตั้งของวัทนาโจกุล ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ที่นี่เป็นอุทยานแห่งชาติในไอซ์แลนด์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีสถานที่ที่สวยงามน่าทึ่งมากมาย

เพื่อช่วยในการวางแผนการเดินทาง นี่คือรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญตามถนนวงแหวนในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ จัดเรียงตามลำดับที่คุณจะพบเมื่อเดินทางจากชายฝั่งทางใต้ไปยังฟยอร์ดตะวันออก

1. หุบเขาฟยาดราร์กยูฟูร์

เส้นทางเดินป่าเลียบหุบเขา Fjadrargljufur นั้นสวยงามตระการตา

เมื่อคุณเดินทางต่อไปทางตะวันออก จุดแวะถัดไปคือหุบเขาฟยาดราร์กยูฟูร์  แคนยอนอันงดงามที่แม่น้ำฟยาดรากัดเซาะหลายพันปี อยู่ห่างจากเมืองวิกประมาณ 68 กิโลเมตร และห่างจากถนนวงแหวนเพียง 3.2 กิโลเมตร

แคนยอนมีความลึก 100 เมตร และยาว 2 กิโลเมตร พร้อมน้ำตกสวยงาม มีทางเดินสะดวกและจุดชมวิวหลายแห่งตามริมขอบแคนยอนให้ชมทิวทัศน์อันน่าทึ่ง การเดินชมทั้งไป-กลับใช้เวลาเพียง 1–2 ชั่วโมง และมีที่จอดรถทั้งสองฝั่งของแคนยอน

หุบเขาฟยาดราร์กยูฟูร์เคยเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เกมออฟโธรนส์ และปรากฏในมิวสิกวิดีโอเพลง “I’ll Show You” ของ Justin Bieber ในปี 2015



2. คิร์กยูไบยาร์คลอสตูร์

น้ำตก Systrafoss เป็นสิ่งแรกๆ ที่คุณจะได้เห็นใน Kirkjubaejarklaustur

คิร์กยูไบยาร์คลอสตูร์เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีประชากรประมาณ 120 คน ซึ่งคนในท้องถิ่นมักเรียกว่า "คลอสตูร์" หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำธารน้ำแข็งสกัฟตา และได้ชื่อมาจากคอนแวนต์หลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่นั่นระหว่างปี 1186 ถึง 1542

คุณสามารถหาที่พักดีๆ ในคิร์กยูไบยาร์คลอสตูร์เพื่อสำรวจธรรมชาติโดยรอบได้ และหมู่บ้านแห่งนี้ก็มีจุดตั้งแคมป์ที่ดีเยี่ยม สระว่ายน้ำสวย และเส้นทางเดินป่าแสนโรแมนติก

คุณสามารถเดินเป็นระยะทางสั้นๆ ไปยังหินโบสถ์คิร์กจูโกล์ฟ หรือลองปีนขึ้นไปบนเนินหินซิสตราสทาปิ ได้นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงามขึ้นไปยังน้ำตกซิสตราฟอสส์ที่ไม่ควรพลาด!

จากหมู่บ้านคิร์กยูไบยาร์คลอสตูร์ คุณสามารถไปชมปล่องภูเขาไฟลาคากีการ์ หนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดในไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์ ในฤดูร้อน คุณสามารถเช่ารถขับเคลื่อน 4 ล้อเพื่อขับเข้าไปได้ แต่เนื่องจากถนนค่อนข้างท้าทาย วิธีที่ดีที่สุดคือเข้าร่วมทัวร์ซูเปอร์จี๊ปนี้ ซึ่งรวมชมปล่องภูเขาไฟลาคากีการ์และหุบเขาฟยาดราร์กยูฟูร์

3. เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์

มีเส้นทางเดินป่าที่สวยงามหลายแห่งในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์

สกัฟตาเฟลล์เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล ห่างจากหมู่บ้านคิร์กยูไบยาร์คลอสตูร์ 69 กิโลเมตร และตั้งอยู่ที่ฐานของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลอันยิ่งใหญ่ สกัฟตาเฟลล์มีพื้นที่ตั้งแคมป์ที่ดีเยี่ยม แต่คุณสามารถหาโรงแรมในบริเวณใกล้เคียงได้เช่นกัน

สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำในสกัฟตาเฟลล์คือการไปไฮกิ้งไฮกิ้งบนธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ซึ่งสามารถทำได้อย่างปลอดภัยเมื่อไปกับไกด์มืออาชีพเท่านั้น ลองดูทัวร์ไฮกิ้งบนธารน้ำแข็งแพ็คเกจนี้เพื่อชมการก่อตัวของน้ำแข็งที่น่าทึ่งแบบมีอุปกรณ์นิรภัยเตรียมไว้ให้พร้อมสรรพ หากคุณมาเยี่ยมชมในฤดูหนาว ทัวร์ถ้ำน้ำแข็งสกัฟตาเฟลล์นี้จะเป็นตัวเลือกที่เพิ่มความตื่นเต้นให้กับการไฮกิ้งบนธารน้ำแข็งได้เป็นอย่างดี

หากคุณไม่ต้องการขึ้นไปบนธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ก็ยังมีบริเวณอื่นๆ อีกมากมายให้สำรวจ สกัฟตาเฟลล์มีความเขียวขจีและเขียวชอุ่มอย่างน่าประหลาดใจ โดยมีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทาง ซึ่งมีระดับความยากง่ายแตกต่างกันไป และเส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะนำคุณไปยังน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ ซึ่งมีชื่อเสียงจากเสาหินบะซอลต์สีเข้มที่อยู่รายรอบ

4. โบสถ์ฮอฟสคิร์กยา

โบสถ์ฮอฟทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ตั้งอยู่ริมถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์

โบสถ์ฮอฟสคิร์กยาเป็นโบสถ์หญ้าเทิร์ฟเล็กๆ ที่สวยงาม ตั้งอยู่ริมถนนวงแหวนระหว่างเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์และทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน ในพื้นที่ที่เรียกว่าโอไรวิ

โบสถ์ฮอฟสคิร์กยานี้สร้างขึ้นระหว่างปี 1883 ถึง 1885 และเป็นโบสถ์หญ้าเทิร์ฟแห่งสุดท้ายในไอซ์แลนด์ที่สร้างด้วยวิธีนี้ ที่นี่เป็นหนึ่งในอาคารประวัติศาสตร์ที่ได้รับการคุ้มครองโดยพิพิธภัณฑ์แห่งชาติไอซ์แลนด์

โบสถ์ฮอฟสคิร์กยาไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม แต่ควรค่าแก่การชมจากด้านนอก ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่งดงามราวกับภาพวาด เป็นจุดแวะพักผ่อนและถ่ายรูปได้อย่างดี

5. ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนมีความสวยงามเป็นพิเศษในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน

ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในประเทศ และบางครั้งได้รับการขนานนามว่าเป็น "อัญมณีแห่งไอซ์แลนด์" ทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องภูเขาน้ำแข็ง เนื่องจากก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่แตกตัวออกจากธารน้ำแข็งเบรดาแมร์คูร์โจกุล และลอยไปรอบๆ ทะเลสาบก่อนที่จะออกสู่ทะเล

คุณสามารถสำรวจทะเลสาบด้วยทัวร์ล่องเรือในโจกุลซาร์ลอน เช่น ทัวร์ล่องเรือสะเทินน้ำสะเทินบกยอดนิยมแพ็คเกจนี้ แต่ถ้าอยากเพิ่มความตื่นเต้น คุณสามารถเข้าไปใกล้ชิดกับภูเขาน้ำแข็งมากยิ่งขึ้นอีกด้วยทัวร์ล่องเรือโซดิแอก 1 ชั่วโมงนี้ คุณอาจจะได้เห็นแมวน้ำพักผ่อนหรือเล่นบนก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่!



6. ถ้ำน้ำแข็งคริสตัล

ถ้ำน้ำแข็งคริสตัลในธารน้ำแข็ง Vatnajokull เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่งในไอซ์แลนด์

ลึกเข้าไปในธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป คุณจะพบถ้ำน้ำแข็งซึ่งมีโครงสร้างมั่นคงและสามารถเข้าชมได้ กิจกรรมนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ดังนั้นหากคุณมาเยือนไอซ์แลนด์ อย่าพลาดโอกาสเข้าชมถ้ำน้ำแข็งในไอซ์แลนด์!

