วิธีการถ่ายรูปแสงเหนือ
- ที่ไหนที่เหมาะกับการถ่ายรูปแสงเหนือในไอซ์แลนด์
- เมื่อไหร่ที่เหมาะกับการถ่ายรูปแสงเหนือในไอซ์แลนด์
- วิธีถ่ายรูปแสงเหนือ
- ใช้กล้องที่เหมาะสม
- ใช้เลนส์ที่เหมาะสม
- ตั้งค่ากล้องให้เหมาะสม
- ใช้ขาตั้งกล้อง
- ใช้รีโมตชัตเตอร์หรือถ่ายแบบตั้งเวลา
- ชาร์ตแบตเตอรี่ให้พร้อม
- รักษาร่างกายให้อบอุ่น
- แต่งกายให้เหมาะสม
- รู้จุดหมายปลายทาง
- มีความอดทน
คุณจะถ่ายรูปแสงเหนือในไอซ์แลนด์อย่างไรดี คุณจำเป็นต้องใช้กล้องแบบมืออาชีพ หรือแค่ใช้โทรศัพท์มือถือก็พอ คุณจำเป็นต้องมีอุปกรณ์อื่นๆ เป็นตัวช่วยในการถ่ายรูปแสงเหนือหรือไม่ อ่านบทความนี้เพื่อศึกษาวิธีการถ่ายภาพแสงเหนือในไอซ์แลนด์
- เข้าไปดูหน้ารวมแพ็คเกจ ทัวร์แสงเหนือ ที่มีทัวร์ให้เลือกมากที่สุด
- ออกตามล่าแสงเหนือในแบบที่คุณต้องการด้วยการจองแพ็คเกจ ทัวร์ขับรถล่าแสงเหนือด้วยตัวเอง
- เพิ่มโอกาสในการได้เห็นแสงเหนือด้วยการจอง แพ็คเกจทริปหน้าหนาว
- ประทับใจตลอดกาลเมื่อเดินทางไปกับทริปบันทึกภาพความมหัศจรรย์แห่งแสงเหนือกับ ทัวร์ถ่ายรูป
- ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแสงออโรร่าจากบทความเรื่อง แสงเหนือคืออะไร
นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาที่ไอซ์แลนด์แค่เพราะต้องการดูแสงเหนือและคนกลุ่มนี้มักต้องการเก็บภาพสวยๆ ของแสงเหนือเอาไปแบ่งปันกับเพื่อนฝูงและคนในครอบครัว ซึ่งรูปภาพเหล่านี้เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจว่าครั้งหนึ่งเราก็เคยได้มาเห็นแสงเหนือด้วยตาตนเองกับเขาเหมือนกัน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการถ่ายภาพแสงเหนือด้วยกล้องนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป
หากคุณเลือกใช้บริการแพ็คเกจทัวร์แสงเหนือในไอซ์แลนด์ ไกด์ที่ดูแลคุณส่วนใหญ่แล้วจะมีความรู้เกี่ยวกับการถ่ายรูปแสงออโรร่าเป็นอย่างดี แต่พวกเขาก็เป็นคนธรรมดาไม่ใช่ช่างภาพผู้เชี่ยวชาญ ยกเว้นคุณจะเลือกเดินทางไปกับคณะเวิร์กช็อปถ่ายภาพ ที่จัดขึ้นโดย Iurie Belurgurschi ช่างภาพแนวหน้าระดับโลก หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Guide to Iceland และเจ้าของภาพประกอบในบทความนี้ทั้งหมด
แม้ว่าทัวร์เวิร์กช็อปถ่ายภาพแสงเหนือจะน่าสนใจมากขนาดไหน แต่แพ็คเกจแบบนี้ก็ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน ดังนั้นในบทความนี้เราจึงอยากบอกให้คุณได้รู้ในสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการมาล่าแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับผู้ที่เดินทางมาดูแสงเหนือด้วยทริปธรรมดาๆ แบบที่ไม่ได้มี Iurie คอยดูแลให้คำปรึกษาเรื่องการถ่ายรูป
ที่ไหนที่เหมาะกับการถ่ายรูปแสงเหนือในไอซ์แลนด์
แสงออโรร่าปรากฏให้เห็นได้ทั่วไอซ์แลนด์ ไม่มีที่ใดที่หนึ่งโดยเฉพาะ ขอแค่ให้เป็นช่วงกลางคืนเท่านั้นก็พอ และแน่นอนว่าแสงเหนือจะออกมาให้เห็นได้ก็ต่อเมื่อท้องฟ้ามืด นั่นแปลว่ายิ่งคุณเดินทางขึ้นเหนือไปมากขึ้นเท่าไหร่ บริเวณที่คุณไปก็จะมีช่วงเวลากลางคืนยาวขึ้นเท่านั้น แต่โดยปกติแล้วการขึ้นเหนือก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างให้กับการล่าแสงเหนือมากเท่าไหร่นัก
สิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าคือคุณต้องไปให้ห่างจากมลพิษทางแสงของตัวเมือง โดยเฉพาะในเขตเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) อันสว่างไสว แม้ว่าคุณจะสามารถหาจุดที่มืดในเมืองได้ อย่างเช่น แถวประภาคารโกรททา (Grótta) แต่การเช่ารถและขับออกไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาตินั้นคุ้มค่ามากกว่าอย่างแน่นอน
ข้อดีไม่ได้มีแค่เรื่องมลพิษทางแสงน้อยกว่าอย่างเดียว แต่การออกไปนอกเมืองนั้นยังมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการถ่ายภาพแสงเหนือมากกว่าด้วย ช่างภาพทุกคนรู้ดีว่าการจะถ่ายรูปให้สมบูรณ์แบบนั้นองค์ประกอบในภาพมีส่วนสำคัญอย่างมาก ดังนั้นคุณควรไปเสาะแสวงหาองค์ประกอบเก๋ๆ อย่างแนวเทือกเขา น้ำตก หรือภูเขาน้ำแข็งที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) เข้ามาประกอบเพื่อเพิ่มมิติและความสวยงามให้กับภาพถ่ายของคุณจะดีกว่า
เคล็ดลับอีกอย่างคือการถ่ายภาพแสงออโรร่าจะออกมาสวยมากในวันที่มีอากาศสงบนิ่งและในบริเวณนั้นมีผืนน้ำให้แสงสะท้อนลงไปได้ด้วย อาจจะเป็นทะเลสาบ ลำธาร หรือมหาสมุทรก็ได้
- อ่านเรื่องนี้ด้วย: การถ่ายรูปที่ไอซ์แลนด์
เมื่อไหร่ที่เหมาะกับการถ่ายรูปแสงเหนือในไอซ์แลนด์
แสงออโรร่ามีอยู่ตลอดปีและตลอดทั้งวัน แต่การที่จะเห็นแสงได้นั้นต้องเป็นช่วงที่มืดและท้องฟ้าต้องโปร่งใสไร้เมฆ ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ไม่มีช่วงมืดเลยในฤดูร้อนเพราะมีพระอาทิตย์เที่ยงคืน ดังนั้นคุณจึงสามารถมองเห็นแสงเหนือได้แค่ในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนเมษายนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในการดูแสงออโรร่าคุณไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเวลากลางคืนเสมอไป เพราะหากแสงนั้นมีความเข้มมาก คุณจะสามารถมองเห็นพวกมันได้อย่างชัดเจนในช่วงที่ฟ้าสลัวช่วงหัวค่ำหรือตอนใกล้รุ่งเลย แถมการถ่ายรูปแสงออโรร่าในตอนที่ฟ้าข้างนอกยังไม่มืดสนิทนั้นจะช่วยให้คุณโฟกัสภาพและเก็บวิวทิวทัศน์ได้ง่ายกว่าด้วย
แต่หากแสงออโรร่านั้นอ่อน คุณอาจจะต้องรอจนกว่าจะถึงเวลากลางคืนที่มืดสนิทและให้สายตาชินกับความมืดเสียก่อน เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งในการมองหาแสงออโรร่าบนท้องฟ้าเมื่อพวกมันมีความเข้มไม่มากนัก คือการมองผ่านเลนส์กล้องถ่ายรูป เพราะแสงจะลอดผ่านเลนส์กล้องได้ดีกว่าสายตามนุษย์
- อ่านเรื่องนี้ด้วย: ฤดูที่แตกต่างของไอซ์แลนด์
วิธีถ่ายรูปแสงเหนือ
การถ่ายภาพแสงเหนือด้วยกล้องถ่ายรูปนั้นคุณจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่เหมาะสม ต้องรู้วิธีในการถ่าย และต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและมีจิตใจที่แน่วแน่และอดทนด้วย ต่อไปนี้คือรายการสิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนและระหว่างการถ่ายภาพแสงออโรร่า บอเรลิส
ใช้กล้องที่เหมาะสม
แสงออโรร่าที่มีความเข้มมากๆ นั้นสามารถใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายได้ แต่รูปภาพที่ได้จะมีคุณภาพไม่เหมือนกับรูปที่คุณใช้อุปกรณ์สำหรับมืออาชีพถ่าย การใช้กล้องถ่ายรูปดีๆ ที่คุณสามารถเปลี่ยนเลนส์และตั้งค่ากล้องได้จะทำให้ได้ภาพที่สวยกว่ามาก
ใช้เลนส์ที่เหมาะสม
เช่นเดียวกับหลักทั่วไป ถ้าหากเลนส์ของคุณมีรูรับแสงกว้างคุณก็จะถ่ายรูปออกมาได้สวยขึ้น ยิ่งรูรับแสงกว้างมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีแสงเข้าได้มากเท่านั้น ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องเปิดชัตเตอร์ไว้นานๆ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ด้านล่าง) และการมีรูรับแสงกว้างยังทำให้คุณเก็บภาพวิวได้มากกว่า ซึ่งถือเป็นการช่วยเสริมองค์ประกอบของภาพอย่างหนึ่งด้วย
- อ่านเรื่องนี้ด้วย: 22 ภาพสุดประทับใจของแสงออโรร่าในไอซ์แลนด์
ตั้งค่ากล้องให้เหมาะสม
สิ่งสำคัญที่สุดในการถ่ายรูปแสงออโรร่าคือระยะเวลาในการเปิดหน้ากล้อง (Exposure) คือยิ่งคุณเปิดชัตเตอร์ไว้นานมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีแสงเข้าได้มากเท่านั้น และทำให้ได้ภาพที่สวยมากขึ้น ตัวอย่างเช่นพวกภาพถ่ายแสงเหนือที่คุณเห็นแสงเข้มๆ หน่อย และรู้สึกเหมือนว่าดวงดาวบนท้องฟ้าในภาพจะกระพริบได้นั่นเป็นผลมาจากการเปิดชัตเตอร์ค้างไว้เป็นเวลานาน
การใช้ค่า ISO สูง ซึ่งบ่งบอกถึงการมีค่าความไวแสงของกล้องที่สูงขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน และช่วยให้คุณลดระยะเวลา Exposure ได้โดยสามารถถ่ายรูปได้จำนวนมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ถ้าคุณจะใช้เทคนิคแบบนี้ก็ต้องระมัดระวังด้วยเพราะการใช้ค่า ISO สูงมักทำให้ภาพที่ได้มีลักษณะแตกเป็นเม็ดๆ
ไม่ว่าช่างภาพคนไหนก็มีความเห็นเหมือนว่าการที่คุณรู้จักกับอุปกรณ์ที่ใช้เป็นอย่างดีนั้นมีส่วนสำคัญต่อภาพถ่ายเป็นอย่างมาก ดังนั้นก่อนที่คุณจะมาถ่ายรูปแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ คุณควรฝึกฝนใช้อุปกรณ์ให้ชำนาญมาจากบ้านเสียก่อน โดยให้ฝึกถ่ายรูปในที่ๆ มีแสงน้อยเพื่อค้นหาว่า Exposure และ ISO ขนาดไหนเหมาะสมถูกใจคุณที่สุด
กล้องดิจิทัลส่วนใหญ่มีการตั้งค่าแบบออโต้มาให้ ซึ่งก็ใช้ได้ดีทีเดียวสำหรับช่างภาพมือสมัครเล่นที่ต้องการบันทึกช่วงเวลาสุดพิเศษเอาไว้ดูเฉยๆ ไม่ได้ต้องการรูปภาพคุณภาพสูงลิ่ว แต่สำหรับเพอร์เฟ็คชั่นนิสต์และมืออาชีพทั้งหลายแน่นอนว่าการปรับค่ากล้องด้วยตัวเองต้องดีกว่าอยู่แล้ว
ก่อนจบเรื่องการตั้งค่ากล้องนี้ เชื่อว่าทุกคนคงทราบกันอยู่แล้วใช่ไหมว่างานนี้คุณต้องปิดแฟลช
ใช้ขาตั้งกล้อง
เมื่อชัตเตอร์กล้องของคุณเปิดอยู่ ทุกการเคลื่อนไหวที่เกิดกับตัวกล้องจะส่งผลต่อรูปภาพทั้งสิ้น ดังนั้นการถือกล้องเอาไว้ในมือที่สั่นเทาจากอากาศเย็นยะเยือกยามค่ำคืนจึงทำให้ภาพที่ออกมาเบลอและเต็มไปด้วยหมอกควันหลากสีจนไม่น่านำไปอวดเพื่อนและครอบครัว
ขาตั้งกล้องจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ โดยจะทำให้คุณถ่ายภาพได้คมชัดขึ้นและบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างที่คุณต้องการ
ใช้รีโมตชัตเตอร์หรือถ่ายแบบตั้งเวลา
แรงสั่นสะเทือนแค่เพียงเล็กน้อยจากการกดชัตเตอร์ก็สามารถทำให้รูปถ่ายเบลอได้ พวกนักถ่ายภาพดาราศาสตร์มืออาชีพจึงมักจะต่อรีโมตชัตเตอร์เข้ากับกล้องขณะถ่ายรูป เพื่อป้องกันไม่ให้กล้องขยับแม้เพียงมิลลิเมตร
นอกจากการใช้รีโมตชัตเตอร์แล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งคือการตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้า ซึ่งกล้องส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้จะมีฟังก์ชันตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้าเอาไว้ให้หลายวินาที และแม้ว่าการตั้งเวลาล่วงหน้าจะทำให้คุณไม่สามารถจับภาพ ณ ขณะนั้นได้ทันที แต่อย่างน้อยฟังก์ชันนี้ก็ช่วยไม่ให้ภาพสั่นไหว
ชาร์ตแบตเตอรี่ให้พร้อม
หน้าหนาวที่ไอซ์แลนด์หนาวมาก ยิ่งกลางคืนยิ่งหนาว แบตเตอรี่จึงคลายตัวเร็วกว่าปกติ ดังนั้นคุณควรชาร์ตมาให้เต็มก่อนที่จะออกไปถ่ายรูป และหากคุณวางแผนที่จะออกล่าแสงออโรร่ากันยาวๆ ยิ่งต้องเตรียมตัวมาให้พร้อม โดยอาจจะนำแบตสำรองมาหลายอัน หรือนำสายชาร์จที่สามารถต่อกับรถได้ติดมาด้วย
รักษาร่างกายให้อบอุ่น
หากคุณอยากอ้อยอิ่งถ่ายรูปอยู่ข้างนอกท่ามกลางอากาศหนาวเย็นในตอนกลางคืนในช่วงหน้าหนาวของไอซ์แลนด์อย่างมีความสุขนั้น คุณต้องเตรียมพร้อมเรื่องการรักษาความอบอุ่นให้กับร่างกายให้ดี ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการต้องอดดูแสงออโรร่าเพราะความไม่พร้อมอีกแล้ว ดังนั้นเราแนะนำให้คุณเตรียมผ้าห่ม และนำกระติกเก็บความร้อนใส่ช็อกโกแลตหรือชาร้อนติดมาด้วย หรือบางทีคุณอาจจะอยากพกเก้าอี้แคมป์ปิ้งมานั่งรอด้วยก็ได้จะได้ไม่ต้องนั่งบนพื้นที่เย็นเป็นน้ำแข็ง
- อ่านเรื่องนี้ด้วย: ต้องนำอะไรไปบ้างเมื่อจัดกระเป๋าไปเที่ยวไอซ์แลนด์
แต่งกายให้เหมาะสม
สำหรับข้อสุดท้ายนี้เป็นเรื่องของการแต่งกาย เสื้อผ้าที่เหมาะสมสร้างความแตกต่างได้ไม่น้อยและเป็นเครื่องบ่งชี้ด้วยว่าคุณจะสนุกกับการล่าแสงเหนือได้ทั้งคืนโดยไม่ต้องพะวงกับอากาศ หรือคุณจะรอได้แป๊บเดียวก็ต้องวิ่งไปหลบในรถบัสหรือรถยนต์เพื่อไม่ให้หนาวตาย
โดยมากแล้วแขนและขาจะเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับความเย็นมากที่สุด ดังนั้นถุงเท้าที่หนา รองเท้าที่ห่อหุ้มเท้าได้ดี และถุงมือเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งถ้าคุณคิดว่าคุณต้องออกไปปรับตั้งค่ากล้องหน้างานด้วยแล้วล่ะก็ถุงมือแบบที่แยกนิ้วโป้งออกต่างหากและมีปลอกหุ้มอีกชั้นจะช่วยให้คุณอบอุ่นและสามารถใช้งานนิ้วมือได้สะดวกมากขึ้น
สำหรับส่วนอื่นๆ คุณควรแต่งตัวให้เหมาะกับการออกทำกิจกรรมกลางแจ้งในหน้าหนาวของประเทศไอซ์แลนด์ ชุดชั้นในสำหรับเก็บความร้อน เสื้อขนสัตว์หรือใยสังเคราะห์ เสื้อดาวน์ที่ทำมาจากขนเป็ดหรือขนห่าน และเสื้อชั้นนอกที่กันน้ำและกันลมได้ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่คุณต้องมีเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดา
รู้จุดหมายปลายทาง
สำหรับผู้ที่ไปกับทัวร์ล่าแสงเหนือข้อนี้พวกคุณไม่ต้องกังวล แต่ถ้าหากคุณขับรถออกไปล่าแสงเหนือเอง คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังจะไปล่าแสงเหนือที่ไหนถ้าคุณไม่อยากไปหลงทางหรือติดแหงกอยู่บนถนนท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายในหน้าหนาวของไอซ์แลนด์ในตอนกลางคืน คุณสามารถเข้าไปดูการพยากรณ์แสงออโรร่าและการพยากรณ์เมฆ เพื่อวิเคราะห์และวางแผนเส้นทางล่าแสงเหนือของคุณได้จากในเว็บไซต์พยากรณ์อากาศของไอซ์แลนด์
- อ่านเรื่องนี้ด้วย: คู่มือขับรถเที่ยวในไอซ์แลนด์
นอกจากนี้คุณอาจจะลองพิจารณาเลือกสถานที่จากสิ่งที่คุณอยากให้ไปอยู่ร่วมเฟรมกับแสงเหนือด้วยก็ได้ เช่น หากคุณต้องการน้ำตก ให้ไปตามเส้นทางชายฝั่งทางตอนใต้ หรือหากคุณต้องการลาวา ให้มุ่งหน้าไปที่คาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) แต่ถ้าคุณต้องการภูเขาน้ำแข็ง คุณควรไปที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón)
มีความอดทน
แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดังนั้นพวกมันจึงเอาแน่เอานอนไม่ได้และเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ที่ต้องการถ่ายภาพแสงเหนือจึงต้องมีจิตใจแน่วแน่ไม่หมดความอดทนถอนตัวไปเสียก่อนหลังจากที่รอสักพักแล้วแสงเหนือก็ยังไม่มา หรือมาเพียงแค่จางๆ และหายไป บางครั้งแสงเหนือก็อาจจะแค่มาช้าไปบ้างเท่านั้นเอง และการอดทนรออยู่ต่ออีกสองสามชั่วโมงก็คุ้มค่ามาก
ในคืนที่คุณออกไปล่าแสงเหนือนั้นสภาพการณ์ต่างๆ อาจจะดูจะเหมาะสมไปเสียทั้งหมด แต่คุณก็ยังไม่ได้เห็นแสงเหนือสักที บอกเลยว่าคุณอย่าเพิ่งท้อหรือหมดกำลังใจ เพราะแม้ว่าการเห็นแสงเหนือจะเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่การเกิดกิจกรรมบนดวงอาทิตย์นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และผู้ที่อดทนรออย่างแน่วแน่มักจะได้เห็นของดีเสมอ
- อ่านเรื่องนี้ด้วย: เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมสำหรับการเที่ยวไอซ์แลนด์
บทความอื่นที่น่าสนใจ
แสงเหนือในไอซ์แลนด์ - ดูแสงออโรร่าที่ไหนและเมื่อไหร่
ศึกษาทุกเรื่องที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการดูแสงเหนือในไอซ์แลนด์ได้จากบทความนี้ ค้นหาสถานที่และช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีในการชมแสงออโรรา บอเรลลิส นอกจากนี้ ในบทความนี้ยังมีคำตอบว่าแสงเหนือคืออะไร...อ่านเพิ่มช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือในประเทศไอซ์แลนด์
ศึกษาถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีในการมาชมแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ แสงเหนือเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีมนต์ขลังมากที่สุด และเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้มากที่สุดด้วยเช่นกัน มาค้นหาฤดูกาลและเดือนที่เหมาะสม...อ่านเพิ่ม