วิธีการถ่ายรูปแสงเหนือ
- กล้อง DSLR ที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือ
- อุปกรณ์กล้องที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือ
- การตั้งค่ากล้องที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือ
- แอปที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพแสงเหนือ
- สถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือในไอซ์แลนด์
- เมื่อไหร่ที่เหมาะกับการถ่ายรูปแสงเหนือในไอซ์แลนด์
- สภาพอากาศที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือ
- กิจกรรมแสงเหนือที่จำเป็นในการถ่ายภาพแสงเหนือ
วิธีที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพแสงเหนือคืออะไร? กล้องตัวไหนดีที่สุดในการถ่ายภาพแสงออโรร่า และแนะนำให้ตั้งค่ากล้องแบบใด อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เคล็ดลับที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพแสงเหนือ
การได้เห็นแสงเหนือเป็นกิจกรรมที่นักผจญภัยหลายคนอยากทำให้ได้สักครั้งในชีวิต ไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในโลกที่มีโอกาสค่อนข้างเชื่อถือได้ในการพบเห็นปรากฏการณ์นี้ และมีโปรแกรมทัวร์มากมายที่ทุ่มเทให้กับการค้นหาแสงเหนือเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว
การได้สัมผัสกับแสงออโรร่าที่ส่ายไปมาเหนือภูมิประเทศอันน่าทึ่งของไอซ์แลนด์เป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์มาก ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวจำนวนมากถึงอยากบันทึกภาพความงามที่พวกเขาได้เห็นเพื่อเก็บไว้ดูนานๆ
ทัวร์แสงเหนือส่วนใหญ่ดูแลโดยไกด์ที่มีความรู้เกี่ยวกับวิธีการถ่ายภาพให้ออกมาดีที่สุด โดยเฉพาะเวิร์คช็อปการถ่ายภาพแสงเหนือ ถึงกระนั้น การถ่ายภาพแสงออโรราก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถ่ายภาพด้วยกล้องโทรศัพท์แล้วคาดหวังว่าภาพจะสะท้อนความงามอันบริสุทธิ์ของแสงเหนือ
นักท่องเที่ยวที่ต้องการให้ภาพถ่ายสะท้อนถึงประสบการณ์ที่ตนได้พบเห็นได้อย่างแจ่มชัด และอยากเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพโดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาด้านเทคนิค ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทางมาถึง
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกล้องหรือเลนส์ที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือ หรือการทำความเข้าใจวิธีการตั้งค่าที่แนะนำ ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับวิธีการถ่ายภาพแสงออโรร่า บอเรลิส จะช่วยให้คุณได้ทั้งผลงานการถ่ายภาพและประสบการณ์การท่องเที่ยวที่งดงาม
กล้อง DSLR ที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือ
การเรียนรู้วิธีถ่ายภาพแสงเหนือด้วยกล้อง DSLR ต้องใช้เวลาพอสมควร อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมและเริ่มฝึกซ้อม การถ่ายภาพสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งของโลกจะกลายเป็นเรื่องที่คุณทำได้อย่างคล่องแคล่ว