ถ้ำที่น่าประทับใจที่สุดคือถ้ำน้ำแข็งคริสตัล ซึ่งสามารถเยี่ยมชมได้ด้วยทัวร์ถ้ำน้ำแข็งในวัทนาโจกุลแพ็คเกจนี้ ซึ่งเริ่มต้นจากทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน ทัวร์นี้จะทำให้คุณได้เยี่ยมชมทะเลสาบที่น่าทึ่งและใช้เวลาอยู่ที่นั่นก่อนที่จะไปผจญภัยในถ้ำน้ำแข็งอันน่าจดจำ

การก้าวเข้าไปในธารน้ำแข็งเป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม และเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ในสถานที่มากกว่าหนึ่งแห่งในไอซ์แลนด์ อย่าลืมตรวจสอบตัวเลือกทัวร์ถ้ำน้ำแข็งในไอซ์แลนด์ เนื่องจากมีถ้ำน้ำแข็งที่คุณสามารถเยี่ยมชมได้ในธารน้ำแข็งหลายแห่ง เช่น ลางโจกุล และมิร์ดาลสโจกุล



7. ไดมอนด์บีช

เมื่อขับรถเที่ยวรอบไอซ์แลนด์ คุณไม่ควรพลาดไดมอนด์บีช

หาดไดมอนด์เป็นพื้นที่ที่น้ำแข็งจากทะเลสาบน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนลอยออกสู่มหาสมุทร และมีก้อนน้ำแข็งที่ถูกพัดขึ้นฝั่ง ทำให้เกิดความงามที่แตกต่างเนื่องจากตัดกับหาดทรายสีดำ

จริงๆ แล้วบริเวณนี้ในภาษาไอซ์แลนด์เรียกว่า หาดเฟลสฟยารา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหาดเบรดาแมร์คูร์โจกุลที่ใหญ่กว่า แต่มักเรียกกันว่า "หาดไดมอนด์" ในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนไอซ์แลนด์ เนื่องจากลักษณะของน้ำแข็งตัดกับทรายสีดำ ซึ่งทำให้ดูเหมือนเพชรถูกพัดมาเกยฝั่ง

คุณสามารถเดินจากลานจอดรถโจกุลซาร์ลอนไปยังไดมอนด์บีชได้อย่างง่ายดายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ปริมาณน้ำแข็งบนชายฝั่งขึ้นอยู่กับว่าน้ำขึ้นหรือลง แต่จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้ทุกครั้งที่มาเยือนเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างและคุ้มค่าที่จะแวะมาเสมอ

8. เฮิพน์

เมือง Hofn เป็นจุดแวะพักผ่อนที่ดีระหว่างการเดินทางของคุณ

เมืองเล็กๆ ริมทะเลชื่อเฮิพน์เป็นจุดแวะยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปตามภาคตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ หลังจากที่คุณผ่านทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน และไดมอนด์บีช เมืองนี้จะเป็นเมืองถัดไปที่คุณจะพบขณะขับรถตามถนนวงแหวน

ในฐานะเมืองหลักของพื้นที่ เฮิพน์มีร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านค้าหลากหลาย เมืองนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องแลงกูสทีน และหากคุณมาเยือนในช่วงฤดูร้อน อย่าพลาดงานเทศกาลล็อบสเตอร์ประจำปี เพื่อไปชิมอาหารทะเลท้องถิ่นอร่อยๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ควรทำเมื่อมาเยือนเฮิพน์!

นอกจากนี้ อย่าลืมชมธรรมชาติรอบเมือง เช่น ภูเขาเวสตราฮอร์น และคาบสมุทรสต็อกสเนส ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามอ่าว

ตัวเลือกที่พักในเฮิพน์มีหลายรูป และทำเลที่สวยงามของเมืองนี้ทำให้เป็นจุดแวะพักที่เหมาะก่อนเดินทางต่อบนถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์

9. ภูเขาเวสตราฮอร์น

ภูเขาเวสตราฮอร์นทางตะวันออกของไอซ์แลนด์ยามพระอาทิตย์ตกดิน

ภูเขาเวสตราฮอร์นอันงดงามถือเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพยอดนิยมที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์! ยอดเขาที่โดดเด่นของมัน พร้อมกับชายหาดทรายดำยาวไกลของคาบสมุทรสต็อกสเนสเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง

เมื่อสภาพอากาศเหมาะสม ผืนน้ำสงบนิ่งตามแนวชายฝั่งจะสะท้อนภาพภูเขา ทำให้ได้โอกาสถ่ายภาพที่น่าทึ่ง

ทั้งสองด้านของภูเขาเวสตราฮอร์น คุณจะเห็นภูเขาเอสตราฮอร์น และภูเขาบรุนน์ฮอร์น โดยภูเขาบรุนน์ฮอร์นบางครั้งถูกเรียกว่าภูเขาแบทแมน เพราะยอดเขาแหลมคล้ายโลโก้แบทแมน

ที่เชิงภูเขาเวสตราฮอร์น คุณสามารถแวะชมฉากถ่ายทำภาพยนตร์หมู่บ้านไวกิ้งจำลอง ที่เหมือนพาย้อนเวลากลับไปยังยุคไวกิ้ง และเปิดให้ผู้เข้าชมได้เข้าไปสำรวจ จากนั้นเพื่อเติมพลัง เราขอแนะนำให้แวะ Viking Café ในพื้นที่เพื่อจิบกาแฟร้อนพร้อมวาฟเฟิลอร่อยๆ ก่อนออกเดินทางต่อ

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนถนนวงแหวนในไอซ์แลนด์ตะวันออก

Seydisfjordur เป็นหนึ่งในเมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ในฟยอร์ดตะวันออก

ไอซ์แลนด์ตะวันออกมีเอกลักษณ์ด้วยภูเขาขรุขระ ฟยอร์ดสวยงาม และเมืองเล็กสงบ แต่ละคนในพื้นที่มักมีฟยอร์ดหรือภูเขาที่ชื่นชอบและมักบอกว่าสวยกว่าที่อื่น คุณจะพบกับหลายจุดถ่ายภาพที่งดงาม บางแห่งอยู่ค่อนข้างห่างไกล

ก่อนอื่นควรทราบว่าถนนวงแหวนไม่ได้ครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ตะวันออกทุกแห่ง และฟยอร์ดหลายแห่งต้องขับรถต่อไปอีกเล็กน้อย ดังนั้น หากต้องการสำรวจอีสต์ฟยอร์ดอย่างละเอียด ควรเผื่อเวลาเพิ่มอีกสักสองวัน

ฟยอร์ดเหล่านี้เหมาะกับการเยี่ยมชมในช่วงฤดูร้อน เพราะในฤดูหนาวสภาพอากาศอาจทำให้เข้าถึงบางพื้นที่ได้ยาก เส้นทางผ่านภูเขาบางแห่งมักปิดเนื่องจากหิมะตกหนักและสภาพถนนท้าทาย

ด้วยสถานที่ให้ค้นหามากมาย นี่คือรายชื่อจุดที่ไม่ควรพลาดในภาคตะวันออกของไอซ์แลนด์ จัดเรียงตามลำดับที่คุณจะพบระหว่างการขับรถตามถนนวงแหวนจากภาคตะวันออกเฉียงใต้ไปยังภาคเหนือ



1. กวางเรนเดียร์ป่า

กวางเรนเดียร์ในไอซ์แลนด์มีอยู่ทั่วไปในภาคตะวันออก

กวางเรนเดียร์ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในไอซ์แลนด์ แต่นำเข้ามาจากนอร์เวย์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 พวกมันได้ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่มีเอกลักษณ์และท้าทายของประเทศไอซ์แลนด์ได้เป็นอย่างดี และในปัจจุบัน พวกมันก็กลายเป็นส่วนสำคัญของพื้นที่รกร้างว่างเปล่าของประเทศไอซ์แลนด์ ไอซ์แลนด์ตะวันออกเป็นเพียงส่วนเดียวของประเทศที่คุณสามารถพบเห็นเรนเดียร์ได้!

พวกมันจะมองเห็นได้ยากขึ้นในช่วงฤดูร้อนเนื่องจากเรนเดียร์จะกินหญ้าอยู่บนไฮแลนด์ อย่างไรก็ตาม ในฤดูหนาว พวกมันจะลงไปที่ระดับความสูงต่ำซึ่งคุณมักจะมองเห็นพวกมันได้จากถนนวงแหวน!

หากคุณอยากมั่นใจว่าจะได้เห็นกวางเรนเดียร์ระหว่างการเดินทางในอีสต์ฟยอร์ด ขอแนะนำให้ไปที่เรนเดียร์พาร์คใกล้เมืองเอกิลสตาดีร์ ฟาร์มแห่งนี้ดำเนินการโดยชาวไร่ท้องถิ่นซึ่งช่วยชีวิตลูกกวางเรนเดียร์กำพร้าสองตัวในปี 2021 พวกเขาเลี้ยงดูพวกมัน และมอบบ้านที่อบอุ่นให้เป็นที่อยู่!

2. เอกิลสตาดีร์

Egilsstadir เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ตะวันออก

เอกิลสตาดีร์เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ตะวันออก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำลาการ์ฟยอท ซึ่งว่ากันว่ามีสัตว์ลึกลับคล้ายมังกรที่เรียกว่าลาการ์ฟยอทซอร์มูรินน์อาศัยอยู่

ทำเลที่ตั้งทำให้ที่นี่เป็นฐานที่ดีเยี่ยมสำหรับการสำรวจฟยอร์ดตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณสามารถหาที่พักดีๆ ในเอกิลสตาดีร์ได้

ภายในไม่กี่นาทีคุณสามารถเข้าถึงสถานที่ต่างๆ เช่น เวิกบาธส์และฮาลลอร์มสตาดาสโคกูร์ ซึ่งเป็นป่าที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ หากขับรถออกไปอีกเล็กน้อยจากถนนสายหลัก คุณจะมาถึงแอตลาวิก สถานที่ยอดนิยมในการตั้งแคมป์ริมทะเลสาบลาการ์ฟยอท และในระยะขับรถไม่เกินหนึ่งชั่วโมงคุณสามารถเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เช่น วิลเดอร์เนสเซ็นเตอร์และน้ำตกเฮงกิฟอสส์



3. เซย์ดิสฟยอร์ดูร์

Seydisfjordur มีชื่อเสียงในเรื่องถนนสายรุ้งและโบสถ์สีฟ้า

อีกหนึ่งเส้นทางแนะนำที่ควรแวะจากถนนวงแหวนคือการไปเยือนเซย์ดิสฟยอร์ดูร์ เมืองเล็กมีเสน่ห์ที่ขึ้นชื่อเรื่องบ้านไม้หลากสีที่ยังคงสภาพสวยงาม ศิลปะและวัฒนธรรมที่คึกคัก รวมถึงถนนสายรุ้งที่ทอดขึ้นสู่โบสถ์สีน้ำเงินเก่าแก่ที่เป็นเอกลักษณ์! ที่นี่ ยังเป็นท่าเรือที่คุณจะมาถึงหากเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่จากยุโรปมายังไอซ์แลนด์

เมืองนี้อยู่ห่างจากเอกิลสตาดีร์เพียง 20 นาทีโดยรถยนต์ และด้วยที่พักมากมายในเซย์ดิสฟยอร์ดูร์ เมืองนี้จึงเป็นอีกตัวเลือกที่ดีในการใช้เป็นฐานสำหรับออกสำรวจภูมิภาคนี้ คุณยังสามารถเข้าร่วมทัวร์ชมธรรมชาติและวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์พิเศษ ซึ่งจะพาคุณไปยังสถานที่เข้าถึงได้ยากในอีสต์ฟยอร์ดและให้คุณได้พักเบรกจากการขับรถอีกด้วย!

4. เวิกบาธส์

The Vok Baths สถานที่พักผ่อนอันผ่อนคลายซึ่งคุณสามารถเติมพลังได้

หลังผจญภัยมาทั้งวัน คุณอาจต้องการเวลาสักครู่เพื่อชาร์จพลัง คุณสามารถทำได้ที่เวิกบาธส์ ซึ่งอยู่บนถนนวงแหวน ห่างจากเอกิลสตาดีร์เพียงไม่กี่นาที สปาความร้อนใต้พิภพแห่งนี้มีสระน้ำหลากหลายที่มีอุณหภูมิต่างกัน ซึ่งคุณสามารถผ่อนคลายริมทะเลสาบอูร์ริดาวาทน์

เมื่อวางแผนการเดินทาง ให้จองการเข้าใช้บริการเวิกบาธส์ล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีที่ว่างสำหรับคุณ ไฮไลท์พิเศษคือสระว่ายน้ำลอยน้ำพร้อมทิวทัศน์อันตระการตา และคุณสามารถเพิ่มประสบการณ์ด้วยการนวดหรือเพลิดเพลินกับอาหารที่บิสโทรในสถานที่!

5. ป่าฮาลลอร์มสตาดาสโคกูร์และทะเลสาบลาการ์ฟยอท

ป่า Hallormsstadaskogur เหมาะสำหรับการเดินเล่นชมธรรมชาติที่สวยงาม

หากคุณต้องการเปลี่ยนทิวทัศน์ขณะท่องเที่ยวรอบไอซ์แลนด์ คุณควรไปเยี่ยมชมป่าฮาลลอร์มสตาดาสโคกูร์ ซึ่งนับว่าเป็นผืนป่าในไอซ์แลนด์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยขับอ้อมสั้นๆ ออกจากถนนวงแหวน และเนื่องจากป่าไม้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างไม่ธรรมดาในประเทศนี้ จึงคุ้มค่าที่สละเวลาไปชม!

ป่าอันอุดมสมบูรณ์และร่มรื่นแห่งนี้ล้อมรอบทะเลสาบลาการ์ฟยอท และเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน เดินชมธรรมชาติ และปิกนิกในวันที่อากาศดี นอกจากนี้ยังเป็นจุดกึ่งกลางของการเดินทางของคุณอีกด้วย เนื่องจากคุณจะขับรถจากเรคยาวิกเป็นระยะทาง 656 กิโลเมตร เมื่อคุณไปถึงป่าฮาลลอร์มสตาดาสโคกูร์!

ทิวทัศน์นั้นเงียบสงบมาก แต่คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะมีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นหรือไม่ เนื่องจากทะเลสาบลาการ์ฟยอทมีสิ่งลึกลับที่สุดอย่างหนึ่งของไอซ์แลนด์

มีการพบเห็นสิ่งลึกลับนี้หลายครั้งในช่วงหลายศตวรรษ โดยเรื่องราวแรกของลาการ์ฟยอทซอร์มูรินน์นับย้อนกลับไปได้ถึงศตวรรษที่ 14! การพบเห็นครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2012 และกล้องจับภาพไว้ได้ดังที่เห็นในวิดีโอด้านบน 

6. น้ำตกเฮงกิฟอสส์

มีสีแดงสวยงามบนโขดหินด้านหลังน้ำตกเฮงกิฟอสส์ทางตะวันออกของไอซ์แลนด์

เฮงกิฟอสส์เป็นน้ำตกที่สวยงามตระการตาริมฝั่งทะเลสาบลาการ์ฟยอท ซึ่งมีทิวทัศน์อันงดงามของป่าฮาลลอร์มสตาดาสโคกูร์ และเป็นน้ำตกที่สูงเป็นอันดับสามในประเทศไอซ์แลนด์และตกลงมาจากความสูง 128 เมตร

ต้องใช้เวลาเดินเขาระยะทาง 4.7 กิโลเมตรจึงจะไปถึงได้ แต่ก็คุ้มค่ามากเพราะความงดงามตระการตา ล้อมรอบด้วยหินบะซอลต์และชั้นดินเหนียวสีแดงอยู่ระหว่างหิน ทำให้น้ำตกมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นมาก

ระหว่างทาง คุณจะได้พบกับน้ำตกสวยๆ อีกหลายแห่ง เช่น ลิตลาเนสฟอสส์ที่โดดเด่นด้วย เสาหินบะซอลต์อันงดงาม โอบล้อมอยู่รอบข้าง

7. น้ำตกรยูคานดี

น้ำตก Rjukandi อยู่ริมถนนวงแหวนในไอซ์แลนด์ตะวันออก

ภาพจาก Wikimedia, Creative Commons, by Jerzy Strzelecki ไม่มีการแก้ไขใดๆ

หลังจากแวะชมป่าฮาลลอร์มสตาดาร์สโคกูร์และน้ำตกเฮงกิฟอสส์กันแล้ว สถานที่ถัดไปก็อยู่ติดกับถนนวงแหวนเลย ห่างจากเอกิลสตาดีร์ไปทางเหนือประมาณ 48 กิโลเมตร ให้คอยสังเกตป้ายบอกทางไปยังน้ำตกรยูคานดี Rjukandi

ที่นี่มีลานจอดรถเล็กๆ และเส้นทางเดินสั้นๆ ไปยังจุดชมวิวที่เหมาะสำหรับพักขาและหยุดถ่ายรูประหว่างการเดินทาง เส้นทางไปน้ำตกใช้เวลาเดินเพียง 5–10 นาที จากลานจอดรถ เป็นทางกรวดไต่ขึ้นเล็กน้อย แนะนำให้ใส่รองเท้าที่เดินสบาย โดยเฉพาะถ้าวันนั้นพื้นชื้นหรือเปียก

แม้บริเวณนี้จะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก แต่ด้วยความที่เป็นจุดแวะสั้นๆ ก็สามารถใส่ลงในแผนการเดินทางได้อย่างง่ายดายระหว่างการสำรวจไอซ์แลนด์ตะวันออกของคุณ

8. หุบเขาสตุดลากอิล 

หุบเขา Studlagil เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติในไอซ์แลนด์ตะวันออก

อีกหนึ่งไฮไลต์ห้ามพลาดระหว่างการเดินทางในไอซ์แลนด์ตะวันออกคือหุบเขาสตุดลากอิล แคนยอนชื่อดังที่มีแท่งหินบะซอลต์เรียงตัวอย่างสวยงามตัดกับแม่น้ำธารน้ำแข็งสีฟ้าอมเขียวสดใส

การเดินทางไปที่นี่ต้องออกจากถนนวงแหวนเข้าสู่ Route 923 ซึ่งเป็นถนนลูกรังเลียบแม่น้ำโยกลา เส้นทางนี้สามารถเข้าถึงได้ตลอดทั้งปี แต่ค่อนข้างขรุขระ โดยเฉพาะหน้าหนาวที่มีหิมะตกหนัก แนะนำให้ใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อหากมาในฤดูกาลดังกล่าว

จุดชมวิวหลักของสตุดลากอิลแคนยอนมีอยู่ 2 ฝั่ง ทางฝั่งทิศเหนือ มีลานจอดรถใกล้ฟาร์ม Grund จากนั้นเดินเพียง 5 นาทีไปยังแท่นชมวิวที่มองเห็นแท่งหินบะซอลต์ได้อย่างชัดเจน แต่จากฝั่งนี้จะไม่สามารถลงไปในแคนยอนได้

ส่วนทางฝั่งทิศใต้ สามารถเดินลงไปในแคนยอนได้ ทำให้ได้สัมผัสกับภูมิประเทศอันโดดเด่นใกล้ชิดยิ่งขึ้น

หากคุณไม่อยากเสี่ยงขับรถเล็กไปบนถนนขรุขระ การเลือกเข้าร่วมทัวร์อีสต์ฟยอร์ดก็เป็นอีกตัวเลือกที่สะดวก ทัวร์ชมธรรมชาติไปยังหุบเขาสตุดลากอิลโปรแกรมนี้ยังรวมการแวะเวิกบาธส์ สปาน้ำร้อนหรูหรา ให้คุณได้ผ่อนคลายหลังการเดินทางอีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนถนนวงแหวนในไอซ์แลนด์เหนือ

มิวาทน์ทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์มีลักษณะพิเศษมากมายและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดบนถนนวงแหวน

ไอซ์แลนด์เหนือมีภูเขาค่อนข้างมากและมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นที่สุดหลายแห่งของประเทศไอซ์แลนด์

คุณจะขับรถผ่านภูมิประเทศที่น่าทึ่งและเมืองที่มีเสน่ห์ แต่สิ่งที่ดีที่สุดของไอซ์แลนด์เหนือจะพบได้ตามเส้นทางไดมอนด์เซอร์เคิล สถานที่เหล่านั้นต้องใช้ทางเบี่ยง 152 กิโลเมตรจากถนนวงแหวน แต่ก็คุ้มค่ากับการเดินทาง!

เมื่อคุณเดินทางต่อไปในทิศทางทวนเข็มนาฬิการอบไอซ์แลนด์ สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในไอซ์แลนด์ทางเหนือระหว่างเส้นทางวงแหวนมีดังนี้

1. น้ำตกเดตติฟอสส์

อย่าพลาดชมน้ำตกเดตติฟอสส์เมื่อขับรถไปตามถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์

เดตติฟอสส์เป็นหนึ่งในน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป และอยู่ห่างจากถนนวงแหวนเพียงขับรถ 15–30 นาทีเท่านั้น! คุณสามารถเลือกขับรถไปยังลานจอดฝั่งตะวันออกของน้ำตกตามถนนหมายเลข 864 หรือไปยังฝั่งตะวันตกตามถนนหมายเลข 862 เพื่อชมมุมมองที่แตกต่างกันได้

น้ำตกเดตติฟอสส์ตั้งอยู่บนแม่น้ำโยกุลซา อา ฟยอลลุม ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์และมีต้นกำเนิดจากธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล น้ำตกนี้สูง 44 เมตร และได้กัดเซาะตามกาลเวลาจนเกิดเป็นหุบเขาโจกุลซาร์กยูฟูร์อันงดงาม

คุณสามารถเดินทางมาชมได้ด้วยรถเช่าขนาดเล็ก เนื่องจากถนนลาดด้วยยางมะตอยแล้ว เมื่อมาถึงบริเวณนี้ แนะนำให้ขับขึ้นไปทางตอนบนของแม่น้ำเพื่อชมน้ำตกเซลฟอสส์ที่สวยงาม หรือขับไปทางตอนล่างเพื่อชมน้ำตกฮาฟรากอิลสฟอสส์ที่ขนาดเล็กกว่า ซึ่งสามารถมองเห็นได้ดีที่สุดจากฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ

2. หุบเขาอาสบิรีก์

เดินป่าไปตามขอบของ Asbyrgi ในประเทศไอซ์แลนด์

หุบเขาอาสบิรีก์เป็นแอ่งรูปพระจันทร์เสี้ยวอันเขียวชอุ่มซึ่งดูเหมือนเกือกม้า สามารถเข้าถึงได้โดยใช้ถนนเส้นเดียวกับที่นำไปสู่น้ำตกเดตติฟอสส์ และการเข้าถึงต้องขับอ้อมออกจากถนนวงแหวนเท่านั้น

เมื่อมาเยือนอาสบิรีก์ คุณจะถูกรายล้อมไปด้วยหน้าผาแหลมคมที่ล้อมรอบเหมือนกำแพง บริเวณนี้มีตำนานพื้นบ้านของไอซ์แลนด์ที่ว่ากันว่าเป็นรอยเท้าของสเลปนีร์ ม้าแปดขาของโอดินในตำนานนอร์ส อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่านั้นคืออาสบิรีก์ก่อตัวขึ้นจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดจากภัยพิบัติสองครั้งเมื่อหลายพันปีก่อน

ใจกลางของหุบเขาถูกปกคลุมไปด้วยป่าไม้ และมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงามมากมายในบริเวณนี้ นอกจากนี้คุณยังจะได้พบกับทะเลสาบอันงดงามที่อยู่ติดกับหน้าผาซึ่งมีนกอาศัยอยู่มากมาย เราขอแนะนำให้ใช้เวลาเดินขึ้นไปยังใจกลางหน้าผาเพื่อชื่นชมสภาพแวดล้อมที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง

หากคุณแพลนจะตั้งแคมป์ระหว่างโร้ดทริปบนถนนวงแหวน คุณควรพักค้างคืนที่แคมป์ในอาสบิริกอย่างแน่นอน!



3.  มิวาทน์เนเชอร์บาธส์

น้ำในอ่างน้ำ Myvatn Nature Baths มีสีฟ้ามาก

มิวาทน์เนเชอร์บาธส์อาจจะเปรียบได้กับบลูลากูนแห่งภาคเหนือ ที่มอบประสบการณ์ผ่อนคลายท่ามกลางภูมิทัศน์ธรรมชาติอันงดงาม ที่นี่คุณสามารถแช่น้ำร้อนสีฟ้าจากความร้อนใต้พิภพ ผ่อนคลายในสปาไอน้ำ และเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มที่บาร์ในสระได้ด้วย!

ในช่วงฤดูร้อน คุณยังสามารถอาบไล้แสงของพระอาทิตย์ตอนเที่ยงคืนได้ ส่วนในฤดูหนาว อาจมีโอกาสได้เห็นแสงเหนือ

สถานนี้ได้รับความนิยมมาก เราแนะนำให้จองบัตรเข้าใช้บริการมิวาทน์เนเชอร์บาธส์ล่วงหน้าเพื่อไม่พลาดประสบการณ์ดีๆ

4. ทะเลสาบมิวาทน์

ทะเลสาบมิวาทน์เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ตอนเหนือ

ทะเลสาบมิวาทน์ในภาคเหนือของไอซ์แลนด์ เป็นทะเลสาบที่งดงาม รายล้อมด้วยพืชพรรณอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งนกมากมาย ถนนวงแหวนผ่านตรงข้ามทะเลสาบ แต่ควรเผื่อเวลาขับรถรอบทะเลสาบเพื่อสัมผัสความงดงามอย่างเต็มที่

ทะเลสาบมิวาทน์มีชื่อเสียงจากปากปล่องภูเขาไฟเทียมสกูตูสตาดากิการ์ ซึ่งเกิดจากลาวาร้อนไหลลงบนพื้นที่ชุ่มน้ำเมื่อประมาณ 2,300 ปีที่ผ่านมา รอบทะเลสาบยังมีจุดแวะชมที่ห้ามพลาด เช่น การก่อตัวของลาวาดิมมูบอร์กีร์  และปล่องภูเขาไฟฮแวร์เฟลล์ 

ใกล้ๆ กันยังมีพื้นที่น้ำพุร้อนนามาสการ์ดที่มีน้ำพุร้อนสีสันสดใสและพวยพุ่ง

ทะเลสาบมิวาทน์อยู่ห่างจากเอกิลสตาดีร์ประมาณ 2 ชั่วโมง และห่างจากอาคูเรย์รีประมาณ 1 ชั่วโมง แม้ว่าคุณสามารถเดินทางต่อไปทางตะวันออกเฉียงเหนือหรือตะวันเฉียงเหนือได้ แต่ไม่ควรพลาดการชมความงดงามของพื้นที่รอบทะเลสาบ

แนะนำให้จองที่พักบริเวณทะเลสาบมิวาทน์ เพื่อให้มีเวลาเที่ยวชมทิวทัศน์โดยรอบก่อนออกเดินทางต่อ

5.  ทุ่งลาวาดิมมูบอร์กิร์

ภูมิทัศน์ที่ Dimmuborgir นั้นดูราวกับอยู่นอกโลก

ทุ่งลาวาดิมมูบอร์กิร์เป็นที่รู้จักจากการก่อตัวของลาวาที่น่าทึ่งและแปลกประหลาด ภูมิทัศน์มีลักษณะคล้ายกับป้อมปราการอันมืดมิดที่โผล่ออกมาจากดิน โดยมีเสาสูงตระหง่าน ถ้ำ และส่วนโค้งที่เกิดจากลาวาที่แข็งตัว

ดิมมูบอร์กิร์อยู่ถัดจากทะเลสาบมิวาทน์ ในพื้นที่นี้ คุณสามารถเลือกเส้นทางเดินชมได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางลาดยาง แต่คุณยังสามารถเดินตามเส้นทางเดินป่าที่ยาวกว่าเพื่อเดินผ่านธรรมชาติได้

พื้นที่ลึกลับแห่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับตำนานต่างๆ มากมาย รวมถึงการเกี่ยวข้องกับโทรลล์และเอลฟ์ และว่ากันว่าที่นี่เป็นบ้านของยูลแลดของไอซ์แลนด์ คุณอาจเคยเห็นพื้นที่มาแล้วในซีรีส์เกมออฟโธรนส์ โดยเป็นฉากทางตอนเหนือของกำแพง!

9. น้ำพุร้อนเกรียวทากยา

ถ้ำเกรียวทากยาในไอซ์แลนด์เหนือ

หากต้องการชมสถานที่ถ่ายทำเกมออฟโธรนส์ที่น่าสนใจอีกแห่งในบริเวณทะเลสาบมิวาทน์ ให้แวะที่บ่อน้ำพุร้อนเกรียวทากยาซึ่งอยู่ในถ้ำและเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากรักอันโด่งดังระหว่างจอน สโนว์และอิกริตต์ 

ห้ามมิให้ลงเล่นน้ำที่นี่เนื่องจากอุณหภูมินั้นคาดเดาไม่ได้และอาจสูงมาก แต่ก็เป็นสถานที่ที่สวยงามน่าไปเยี่ยมชม ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ถ้ำแห่งนี้จะถูกปิดบริเวณทางเข้า แต่คุณสามารถมองเห็นภายในและชื่นชมความงามของมันได้



7. ภูเขาไฟฮแวร์เฟลล์

การเดินป่าขึ้นภูเขาไฟ Hverfell นำเสนอทิวทัศน์ที่สวยงาม

ปล่องภูเขาไฟฮแวร์เฟลล์อันน่าทึ่งหรือที่รู้จักกันในชื่อฮแวร์ฟยาลล์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทะเลสาบมิวาทน์และเป็นที่นิยมสำหรับการเดินป่า ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 กิโลเมตร และความลึก 140 เมตร จึงเป็นหนึ่งในหลุมปากปล่องจากการปะทุที่ใหญ่ที่สุดในโลก!

ปล่องนี้ตั้งตระหง่านเหนือภูมิประเทศโดยรอบ และการเดินป่าขึ้นไปด้านบนทำให้ได้ทัศนียภาพอันงดงาม มีเส้นทางที่ชัดเจนตลอดขอบปล่องภูเขาไฟและวิธีไปถึงยอดเขาได้สองทาง ขอแนะนำให้จอดรถทางเหนือของปล่องภูเขาไฟ เนื่องจากเส้นทางจากที่นั่นจะง่ายกว่า

ส่วนทางทิศตะวันตก คุณจะพบลานจอดรถขนาดเล็กกว่าซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่ท้าทายยิ่งขึ้น

เส้นทางเดินป่าฮแวร์เฟลล์ทั้งสองเส้นทางจะนำคุณขึ้นสู่ยอดเขาในเวลาประมาณ 30 นาที และการเดินรอบๆ ยอดเขาจะใช้เวลาเพิ่มอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ซึ่งรับรองว่าคุ้มค่าเพราะวิวสวยมาก!

8. ฮูสาวิก

Husavik เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการดูปลาวาฬในไอซ์แลนด์

ฮูสาวิกเป็นเมืองที่งดงามบนชายฝั่งทางเหนือ เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางไดมอนด์เซอร์เคิล และใช้เวลาขับอ้อม 30 นาทีจากถนนวงแหวน แต่ก็คุ้มค่ากับการเดินทาง

ในฐานะที่ถูกขนานนามว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งการดูวาฬ” ของไอซ์แลนด์ ไม่ต้องแปลกใจเลยว่านี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการชมวาฬ

ในระหว่างการเยี่ยมชมของคุณ คุณจะพบตัวเลือกมากมายสำหรับทัวร์ เช่น ทัวร์ชมปลาวาฬฮูสาวิกยอดนิยมนี้ และคุณยังสามารถใช้บริการทัวร์ชมวาฬแบบเงียบสงบด้วยเรือไม้โอ๊กได้อีกด้วย!

ในระหว่างการทัวร์ คุณจะได้ชื่นชมอ่าวสกาลฟานดิที่สวยงามและท่าเรือฮูสาวิก เราขอแนะนำให้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์วาฬฮูสาวิกเพื่อทำความรู้จักกับยักษ์ผู้อ่อนโยนเหล่านี้ให้มากขึ้น

หากคุณวางแผนที่จะใช้บริการที่พักในฮูสาวิก มีสถานที่สนุกๆ อีกแห่งที่คุณควรไปชม ในปี 2020 ฮูสาวิกมีชื่อเสียงไปทั่วโลกเมื่อได้เป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง Eurovision Song Contest: The Story of Fire Saga คนในท้องถิ่นต่างภูมิใจกับชื่อเสียงใหม่นี้ และตอนนี้คุณสามารถเยี่ยมชมนิทรรศการยูโรวิชั่นในเมืองฮูสาวิก และเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มที่บาร์ในธีม Jaja Ding Dong หลังจากนั้น คุณสามารถเพลิดเพลินกับการแช่ตัวในอ่างน้ำร้อนใต้พิภพจีโอซีที่อยู่ใกล้เคียงได้!

9. น้ำตกโกดาฟอสส์

น้ำตกโกดาฟอสส์ทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ตั้งอยู่ติดกับเส้นทางหมายเลข 1 ซึ่งเป็นถนนวงแหวน

ที่ริมถนนวงแหวน คุณจะได้เห็นน้ำตกน้ำตกโกดาฟอสส์ที่สวยงาม เป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดเมื่อเดินทางไปในทางเหนือของไอซ์แลนด์ น้ำตกแห่งนี้มีความสูง 12 เมตร และกว้าง 30 เมตร โค้งไปตามหน้าผาที่สวยงาม

ชื่อของน้ำตกนี้ย้อนกลับไปในปีคริสตศักราช 1,000 เมื่อชาวไอซ์แลนด์เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ ว่ากันว่าผู้พูดเรื่องกฎหมาย Þorgeir Ljósvetningagoði โยนรูปเคารพนอกรีตลงในน้ำตก ทำให้โกดาฟอสส์ได้รับชื่ออันเป็นเอกลักษณ์ว่า "น้ำตกแห่งเทพเจ้า"

คุณจะเดินไปถึงน้ำตกภายใน 5 นาทีจากลานจอดรถ โดยมีจุดให้ชมวิวหลายแห่งตลอดเส้นทางที่สะดวกสบาย 

10. เดอะฟอเรสต์ลากูน

การออกแบบของ Forest Lagoon กลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบ

ไอซ์แลนด์มีชื่อเสียงในด้านสปาความร้อนใต้พิภพ และหนึ่งในสปาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในภาคเหนือคือฟอเรสต์ลากูน ตั้งอยู่ริมถนนวงแหวนแต่ซ่อนตัวอยู่ในป่า ให้ความรู้สึกสงบแก่ผู้มาเยือน

สปาสุดหรูแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามฟยอร์ดเอยาฟยอร์ดูร์จากอาคูเรย์ริ และคุณจะได้เห็นทิวทัศน์อันงดงามของเมือง มหาสมุทร และภูเขาโดยรอบ เราขอแนะนำให้จองการเข้าใช้บริการฟอเรสต์ลากูนในช่วงเย็น เพื่อที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับพระอาทิตย์เที่ยงคืนหรือพระอาทิตย์ตกดิน ในฤดูหนาวคุณอาจได้เห็นแสงเหนือบนท้องฟ้าของที่นี่ด้วย!



11. อาคูเรย์ริ

Akureyri ขึ้นชื่อในเรื่องอาคารที่มีเสน่ห์อาคูเรย์ริเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์นอกเขตเมืองหลวง และมักเรียกกันว่า "เมืองหลวงแห่งภาคเหนือ" ตั้งอยู่ในฟยอร์ดเอยาฟยอร์ดูร์ที่สวยงาม และเป็นที่รู้จักจากโบสถ์อาคูเรย์ราคิร์กยาอันยิ่งใหญ่ สวนพฤกษศาสตร์อาคูเรย์ริ ศูนย์วัฒนธรรมโฮฟ และฮิลดาร์ฟยาลล์ สกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์

นอกจากนี้คุณยังจะพบร้านอาหาร คาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ และร้านค้าชั้นเยี่ยม รวมถึงคริสต์มาสเฮาส์ในอาคูเรย์ริด้วย

มีที่พักดีๆ ให้เลือกมากมายในเมืองอาคูเรย์ริ มีทั้งโรงแรม เกสท์เฮาส์ และบ้านพักแสนสบายให้เลือกมากมาย เป็นฐานที่ดีเยี่ยมสำหรับการสำรวจภาคเหนือ

เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งสามารถเดินทางไปกลับได้ภายในวันเดียว และมีทัวร์สนุกๆ มากมายในเมือง ลองทัวร์ชมวาฬจากอาคูเรย์ริ หรือออกล่าแสงเหนือกับแพ็คเกจนี้หากคุณมาเยือนในช่วงเดือนที่มืดมิด

คุณสามารถใช้เวลาหลายวันในการสำรวจเมืองอาคูเรย์ริและบริเวณโดยรอบได้อย่างสบายๆ ดังนั้นอย่าลืมเผื่อเวลาสำหรับเที่ยวชมสถานที่เหล่านั้นไว้ในแผนการเดินทางบนถนนวงแหวนด้วย!



12. หินฮวิทแซร์กูร์

หิน Hvitserkur เป็นสถานที่ถ่ายภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของไอซ์แลนด์มากที่สุดแห่งหนึ่ง

ฮวิทแซร์กูร์เป็นหินรูปร่างโดดเด่นและไม่เหมือนใคร ตั้งอยู่ตามแนวคาบสมุทรวาทน์สเนส บางครั้งหินนี้ถูกเรียกว่า “หินมังกร” เนื่องจากมีความสูงประมาณ 15 เมตร และมีรูปร่างคล้ายมังกรกำลังดื่มน้ำทะเล

นี่คือหนึ่งในแลนด์มาร์กธรรมชาติที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดของไอซ์แลนด์ รูปร่างที่โดดเด่นบนฉากหลังของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือทำให้เป็นจุดที่ห้ามพลาด

การเดินทางไปยังฮวิทแซร์กูร์นั้นใช้เวลาขับรถสั้นๆ จากถนนวงแหวนไปตามเส้นทางหมายเลข 711 จะมีที่จอดรถใกล้ๆ และมีทางเดินไปยังหินแห่งนี้ สถานที่นี้เข้าถึงง่ายและยังมีโอกาสได้เห็นแมวน้ำอยู่ในผืนน้ำรอบบริเวณและมีนกพัฟฟินให้ชมในช่วงฤดูร้อน!

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนถนนวงแหวนในไอซ์แลนด์ตะวันตก

Glymur waterall เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ซ่อนเร้นในไอซ์แลนด์ตะวันตก

ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์มีภูมิทัศน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ฟยอร์ดเขียวชอุ่มไปจนถึงเมืองชายฝั่งที่มีเสน่ห์ เหมาะสำหรับการเที่ยวแบบชิลๆ โดยมีทั้งภูเขาที่สวยงาม ปล่องภูเขาไฟ และแหล่งประวัติศาสตร์ผสมผสานกัน

นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวเด่นตามเส้นทางถนนวงแหวนฝั่งตะวันตกที่ควรไปชมขณะปิดท้ายการเดินทางรอบไอซ์แลนด์แบบวนทวนเข็มนาฬิกา หรือเริ่มต้นการผจญภัยแบบตามเข็มนาฬิกา!

1. ภูเขาไฟกราโบรก

Grabrok เป็นปล่องภูเขาไฟโบราณในไอซ์แลนด์

เมื่อขับรถผ่านทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ คุณจะพบกับปล่องภูเขาไฟกราโบรก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เส้นทางถนนวงแหวน ทำให้เป็นจุดแวะที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่สนใจภูมิประเทศภูเขาไฟ

ปล่องภูเขาที่น่าประทับใจแห่งนี้เกิดจากการปะทุในอดีต และมีเส้นทางเดินขึ้นยอดเพื่อชมวิวพาโนรามาของทุ่งลาวาและภูมิประเทศที่ขรุขระ เส้นทางมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตรต่อเที่ยว และแม้ว่าการเดินขึ้นจะชันเล็กน้อย แต่เส้นทางได้รับการดูแลอย่างดีและเหมาะสำหรับผู้มาเยือนส่วนใหญ่

ปล่องภูเขาไฟกราโบรกเข้าถึงได้ง่ายและเป็นจุดที่เหมาะสำหรับยืดเส้นยืดสาย ทำให้เป็นจุดแวะที่ยอดเยี่ยมระหว่างการเดินทางในพื้นที่นี้

2. บอร์การ์เนส

Borgarnes เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ Borgarfjordur

บอร์การ์เนสเป็นเมืองน่ารักที่ตั้งอยู่ริมฟยอร์ดบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลและล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงาม

ที่นี่มีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้า และกิจกรรมทางวัฒนธรรมมากมาย นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่สมัยการตั้งถิ่นฐาน ซึ่งสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่เดอะเซ็ตเทิลเมนต์เซ็นเตอร์

ทำเลสะดวกของบอร์การ์เนสบนเส้นทางถนนวงแหวน ทำให้เป็นจุดแวะพักที่เหมาะสม หากคุณวางแผนสำรวจพื้นที่รอบฟยอร์ดบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ หรือต้องการไปยังคาบสมุทรสไนแฟลซเนส การพักค้างคืนในที่พักในบอร์การ์เนสถือเป็นตัวเลือกที่สะดวกและเหมาะสม

3. น้ำพุร้อนเดลดาร์ทุงกุฮแวร์และเครยมาสปา

ควรจองการเข้าใช้ Krauma Spa ล่วงหน้า

ท่ามกลางความเขียวขจีของฟยอร์ดบอร์การ์ฟยอร์ดูร์มีเดลดาร์ทุงกุฮแวร์ น้ำพุร้อนที่ทรงพลังที่สุดในยุโรปตั้งอยู่ การขับออกนอกเส้นทางเพื่อไปที่นี่ ใช้เวลา 25 นาทีจากถนนวงแหวน และเป็นหนึ่งในไฮไลท์ในพื้นที่

โดยทั่วไปอุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 97 °C แต่คุณสามารถชมความงามของบริเวณนี้ได้จากทางเดินไม้ อย่างไรก็ตาม คุณมีวิธีที่จะสัมผัสน้ำที่อุดมด้วยแร่ธาตุของที่นี่ได้!

ตั้งอยู่ติดกันคือเครยมาสปา ซึ่งได้ความร้อนจากเดลดาร์ทุงกุฮแวร์ คุณสามารถเลือกได้จากสระว่ายน้ำที่มีอุณหภูมิแตกต่างกัน รวมถึงมีห้องอบไอน้ำ นอกจากนี้คุณยังสามารถผ่อนคลายในห้องพักผ่อนซึ่งมีเตาผิงฟืน ทางที่ดีควรจองการเข้าใช้บริการเครยมาสปาล่วงหน้าเพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาด

4. เรคโฮลท์

สระน้ำ Snorralaug คุ้มค่าแก่การชม แม้ว่าคุณจะไม่สามารถลงเล่นน้ำในนั้นได้ก็ตาม!

หมู่บ้านเรคโฮลท์คือสถานที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ หมู่บ้านนี้เคยเป็นบ้านของ Snorri Sturluson (1179-1241) หนึ่งในนักเขียนและกวียุคกลางที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์อยู่ห่างจากสปาเครยมาเพียง 10 นาที และห่างจากถนนวงแหวน 38 กิโลเมตร

ในเรคโฮลท์ คุณสามารถเยี่ยมชมศูนย์วัฒนธรรมและการวิจัยสนอร์ราสโทฟา และเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตและงานของเขา รวมถึง Prose Edda และ Heimskringla

คุณควรไปชมบ่อน้ำพุร้อนสนอร์ราเลยก์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบ่ออาบพลังงานความร้อนใต้พิภพที่เก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์ คุณไม่สามารถลงอาบน้ำได้ แต่ก็คุ้มค่าที่จะเห็นมัน บ่อนี้เคยถูกใช้โดย Snorri Sturluson และเขายังสร้างอุโมงค์จากบ้านของเขาเพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งคุณยังคงเห็นได้ในปัจจุบัน!

5. น้ำตกเฮิร์นฟอสซาร์และน้ำตกบาร์นาฟอสส์

Hraunfossar are worth the detour when driving Iceland's ring road

น้ำตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ ได้แก่ น้ำตกเฮิร์นฟอสซาร์ และน้ำตกบาร์นาฟอสส์ ซึ่งตั้งอยู่ในฟยอร์ดบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ น้ำตกเหล่านี้ไหลออกมาจากใต้ทุ่งลาวาลงสู่แม่น้ำธารน้ำแข็งฮวิทเอา และทอดยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ตามแนวแม่น้ำ

ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายภาพที่สวยงามในทุกฤดูกาล และสามารถเดินทางไปได้อย่างสะดวก

น้ำตกทั้งสองแห่งอยู่ห่างจากเรคยาวิกเพียง 126 กิโลเมตรบนเส้นทางเดียวกับบ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ทุงกุฮแวร์ และหมู่บ้านเรคโฮลท์ และใช้เวลาเพียง 40 นาทีในการขับรถออกจากเส้นทางถนนวงแหวน

จากนั้นคุณยังสามารถเดินทางต่อไปยังพื้นที่ฮูสาเฟลล์ที่สวยงามได้ภายในไม่กี่นาที โดยพื้นที่นี้อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลางโจกุล ซึ่งคุณสามารถเข้าไปชมอุโมงค์น้ำแข็งที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ได้เมื่อเข้าร่วมทัวร์อินทูดิกลาเซียร์

6. ฟยอร์ดฮวาลฟยอร์ดูร์

การขับรถไปตามฟยอร์ด Hvalfjordur นั้นสวยงามมาก

หากคุณขับตามเส้นทางถนนวงแหวนจากเมืองบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ และใช้อุโมงค์ฮวาลฟยอร์ดูร์ จุดหมายใหญ่ถัดไปก็คือกรุงเรคยาวิก การเดินทางนี้ใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่าๆ แต่ถ้าคุณอยากขยายการเดินทาง เราขอแนะนำให้เลี่ยงอุโมงค์ฮวาลฟยอร์ดูร์ แล้วขับเลียบฟยอร์ดฮวาลฟยอร์ดูร์ที่สวยงามแทน

แม้จะเพิ่มเวลาขับรถอีกประมาณ 1 ชั่วโมง แต่คุณจะได้ชมวิวที่งดงามตลอดเส้นทาง!

ท่ามกลางชายฝั่งที่สวยงามและภูเขาเขียวชอุ่ม คุณจะพบกับกลีมูร์ น้ำตกที่สูงเป็นอันดับสองของไอซ์แลนด์ น้ำตกมีความสูงถึง 198 เมตร และซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาที่มีทิวทัศน์น่าประทับใจ เส้นทางเดินขึ้นไปยังยอดน้ำตกยาวประมาณ 7 กิโลเมตร และสามารถเดินเสร็จได้ภายในช่วงบ่าย

คุณยังสามารถเติมเต็มประสบการณ์ได้ด้วยการไปแช่น้ำร้อนสุดหรูที่สปาฮวามม์สวิกฮอตสปริงก์ที่อยู่ใกล้ๆ ได้อีกด้วย!

7. ฮวามม์สวิกฮอตสปริงก์

คุณสามารถอาบน้ำท่ามกลางธรรมชาติได้ที่ Hvammsvik Hot Springs ในไอซ์แลนด์

หนึ่งในประสบการณ์การแช่น้ำสุดหรูที่แปลกใหม่ในไอซ์แลนด์คือฮวามม์สวิกฮอตสปริงก์ที่เพิ่งเปิดให้บริการในฟยอร์ดฮวาลฟยอร์ดูร์ ที่นี่เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติที่ให้คุณได้แช่ตัวท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามของไอซ์แลนด์ พร้อมชมวิวที่น่าทึ่ง

นอกจากการผ่อนคลายแล้ว สปายังมีกิจกรรมน่าสนใจ เช่น พายแพดเดิลบอร์ด ฝึกสมาธิ หรือว่ายน้ำในทะเล อีกทั้งยังมีร้านอาหารและบาร์ภายในพื้นที่บริการด้วย

หากคุณมาเยือนไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาว แนะนำให้จองเวลาเข้าฮวามม์สวิกฮอตสปริงก์ในช่วงเย็น เพราะคุณอาจได้เห็นแสงเหนือส่องประกายในความมืดระหว่างที่กำลังแช่น้ำร้อนอยู่!

8. ภูเขาเอสยา

ภูเขา Esjan เป็นสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์ในเมืองเรคยาวิก

ภาพจาก Wikimedia, Creative Commons, by Martin Putz ไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติม

เอสยันคือภูเขาที่ตั้งตระหง่านเหนือเมืองเรคยาวิก และมีเส้นทางเดินเขาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แม้การปีนขึ้นไปถึงยอดเขาจะต้องใช้แรงกายพอสมควร แต่ความสงบเงียบและวิวของเขตเมืองหลวงที่มองเห็นจากมุมสูงก็คุ้มค่ามาก

เส้นทางยอดนิยมคือเส้นที่นำไปยังจุดที่เรียกว่า “Steinn” ซึ่งแปลตรงตัวว่า “หิน” เส้นนี้เหมาะกับครอบครัวและใช้เวลาเดินขึ้นเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความเร็วของการเดิน

หากคุณอยากพิชิตยอดเขาเอสยันจริงๆ จะต้องเดินต่อไปอีกเล็กน้อย โดยช่วงนี้จะยากขึ้นเพราะมีการปีนหินเล็กน้อย

การขึ้นไปจนถึงยอดเขาจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง คุณสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์นี้ได้ด้วยการเข้าร่วมทัวร์เดินป่าภูเขาเอสยา ซึ่งมาพร้อมกับการพาไปผ่อนคลายที่ฮวามม์สวิกฮอตสปริงก์ด้วย!

9. เรคยาวิก

บ่อน้ำ Tjornin เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดในเมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์

จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการเดินทางบนเส้นทางถนนวงแหวนคือเมือง เรคยาวิก

เมื่อคุณเดินเล่นไปตามถนนในย่านดาวน์ทาวน์เรคยาวิก จะได้พบกับบ้านเรือนสีสันสดใส สตรีทอาร์ตสุดสร้างสรรค์ ร้านอาหาร แกลเลอรีศิลปะ ร้านค้า สถานบันเทิงยามค่ำคืน พิพิธภัณฑ์ และทุกสิ่งที่คุณคาดหวังจากเมืองหลวงที่มีชีวิตชีวา

โดยทั่วไปแล้ว เรคยาวิกมักจะเป็นที่ที่คุณใช้พักคืนแรกและคืนสุดท้ายในไอซ์แลนด์ ซึ่งมีตัวเลือกที่พักในเรคยาวิกหลากหลายให้เลือก และหากเป็นไปได้ ควรเผื่อเวลาอย่างน้อยสองวันเพื่อเพลิดเพลินกับสิ่งที่เมืองนี้มีให้

หากคุณจะส่งคืนรถเช่าในเรคยาวิกเลย คุณก็สามารถใช้บริการรถรับส่งสนามบินที่สะดวกสบายเมื่อต้องเดินทางกลับบ้าน หรือไม่เช่นนั้น บริษัทรถเช่าจำนวนมากก็มีตัวเลือกให้คืนรถที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิกได้โดยตรง

เพื่อความสะดวกสูงสุด แนะนำให้เลือกที่พักใกล้สนามบินเคฟลาวิกในคืนสุดท้ายของทริป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีเที่ยวบินเช้า

ภูมิภาคพิเศษที่ควรเพิ่มในแผนการเดินทางบนเส้นทางถนนวงแหวน

โบสถ์บูดีร์สีดำเป็นสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์บนคาบสมุทรสไนแฟลซเนส

หากคุณมีเวลาเหลือ แนะนำให้เพิ่มภูมิภาคพิเศษเหล่านี้เข้าไปในการผจญภัยบนเส้นทางวงแหวนของคุณ คาบสมุทรสไนแฟลซเนส เวสต์ฟยอร์ด และไฮแลนด์ ต่างก็มีภูมิทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์และมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกับสิ่งที่พบได้บนเส้นทางหลัก

ไม่ว่าคุณจะมองหาชายฝั่งทะเลที่สวยงามตระการตา ความเงียบสงบของธรรมชาติอันห่างไกล หรือเส้นทางภูเขาที่ท้าทาย การออกนอกเส้นทางหลักไปยังภูมิภาคเหล่านี้จะทำให้การเดินทางในไอซ์แลนด์ของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น!

1. คาบสมุทรสไนแฟลซเนส

หนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์คือภูเขา Kirkjufell

คาบสมุทรสไนแฟลซเนสมักได้รับการขนานนามว่าเป็น "ประเทศไอซ์แลนด์ขนาดจิ๋ว" เนื่องจากได้รวบรวมคุณลักษณะหลักของประเทศไอซ์แลนด์ทั้งหมดไว้ในที่เดียว คุณสามารถสำรวจธารน้ำแข็งสไนเฟลล์สโจกุล ทุ่งลาวาที่ขรุขระ น้ำตก ภูเขาที่งดงาม และหาดทรายสีดำ

คาบสมุทรแห่งนี้เป็นที่ตั้งของภูเขาคิร์กจูเฟลล์อันโด่งดัง หน้าผาสีดำที่สวยงามของอาร์นาร์สทาปิ โบสถ์บูดาคิร์กยาสีดำที่สวยงาม และเมืองอันเงียบสงบ เช่น สติกกิชโฮลมูร์และโอลาฟสวิก

นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์สนุกๆ ให้ได้สัมผัส เช่น ทัวร์ถ้ำวาทน์เชลลิร์ 50 นาทีอันน่าจดจำ หรือทัวร์ชมวาฬที่ออกเดินทางจากโอลาฟสวิก

ถนนวงแหวนไม่ครอบคลุมไปถึงคาบสมุทรสไนแฟลซเนส แต่ก็คุ้มค่าที่จะใช้เวลาเพิ่มอีกวันหรือสองวันเพื่อค้นหาว่าส่วนนี้ของประเทศมีอะไรนำเสนอบ้าง ภูมิภาคนี้จะเป็นไฮไลต์ของการมาเยือนไอซ์แลนด์อย่างแน่นอน



 

2. ฟยอร์ดตะวันตก

ฟยอร์ดทางตะวันตกของไอซ์แลนด์มีสถานที่ที่น่าทึ่ง เช่น น้ำตก Dynjandi

หากทำได้ เราขอแนะนำให้วางแผนขับออกนอกเส้นทางจากถนนวงแหวนเพื่อชมฟยอร์ดทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ มีถนนที่คดเคี้ยวผ่านฟยอร์ดอันเงียบสงบ ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาสูง ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่คุณจะได้พบกับสถานที่ห่างไกลที่สุดในไอซ์แลนด์ นั่นคือเขตอนุรักษ์ธรรมชาติฮอร์นสตรานดิร์ ซึ่งไม่คนอยู่อาศัยมาตั้งแต่ปี 1950 และไม่มีถนน

ที่นี่คุณจะได้พบกับน้ำตกดินยานดิที่น่าทึ่ง "อัญมณีแห่งฟยอร์ดตะวันตก" ดังภาพด้านบน นอกจากนี้คุณยังจะได้เห็นหาดทรายสีแดงเรยดาซานดูร์ ที่มีบ่อน้ำพุร้อนนับไม่ถ้วนให้เล่นน้ำ หมู่บ้านชนบท และส่วนปลายสุดด้านตะวันตกของยุโรปซึ่งก็คือหน้าผาทราบยาร์ก ซึ่งเป็นจุดที่นกพัฟฟินมากมายมาทำรัง! คุณอาจมองเห็นแมวน้ำตามแนวชายฝั่งระหว่างการเดินทางของคุณด้วย

หากคุณต้องการเยี่ยมชมฟยอร์ดตะวันตก ทางที่ดีควรเพิ่มอีกสามถึงห้าวันในการเดินทางของคุณ คุณสามารถหาที่พักในอิสาฟย์อร์ดูร์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค หรือพักในเมืองเล็กๆ แห่งใดแห่งหนึ่งก็ได้

โปรดทราบว่าฟยอร์ดตะวันตกนั้นอาจจะไม่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงฤดูหนาวเนื่องจากมีหิมะตกหนัก และถนนบนภูเขาบางสายจะเปิดให้บริการเฉพาะช่วงพีคของฤดูร้อนเท่านั้น

3. ไฮแลนด์

 

 

 

 

ไฮแลนด์มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าอัศจรรย์

 

ไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์เต็มไปด้วยภูมิประเทศอันขรุขระ พื้นที่ความร้อนใต้พิภพ และที่ราบสูงภูเขาไฟ สถานที่น่าเที่ยวที่ห้ามพลาด ได้แก่ ลานมันนาเลยการ์ ดินแดนแห่งภูเขาหินไรโอไลต์หลากสีพร้อมบ่อน้ำพุร้อน และแคร์ลิงการ์ฟยอลล์ เทือกเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องพลังความร้อนใต้พิภพและทิวทัศน์งดงาม พื้นที่เหล่านี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินเขาและการผจญภัย โดยมีเส้นทางให้เลือกมากมาย

การเข้าถึงพื้นที่ไฮแลนด์ทำได้เฉพาะช่วงฤดูร้อนเมื่อเส้นทางภูเขาเปิด ส่วนในฤดูหนาวจะไม่สามารถสัญจรได้เพราะหิมะตกหนัก และจำเป็นต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเพื่อฝ่าภูมิประเทศที่ขรุขระ

อย่าลืมเผื่อเวลาในแผนการเดินทางเพื่อสัมผัสภูมิภาคห่างไกลแห่งนี้ เพราะภูมิทัศน์อันเหลือเชื่อและความงามอันเงียบสงบที่นี่คุ้มค่าแก่การเดินทางเป็นอย่างยิ่ง

 

 

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับถนนวงแหวนของประเทศไอซ์แลนด์

นี่คือข้อเท็จจริงบางส่วนและคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับถนนวงแหวน วิธีที่ง่ายและประหยัดที่สุดในการเดินทางบนถนนวงแหวนคือการจองทัวร์ขับรถเที่ยวเอง

ถนนวงแหวนในไอซ์แลนด์คืออะไร?

ถนนวงแหวนหรือที่รู้จักกันในชื่อเส้นทางหมายเลข 1 เป็นถนนที่วิ่งรอบประเทศไอซ์แลนด์ เป็นถนนสายหลักที่เชื่อมต่อเมืองใหญ่ๆ ทุกเมืองในไอซ์แลนด์

ถนนวงแหวนในประเทศไอซ์แลนด์มีความยาวเท่าไร?

ถนนวงแหวนของประเทศไอซ์แลนด์มีระยะทาง 1,322 กิโลเมตร

การขับรถบนถนนวงแหวนในประเทศไอซ์แลนด์ใช้เวลานานแค่ไหน?

คุณสามารถขับรอบถนนวงแหวนในประเทศไอซ์แลนด์ได้ภายใน 15-16 ชั่วโมงโดยไม่หยุด เราขอแนะนำให้ใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์เพื่อที่คุณจะได้ชมสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ตลอดทาง 

สมมติว่าคุณจะแวะสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ทั้งหมดตลอดทาง อาจใช้เวลาประมาณ 10-12 วัน อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมด อาจใช้เวลานานกว่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไปที่ฟยอร์ดตะวันตกและคาบสมุทรสไนแฟลซเนส

บนถนนวงแหวนจำกัดความเร็วเท่าไหร่?

การจำกัดความเร็วบนถนนวงแหวนส่วนใหญ่อยู่ที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสูงที่สุดในประเทศ

การขับรถบนถนนวงแหวนในไอซ์แลนด์ปลอดภัยหรือไม่?

ใช่ โดยทั่วไปแล้วถนนวงแหวนนั้นปลอดภัยในการขับขี่ แต่สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรทั้งหมด และระวังสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ถนนบางพื้นที่อาจถูกปิดในช่วงฤดูหนาวเนื่องจากสภาพอากาศ ดังนั้นการตรวจสอบสภาพถนนและสภาพอากาศก่อนออกเดินทางจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ถนนวงแหวนลาดยางหรือไม่?

ถนนวงแหวนของประเทศไอซ์แลนด์ 98% เป็นถนนลาดยาง ส่วนใหญ่มีสองเลน แต่ก็มีสะพานเลนเดียวบางแห่งด้วย

สภาพการขับขี่บนถนนวงแหวนเป็นอย่างไร?

สภาพการขับขี่บนถนนวงแหวนในประเทศไอซ์แลนด์อาจแตกต่างกันอย่างมากขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของปีและสภาพอากาศ ในช่วงฤดูร้อน ถนนโดยทั่วไปจะอยู่ในสภาพดีและเข้าถึงได้ง่ายด้วยรถเช่าขนาดเล็ก แม้ว่าจะยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เช่น ถนนลูกรังและสะพานเลนเดียว

ในช่วงฤดูหนาว สภาพการขับขี่อาจมีความท้าทายมากขึ้นเนื่องจากมีหิมะ น้ำแข็ง และทัศนวิสัยที่ลดลง สิ่งสำคัญคือต้องมีประสบการณ์ในการขับขี่ในสภาพที่มีหิมะตกและใช้ความระมัดระวังในการขับขี่บนถนนน้ำแข็ง หากต้องการขับรอบถนนวงแหวนในฤดูหนาว แนะนำให้เช่ารถ 4x4

สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงการปิดถนนที่อาจเกิดขึ้นหรือความล่าช้าเนื่องจากสภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกล ขอแนะนำให้ตรวจสอบสภาพถนนก่อนออกเดินทางและต้องมียานพาหนะที่เชื่อถือได้พร้อมยางและอุปกรณ์ฉุกเฉินที่เหมาะสม

เวลาที่ดีที่สุดของปีในการขับรถบนถนนวงแหวนในประเทศไอซ์แลนด์คือช่วงใด?

เวลาที่ดีที่สุดในการขับรถบนถนนวงแหวนในประเทศไอซ์แลนด์คือช่วงฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศอบอุ่นขึ้นและกลางวันยาวนานกว่า อย่างไรก็ตาม นี่เป็นช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดของปี ดังนั้นคุณอาจพบนักท่องเที่ยวมากขึ้นและราคาที่สูงขึ้น ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายเนื่องจากมีหิมะและน้ำแข็ง แต่ก็มีโอกาสที่จะได้เห็นแสงเหนือและมีประสบการณ์ที่พิเศษกว่า

ฉันจำเป็นต้องมีรถ 4WD เพื่อขับบนถนนวงแหวนในประเทศไอซ์แลนด์หรือไม่?

แม้ว่ารถ 4WD จะไม่จำเป็นสำหรับการขับบนถนนวงแหวน แต่ขอแนะนำหากคุณวางแผนที่จะสำรวจพื้นที่ห่างไกลบางแห่งหรือขับบนถนนที่ไม่ลาดยาง นอกจากนี้ ในช่วงฤดูหนาว แนะนำให้ใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อเนื่องจากมีหิมะตกและเป็นน้ำแข็ง

มีค่าผ่านทางบนถนนวงแหวนในประเทศไอซ์แลนด์หรือไม่?

คุณสามารถขับรถไปตามถนนวงแหวนในประเทศไอซ์แลนด์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าผ่านทางใดๆ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะทำให้การเดินทางสั้นลงหรือไม่โดยใช้อุโมงค์วัดลาเฮดาร์กอง (Vadlaheidargong) ข้างเมืองอาคูเรย์ริทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ ซึ่งย่นระยะทางลง 16 กิโลเมตร

หากคุณต้องการข้ามอุโมงค์วัดลาเฮดาร์กอง คุณสามารถขับรถผ่านเส้นทางภูเขาวิกูร์สการ์ด (Vikurskard) อันงดงามได้ฟรี แต่มักจะปิดในช่วงฤดูหนาว

มีปั๊มน้ำมันตามถนนวงแหวนในไอซ์แลนด์หรือไม่?

ใช่ มีปั๊มน้ำมันอยู่หลายแห่งตามแนวถนนวงแหวน โดยส่วนใหญ่จะเป็นปั๊ม N1 แนะนำให้เติมน้ำมันเต็มถัง เนื่องจากปั๊มน้ำมันในพื้นที่ห่างไกลอาจมีระยะทางไกล

ฉันสามารถตั้งแคมป์ริมถนนวงแหวนในประเทศไอซ์แลนด์ได้หรือไม่?

ได้ อนุญาตให้ตั้งแคมป์ได้หลายพื้นที่ตามแนวถนนวงแหวน มองหาจุดตั้งแคมป์และพื้นที่ตั้งแคมป์ฟรี อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามกฎข้อบังคับในการตั้งแคมป์และเคารพสิ่งแวดล้อม

สรุปสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดริมถนนวงแหวนไอซ์แลนด์

คุณจะต้องข้ามสะพานใหญ่บนถนนวงแหวนเช่นเดียวกับที่โจกุลซาร์ลอน

ภาพถ่ายจาก Wikimedia ครีเอทีฟคอมมอนส์ โดย Superbass ไม่มีการแก้ไขใดๆ

ไม่ว่าคุณจะเลือกทำอะไรและไม่ว่าคุณจะตัดสินใจไปเที่ยวชมอะไรก็ตาม การเที่ยวถนนวงแหวนในประเทศไอซ์แลนด์ถือเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายตลอดทาง แต่สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดที่เราคัดสรรมาอย่างดีตามเส้นทางถนนวงแหวนของประเทศไอซ์แลนด์

สถานที่ใดบ้างที่จะอยู่ในแผนการเดินทางไอซ์แลนด์ของคุณ? คุณจะขับอ้อมออกไปเที่ยวนอกเส้นทางหรือไม่? คุณเคยเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้มาก่อนหรือไม่ และเราพลาดสถานที่ใดๆ ในรายการของเราหรือไม่? แบ่งปันความคิดของคุณกับเราในความคิดเห็นด้านล่าง!

บทความอื่นที่น่าสนใจ

Link to appstore phone
ติดตั้งแอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์

ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว

สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด