
เรียนรู้ทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์ด้วยคู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ ค้นหาสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมแสงออโรราโบเรียลิส และค้นพบช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดของปีในการสัมผัสปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่าทึ่งนี้
การออกไปชมแสงเหนือเป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายคน และก็มีเหตุผลที่ดี เพราะเมื่อท้องฟ้าแจ่มใสในช่วงเดือนที่มืดของปี คุณจะได้เห็นแสงเหนือเต้นระบำบนท้องฟ้าในเฉดสีเขียว ม่วง และแดงสด เมื่อผสมผสานกับธรรมชาติอันงดงามของไอซ์แลนด์แล้ว มันคือภาพที่น่าประทับใจอย่างแท้จริง
เหตุผลที่คุณวางใจในเนื้อหาของเราได้
Guide to Iceland คือแพลตฟอร์มท่องเที่ยวที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในไอซ์แลนด์ โดยช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหลายล้านคนในแต่ละปี เนื้อหาทั้งหมดของเราถูกเขียนและตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นที่รู้จักไอซ์แลนด์เป็นอย่างดี คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับคำแนะนำการท่องเที่ยวที่ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อถือได้
วิธีที่ง่ายที่สุดในการชมปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้คือจองทัวร์พร้อมไกด์ ที่จะพาคุณไปยังจุดที่แสงเหนือปรากฏชัดเจนที่สุด และห่างไกลจากแสงไฟในเมืองเพื่อให้มองเห็นได้ดีขึ้น หรือคุณอาจเลือกพักที่โรงแรมแสงเหนือ ซึ่งบางแห่งมีบริการโทรปลุกเมื่อแสงเหนือปรากฏขึ้นด้วย
อีกทางเลือกหนึ่งคือเช่ารถขับเอง แล้วขับออกจากเมืองไปยังชนบทที่มืดสนิท คุณสามารถตรวจสอบพยากรณ์แสงเหนือในไอซ์แลนด์ก่อนออกเดินทาง เพื่อดูว่ามีเมฆปกคลุมหรือไม่ และแสงเหนือจะมีความเข้มข้นแค่ไหนในระดับ 0 ถึง 9
ดวงอาทิตย์เพิ่งเข้าสู่โซลาร์แม็กซิมัม ซึ่งเป็นช่วงพีคสุดของวัฏจักรสุริยะในรอบ 11 ปี ทำให้ปี 2025 และ 2026 เป็นปีที่ดีที่สุดในรอบกว่าทศวรรษสำหรับการชมแสงเหนือ!
อ่านต่อเพื่อเรียนรู้ทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับแสงเหนือในไอซ์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่สามารถเห็นได้ วิธีอ่านพยากรณ์ สภาพอากาศที่เหมาะสมที่สุด และข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมาย!
-
อ่านเพิ่มเติม ไอซ์แลนด์ในฤดูหนาว - คู่มือท่องเที่ยวฉบับสมบูรณ์
-
ดูเพิ่มเติม: กิจกรรมฤดูหนาวยอดนิยมในไอซ์แลนด์
แสงเหนือคืออะไร?
แสงสีเขียวที่เต้นระบำบนท้องฟ้าเหนือดินแดนน้ำแข็งและไฟนี้ คือปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร
แสงเหนือ หรือที่รู้จักกันในชื่อออโรราโบเรียลิสคือผลลัพธ์ที่มองเห็นได้จากอนุภาคสุริยะที่เข้าสู่สนามแม่เหล็กโลกและเกิดการแตกตัวเป็นไอออนในชั้นบรรยากาศที่อยู่สูง การแตกตัวนี้ทำให้เกิดสีต่าง ๆ โดยปกติจะเป็นสีเขียว แต่บางครั้งก็มีสีม่วง แดง ชมพู ส้ม และน้ำเงิน
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมของดวงอาทิตย์ไม่แน่นอนและเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ ดังนั้น แม้ในคืนที่มืดและท้องฟ้าแจ่มใส ไอซ์แลนด์ก็อาจไม่มีแสงเหนือให้เห็น ในทางกลับกัน แสงเหนืออาจเกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศในช่วงกลางวันฤดูร้อน แต่ความสว่างของดวงอาทิตย์จะทำให้เราไม่สามารถมองเห็นได้
วิทยาศาสตร์เบื้องหลังแสงเหนือ
แสงเหนือเริ่มต้นที่ดวงอาทิตย์ การระเบิดอย่างเช่นเปลวสุริยะและการปล่อยมวลโคโรนา จะปล่อยอนุภาคประจุไฟฟ้าออกสู่อวกาศ เมื่ออนุภาคเหล่านี้เดินทางมาถึงโลก สนามแม่เหล็กโลกจะดึงพวกมันไปยังขั้วโลก เมื่ออนุภาคเหล่านี้ชนกับอะตอมออกซิเจนและไนโตรเจนในชั้นบรรยากาศที่อยู่สูง อะตอมจะปล่อยแสงออกมา กลายเป็นแสงเหนือ
แสงเหนือเกิดขึ้นทั้งสองขั้วโลก ออโรราโบเรียลิสที่ขั้วโลกเหนือ และออโรราออสตราลิสที่ขั้วโลกใต้ ไอซ์แลนด์ตั้งอยู่ที่ละติจูด 64°N อยู่ใต้แนววงรีแสงเหนือโดยตรง จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับชมแสงเหนือ
สีของแสงเหนือขึ้นอยู่กับชนิดของก๊าซและระดับความสูง:
-
สีเขียว – ออกซิเจนที่ระดับความสูงต่ำ (พบมากที่สุด)
-
สีแดง – ออกซิเจนที่ระดับความสูงมาก ในช่วงพายุสุริยะรุนแรง
-
สีน้ำเงินและม่วง – โมเลกุลไนโตรเจนทำปฏิกิริยากับอนุภาคสุริยะ
กิจกรรมบนดวงอาทิตย์มีวัฏจักร 11 ปี ตั้งแต่ช่วงเงียบสงบไปจนถึงจุดสูงสุดที่เรียกว่าโซลาร์แม็กซิมัม วัฏจักรสุริยะที่ 25 เริ่มต้นในปี 2019 และถึงจุดสูงสุดในปี 2025 ทำให้เกิดพายุแสงเหนือที่ทรงพลังทั่วไอซ์แลนด์ ช่วงพีคนี้จะต่อเนื่องไปถึงปี 2026 นักท่องเที่ยวจึงสามารถคาดหวังการแสดงแสงเหนือที่ถี่และสดใสในปีต่อไปได้เช่นกัน!
ตำนานและเรื่องเล่าเกี่ยวกับแสงเหนือในไอซ์แลนด์
ก่อนที่วิทยาศาสตร์จะอธิบายที่มาของแสงเต้นระบำบนท้องฟ้าได้ ผู้คนในแต่ละพื้นที่ต่างก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับต้นกำเนิดของมันอย่างหลากหลาย แปลกที่ตำนานเกี่ยวกับแสงเหนือจะมีความหลากหลายในพื้นที่อื่น ๆ ของโลกมากกว่าในไอซ์แลนด์
นักวิชาการสมัยใหม่สันนิษฐานว่าชาวนอร์สโบราณอาจเชื่อว่าแสงเหนือคือแสงสะท้อนจากโล่และชุดเกราะของเหล่าวัลคีรี วัลคีรีเป็นเทพีที่นำวิญญาณนักรบที่เสียชีวิตในสนามรบไปยังวัลฮัลลา อย่างไรก็ตาม ไม่มีการกล่าวถึงแสงเหนือในมหากาพย์หรือซากาของไอซ์แลนด์ในสมัยโบราณ ดังนั้นจึงเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น
ในภาษาฟินแลนด์ คำว่าแสงเหนือคือ "revontulet" ซึ่งแปลว่า "สุนัขจิ้งจอกไฟ" ชาวซามิในแลปแลนด์ของฟินแลนด์เชื่อว่าแสงเหนือเกิดจากสุนัขจิ้งจอกไฟวิ่งข้ามหิมะอย่างรวดเร็วจนหางของมันสะบัดประกายไฟขึ้นสู่ท้องฟ้า
แสงเหนือยังเคยถูกมองว่าเป็นลางร้าย หลังจากยุโรปเข้าสู่ยุคคริสต์ศาสนาในยุคกลาง ผู้คนมองว่ามันเป็นสัญญาณเตือนถึงช่วงเวลาที่มืดมนที่จะมาถึง
ปัจจุบัน เราเข้าใจว่าแสงเหนือคือผลลัพธ์อันงดงามของพลังธรรมชาติระหว่างดวงอาทิตย์กับสนามแม่เหล็กโลก อย่างไรก็ตาม แสงเรืองรองอันน่าหลงใหลนี้ยังคงสร้างแรงบันดาลใจและความพิศวงให้กับผู้คนเหมือนเช่นในอดีต
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์คือเมื่อไหร่?

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์ คือระหว่างปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนเมษายน แม้บางครั้งจะสามารถเห็นได้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม แต่แสงอาทิตย์ที่ยังคงอยู่ทำให้แสงเหนือจางมาก
กฎทั่วไปคือ ยิ่งมืดมากเท่าไหร่ โอกาสเห็นแสงเหนือที่สดใสก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ไอซ์แลนด์ในฤดูหนาวจะมืดมาก โดยเฉพาะช่วงใกล้วันเหมายัน (21 ธันวาคมของทุกปี) ที่มีความมืดนานถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน
ทำความเข้าใจพยากรณ์แสงเหนือ
มีสองสิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญเมื่อดูพยากรณ์แสงเหนือในไอซ์แลนด์:
-
เมฆปกคลุม - ท้องฟ้าแจ่มใสคือปัจจัยแรกที่ต้องมี แม้แสงเหนือจะรุนแรงแค่ไหนก็ไม่สามารถมองเห็นได้หากมีเมฆหนา ยิ่งเมฆน้อย โอกาสเห็นก็ยิ่งมาก
-
ดัชนี Kp - มาตราส่วน 0–9 นี้ใช้วัดกิจกรรมทางภูมิศาสตร์แม่เหล็ก และเป็นเครื่องมือที่บอกการคาดการณ์ว่าแสงเหนือจะเข้มข้นแค่ไหน ตัวเลขยิ่งสูง แสงเหนือยิ่งสว่างและเห็นได้กว้างขึ้น
บนแผนที่ สีเขียวแสดงพื้นที่ที่มีเมฆปกคลุม ส่วนสีขาวคือท้องฟ้าแจ่มใส ดัชนี Kp จะแสดงอยู่ในกรอบด้านขวา โปรดทราบว่าพยากรณ์นี้ดูได้ล่วงหน้าสูงสุด 3 วันเท่านั้น เพราะการคาดการณ์ระยะยาวไม่แม่นยำ
ดัชนี Kp คืออะไร: แสงเหนือจะแรงแค่ไหน?
คำอธิบายดัชนี Kp:
-
Kp 0 - เงียบสนิท: ไม่มีการเคลื่อนไหวของสนามแม่เหล็ก ไม่เห็นแสงเหนือ
-
Kp 1 - เงียบมาก: โอกาสเห็นแสงเหนือน้อยมาก แต่เป็นไปได้ใกล้ขั้วโลก
-
Kp 2 - เงียบ: อาจเห็นแสงเหนือจาง ๆ หากท้องฟ้ามืดและแจ่มใส
-
Kp 3 - ไม่สงบ: มีโอกาสเห็นแสงเหนือสม่ำเสมอ แต่จะจางใกล้แสงไฟในเมือง
-
Kp 4 - กำลังเคลื่อนไหว: มีโอกาสเห็นแสงเหนือสว่าง แม้จะมีแสงไฟรบกวนบ้าง
-
Kp 5 - พายุเล็กน้อย: มีโอกาสเห็นแสงเหนือเข้มข้น มักมีมากกว่าหนึ่งสี
-
Kp 6 - พายุปานกลาง: แสงเหนือหลากสีสดใส เห็นได้กว้างและมีการเคลื่อนไหว
-
Kp 7 - พายุรุนแรง: แสงเหนือเข้มข้น เคลื่อนไหวเร็วและหลากสี
-
Kp 8 - พายุรุนแรงมาก: เหตุการณ์หายากมาก ท้องฟ้าทั้งหมดสว่างด้วยสีสันที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
-
Kp 9 - พายุประวัติศาสตร์: พายุรุนแรงที่สุด แสงเหนือสว่างจนส่องสว่างทั่วภูมิประเทศ
โปรดจำไว้ว่าดัชนี Kp เป็นเพียงการคาดการณ์ เช่นเดียวกับพยากรณ์อากาศ ดัชนี Kp เกิน 5 ถือเป็นเหตุการณ์หายาก แม้ Kp สูงก็ไม่ได้รับประกันว่าจะเห็นแสงเหนือ และ Kp ต่ำก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีแสงเหนือ
หากท้องฟ้ามืดและปลอดเมฆ ก็ควรออกไปดูเป็นระยะ ๆ เพราะบางครั้งแสงเหนือที่สวยที่สุดก็มักจะปรากฏขึ้นโดยไม่คาดคิด
นอกเหนือจากดัชนี Kp: เครื่องมือพยากรณ์แสงเหนือขั้นสูง
หากคุณต้องการข้อมูลมากกว่าท้องฟ้าและดัชนี Kp ยังมีเครื่องมือเพิ่มเติมที่ช่วยให้คุณประเมินโอกาสเห็นแสงเหนือในไอซ์แลนด์ได้แม่นยำขึ้น:
-
ค่าคอมโพเนนต์ Bz: ลมสุริยะจะพาอนุภาคประจุไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์มายังโลก และอนุภาคเหล่านี้จะมีสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ติดมาด้วย ค่า Bz จะบอกว่าสนามแม่เหล็กนั้นชี้ไปในทิศทางที่เอื้อต่อการเกิดแสงเหนือหรือไม่ ค่า Bz ติดลบ = ดี, ค่า Bz บวก = ไม่ดีนัก
-
ความเร็วลมสุริยะ: ลมสุริยะคือกระแสอนุภาคประจุไฟฟ้าที่พัดออกจากดวงอาทิตย์ หากเคลื่อนที่เร็วขึ้น จะกระตุ้นสนามแม่เหล็กโลกให้เกิดแสงเหนือมากขึ้น ความเร็วปกติอยู่ที่ 300–400 กม./วินาที แต่ถ้าเกิน 500 กม./วินาที โอกาสเห็นแสงเหนือสว่างจะเพิ่มขึ้น
-
โมเดล OVATION: เป็นแบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่ใช้ข้อมูลลมสุริยะแบบเรียลไทม์ เพื่อทำนายกิจกรรมแสงเหนือใน 30–90 นาทีข้างหน้า โดยจะแสดงเป็นแผนที่โลกพร้อมวงรีเรืองแสงรอบขั้วโลก วงรีที่สว่างและใหญ่ขึ้นเหนือพื้นที่ของคุณ หมายถึงโอกาสเห็นแสงเหนือสูงขึ้น
คุณสามารถตรวจสอบค่าคอมโพเนนต์ Bz และความเร็วลมสุริยะได้ที่ NOAA’s Real-Time Solar Wind dashboard และดูโมเดล OVATION ได้ที่ NOAA’s Aurora 30-Minute Forecast map
แอปพยากรณ์แสงเหนือยอดนิยมสำหรับไอซ์แลนด์
นอกจากพยากรณ์แสงเหนือของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาไอซ์แลนด์แล้ว ยังมีแอปมือถือหลายตัวที่ช่วยติดตามและค้นหาแสงเหนือได้:
-
Hello Aurora – แอปที่พัฒนาในไอซ์แลนด์ มีพยากรณ์แสงเหนือแบบเรียลไทม์ ข้อมูลเมฆปกคลุม ลมสุริยะ และรายงานสดจากผู้ใช้ในพื้นที่เดียวกัน ดาวน์โหลดได้ที่ Hello Aurora บน App Store และ Hello Aurora บน Google Play
-
My Aurora Forecast & Alerts – แอปยอดนิยมระดับโลกที่ให้ข้อมูลดัชนี Kp พยากรณ์ลมสุริยะ และแจ้งเตือนแบบปรับแต่งได้ ดาวน์โหลดได้ที่ My Aurora Forecast & Alerts บน App Store และ My Aurora Forecast & Alerts บน Google Play
หากต้องการเพิ่มโอกาสในการพบแสงเหนือในไอซ์แลนด์ เคล็ดลับของคนท้องถิ่นคือเข้าร่วมกลุ่มล่าแสงเหนือใน Facebook หรือฟอรั่มชุมชนต่าง ๆ ซึ่งมักจะมีการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เมื่อแสงเหนือปรากฏ ช่วยให้คุณไม่ต้องรอข้างนอกนานโดยเปล่าประโยชน์
คุณยังสามารถดูภาพถ่ายทอดสดจากกล้องเว็บแคมทั่วไอซ์แลนด์ที่ส่องท้องฟ้ายามค่ำคืน เพื่อเช็คแบบเรียลไทม์ว่าแสงเหนือปรากฏหรือไม่ก่อนออกไปข้างนอก
ทำไมปี 2025 และ 2026 จึงเป็นปีทองของแสงเหนือในไอซ์แลนด์
ทั้งปี 2025 และ 2026 ถือเป็นปีที่ดีที่สุดในรอบกว่าทศวรรษสำหรับการชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์ เพราะดวงอาทิตย์เข้าสู่จุดสูงสุดของวัฏจักรสุริยะ 11 ปี หรือโซลาร์แม็กซิมัม ในช่วงนี้กิจกรรมสุริยะจะรุนแรงมากขึ้น ทำให้แสงเหนือสว่างและเกิดบ่อยขึ้น
นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า วัฏจักรสุริยะที่ 25 เริ่มในเดือนธันวาคม 2019 และขณะนี้อยู่ที่จุดสูงสุด ตามข้อมูลของ NASA และ NOAA พยากรณ์ล่าสุดจาก NOAA Space Weather Prediction Center ระบุว่าวัฏจักรนี้มีความรุนแรงกว่าที่คาดไว้ โดยมีสภาพที่เหมาะสมต่อเนื่องไปถึงปี 2025 และ 2026
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนในปี 2025 นี้ ต่างได้เห็นพายุแสงเหนืออันตระการตาทั่วไอซ์แลนด์ รวมถึงแสงเหนือสีแดงและม่วงที่หายาก ตามรายงานของ NOAA วัฏจักรสุริยะที่ 25 ยังคงอยู่ในช่วงพีค และคาดว่ากิจกรรมแม่เหล็กโลกจะยังคงสูงต่อเนื่องไปถึงปี 2026 ทำให้ผู้มาเยือนยังมีโอกาสดีในการชมแสงเหนืออีกหนึ่งฤดูกาล
หลังปี 2026 กิจกรรมสุริยะจะค่อย ๆ ลดลงจนถึงช่วงโซลาร์มินิมัม หรือช่วงต่ำสุดครั้งต่อไปในราวปี 2031 ดังนั้นฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้จึงเป็นโอกาสพิเศษในการชมแสงเหนือที่ทรงพลังที่สุดในไอซ์แลนด์
วิธีชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์
เมื่อรู้ช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือเลือกวิธีที่ดีที่สุดในการชมออโรราโบเรียลิสในไอซ์แลนด์ โดยทั่วไปมี 4 วิธีหลักในการชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์:
-
ร่วมทัวร์พร้อมไกด์ เช่น ทัวร์แสงเหนือราคาประหยัดด้วยรถบัส
-
ขับรถออกนอกเมืองไปค้นหาแสงเหนือด้วยรถเช่าราคาประหยัด
-
ล่าแสงเหนือในเมืองที่คุณพักอยู่
-
ออกเรือไปในทะเลกับทัวร์ล่องเรือ เช่น ทัวร์แสงเหนือทางเรือ 2 ชั่วโมงสุดประทับใจ
เราจะอธิบายแต่ละวิธีด้านล่าง โดยเริ่มจากสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์
สถานที่ชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์
“จะชมแสงเหนือที่ไหนในไอซ์แลนด์?” เป็นคำถามยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทาง หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย คุณสามารถเห็นแสงเหนือได้ทั่วไอซ์แลนด์ แต่บางแห่งจะชมได้ง่ายและสวยงามกว่าที่อื่น
ควรพิจารณาสถานที่พักในไอซ์แลนด์หากคุณต้องการล่าแสงเหนือ โดยทั่วไปควรเลือกที่ที่มีแสงไฟรบกวนและเมฆปกคลุมน้อยที่สุด
สถานที่ธรรมชาติอันงดงามหลายแห่งของไอซ์แลนด์เป็นจุดชมแสงเหนือยอดนิยม เช่น อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) ในไอซ์แลนด์ตะวันตกเฉียงใต้ แคนยอนอาสบิร์กิ (Asbyrgi) ในไอซ์แลนด์เหนือ และภูเขาคิร์กจูเฟลล์ (Kirkjufell) บนคาบสมุทรสไนแฟลซเนส (Snæfellsnes)
อ่านต่อสำหรับสถานที่ชมแสงเหนือที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์
แสงเหนือในไอซ์แลนด์เหนือ

ไอซ์แลนด์เหนือมีช่วงเวลามืดนานกว่าและเมฆปกคลุมน้อยกว่าพื้นที่อื่น ๆ จึงเป็นภูมิภาคที่เหมาะที่สุดสำหรับชมแสงออโรราโบเรียลิส
ข้อยกเว้นเดียวคืออาคูเรย์รี (Akureyri) เพราะเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของไอซ์แลนด์ แม้จะสามารถเห็นแสงเหนือในอาคูเรย์รีได้ แต่แสงไฟในเมืองทำให้มองเห็นได้ไม่ชัด อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเลือกใช้บริการทัวร์ล่าแสงเหนือจากอาคูเรย์รี ที่จะพาคุณออกไปยังจุดชมแสงเหนือที่ห่างไกลแสงไฟในเมือง!
-
ดูเพิ่มเติม: 13 กิจกรรมยอดนิยมในอาคูเรย์รี (และบริเวณใกล้เคียง)
แสงเหนือในไอซ์แลนด์ใต้
สถานที่สวยงามมากมายตลอดชายฝั่งทางใต้ (South Coast) ของไอซ์แลนด์ก็เป็นจุดชมแสงเหนือที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน จุดที่ดีที่สุดคือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon Glacier Lagoon) ซึ่งตั้งอยู่ข้าง ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajokull)
คุณสามารถขับรถไปยังทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนโดยใช้ถนนวงแหวน (Ring Road) จากวิก (Vik) หรือเลือกหนึ่งในหาดทรายดำของไอซ์แลนด์ใต้เพื่อชมแสงเหนือเต้นระบำบนท้องฟ้า
ตั้งแคมป์ในไอซ์แลนด์เพื่อชมแสงเหนือ
สถานที่ชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมคือแคมป์ไซต์และสถานที่แกลมปิ้ง อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ตั้งแคมป์ในไอซ์แลนด์เฉพาะระหว่างเดือนเมษายนถึงกันยายนเท่านั้น เพราะฤดูหนาวจะหนาวจัด หากเดินทางในฤดูใบไม้ร่วงหรือต้นฤดูใบไม้ผลิและมีรถแคมเปอร์แวนหรือรถบ้านให้เช่าพร้อมเครื่องทำความร้อน แต่ควรหลีกเลี่ยงวิธีนี้ในช่วงพีคของฤดูหนาว
แคมป์ไซต์ส่วนใหญ่อยู่ในชนบท จึงมีแสงไฟรบกวนน้อยมาก ในช่วงต้นเดือนเมษายนและปลายเดือนสิงหาคม นักท่องเที่ยวอาจมีโอกาสเห็นแสงเหนือ ส่วนช่วงอื่นของฤดูตั้งแคมป์จะสว่างเกินไปสำหรับแสงเหนือ
แน่นอนว่า แม้จะพยายามทุกวิธีแล้วก็ยังอาจพลาดแสงเหนือได้ หรืออาจเห็นแสงเหนือขณะอยู่บนเครื่องบินเหนือไอซ์แลนด์ หรือระหว่างขับรถจากสนามบินเคฟลาวิก (Keflavik Airport) โปรดจำไว้ว่าความโชคดีเป็นปัจจัยสำคัญในการล่าแสงเหนือในไอซ์แลนด์
-
อ่านเกี่ยวกับ การตั้งแคมป์ในไอซ์แลนด์
วิธีชมแสงเหนือในเรคยาวิก

แม้จะมาเยือนแค่เมืองหลวง คุณก็ยังมีโอกาสเห็นแสงเหนือในเรคยาวิก (Reykjavik) ได้เช่นกัน เมื่อจองโรงแรมในเรคยาวิก คุณจะมีตัวเลือกมากมายในการชมแสงเหนือ ทั้งในเมืองและนอกเมือง
วิธีที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือในเรคยาวิกก็เหมือนกับที่อื่นในไอซ์แลนด์ คือหาสถานที่ที่มืดที่สุดและท้องฟ้าแจ่มใส จากนั้นรอให้สายตาปรับเข้ากับความมืด
เรคยาวิกมีสวนสาธารณะหลายแห่งที่ช่วยลดแสงไฟรบกวนและเพิ่มโอกาสในการเห็นแสงเหนือ อ่านต่อสำหรับสถานที่ชมออโรราโบเรียลิสที่ดีที่สุดในเรคยาวิก
-
ดูเพิ่มเติม: สถานที่ชมแสงเหนือที่ดีที่สุดในเรคยาวิก
คาบสมุทรเซลท์ยาร์นาร์เนส (Seltjarnarnes Peninsula)
คาบสมุทรเซลท์ยานาร์เนส เป็นจุดเหนือสุดทางตะวันตกเฉียงเหนือของเขตเมืองหลวง มีแสงไฟรบกวนน้อยมากตลอดแนวนี้ หากท้องฟ้าแจ่มใสและพยากรณ์ดี คุณมีโอกาสสูงที่จะได้เห็นแสงเหนือ หนึ่งในฉากหลังที่ดีที่สุดของเรคยาวิกสำหรับชมแสงเหนือก็คือที่ประภาคารกรอตตา (Grotta)
บนคาบสมุทรนี้ยังมีบ่อน้ำร้อนเล็ก ๆ ชื่อว่าควิกา (Kvika Foot Bath) ที่คุณสามารถแช่เท้าให้อุ่นขณะรอชมแสงเหนือได้อีกด้วย
เนินเขาออสจูห์ลิด (Oskjuhlid)
เนินเขาออสจูห์ลิดก็เป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมสำหรับล่าแสงเหนือในไอซ์แลนด์ ป่าไม้ที่ล้อมรอบพิพิธภัณฑ์เพอร์ลาน (Perlan Museum) นั้นมืดมาก ทำให้การชมท้องฟ้าจากช่องว่างในป่ามักให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม
สวนสาธารณะในเรคยาวิก
คุณสามารถหาพื้นที่ค่อนข้างมืดได้ตามสวนสาธารณะในเรคยาวิก ตัวเลือกยอดนิยม เช่น แคลมบราทุน (Klambratun), ฮลโยมสกาลาการ์ดูร์ (Hljomskalagardur) หรือ
เอลิดาอาร์ดาลูร์ (Ellidaardalur) ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่ สองแห่งแรกสามารถเดินจากใจกลางเมืองได้ แต่เอลิดาอาร์ดาลูร์อาจจะต้องขับรถเช่าไป
ข้อเสียของการล่าแสงเหนือในเรคยาวิก

ภาพจาก Wikimedia, Creative Commons, by sergejf ไม่ได้มีการแก้ไขใด ๆ แสงเหนือเหนือเรคยาวิก
น่าเสียดายที่การพยายามชมแสงเหนือในเขตเมืองของไอซ์แลนด์มีข้อเสียอยู่หลายประการ:
-
ในเมืองและชุมชนจะมีมลภาวะทางแสงมากกว่าธรรมชาติที่ยังไม่ถูกรบกวนในชนบทของไอซ์แลนด์เสมอ
-
หากมีเมฆบังทัศนียภาพที่ดีที่สุดของแสงเหนือ คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อหามุมมองที่เหมาะสมได้
แต่หากแสงเหนือสว่างมาก คุณก็อาจเห็นได้จากในเมือง แม้จะมีมลภาวะทางแสง เช่น จากสวนหลังบ้าน โรงแรมในเรคยาวิก หรือแม้แต่ริมถนน แต่ยิ่งรอบข้างมืดมากเท่าไร สีสันของแสงเหนือก็จะยิ่งเข้มข้นขึ้นเท่านั้น
เพื่อเพิ่มโอกาสในการชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์ เราขอแนะนำให้คุณเลือกทัวร์พร้อมไกด์ที่จะพาคุณไปยังจุดชมที่ดีที่สุดโดยตรง
สามารถชมแสงเหนือจากบลูลากูนได้หรือไม่?
ใช่ คุณอาจโชคดีได้เห็นแสงเหนือจากบลูลากูน (Blue Lagoon) เช่นเดียวกับการชมแสงเหนือที่อื่น ๆ ในไอซ์แลนด์ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและกิจกรรมของดวงอาทิตย์
เนื่องจากบลูลากูนตั้งอยู่นอกเมือง จึงมีมลภาวะทางแสงน้อยกว่าในเรคยาวิก แต่เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม คุณต้องจองบัตรเข้าบลูลากูนล่วงหน้า แต่การจองล่วงหน้านี้ทำให้คุณอาจไม่สามารถปรับเปลี่ยนวันเข้าใช้บริการได้หากสภาพอากาศไม่เหมาะกับการชมแสงเหนือ
ดังนั้น โอกาสที่จะได้เห็นแสงเหนือขณะกำลังแช่น้ำแร่ที่นี่จึงขึ้นอยู่กับโชคเป็นหลัก ลองพิจารณาไปเยือนบ่อน้ำร้อนและสระน้ำร้อนธรรมชาติแห่งอื่น ๆ ทั่วไอซ์แลนด์ เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมการอาบน้ำแบบไอซ์แลนด์และอาจได้ชมแสงเหนือไปพร้อมกัน
-
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบลูลากูนของไอซ์แลนด์: คู่มือท่องเที่ยวฉบับสมบูรณ์
-
ดูเพิ่มเติม: บลูลากูนหรือสกายลากูน: ควรไปที่ไหน?
การถ่ายภาพแสงเหนือในไอซ์แลนด์
การถ่ายภาพแสงเหนืออาจเป็นเรื่องท้าทาย โทรศัพท์ส่วนใหญ่ไม่สามารถเก็บความงดงามของแสงเหนือได้ดีนัก และภาพถ่ายส่วนใหญ่ที่เห็นในที่นี้ถ่ายด้วยกล้องถ่ายรูป หากคุณอยากลองถ่ายเอง นี่คือสรุปแบบรวดเร็ว:
-
ใช้กล้อง DSLR หรือกล้องฟูลเฟรมที่สามารถปรับ ISO ได้ กล้องมิเรอร์เลสก็ใช้ได้เช่นกันแต่ไม่เหมาะเท่า
-
ใช้เลนส์มุมกว้าง (หรืออัลตร้าไวด์) ด้วย
-
ใช้ขาตั้งกล้องและรีโมทชัตเตอร์เพื่อให้กล้องนิ่ง
-
ตั้งค่า ISO ประมาณ 1,600 และรูรับแสง f/2.8 หรือต่ำกว่า
การถ่ายภาพเป็นศิลปะ และค่าต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเพียงแนวทาง หากคุณไม่มั่นใจ สามารถเข้าร่วมทัวร์แสงเหนือพร้อมช่างภาพ เพื่อได้ภาพถ่ายแสงเหนือและความงามของไอซ์แลนด์ในฤดูหนาวที่ดีที่สุด
-
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีถ่ายภาพแสงเหนือ
แอปถ่ายภาพแสงเหนือด้วยสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด
โดยปกติแล้ว คุณจะไม่สามารถถ่ายภาพแสงเหนือให้มีคุณภาพสูงด้วยโทรศัพท์มือถือได้ แต่ไม่ต้องกังวลหากไม่มีกล้องถ่ายรูป กล้องมือถือสมัยนี้พัฒนาขึ้นมาก แม้จะยังเทียบกับกล้อง DSLR ไม่ได้ แต่ก็มีแอปที่ช่วยให้คุณได้ภาพดี ๆ อยู่บ้าง เช่น:
แอปเหล่านี้จะช่วยลดความเร็วชัตเตอร์หรือรวมหลายภาพเข้าด้วยกันเป็นภาพเดียว แนะนำให้อ่านรีวิวและเลือกแอปที่เหมาะกับคุณที่สุด
-
ดูเพิ่มเติม: 10 แอปยอดนิยมสำหรับเดินทางในไอซ์แลนด์
ล่าแสงเหนือกับทัวร์พร้อมไกด์ในไอซ์แลนด์
วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการล่าแสงเหนือในไอซ์แลนด์คือการเข้าร่วมทัวร์มินิบัสล่าแสงเหนือจากเรคยาวิก ความคล่องตัวและราคาที่เข้าถึงได้ทำให้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์
ทัวร์เหล่านี้จะจัดขึ้นเป็นประจำตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเมษายน เมื่อแสงเหนือสามารถมองเห็นได้ หากทัวร์ถูกยกเลิกหรือไม่ประสบความสำเร็จ บริษัททัวร์มักจะให้โอกาสคุณไปชมอีกครั้งฟรี
ข้อดีของการเลือกทัวร์ล่าแสงเหนือ:
-
คุณจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านแสงเหนือ
-
คุณสามารถเคลื่อนที่ไปยังจุดที่พยากรณ์อากาศดีที่สุดและมีเมฆน้อยที่สุดได้
-
ไม่ต้องกังวลเรื่องการขับรถในฤดูหนาวของไอซ์แลนด์
-
แถมยังได้ไปยังสถานที่และภูมิประเทศที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
หากคุณอยากผจญภัยเต็มรูปแบบในฤดูหนาว ทริป 3 วันในไอซ์แลนด์แพ็กเกจนี้ นอกจากล่าแสงเหนือแล้ว ยังรวมถึงการเที่ยวชายฝั่งทางใต้ในฤดูหนาว ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน วงกลมทองคำ และการเดินธารน้ำแข็งสุดตื่นเต้น
สำหรับผู้ที่มีงบจำกัด สามารถเข้าร่วมทัวร์รถบัสล่าแสงเหนือจากเรคยาวิก ซึ่งจะพาคุณไปยังจุดที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือมากที่สุดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง คุณยังสามารถจองทัวร์แบบนี้ที่อาคูเรย์รี (Akureyri) ได้เช่นกัน เช่น ทัวร์ล่าแสงเหนือใกล้ทะเลสาบมิวาทน์ (Lake Myvatn)

สำหรับผู้ที่ไม่กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย หรืออยากได้ประสบการณ์ส่วนตัวและลึกซึ้งมากขึ้น สามารถเลือกทัวร์ล่าแสงเหนือแบบส่วนตัวจากเรคยาวิก ที่มีรถและคนขับส่วนตัวให้บริการ
ด้วยกลุ่มขนาดเล็ก คุณจะมีโอกาสพูดคุยกับไกด์มากขึ้น และมีคนน้อยขณะชมแสงเหนือ อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงสถานที่ห่างไกลที่รถบัสใหญ่ไปไม่ถึงได้ด้วย
การผสมผสานทัวร์ล่าแสงเหนือกับประสบการณ์อื่น ๆ ก็เป็นสิ่งที่น่าประทับใจ เช่น ทัวร์แสงเหนือและวงกลมทองคำจากเรคยาวิก
หากคุณไม่ชอบทัวร์กลุ่ม แนะนำให้ลองทัวร์ขับรถล่าแสงเหนือด้วยตัวเอง 1 สัปดาห์ เพื่อให้คุณล่าแสงเหนือได้ตามจังหวะของตัวเอง แต่คุณจะต้องขับรถในสภาพอากาศหนาวและอาจมีหิมะ
ล่าแสงเหนือด้วยรถเช่าในไอซ์แลนด์
หากคุณมีใบขับขี่ที่ใช้ตัวอักษรละติน คุณสามารถล่าแสงเหนือด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยการเช่ารถ ในการขับรถในไอซ์แลนด์ช่วงฤดูหนาว แนะนำให้เช่ารถ 4x4 เพราะสภาพถนนอาจท้าทาย
ข้อดีคือคุณจะไม่มีคนอื่นมารบกวน ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา และสามารถเลือกจุดชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์ได้เอง

ก่อนตัดสินใจขับรถเที่ยวเองในฤดูหนาว ควรตระหนักว่าการขับรถในไอซ์แลนด์ช่วงฤดูหนาวอาจยาก นี่คือสิ่งที่ควรจำไว้:
-
ถนนส่วนใหญ่จะไม่มีน้ำแข็งในเดือนกันยายน ตุลาคม และเมษายน แต่จะขับยากขึ้นในช่วงพฤศจิกายนถึงมีนาคม
-
รถเช่าทุกคันในไอซ์แลนด์จะมีล้อยางตะปูในฤดูหนาว แม้คุณจะขับรถคล่องอยู่แล้ว ก็ยังแนะนำให้เช่ารถขับเคลื่อนสี่ล้อ
-
ควรตรวจสอบสภาพถนน และพยากรณ์อากาศ ก่อนออกเดินทาง เพื่อให้แน่ใจว่าจุดหมายปลายทางของคุณเข้าถึงได้
-
หากคุณไม่มีประสบการณ์ขับรถในหิมะหรือพื้นที่ชนบทมากนัก อาจรู้สึกสบายใจกว่าเมื่อเลือกเข้าร่วมทัวร์พร้อมไกด์
ควรประเมินทักษะการขับรถของตัวเองอย่างเป็นจริง เพราะไม่ควรเสี่ยงโดยไม่จำเป็น
-
อ่านเพิ่มเติม ขับรถในไอซ์แลนด์: คู่มือขับรถเที่ยวฉบับสมบูรณ์
-
ดูเพิ่มเติม: คำแนะนำการเช่ารถในไอซ์แลนด์
ล่าแสงเหนือด้วยเรือในไอซ์แลนด์

อีกหนึ่งวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสัมผัสปรากฏการณ์แสงเหนือในไอซ์แลนด์คือล่องเรือล่าแสงเหนือจากเรคยาวิก
ทัวร์ล่องเรือจะพาคุณออกไปในทะเล ห่างไกลจากมลภาวะทางแสง ให้โอกาสดีในการชมแสงเหนือ โดยเรือจะตรงไปยังอ่าวฟาซาโฟลอิ (Faxafloi Bay) จากท่าเรือเรคยาวิก
คุณไม่ต้องเดินทางไกลจากท่าเรือก็จะพ้นแสงไฟเมืองและมีโอกาสเห็นแสงเหนือ แม้จะไม่คล่องตัวเท่าทัวร์รถบัสหรือซูเปอร์จี๊ป แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

อย่างไรก็ตาม ข้อดีหลักของการล่องเรือไม่ใช่แค่การล่าแสงเหนือ แต่คือการได้ออกไปกลางทะเล ท่ามกลางภูมิทัศน์สวยงามและลอยอยู่ใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
หากไม่มีแสงเหนือให้ชม ทัวร์ส่วนใหญ่จะให้โอกาสคุณไปอีกครั้งฟรี
การล่องเรือล่าแสงเหนือในอ่าวฟาซาโฟลอิอาจได้ประสบการณ์ชมวาฬเป็นของแถมด้วย เช่น ทัวร์ชมวาฬและแสงเหนือจากเรคยาวิก หรือทัวร์คอมโบจากอาคูเรย์รี
เพราะวาฬพบได้บ่อยตามชายฝั่งไอซ์แลนด์ และทั้งสองอ่าวนี้เป็นถิ่นของโลมาปากขาวและพอร์พอยส์ วาฬมิงก์พบได้บ่อยจากเรคยาวิก ส่วนวาฬหลังค่อมจะพบในน่านน้ำทางเหนือมากกว่า แม้โดยปกติจะเห็นในฤดูร้อน
-
อ่านเพิ่มเติม คู่มือชมวาฬในไอซ์แลนด์
แต่งตัวอย่างไรเมื่อล่าแสงเหนือในไอซ์แลนด์

เมื่อเตรียมตัวล่าแสงเหนือในไอซ์แลนด์ การแต่งกายให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะอากาศที่นี่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดและมักจะหนาวเย็น คุณอาจต้องยืนกลางแจ้งเป็นเวลานาน ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อมไว้ดีกว่า!
การใส่เสื้อผ้าหลายชั้นเป็นกุญแจสำคัญ เริ่มจากชั้นในที่เป็นผ้ากันหนาวเพื่อเก็บความร้อน ตามด้วยชั้นกลางที่ให้ความอบอุ่น เช่น เสื้อขนเป็ดหรือเสื้อขนแกะ และชั้นนอกที่กันน้ำกันลมเพื่อปกป้องคุณจากสภาพอากาศ ให้คุณชมท้องฟ้ายามค่ำคืนได้อย่างสบาย
รองเท้าก็สำคัญมาก ควรเลือกรองเท้าบูทที่บุฉนวนและกันน้ำได้ ให้ความอบอุ่นและยึดเกาะพื้นน้ำแข็งหรือหิมะได้ดี อย่าลืมถุงเท้าขนสัตว์ ถุงมือ และหมวกดี ๆ เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนจากปลายมือปลายเท้า แนะนำให้พกกระติกน้ำร้อนใส่เครื่องดื่มอุ่น ๆ ไปด้วย จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นจากภายใน
อย่าลืมเช็กพยากรณ์อากาศและเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับสภาพอากาศในคืนนั้น เพื่อให้ประสบการณ์ล่าแสงเหนือของคุณทั้งน่าจดจำและอบอุ่นสบาย
-
ดูเพิ่มเติม: ควรเตรียมอะไรไปไอซ์แลนด์ในแต่ละฤดู
แสงเหนือในไอซ์แลนด์มีให้ชมแน่นอนหรือไม่?
การจะได้เห็นแสงเหนือในไอซ์แลนด์ต้องอาศัยทั้งความอดทน โชค และเงื่อนไขเหล่านี้:
-
ต้องมาเยือนระหว่างเดือนกันยายนถึงเมษายน แม้บางครั้งจะเห็นได้ปลายเดือนสิงหาคม แต่แสงอาทิตย์ที่ยังคงอยู่ทำให้แสงเหนือจางมาก
-
ต้องเป็นคืนที่มืดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น หากพระจันทร์เต็มดวง แสงเหนือจะดูจางลง
-
ควรหลีกเลี่ยงแสงไฟฟ้าให้มากที่สุด (อย่าชมแสงเหนือใต้ไฟฟ้าที่ส่องสว่าง)
-
ควรมีเมฆน้อยที่สุด เพราะแสงเหนือเกิดสูงกว่าชั้นเมฆในบรรยากาศโลก
-
ต้องมีกิจกรรมของดวงอาทิตย์เพียงพอ ค่าพยากรณ์แสงเหนือวัดด้วยดัชนี Kp ที่มีตั้งแต่ระดับ 0-9 โดยค่าตั้งแต่ 2 ขึ้นไปมักจะเห็นได้ดีที่ละติจูดของไอซ์แลนด์
คุณสามารถเช็กสองเงื่อนไขสุดท้ายนี้ได้ก่อนออกล่าแสงเหนือ โดยดูจากพยากรณ์เมฆ และพยากรณ์แสงเหนือในไอซ์แลนด์ อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถรู้ล่วงหน้ามากกว่าสองสามวันได้
ความเชื่อที่ว่า อากาศยิ่งหนาวยิ่งมีโอกาสเกิดแสงเหนือนั้นไม่จริง อากาศหนาวไม่มีผลต่อการเกิดแสงเหนือในไอซ์แลนด์
แม้ทุกเงื่อนไขจะดูเหมาะสม แต่ธรรมชาติก็ยังคาดเดาไม่ได้อยู่ดี และแสงเหนืออาจไม่ปรากฏให้เห็น มันเป็นเรื่องของความน่าจะเป็น ดังนั้นวิธีเพิ่มโอกาสชมแสงเหนือในไอซ์แลนด์คืออยู่ให้นานขึ้น และควรคำนึงถึงข้อนี้เมื่อจองทริปเที่ยวไอซ์แลนด์
โรงแรมชมแสงเหนือพร้อมบริการปลุกในไอซ์แลนด์

โรงแรมชมแสงเหนือที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ มักตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่มีมลภาวะทางแสง โรงแรมหลายแห่งมีบริการปลุกแขกเมื่อมีแสงเหนือในฤดูหนาว เพื่อไม่ให้พลาดปรากฏการณ์สุดพิเศษนี้
นี่คือ 8 โรงแรมที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ที่มีบริการปลุกแขกเมื่อมีแสงเหนือ
Hotel Ranga
Hotel Ranga โรงแรมหรูในชนบททางใต้ของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ที่เฮลลา ห่างจากเรคยาวิกประมาณ 100 กิโลเมตร มีชื่อเสียงเรื่องห้องสวีทธีมต่าง ๆ และหอดูดาวในโรงแรม เป็นหนึ่งในไม่กี่โรงแรมที่ออกแบบมาเพื่อชมดาวและแสงเหนือโดยเฉพาะ
Hotel Husafell
Hotel Husafell ในไอซ์แลนด์ตะวันตก เป็นโรงแรมระดับกลางค่อนไปทางบน ตั้งอยู่ในพื้นที่สวยงามของบอร์การ์ฟยอร์ดูร์ มีอ่างน้ำร้อนธรรมชาติ ดีไซน์รักษ์โลก และล้อมรอบด้วยธารน้ำแข็งกับลาวา เหมาะสำหรับผู้ที่อยากชมแสงเหนือพร้อมผจญภัยกลางแจ้ง
Stracta Hotel
Stracta Hotel ในไอซ์แลนด์ตอนใต้ เป็นโรงแรมระดับกลางในเฮลลา รายล้อมด้วยธรรมชาติและเข้าถึงชนบทได้ง่าย ห้องพักสะอาดทันสมัย บรรยากาศผ่อนคลาย เหมาะกับนักเดินทางที่ต้องการความสะดวกสบายและชมท้องฟ้ายามค่ำคืน
The Hill
The Hill Hotel ในฟลูดีร์ เป็นโรงแรมบูติกระดับกลางบนเส้นทางวงกลมทองคำ มีห้องพักอบอุ่นและบริการเป็นกันเอง เหมาะสำหรับผู้ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ตอนใต้และอยากชมแสงเหนือในคืนที่ท้องฟ้าเปิด
Landhotel
Landhotel ในไอซ์แลนด์ตอนใต้ เป็นโรงแรมระดับกลาง-บน ใกล้ภูเขาไฟเฮกลา รายล้อมด้วยธรรมชาติบริสุทธิ์และมลภาวะทางแสงน้อย ให้คุณชมท้องฟ้ายามค่ำคืนได้กว้างไกล พร้อมเข้าถึงภูมิประเทศที่สวยงามของไอซ์แลนด์
Umi Hotel
Umi Hotel บนชายฝั่งทางใต้ เป็นโรงแรมระดับกลาง-บน ตั้งอยู่เชิงเขาเอยาฟยอลล์ ดีไซน์ทันสมัยและหน้าต่างชมวิวพาโนรามา เหมาะสำหรับชมแสงเหนือในบรรยากาศส่วนตัวและสะดวกสบาย
ION Adventure Hotel
ION Adventure Hotel ในไอซ์แลนด์ตอนใต้ เป็นโรงแรมดีไซน์ระดับกลาง-บน ใกล้อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ สร้างอยู่บนลาวา มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ และวิวทิวทัศน์สุดอลังการ เหมาะสำหรับล่าแสงเหนือแบบไม่เหมือนใคร
Silica Hotel at Blue Lagoon
Silica Hotel at Blue Lagoon บนคาบสมุทรเรคยาเนส เป็นโรงแรมสปาหรูท่ามกลางลาวาดำ มีลากูนส่วนตัวและบรรยากาศเงียบสงบ ให้คุณผ่อนคลายพร้อมชมแสงเหนือได้ในที่เดียว
จองทริปล่าแสงเหนือในไอซ์แลนด์
หากคุณอยากโฟกัสทริปไอซ์แลนด์กับการชมแสงเหนือโดยเฉพาะ มีแพ็กเกจขับรถเที่ยวฤดูหนาวและแพ็กเกจทัวร์มากมายให้เลือก
แพ็กเกจเหล่านี้เหมาะกับผู้ที่มีเวลาจำกัดในประเทศ เช่น ทริปขับรถ 3 วันไปทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนพร้อมเข้าถ้ำน้ำแข็ง และแพ็กเกจฤดูหนาว 5 วัน พร้อมกิจกรรมสำรวจถ้ำน้ำแข็งและบลูลากูน
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ยิ่งคุณอยู่ไอซ์แลนด์นานเท่าไร โอกาสที่จะได้เห็นแสงเหนืออันน่าตื่นตาตื่นใจก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
หากคุณมีเวลาเที่ยวไอซ์แลนด์หนึ่งสัปดาห์ ก็จะมีโอกาสมากขึ้นอีก คุณอาจสนใจแพ็กเกจถนนวงแหวน 8 วันรอบไอซ์แลนด์แบบกลุ่มเล็ก ที่จะพาคุณไปชมทิวทัศน์อันงดงามของประเทศในเวลากลางวัน และออกล่าแสงเหนือในยามค่ำคืนโดยไม่ต้องขับรถเอง
ทริปนี้ยังเปิดโอกาสให้คุณได้ชมแสงเหนือเหนือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน ซึ่งเป็นประสบการณ์สุดประทับใจ เพราะแสงเหนือมักสะท้อนกับภูเขาน้ำแข็งด้านล่างอย่างสวยงาม
คุณยังสามารถขับรถวนรอบประเทศและคาบสมุทรสไนแฟลซเนส เพื่อตามหาแสงเหนือในทุกค่ำคืนกับแพ็กเกจขับรถเที่ยวฤดูหนาว 12 วัน ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มั่นใจในการขับรถบนถนนฤดูหนาวเท่านั้น
เราหวังว่า คู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับแสงเหนือในไอซ์แลนด์ของเราจะช่วยให้คุณมีความรู้และความกล้าที่จะออกไปตามหาแสงออโรรา หากมีอะไรที่เราตกหล่นไป หรือคุณเคยไปไอซ์แลนด์มาแล้ว อย่าลืมแบ่งปันความคิดเห็นของคุณในช่องคอมเมนต์ด้านล่าง!