เพื่อให้ได้ภาพแสงออโรร่า บอเรลลิส ที่ดีที่สุด ควรเลือกใช้กล้อง DSLR แบบฟูลเฟรมหรือ 35 มม. ที่มีค่า ISO ที่เหมาะสม (ควรอยู่ระหว่าง 2,000 ถึง 12,800)
กล้องเหล่านี้ทำงานได้ดีที่สุดในสถานการณ์ที่มีแสงน้อย กล้องมิเรอร์เลสราคาแพงก็สามารถใช้ถ่ายภาพแสงเหนือได้ดีเช่นกัน
เนื่องจากความหนาวเย็นในฤดูหนาวในประเทศไอซ์แลนด์ ขอแนะนำว่ากล้องของคุณควรมีเคสที่แข็งแรงซึ่งออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศที่รุนแรง
โชคดีที่กล้องสมัยใหม่ส่วนใหญ่ที่ออกแบบมาสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์มีความทนทานและออกแบบมาให้ใช้งานได้ในสภาพอากาศหลายแบบ
Nikon D810, D850 และ Z7 คือกล้องที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือ เช่นเดียวกับ Canon EOS 5DS R และ Sony a7R IV
ตัวเลือกที่มีราคาย่อมเยากว่า เช่น Sony Alpha A6000 และ Nikon D3500 ยังคงสามารถตอบสนองความต้องการของช่างภาพมือสมัครเล่นได้ดีหากใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่เหมาะสม
และอย่างที่คนเล่นกล้องทราบกันดีอยู่แล้วว่าการลงทุนกับเลนส์คุณภาพสูงมักจะคุ้มค่ากว่าการลงทุนกับกล้องคุณภาพสูง
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเช่าเลนส์กล้องคุณภาพสูงที่เหมาะกับภาพที่คุณต้องการจะถ่ายเฉพาะกิจได้ด้วย ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการซื้อเลนส์ใหม่
อุปกรณ์กล้องที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือ
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งสำคัญสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือ:
-
กล้อง DSLR (ควรใช้กล้องฟูลเฟรม)
-
เลนส์มุมกว้างหรือเลนส์มุมกว้างพิเศษ
-
ขาตั้งกล้อง - ขาตั้งกล้องที่แข็งแรงซึ่งจะไม่สั่นหรือลื่น
-
ชัตเตอร์ - ช่วยป้องกันไม่ให้กล้องสั่น
-
แบตเตอรี่สำรองสำหรับกล้อง
หลังจากหากล้อง DSLR ที่ดีที่สุดได้แล้ว ก็ถึงเวลาพิจารณาอุปกรณ์อื่นๆ ที่คุณต้องการ
และสิ่งแรกที่คุณน่าจะอยากรู้คงหนีไม่พ้นเลนส์ที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือ
แนะนำให้ใช้เลนส์มุมกว้างและมุมกว้างพิเศษ เพราะจะช่วยให้คุณสามารถเก็บองค์ประกอบต่างๆ เข้าไปในเฟรมได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และช่วยให้กล้องมีเวลาเปิดรับแสงมากที่สุดในสภาพที่มีแสงน้อยที่สุด
เลนส์มุมกว้างยังช่วยให้คุณรวมเอาทิวทัศน์อันงดงามของไอซ์แลนด์เข้าไว้กับภาพแสงออโรร่า บอเรลลิส ได้ด้วย
การมีภาพของทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน ภูเขาคิร์กจูเฟลล์ หรือไกเซอร์ที่ปะทุอยู่เบื้องหน้าในการถ่ายภาพแสงเหนือจะยิ่งเพิ่มความสวยงามมากขึ้นไปอีก
เลนส์ที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือจะมีรูรับแสงกว้าง f/2.8 หรือต่ำกว่านั้น
รูรับแสงหมายถึงปริมาณแสงที่กล้องยอมให้เข้ามาได้ รูรับแสงที่เล็กกว่านี้ เช่น รูรับแสงมาตรฐานที่มีค่า f/4 จะทำให้ได้ภาพถ่ายที่มืด ซึ่งเป็นปัญหาในการถ่ายภาพแสงเหนือ เพราะเห็นได้ชัดว่ากล้องกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อรับแสงสลัวของแสงออโรร่า
แม้ว่าเลนส์ส่วนใหญ่จะเทียบไม่ได้กับเลนส์มุมกว้างและเลนส์มุมกว้างพิเศษ แต่เลนส์พาโนรามาและเลนส์ฟิชอายสามารถสร้างภาพที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับช่างภาพที่ต้องการใช้ความคิดสร้างสรรค์
ขาตั้งกล้องถือเป็นอุปกรณ์สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ควรต้องรู้วิธีใช้หากอยากศึกษาวิธีถ่ายภาพแสงเหนือ ดังที่จะกล่าวถึงด้านล่างนี้ แต่สิ่งสำคัญคือคุณมักจะต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำ ดังนั้นเพื่อให้ได้ภาพที่ดีคุณต้องทำให้กล้องของคุณนิ่งและไม่สั่นไหวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ด้วยเหตุนี้ คุณจะพบว่ารีโมทชัตเตอร์มีประโยชน์มาก เพราะคุณจะไม่ต้องไปแตะโดนกล้องเมื่อถ่ายภาพ และเนื่องจากมีลมแรงในประเทศไอซ์แลนด์ จึงแนะนำให้ใช้แบบไร้สายเมื่อมาถ่ายภาพที่นี่
สุดท้ายนี้ คุณจะต้องนำแบตเตอรี่สำรองที่ชาร์จเต็มแล้วติดตัวไปด้วย และเก็บไว้ในที่ที่อบอุ่น เนื่องจากความเย็นจะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีกล้อง DSLR ที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับสภาวะดังกล่าว แน่นอนว่าคุณคงไม่อยากลดระยะเวลาในการถ่ายภาพแสงเหนือให้สั้นลงด้วยเหตุผลที่คุณสามารถป้องกันได้
ผู้ที่กังวลว่าความหนาวเย็นจะเป็นปัญหาสำหรับแบตเตอรี่สามารถซื้อ Remote battery pack ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ชาร์จแบบไร้สายได้มาพกใส่กระเป๋าติดตัวซึ่งจะรักษาอุณหภูมิได้ดีกว่า
การตั้งค่ากล้องที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือ
การมีอุปกรณ์และเลนส์ที่เหมาะสมเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่คุณก็ควรศึกษาวิธีการตั้งค่ากล้องที่จำเป็นสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือมาให้พร้อมก่อนที่จะเริ่มถ่ายภาพ
สิ่งสำคัญที่ต้องทำความคุ้นเคยคือความเร็วชัตเตอร์ที่ยาวกว่าที่คุณใช้ในการถ่ายภาพทิวทัศน์แบบเดิม
เพื่อให้แสงออโรร่าปรากฏชัดเจนในภาพถ่ายของคุณ คุณต้องปล่อยให้แสงเข้าสู่เลนส์เพียงพอ หากการแสดงแสงออโรร่ามีความชัดเจนโดยไม่รุนแรงมากนัก คุณจะต้องใช้รูรับแสง f/2.8 หรือต่ำกว่า และตั้งค่า ISO ประมาณ 1,600 และความเร็วชัตเตอร์ประมาณ 5 วินาที
ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับสภาพการณ์ในตอนกลางคืนและภาพที่คุณต้องการถ่ายด้วย หากเป็นช่วงเดือนมืดหรือวันจันทร์ดับ (New moon) มีเมฆปกคลุมเป็นจำนวนมาก หรือหากแสงออโรร่าปรากฏเพียงจางๆ คุณอาจต้องเพิ่มความเร็วชัตเตอร์หรือ ISO ของคุณ
โดยทั่วไปแล้ว คุณไม่ต้องใช้ ISO ที่สูงนักเมื่อถ่ายภาพแสงออโรร่า และคุณจะต้องลดค่า ISO ลงในคืนที่มีพระจันทร์สว่างจ้าหรือหากแสงออโรร่าเข้มเป็นพิเศษ โดยปกติแล้ว การถ่ายภาพโดยเปิดรับแสงนานขึ้น (เช่นใช้ ความเร็วชัตเตอร์ที่นานขึ้น) และใช้ ISO ที่ต่ำจะให้ผลดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดนอยส์หรือจุดรบกวนในภาพมากเกินไป
ปรากฏการณ์บางอย่าง เช่น การปรากฏแถบแสงออโรร่าริบหรี่เป็นเส้นๆ บนท้องฟ้าในคืนที่มีกิจกรรมสุริยะต่ำ แบบนี้คุณจะต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ยาวนานขึ้น ความเร็วชัตเตอร์ที่ยาวขึ้นจะช่วยเบลอการเคลื่อนไหวของแสงออโรร่าเมื่อมีการส่ายที่รุนแรง แต่คุณต้องระมัดระวังเมื่อใช้เทคนิคแบบนี้เนื่องจากภาพของคุณอาจมีแสงมากเกินไป
ตัวอย่างเช่น รูปภาพทางด้านซ้ายมือใช้ความเร็วชัตเตอร์ยาวและ ISO ต่ำ ในขณะที่ภาพทางด้านขวาถ่ายด้วยความเร็วชัตเตอร์สูงและ ISO ที่สูงขึ้น
แน่นอนว่าเมื่อคุณพยายามลดแสงที่ไม่เป็นธรรมชาติ คุณจะต้องปิดแฟลช
เมื่อถ่ายภาพแสงเหนือ คุณจะต้องปิดโฟกัสอัตโนมัติด้วย แม้จะสะดวกในเวลากลางวัน แต่การเปิดโฟกัสอัตโนมัติไว้จะทำให้กล้องของคุณพยายามหาอะไรให้โฟกัสอยู่ตลอดเวลาในคืนที่มืด
แทนที่จะเปิดโฟกัสอัตโนมัติ ให้คุณใช้การตั้งค่าแบบแมนนวลเพื่อโฟกัสไปที่ดวงจันทร์หรือดวงดาวเพื่อให้ได้องค์ประกอบภาพที่สมบูรณ์แบบแทน หรืออีกทางหนึ่ง ให้ตั้งค่าโฟกัสของเลนส์ไปที่ระยะอนันต์
สุดท้าย ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารูปภาพของคุณเป็นไฟล์ RAW เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่ามากและจุข้อมูลได้มากกว่า และคุณต้องปรับแสงสีขาวหรือ White Balance ให้สมดุลเหมาะสมกับภาพแสงเหนือที่คุณพยายามจะถ่ายด้วย
ไม่มีไวต์บาลานซ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือ คุณควรทดลองใช้การตั้งค่าแบบต่างๆ เพื่อกำหนดประเภทของภาพแสงเหนือที่คุณต้องการ
ตัวอย่างเช่น คุณสามารถตั้งค่าไวต์บาลานซ์ด้วยตนเองระหว่าง 3500 ถึง 4000 K (องศาเคลวินของไวท์บาลานซ์) เมื่อถ่ายภาพในรูปแบบ Raw ของกล้อง ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขภาพตามความต้องการของคุณได้มากขึ้นในภายหลัง
อีกทางหนึ่ง การตั้งค่าไวต์บาลานซ์ของกล้องเป็นแสงจ้าสามารถดึงโทนสีน้ำเงินและโทนเย็นที่เข้มกว่าออกมาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการนำเสนอความเป็นจริงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น การตั้งค่าไวต์บาลานซ์ให้เป็นฟลูออเรสเซนต์มักจะใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณเห็นด้วยตาเปล่ามากที่สุด
เราแนะนำไม่ควรใช้ไวต์บาลานซ์แบบอัตโนมัติ เนื่องจากจะทำให้สไตล์ของภาพแต่ละภาพที่ถ่ายแตกต่างไปจากเดิมมาก
นี่เป็นเพราะว่าแสงและสีของแสงออโรร่าเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ กล้องของคุณจึงไม่สามารถวิเคราะห์ฉากและกำหนดไวต์บาลานซ์ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งมักจะทำให้ได้ภาพแสงเหนือที่อบอุ่นจนเกินไป โดยมีสีส้มและสีเหลืองเข้มอยู่ในภาพ
ขอแนะนำให้ฝึกถ่ายภาพด้วยการตั้งค่ากล้องสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือก่อนการเดินทางมาเที่ยวเพื่อให้คุณจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่ออยู่ในสถานที่จริง
แอปที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพแสงเหนือ
ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น โดยปกติแล้วจะไม่สามารถจับภาพแสงออโรร่าบนสมาร์ทโฟนได้
สำหรับนักเดินทางที่ต้องการถ่ายภาพแสงเหนือโดยไม่ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์ราคาแพง ขณะนี้มีแอปสำหรับสมาร์ทโฟนให้บริการแล้ว
แอปเหล่านี้จำลองการตั้งค่าที่จะใช้กับกล้อง DSLR วิธีนี้ช่วยให้คุณจับภาพสีเขียวของแสงออโรร่าได้ แม้ว่าหน้าจอจะซีดจางลงและมองเห็นได้ชัดเจนน้อยลงก็ตาม
ข้อดีอีกประการหนึ่งของการถ่ายภาพแสงเหนือผ่านแอปบนโทรศัพท์ของคุณก็คือ รูปภาพนั้นพร้อมให้คุณแชร์บนโซเชียลมีเดียหรือแชร์กับเพื่อนและครอบครัวแบบส่วนตัวก็ได้
เมื่อพิจารณาทั้งหมดแล้ว การใช้แอปเพื่อถ่ายภาพแสงเหนือก็เป็นเรื่องที่สะดวกไม่น้อย
และเราขอแนะนำแอป "Northern Lights Photo Taker" แอปนี้มีการตั้งค่าง่ายๆ มากมายให้คุณเลือกตามระดับความเข้มของแสงออโรร่า
โดยแอปจะจับปริมาณแสงให้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบ รับรองว่าคุณจะต้องได้ภาพถ่ายที่เพื่อนๆ และครอบครัวที่บ้านต้องอิจฉาอย่างแน่นอน สมกับที่สโลแกนของแอปบอกว่า "หน้าที่ของคุณคือค้นหาแสงเหนือให้เจอก็พอ"
-
อ่านเพิ่มเติม: 10 แอปยอดนิยมสำหรับการเดินทางในไอซ์แลนด์
สถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือในไอซ์แลนด์
ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเมษายน แสงเหนือสามารถพบเห็นได้ทุกที่ในประเทศไอซ์แลนด์ทุกครั้งที่มืดมิด ท้องฟ้าโปร่ง และมีการพยากรณ์ที่ดี ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมุ่งหน้าไปส่วนใดของประเทศ คุณจะมีโอกาสลองถ่ายรูปแสงเหนือ
อย่างไรก็ตาม มีเคล็ดลับบางประการในการเลือกสถานที่เพื่อเพิ่มโอกาสของคุณ ประการแรก สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงเขตเมืองให้มากที่สุด
ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว มลภาวะทางแสงจะทำให้ความเข้มของแสงลดลง และมักจะบดบังแสงทั้งหมด แม้ว่าคุณจะพบจุดมืดได้บ้างในเมือง เช่น ที่กรอตตา แต่ก็เป็นความคิดที่ดีกว่ามากที่จะหลบหนีออกจากเขตเมือง
ในทำนองเดียวกัน หากคุณออกไปตามล่าแสงเหนือด้วยตัวเองโดยการเช่ารถ (ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองเรคยาวิกหรือใช้แพ็คเกจขับรถเที่ยวเองในฤดูหนาว) คุณควรหลีกเลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่ที่มีรถทัวร์จอดหลายคัน แม้แต่ไฟหน้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นก็อาจส่งผลต่อภาพของคุณได้
ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว สถานที่ที่สวยที่สุดในการถ่ายภาพแสงเหนือก็คือสถานที่ต่างๆ ที่สวยงามในประเทศไอซ์แลนด์
สถานที่และภูมิทัศน์ที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของประเทศนั้นเหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังเป็นฉากหน้าที่ยอดเยี่ยมให้กับภาพแสงออโรร่าอีกด้วย
การวางแผนไปถ่ายภาพในสถานที่ต่างๆ เช่น โจกุลซาร์ลอน เนามาสการ์ด อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ หรือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ จะช่วยให้คุณได้องค์ประกอบที่น่าสนใจอย่างภูเขาน้ำแข็ง ช่องระบายความร้อนจากใต้พิภพ หรือน้ำตก เข้าร่วมเฟรมกับแสงเหนือของคุณด้วย และเนื่องจากบริเวณเหล่านี้มีมลภาวะทางแสงน้อย จึงเป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมแสงเหนือในประเทศไอซ์แลนด์
ค่ำคืนแห่งฤดูหนาวของประเทศไอซ์แลนด์นั้นยาวนานกว่าในทางตอนเหนือของประเทศ ทำให้นักเดินทางที่ไปยังพื้นที่ต่างๆ เช่น อาคูเรย์รี และมิวาทน์ มีเวลาเพิ่มอีกหลายชั่วโมงในการค้นหาและถ่ายภาพแสงเหนือ
ขณะที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศมีสภาพอากาศแจ่มใสมากกว่า ส่งผลให้มีโอกาสที่ทัวร์จะถูกยกเลิกน้อยเนื่องจากมีเมฆปกคลุมได้น้อยกว่า
สิ่งสุดท้าย ช่างภาพควรเลือกไปกับทัวร์ชมแสงเหนือบนบกมากกว่าการล่องเรือ แม้ว่าการชมแสงออโรร่าจากทะเลจะดูน่าตื่นตาตื่นใจ แต่การที่เรือโคลงเคลงก็เป็นอุปสรรคหนึ่งในการถ่ายภาพที่คุณสามารถหลีกเลี่ยงได้
ประเทศอื่นๆ ที่สามารถมองเห็นแสงเหนือได้คือประเทศที่อยู่รอบๆ เส้นอาร์กติกเซอร์เคิล รวมถึงนอร์เวย์ตอนเหนือ แคนาดา รัสเซีย สวีเดน ฟินแลนด์ และกรีนแลนด์
เมื่อการพยากรณ์แสงออโรร่ามีความเข้มข้นมากเป็นพิเศษ จะทำให้สามารถมองเห็นแสงที่ละติจูดทางใต้มากๆ ได้ด้วย เช่นในสหราชอาณาจักรและจีนแผ่นดินใหญ่
เมื่อไหร่ที่เหมาะกับการถ่ายรูปแสงเหนือในไอซ์แลนด์
แสงออโรร่ามีอยู่ตลอดปีและตลอดทั้งวัน แต่การที่จะเห็นแสงได้นั้นต้องเป็นช่วงที่มืดและท้องฟ้าต้องโปร่งใสไร้เมฆ
ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ไม่มีช่วงมืดเลยในฤดูร้อนเพราะมีพระอาทิตย์เที่ยงคืน ดังนั้นคุณจึงสามารถมองเห็นแสงเหนือได้แค่ในช่วงฤดูหนาว ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะกับการชมแสงเหนือมากที่สุดคือช่วงตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนเมษายน
อย่างไรก็ตาม ในการดูแสงออโรร่าคุณไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเวลากลางคืนเสมอไป เพราะหากแสงนั้นมีความเข้มมาก คุณจะสามารถมองเห็นพวกมันได้อย่างชัดเจนในช่วงที่ฟ้าสลัวช่วงหัวค่ำหรือตอนใกล้รุ่งเลย
แถมการถ่ายรูปแสงออโรร่าในตอนที่ฟ้าข้างนอกยังไม่มืดสนิทนั้นจะช่วยให้คุณโฟกัสภาพและเก็บวิวทิวทัศน์ได้ง่ายกว่าด้วย
แต่หากแสงออโรร่านั้นอ่อน คุณอาจจะต้องรอจนกว่าจะถึงเวลากลางคืนที่มืดสนิทและให้สายตาชินกับความมืดเสียก่อน
เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งในการมองหาแสงออโรร่าที่ส่ายอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืนเมื่อพวกมันมีความเข้มไม่มากนัก คือการมองผ่านเลนส์กล้องถ่ายรูป เพราะเลนส์กล้องจะจับแสงได้ดีกว่าสายตามนุษย์
สภาพอากาศที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือ
สภาพอากาศหลักที่เป็นอุปสรรคต่อการปรากฏตัวของแสงเหนือในประเทศไอซ์แลนด์และสถานที่อื่นๆ คือ เมฆปกคลุม เนื่องจากมีเมฆหนาปกคลุม จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นแสงเหนือ และคุณจะต้องรอให้เมฆมีช่องว่าง
เพื่อเพิ่มโอกาสของคุณ คุณสามารถตรวจสอบพยากรณ์เมฆปกคลุมและพยากรณ์แสงออโรร่าในไอซ์แลนด์ และไปอยู่ในจุดต่างๆ ในประเทศที่มีช่องว่างของเมฆ
ถึงกระนั้น ช่างภาพก็ควรคำนึงถึงความท้าทายอื่นๆ เกี่ยวกับสภาพอากาศด้วยเพื่อให้สามารถถ่ายภาพได้ดีที่สุด
สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดคืออุณหภูมิ เนื่องจากแสงออโรร่าจะปรากฏเฉพาะในเวลากลางคืน อากาศจึงอาจจะเย็นลงอย่างรวดเร็วและสร้างความลำบากให้กับผู้ที่ไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อม
สำหรับการเดินทางมาไอซ์แลนด์ในฤดูหนาว คุณควรนำเสื้อผ้าที่กันลม กันน้ำ และให้ความอบอุ่นได้ดีมาด้วย นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อคุณวางแผนที่จะออกไปอยู่ข้างนอกเป็นเวลานานโดยที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก
คุณจะต้องสวมถุงมือหนาๆ ระหว่างที่รอแสงเหนือปรากฏด้วย แม้ว่าคุณจะต้องถอดออกเพื่อปรับการตั้งค่ากล้องก็ตาม
แม้ว่าจะเป็นการเดินทางในเดือนที่มีอากาศอบอุ่น เช่น เดือนกันยายนและเมษายน แต่สภาพอากาศก็อาจไม่แน่นอน และกลางคืนก็มักจะหนาวจัด
อีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือลม ไม่เพียงแต่จะทำให้รู้สึกหนาวอย่างไม่น่าเชื่อเท่านั้น แต่ยังมีพลังมากอีกด้วย การทิ้งขาตั้งกล้องและเลนส์ราคาแพงทิ้งไว้โดยไม่มีใครดูแลอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุที่มีค่าใช้จ่ายสูงได้หากติดอยู่ในลมกระโชกแรงที่คาดเดาไม่ได้ของประเทศไอซ์แลนด์
อุปสรรคสำหรับนักล่าแสงออโรร่าอีกอย่างหนึ่งคือพระจันทร์เต็มดวง เมื่อกิจกรรมแสงเหนือมีน้อย แสงจ้าจากพระจันทร์เต็มดวงอาจส่งผลต่อมุมมองและภาพถ่ายของคุณได้บางส่วน (หากไม่เต็มที่) ถึงแม้จะดูเป็นคนอวดรู้ แต่การวางแผนการมาเยือนให้สอดคล้องกับรอบดวงจันทร์สามารถช่วยให้คุณถ่ายภาพสวยๆ ได้
สิ่งสุดท้ายที่ควรทราบคือหิมะและน้ำแข็งที่ปกคลุมพื้นที่ของประเทศไอซ์แลนด์ในช่วงกลางฤดูหนาว หากเดินทางออกสู่ธรรมชาติ แนะนำให้สวมรองเท้าตะปูทับรองเท้าบูทไว้เพื่อป้องกันการลื่นล้ม ซึ่งเกิดขึ้นง่ายมากในเวลากลางคืนเมื่อทัศนวิสัยไม่ดี
สภาพอากาศจะได้รับการอัปเดตเป็นประจำบนเว็บไซต์ตรวจสภาพอากาศของไอซ์แลนด์ ซึ่งข้อมูลนี้จะกลายเป็นข้อมูลพื้นฐานที่คุณต้องใช้เมื่อเดินทางในไอซ์แลนด์ เนื่องจากสภาพอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงได้ค่อนข้างเร็ว
ตามหลักการแล้ว สภาพอากาศที่ดีที่สุดสำหรับแสงเหนือคือท้องฟ้าที่แจ่มใส (ไม่มีเมฆปกคลุม) การคาดการณ์ KP ที่แข็งแกร่ง กลางคืนที่มืดมิด คืนเดือนมืด และการไม่มีมลภาวะทางแสง ประสบการณ์ในการถ่ายภาพตอนกลางคืนอาจมีประโยชน์เมื่อต้องถ่ายภาพแสงออโรร่า แต่ไม่ได้เป็นสิ่งที่จำเป็นเลย
การเข้าร่วมทัวร์ล่าแสงเหนืออาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับช่างภาพที่ไม่มีประสบการณ์ เพราะไกด์ของเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ช่วยเหลือนักเดินทางในการตั้งค่ากล้องเพื่อถ่ายภาพท้องฟ้ายามค่ำคืน
กิจกรรมแสงเหนือที่จำเป็นในการถ่ายภาพแสงเหนือ
กิจกรรมแสงเหนือเกิดขึ้นตลอดเวลา อนุภาคที่มีประจุที่ปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์จะถูกเปลี่ยนเส้นทางโดยสนามแม่เหล็กของโลกไปยังขั้วโลก ขณะที่พวกมันทะลุชั้นบรรยากาศ อนุภาคเหล่านี้ทำให้เกิดแสงเหนือ (และแสงใต้) ซึ่งจะสามารถมองเห็นได้เฉพาะในคืนฤดูหนาวเท่านั้นเพราะเป็นช่วงเวลาเดียวที่มืดพอ
อย่างไรก็ตาม ความเข้มของแสงออโรร่านั้นขึ้นอยู่กับกิจกรรมของดวงอาทิตย์ กิจกรรมนี้สามารถวัดได้ ด้วยเหตุนี้จึงสามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีการเห็นแสงมากน้อยเพียงใด โดยมีการวัดความเข้มในระดับ 0 ถึง 9 KP
การพยากรณ์ที่ 0 Kp หมายความว่าแสงออโรร่าจะไม่ปรากฏขึ้น ในขณะที่อะไรก็ตามที่อยู่เหนือ 2 มักจะคุ้มค่าที่จะมุ่งหน้าออกไปตามหาแสงในไอซ์แลนด์
การพยากรณ์แสงออโรร่าที่สูงกว่า 5 Kp ถือเป็นพายุแม่เหล็กโลก และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
แม้ว่าจะต้องตรวจสอบการพยากรณ์แสงออโรร่า บอเรลิส ในประเทศไอซ์แลนด์อย่างรอบคอบก่อนออกเดินทางเพื่อถ่ายภาพแสงเหนือ แต่โปรดทราบว่าข้อมูลดังกล่าวไม่น่าเชื่อถือทั้งหมด
แม้ว่าคุณจะต้องการเห็นการแสดงแสงออโรร่าที่เข้มข้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่คุณก็ยังคงสามารถเก็บภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของแสงเหนือได้ แม้ว่าแสงนั้นจะปรากฏเพียงจางๆ ก็ตาม
กล้องมีความไวต่อแสงมากกว่าดวงตาของมนุษย์ และมักจะจับสีและรูปร่างที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งบางครั้งอาจส่งผลให้ได้ภาพถ่ายที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างไม่คาดคิด ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าการคาดการณ์ KP จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง แต่ก็อาจไม่เป็นอุปสรรคต่อการถ่ายภาพแสงเหนือของคุณ
สิ่งสุดท้ายที่ควรรู้คือการไปถ่ายภาพแสงเหนือตามการคาดการณ์แสงออโรร่าก็เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้อย่างมากเช่นกัน ดังนั้นการฝึกความอดทนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ปล่อยให้ดวงตาของคุณปรับให้เข้ากับความมืดได้อย่างเต็มที่ และแม้ว่าจะไม่เห็นร่องรอยใดๆ ก็ตาม จงเตรียมพร้อมที่จะรอ
เพราะแสงออโรร่าอาจปรากฏออกมาอย่างเข้มข้นอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อใดก็ได้ ซึ่งจะทำให้คุณได้รับภาพถ่ายที่แสนพิเศษเป็นรางวัลเอาไว้อวดในพอร์ตโฟลิโอของคุณ
เราหวังว่าคู่มือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีถ่ายภาพแสงเหนือได้ดีขึ้น เราขออวยพรให้คุณโชคดีในการถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำเกี่ยวกับประสบการณ์ของคุณในประเทศไอซ์แลนด์
บทความอื่นที่น่าสนใจ
แสงเหนือในไอซ์แลนด์ - ดูแสงออโรร่าที่ไหนและเมื่อไหร่
ศึกษาทุกเรื่องที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการดูแสงเหนือในไอซ์แลนด์ได้จากบทความนี้ ค้นหาสถานที่และช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีในการชมแสงออโรรา บอเรลลิส นอกจากนี้ ในบทความนี้ยังมีคำตอบว่าแสงเหนือคืออะไร...อ่านเพิ่มช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือในประเทศไอซ์แลนด์
เรียนรู้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีเพื่อชมแสงเหนือในประเทศไอซ์แลนด์ ค้นหาว่าฤดูกาลและเดือนใดเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการชมแสงออโรร่าในประเทศไอซ์แลนด์ แสงเหนือ หรือแสงออโรรา บอเรลลิสในไอซ์แลนด์ เป็นสิ่งท...อ่านเพิ่ม
ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว
สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด