11 ของฝากยอดนิยมจากไอซ์แลนด์

11 ของฝากยอดนิยมจากไอซ์แลนด์

Richard Chapman
โดย Richard Chapman
ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรอง

เสื้อขนสัตว์ไอซ์แลนด์เป็นของฝากที่คนนิยมซื้อ ภาพโดย Jorunn Sjofn Gudlaugsdottirภาพโดย Jórunn

คุณกำลังสงสัยอยู่ใช่ไหมว่ามาไอซ์แลนด์ควรซื้ออะไรเป็นของฝาก? หากคุณกำลังอยากรู้ว่าของที่ระลึกแบบไหนที่ทำให้นึกถึงไอซ์แลนด์และของแบบไหนที่จะเป็นเครื่องเตือนถึงความทรงจำอันมีค่าของคุณที่ไอซ์แลนด์ได้ดีที่สุด อ่านบทความนี้ต่อเพื่อดูว่าของที่ระลึกจากไอซ์แลนด์คืออะไรและคุณจะไปหาซื้อของฝากที่ไม่เหมือนใครได้จากที่ไหน

หากคุณเข้าร่วมกับทัวร์ช้อปปิ้งแบบมีไกด์ หรือไปเดินเล่นบนถนนช้อปปิ้งสตรีทในเรคยาวิกอย่างถนนเลยกาแวกูร์ (Laugavegur) คุณจะพบว่าร้านขายของที่ระลึกส่วนมากเน้นสินค้าอยู่สองอย่าง คือ ตุ๊กตาพัฟฟินและตุ๊กตาหมีขั้วโลก หากคุณต้องการเดินทางรอบเมืองอย่างสะดวกสบายเพื่อที่จะได้ไปเดินห้างสรรพสินค้า เราแนะนำให้คุณเช่ารถขนาดเล็กที่มีราคาถูก ซึ่งรถประเภทนี้เหมาะสำหรับถนนสภาพดีในเมืองเรคยาวิก หากคุณกำลังหาที่พักในเมืองหลวง คุณควรเข้าไปดูลิสต์โรงแรมในเรคยาวิกที่เรารวบรวมมาให้เลือกมากที่สุด เพื่อเลือกหาห้องพักในแบบที่คุณต้องการ

ระหว่างพัฟฟินและหมีขั้วโลกนั้นมีเพียงหนึ่งอย่างเท่านั้นที่เป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดในไอซ์แลนด์ แต่กลับได้รับความสนใจจากตลาดอย่างกว้างขวางมากกว่าสัตว์ชนิดที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์อย่างแท้จริง ดังนั้นบางทีทั้งสองสิ่งนี้จึงอาจจะยังไม่ใช่ของฝากที่ดีที่สุดของไอซ์แลนด์

ชาวไอซ์แลนด์เป็นเจ้าของวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งและรุ่มรวย ธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ และมีอารมณ์ขันที่ไม่เหมือนใครด้วย ทำให้ประเทศนี้มีของที่ระลึกมากมายที่คุณสามารถเลือกซื้อเพื่อเป็นตัวแทนของคุณสมบัติเหล่านี้

แล้วรู้หรือไม่ว่าคุณอาจจะหาของขวัญจากไอซ์แลนด์ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปได้ฟรีๆ เลยด้วย



ในขณะที่คุณพบว่าของที่ระลึกจากไอซ์แลนด์บางอย่างนั้นมีราคาแพง ไม่มีคุณภาพ และเป็นสินค้าที่ออกแบบและผลิตมาจากต่างประเทศ แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์และบอกเล่าเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ

คุณมั่นใจได้เลยว่าจะต้องมีสิ่งที่ตรงกับความชอบของคุณและทำให้คุณต้องตัดสินใจซื้อ ตั้งแต่ของจำพวกเสื้อถักไปจนถึงแอลกอฮอล์และช็อกโกแลตไอซ์แลนด์ ไม่ว่าคุณจะกำลังหาของขวัญที่ดีที่สุดจากไอซ์แลนด์กลับไปมอบให้กับครอบครัวหรือเพื่อน หรือบางทีอาจจะหาของขวัญให้กับตัวคุณเอง สิ่งเหล่านี้คือของที่ระลึกที่ดีที่สุดจากประเทศไอซ์แลนด์และมีความเป็นไอซ์แลนด์อย่างแท้จริงด้วย!

อ่านบทความนี้ต่อเพื่อดูคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากไอซ์แลนด์ที่คุณน่าจะชื่นชอบ

11. โรงงานช็อกโกแลต Omnom Chocolate

Omnom Chocolate เป็นหนึ่งในแบรนด์ช็อกโกแลตชั้นนำของไอซ์แลนด์และช็อกโกแลตแท่งก็จัดว่าเป็นของฝากที่ยอดเยี่ยมมาก

แบรนด์นี้มีการคิดค้นสูตรและผลิตในประเทศไอซ์แลนด์ โดยบริษัทคัดสรรถั่วที่ดีที่สุดจากทั่วโลกและนำมาผสมผสานเข้ากับรสชาติที่ไม่ธรรมดาเพื่อทำขนมหวานที่อร่อยที่สุดในประเทศ

ช็อกโกแลตร้านนี้มีให้เลือกหลากหลายแบบ แต่ที่มีความเป็นไอซ์แลนด์แบบดั้งเดิมมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลยคือรสชะเอมเทศ (เขียนบนฉลากว่า Lakkris) และรสเกลือทะเล

ชะเอมเป็นสิ่งที่ชาวไอซ์แลนด์โปรดปรานมากและการนำมาผสมกับช็อกโกแลตและเกลือถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับประทาน หากการผสมแบบนี้ไม่ถูกปาก คุณก็ยังมีตัวเลือกอร่อยๆ อีกหลายรส เช่น รสเชอรี่อบแห้งและวอลนัทผสมกับช็อกโกแลตนิการากัว

คุณสามารถซื้อ Omnom Chocolate ได้จากร้านขายของฝากและตามซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ทั่วไป หรือคุณจะไปซื้อที่โรงงานของผู้ผลิตเลยก็ได้ ซึ่งพวกเขาก็มีจัดทัวร์พาชมโรงงานช็อกโกแลตด้วย จะมัวรอหาซื้อสินค้าที่ "ผลิตในไอซ์แลนด์" ไปทำไมในเมื่อคุณสามารถเข้าไปด้วยกรรมวิธีการผลิตได้ด้วย

10. ถุงยางอนามัย Nature Condoms

น้ำพุร้อนไกเซอร์คือแรงบันดาลใจของแบรนด์ถุงยาง Nature Condoms ในไอซ์แลนด์

หากคุณกำลังมองหาของฝากแปลกๆ จากไอซ์แลนด์ คุณน่าจะชอบผลิตภัณฑ์ของ Nature Condom ซึ่งน่าจะเป็นของฝากที่ฮาที่สุดแล้ว

รับรองว่าทั้งใช้งานได้จริงและยังเรียกเสียงหัวเราะได้ดีด้วย โดยมีให้เลือกถึง 6 ดีไซน์ แต่ละแบบนั้นสะท้อนให้เห็นถึงภูมิประเทศของไอซ์แลนด์ได้เป็นอย่างดี

หลังจากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดของที่ระลึกจากประเทศไอซ์แลนด์ในปี 2010 ถุงยางอนามัยยี่ห้อนี้ได้กลายเป็นของฝากคลาสสิกที่แสดงถึงอารมณ์ขันและการเปิดกว้างเกี่ยวกับเรื่องเพศ เห็นได้จากแท็กไลน์ของแบรนด์ที่บอกว่าเป็น "ดินแดนแห่งการระเบิด"

แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของ Nature Condom จะเป็นของฝากหรือของขวัญที่ไม่ธรรมดาแล้ว การมอบของฝากแบบนี้ให้ยังสนุกกว่าการให้แม่เหล็กติดตู้เย็น ตุ๊กตาพัฟฟิน หรือโปสการ์ดหลายเท่าตัว

9. อาหารอร่อยสไตล์ไอซ์แลนด์

Kleina เป็นขนมปัง/เค้กชนิดหนึ่งของไอซ์แลนด์ภาพจาก ทัวร์วงกลมทองคำและชิมอาหารไอซ์แลนด์

อาหารอร่อยสไตล์ไอซ์แลนด์นั้นไม่ได้ถูกปากทุกคน แต่ก็เป็นภาพสะท้อนที่แท้จริงของประเทศที่ไม่ธรรมดาแห่งนี้และเป็นหัวข้อสนทนาที่ยอดเยี่ยมเมื่อคุณกลับไปที่บ้านแล้ว อะไรจะดีไปกว่าการได้แบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อนฝูงด้วยการนำของฝากที่กินได้จากไอซ์แลนด์ไปให้

หนึ่งในขนมกินเล่นที่อร่อยที่สุดคือฮาร์ดฟิสคูร์ (hardfiskur) หรือปลาแห้ง ถึงแม้ว่ามันจะมีกลิ่นแรงหน่อยก็ตาม ฮาร์ดฟิสคูร์นี้เป็นอาหารหลักของไอซ์แลนด์มานานหลายศตวรรษและส่วนใหญ่มักจะทำจากปลาค็อด ปลาวูลฟิช หรือปลาแฮดด็อค

นักท่องเที่ยวจำนวนมากประหลาดใจที่พวกเขารู้สึกสนุกที่ได้ลองชิม เพราะเวลากินปลาแห้งแบบนี้จะต้องทาเนยไปบนปลา ถ้าอยากลองแบบที่มีรสชาติอ่อนโยนหน่อยให้ลองเป็นปลาแฮดด็อคแห้ง ส่วนปลาดุกนั้นจะมีกลิ่นรสรุนแรงหน่อย

อาหารอันโอชะของที่นี่อีกอย่างหนึ่งคือฮาคาร์ล (hakarl) หรือฉลามหมัก

กลิ่นที่เตะจมูกของมันคือการผสมผสานระหว่างปลาร้ากับแอมโมเนียซึ่งอาจจะสยองหน่อยแต่รสชาตินั้นดีกว่ากลิ่นมากและจะออกเค็มๆ หน่อย

การหมักปลานี้ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งปี และปัจจุบันก็ยังคงใช้วิธีแบบดั้งเดิมที่สืบทอดมากหลายศตวรรษ

การนำไปแบ่งให้เพื่อนฝูงและครอบครัวได้ลองชิมเป็นวิธีที่จะทำให้คุณจดจำทริปครั้งนี้ได้อย่างดีเยี่ยมและคนอื่นๆ ก็จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมการกินที่แปลกประหลาดของประเทศไอซ์แลนด์ด้วย

หากตัวเลือกที่กล่าวมานี้ยังไม่โดนใจสำหรับคุณ บางทีคุณอาจจะหาซื้อของฝากที่เก็บไว้ได้นานและอร่อยกว่าของไอซ์แลนด์กลับไปแทน เช่น ไทม์ไอซ์แลนด์ชนิดบรรจุในขวด หรือไม่เช่นนั้นคุณอาจจะลองดูเกลือทะเลแฟนซีจากไอซ์แลนด์ที่มีหลายสีและอุดมไปด้วยแร่ธาตุธรรมชาติด้วย

ทั้งนี้คุณต้องไม่ลืมเช็คกฎต่างๆ ของศุลากากรในกรณีที่ต้องการนำอาหารจากไอซ์แลนด์เข้าประเทศของคุณด้วย

8. ผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากไอซ์แลนด์ 

บลูลากูน ไอซ์แลนด์

ไอซ์แลนด์มีน้ำที่บริสุทธิ์และธรรมชาติที่งดงามอย่างไม่มีใครเทียบจึงได้ชื่อว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสดชื่น ผ่อนคลาย และความบริสุทธิ์ผุดผ่อง

ประเทศนี้ยังอุดมไปด้วยสมุนไพร สาหร่าย และโคลนซิลิกา ซึ่งเป็นโคลนที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลกด้วย (คล้ายกับโคลนจากเดดซี แต่นี่เป็นโคลนจากไอซ์แลนด์) ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนผสมที่มักจะนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมความงาม

แบรนด์ของประเทศไอซ์แลนด์ที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติในเรื่องของคุณภาพคือ Blue Lagoon ซึ่งคุณก็น่าจะพอเดาได้ว่าต้องทำมาจากโคลนซิลิกาธรรมชาติจากบลูลากูนอันโด่งดังนั่นเอง นอกจากนี้พวกเขายังผลิตมาส์กสาหร่ายที่มาจากแหล่งน้ำเดียวกันด้วย และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย

Skyn Iceland และ Feel Iceland เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามของไอซ์แลนด์อีกสองแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพ และก็ยังมีแบรนด์อื่นๆ อีกเยอะมาก

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคุณภาพสูงของประเทศไอซ์แลนด์ในราคาที่ดีที่สุดได้จากร้านค้าปลอดภาษีของสนามบิน



7. ซากาแห่งไอซ์แลนด์

ซากาของไอซ์แลนด์เป็นบทกวีมหากาพย์

ภาพจาก Wikimedia, Creative Commons โดย Haukurth ไม่มีการแก้ไข

ซากา (Sagas) เป็นผลงานที่น่าทึ่งซึ่งบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และคติพื้นบ้านของสังคมในไอซ์แลนด์ยุคแรกเริ่ม

ผลงานเหล่านี้ยังเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับความหลงใหลในงานเขียนของชาวไอซ์แลนด์ที่มีมาอย่างยาวนานด้วย ซึ่งไอซ์แลนด์เป็นชาติที่มีวีรบุรุษเป็นกวีแทนที่จะเป็นนักรบอย่างที่หลายคนคาดหวังเพราะชนกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นชาวไวกิ้ง ไอซ์แลนด์มีอะไรให้นักท่องเที่ยวต้องแปลกใจเสมอ

ซากามีเป็นสิบๆ แบบให้เลือกและซากาที่ได้รับความนิยมมากๆ นั้นก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของที่ระลึกและร้านหนังสือทั่วประเทศ

หลายเล่มนั้นเป็นการรวบรวมเอาบทที่ดีที่สุดมาตีพิมพ์ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของไอซ์แลนด์ในยุคแรก

ทั้งนี้ หากคุณอยากทดลองอ่านประวัติศาสตร์ของไอซ์แลนด์ เล่มที่เราแนะนำมากที่สุดคือ Saga of Njal และ Saga of Egil

ทั้งสองเล่มนี้ถือว่าเป็นเล่มที่เขียนได้ดีที่สุด มีอิทธิพลมากที่สุด และแต่งขึ้นในสมัยที่งานเขียนรุ่งเรืองที่สุดในยุคกลางในช่วงศตวรรษที่ 13

Snorri Sturluson ได้รับการยกย่องจากการรวบรวมซากาและจัดทำประมวลเรื่องราวเหล่านั้น เครดิตรูปภาพ: Wikimedia, Creative Commons, รูปภาพโดย GDK

ภาพจาก Wikimedia, Creative Commons โดย the Arni Magnusson Institute ไม่มีการแก้ไข

ส่วนใครเป็นผู้ประพันธ์เรื่องราวเหล่านี้นั้นไม่เป็นที่ปรากฏแน่ชัด เพราะการบันทึกเหตุการณ์ในรูปแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อนและใช่วิธีเล่าต่อกันมาปากต่อปาก

หลายคนสงสัยว่าซากาเรื่อง Egil อาจจะเขียนโดยสนอร์ริ สตูร์ลูสัน (Snorri Sturluson) เอง เพราะเขาเป็นนักเขียนที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดแล้วในยุคกลางของยุโรป

แต่งานเขียนของสนอร์ริที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดคือ Heimskringla และ Edda หากไม่มีผลงานสองชิ้นนี้ พวกเราคงไม่ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาวนอร์ดิกและประมวลเรื่องปรัมปรานอร์ส

นอกจากนี้ นักอ่านแนวแฟนตาซีควรหาหนังสือเรื่อง Edda ของสนอร์ริมาอ่านกันด้วย เพราะซากาชุดนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อหนังสือในปัจจุบันอย่างเรื่องลอร์ดออฟเดอะริงส์และเกมออฟโธรนส์ 



6. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของไอซ์แลนด์ 

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ชาวไอซ์แลนด์โปรดปรานคือเบียร์ภาพโดย Lance Anderson

เบียร์เพิ่งเริ่มเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายในไอซ์แลนด์เมื่อปี 1989 และอุตสาหกรรมการผลิตก็รุ่งเรืองมากตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

การผลิตคราฟต์เบียร์ได้กลายเป็นงานอดิเรกของชาวไอซ์แลนด์ไปแล้ว ดังนั้นปัจจุบันจึงมีตัวเลือกมากมาย

แบรนด์ที่ได้รับความนิยมมาก ได้แก่ Einstok, Skuli, Borg, และ Kaldi ทั้งหมดนี้ผลิตในไอซ์แลนด์และใช้วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น

ส่วนเครื่องดื่มของชาวไอซ์แลนด์ที่เก่าแก่กว่าเบียร์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลิ่นยี่หร่ารสแรงที่เรียกว่าเบรนนิวิน (Brennivin) ซึ่งโดยปกติแล้วรสชาติที่ทรงพลังของมันมักจะใช้ดื่มเพื่อกลบรสชาติของเมนูฉลามหมักแบบดั้งเดิม

แม้ว่ารสชาติจะยังไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก แต่เครื่องดื่มชนิดนี้ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากทั้งในไอซ์แลนด์และต่างประเทศ

Brennivin คือเครื่องดื่มยอดนิยมในไอซ์แลนด์ภาพจาก Wikimedia, Creative Commons โดย Paglop-commonswiki ไม่มีการแก้ไข

นอกจากตามบาร์แล้ว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีจำหน่ายเพียงสองที่เท่านั้นในไอซ์แลนด์คือที่ร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลชื่อ Vinbudin และร้านค้าปลอดภาษีที่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก

หากคุณจะซื้อแอลกอฮอล์เพื่อเป็นของฝาก เราแนะนำให้ซื้อที่ร้านค้าปลอดภาษีในสนามบินเพราะคุณจะได้ไม่ต้องจ่ายภาษี ซึ่งช่วยคุณประหยัดเงินไปได้เกือบครึ่ง



5. เครื่องนุ่งห่มสไตล์ไอซ์แลนด์ 

แฟชั่นของไอซ์แลนด์เป็นสไตล์ล้ำสมัย ใช้งานได้จริง และดูดีด้วย ส่วนมากจะเป็นแบรนด์ที่ออกแบบโดยนักออกแบบที่มีชื่อเสียงและกำลังมาแรง ผลงานจึงสวยและมีความออริจินัลเพราะมีเพียงแค่ไม่กี่ชิ้น

เมื่อเดินเล่นไปตามถนนเลยกาแวกูร์และบริเวณโดยรอบ คุณจะเห็นร้านเสื้อผ้าบูติกจำนวนมากที่สะท้อนถึงแฟชั่นอันล้ำสมัยแบบนี้

ตัวอย่างเช่นร้าน Herrafataverzlun Kormaks & Skjaldar บนเลยกาแวกูร์ 59 นั้นจำหน่ายเสื้อผ้าไฮเอนด์สำหรับผู้ชายที่ออกแบบโดย Kormakur และ Skjoldur

สำหรับตัวเลือกในแบบที่ใช้งานได้จริง แจ็คเก็ตของ 66°North ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1926 ก็น่าสนใจ และเป็นแบรนด์ที่ช่วยให้ชาวไอซ์แลนด์อบอุ่นในช่วงฤดูหนาวมาเป็นเวลานาน

ร้าน Varma ที่อยู่ห่างจากใจกลางถนน Armuli ออกไปเล็กน้อยก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่เหมาะสำหรับไปเลือกซื้อแฟชั่นคลาสสิกจากไอซ์แลนด์.

ที่นี่มีสินค้าสวยๆ ให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่หมวก ถุงมือ ไปจนถึงเสื้อโค้ทและผ้าห่ม

4. วรรณกรรมไอซ์แลนด์

Independent People เป็นหนึ่งในหนังสือยอดนิยมของไอซ์แลนด์ภาพจาก Richard Chapman

ไอซ์แลนด์มีจำนวนนักเขียน หนังสือที่วางขาย และอัตราการอ่านหนังสือเฉลี่ยของประชากรสูงกว่าประเทศส่วนใหญ่

ดังนั้นงานวรรณกรรมของไอซ์แลนด์จึงเป็นของฝากที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมการอ่านของชาติได้เป็นอย่างดี

ฮัลล์ดอร์ คิลยัน ลักซ์เนส (Halldor Laxness) เป็นนักเขียนเพียงคนเดียวของไอซ์แลนด์ที่ได้รับรางวัลโนเบล และคุณภาพงานเขียนของเขานั้นถึงแม้จะเป็นฉบับแปลก็ยังเห็นได้ชัดเจนว่าทำไมเขาจึงได้รับรางวัลนี้

ลักซ์เนสเป็นบุคคลที่มีความขัดแย้งในตัวเองมากมายและมีอุดมการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่งานเขียนของเขาทำให้เห็นภาพของไอซ์แลนด์ตลอดศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศได้รับแรงกดดันจากการขยายตัวของเมือง อุตสาหกรรม โลกาภิวัตน์ และสงครามเย็น

ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขามากที่สุดคือ Independent People อย่างไม่ต้องสงสัย แต่หนังสือของลักซ์เนสมีคุณค่าควรแก่การอ่านทุกเล่ม

หากคุณชอบอ่านหรือรู้จักใครที่ชอบอ่านหนังสือ หนังสือของฮัลล์ดอร์ถือว่าเป็นหนึ่งในของฝากที่ดีที่สุดจากประเทศไอซ์แลนด์ หนังสือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเขาสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของที่ระลึกส่วนใหญ่ทั่วประเทศและตามร้านหนังสือ ซึ่งคุณสามารถหาซื้อหนังสือแปลที่เขียนโดยนักเขียนไอซ์แลนด์ท่านอื่นได้ด้วย

3. ถ่ายภาพในชุดขนมิงค์แบบชาวไวกิ้ง 

ริชาร์ดจาก Guide to Iceland แต่งตัวเป็นชาวไวกิ้ง!ภาพจาก Richard Chapman

คุณสามารถไปสตูดิโอถ่ายภาพในชุดขนมิงค์แบบชาวไวกิ้งได้ที่เลยกาแวกูร์ 11 ซึ่งเป็นถนนสายหลักในเรคยาวิก 

ที่สตูดิโอแห่งนี้ กุดมันน์ ธอร์ บียาร์กมุนด์สัน (Gudmann Thor Bjargmundsson) ได้สร้างชื่อให้กับตัวเองด้วยการแปลงร่างลูกค้าให้เป็นนักรบไวกิ้งในเครื่องแบบเต็มยศแบบดั้งเดิมและถ่ายภาพสวยๆ เอาไว้เป็นที่ระลึก

การถ่ายภาพเดี่ยวใช้เวลาตั้งแต่ 45 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง แต่หากมาเป็นกลุ่มจะใช้เวลาถึงสองชั่วโมง ซึ่งเวลานี้รวมการแต่งตัว ถ่ายภาพ และเลือกภาพได้ 6 ภาพที่คุณชอบที่สุด

กุดมันน์มีประสบการณ์ในการถ่ายภาพและสร้างภาพยนตร์ เขาเคยทำงานร่วมกับทีมเกมออฟโธรนส์และอีกหลายโปรเจ็กต์

นอกจากนี้เขายังเชี่ยวชาญเกี่ยวกับชาวนอร์สโบราณด้วย ฉาก เครื่องแต่งกาย และอาวุธต่างๆ ที่ใช้เป็นของจริงทั้งหมด และในระหว่างที่คุณแต่งตัวและโพสต์ท่าถ่ายรูป เขาจะเล่าให้คุณฟังว่าแต่ละชิ้นคืออะไร ใช้ทำอะไร และมีประวัติความเป็นมาอย่างไร

ภาพถ่ายในชุดชาวไวกิ้งเหล่านี้กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงควรจองล่วงหน้า

2. โลปาเปย์ซา

เสื้อสเวตเตอร์ขนแกะของไอซ์แลนด์น่าจะเป็นของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดของไอซ์แลนด์ ภาพถ่ายโดย Jorunn Sjofn Gudlaugsdottirภาพโดย Jórunn

โลปาเปย์ซา หรือเสื้อสเวตเตอร์ขนสัตว์ของไอซ์แลนด์น่าจะเป็นของฝากที่คลาสสิกและมีความเป็นไอซ์แลนด์มากที่สุดแล้ว ตราบใดที่คุณซื้อแบบที่ผลิตในไอซ์แลนด์นะ

แม้ว่าโลปาเปย์ซาเพิ่งจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของไอซ์แลนด์ภายหลังจากที่ได้รับเอกราชจากเดนมาร์กในปี 1944 แต่สเวตเตอร์นี้ปัจจุบันถือเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมไอซ์แลนด์และเป็นของที่ทุกคนที่อยู่ที่นี่จะต้องมี

ข้อดีของโลปาเปย์ซาท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นและเปียกชื้นของไอซ์แลนด์นั้นมาจากคุณภาพของขนแกะไอซ์แลนด์ ซึ่งมีเส้นใยสองชั้นที่แตกต่างกัน ชั้นนอกเป็นขนหยาบเส้นยาวและสามารถกันน้ำได้ ส่วนชั้นในเป็นขนที่อ่อนนุ่มและเป็นฉนวนกักเก็บความร้อน

ดังนั้นสเวตเตอร์โลปาเปย์ซาจึงช่วยให้คุณไม่เปียกและอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา

แกะไอซ์แลนด์เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เหมือนใครและต้องใช้ขนของพวกมันเท่านั้นในการทำโลปาเปย์ซา

ปัจจุบันโลปาเปย์ซามีให้เลือกหลายสีหลากสไตล์ตามแต่ที่คุณจะชอบ

แต่แบบดั้งเดิมนั้นเป็นขนแกะธรรมชาติแบบที่ไม่ได้ย้อม ดังนั้นจึงมักจะมีสีดำ ขาว เทา หรือน้ำตาล และคนก็นิยมใช้อย่างน้อยสองสีสลับกันในการทำเสื้อสเวตเตอร์หนึ่งตัว

โลปาเปย์ซาจะถักเป็นลาย "yoke" ซึ่งเป็นลายที่มีวงแหวนรอบคอเสื้อ และแบบที่คลาสสิกที่สุดจะเล่นลวดลายที่รอบชายเสื้อและข้อมือด้วย

แม้ว่าในตอนแรกเสื้อแบบนี้จะไม่มีฮู้ดหรือซิป แต่ปัจจุบันตามร้านขายของที่ระลึกและร้านเสื้อผ้าจะมีให้เลือกหลายแบบมาก

ในบรรดาของฝากที่น่าซื้อในไอซ์แลนด์ เสื้อโลปาเปย์ซาเป็นของที่มีความเป็นไอซ์แลนด์มากที่สุดและมีประโยชน์ที่สุดด้วยสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาว

แต่การเลือกซื้อเสื้อโลปาเปย์ซาในเมืองเรคยาวิกก็มีสิ่งที่คุณต้องระวังอยู่เหมือนกัน

ประการแรกเลยคือผู้ผลิตบางรายจะไปจ้างประเทศจีนผลิต ทำให้ของที่วางขายเหล่านี้ไม่ใช่ของไอซ์แลนด์แท้ๆ (บางตัวไม่ได้ทำจากขนแกะไอซ์แลนด์ด้วยซ้ำ) และมีราคาสูงเกินไป

ประการที่สองคือเสื้อพวกนี้มีราคาแตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับว่าคุณซื้อที่ไหน

โลปาเปย์ยาที่มีคุณภาพดีที่สุดและราคาไม่แพงสามารถหาซื้อได้จากสมาคมงานถักทอแห่งไอซ์แลนด์ (Handknitting Association of Iceland) ตลาดธอร์วัลด์เซ่นบาร์ซาร์ (Thorvaldsen's Bazaar) และตลาดนัดโคลาพอร์ทิด (Kolaportid)

1. ดนตรีไอซ์แลนด์ 

วงการดนตรีของไอซ์แลนด์มีความหลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อและกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในระดับสากล เดี๋ยวนี้เราไม่ได้มีแค่บียอร์ก (Bjork) แล้ว

คุณสามารถเลือกหาเพลงไอซ์แลนด์ดีๆ ได้ตามร้านขายแผ่นเสียงซึ่งมีอยู่ทั่วเรคยาวิก

Lucky Records, Smekkleysa, 12 Tonar และ Reykjavik Record Shop เป็นร้านที่มีของให้เลือกเยอะมาก

นอกจากนี้ ผู้ที่รักเสียงดนตรียังสามารถไปเข้าร่วมกับทัวร์ชมพิพิธภัณฑ์ร็อคแอนด์โรลผ่านไอแพดไกด์ได้ด้วย

ในขณะที่คนส่วนมากจะเคยได้ยินแต่ชื่อของบียอร์กและบางทีอาจจะมีวงอื่นๆ ด้วยอย่าง Sigur Ros และ Of Monsters and Men แต่ก็ยังมีศิลปินและวงดนตรีรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังมาแรงและคุ้มค่ากับการลองฟังเช่นกัน

หากต้องการเพลงไอซ์แลนด์ที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวไอซ์แลนด์นั้น ให้คุณมองหาผลงานของศิลปินระดับประเทศอย่าง Pall Oskar, Elly Vilhjalms, Asgeir Trausti, GusGus, และ Mugison

และยังมีอีกมากมาย ได้แก่ Hjalmar, Skalmold, Emiliana Torrini, Dadi Freyr, Olafur Arnalds, Hjaltalin, Svavar Knutur, Kuldaboli, Flott, Amabadama, Olof Arnalds, Mum, Valdimar, Hildur, Audur, Solstafir, Quarashi, Ragnheidur Grondal ซึ่งสามารถยกตัวอย่างไปได้เรื่อยๆ ไม่มีหมด it.

ไม่ว่าคุณจะมีรสนิยมทางดนตรีแบบไหน คุณก็จะต้องได้พบกับนักร้องหรือวงไอซ์แลนด์ที่ตรงกับเทสต์ของคุณ

ไอซ์แลนด์เป็นชาติที่เต็มไปด้วยนักดนตรี ดังนั้นคุณสามารถค้นหาเพลงได้ทั้งแนวเพลงพื้นบ้าน เมทัล เร็กเก้ แจ๊ส อิเล็กทรอนิกส์ และคันทรี ไปจนถึงเพลงป๊อบและร็อคได้ไม่ยาก

พนักงานที่ทำงานในร้านขายแผ่นเสียงเองก็หลงใหลในดนตรีของประเทศเหมือนกันและพวกเขายินดีให้คำแนะนำกับคุณแน่นอน

สถานที่ไม่เหมือนใครสำหรับของที่ระลึก

แม้ว่าตัวเลือกที่ด้านบนจะสะท้อนถึงวัฒนธรรมที่หลากหลายของไอซ์แลนด์ แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวเลือกเพียงอย่างเดียวสำหรับของที่ระลึกจากไอซ์แลนด์ หรือสถานที่สำหรับซื้อของที่ระลึก ยังมีสถานที่อีกหลายแห่งทั่วประเทศที่คุณสามารถไปเลือกหาของที่ระลึกจากไอซ์แลนด์ในแบบที่เหมาะกับรสนิยมและงบประมาณของคุณ

อ่านต่อเพื่อค้นหาสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับของฝากเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ไอซ์แลนด์อยู่ในความทรงจำของคุณตลอดไป

ธรรมชาติของไอซ์แลนด์

เคิร์กจูเฟลล์บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสของไอซ์แลนด์

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าธรรมชาติของไอซ์แลนด์มีไว้ให้ชื่นชมที่นี่ ไม่ได้มีไว้สำหรับให้ทุกคนนำติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย

แต่อากาศบริสุทธิ์บนภูเขาในไอซ์แลนด์นั้นคุณสามารถนำใส่ขวดกลับไปได้ฟรีๆ โดยที่ไม่สร้างความเสียหายให้กับใคร

และสิ่งนี้ก็มีขายในร้านขายของที่ระลึกด้วย แต่ถ้าคุณไม่อยากได้บรรจุภัณฑ์ตลกขบขันที่วางขายกันอยู่ คุณก็สามารถประหยัดเงินไปได้ส่วนหนึ่ง

นอกประเทศไอซ์แลนด์ สิ่งนี้กำลังได้รับความนิยมมาก บนถนนที่เต็มไปด้วยมลพิษในกรุงปักกิ่งนั้นขายกันในราคาขวดละ 8 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทีเดียว ซึ่งผู้มีฐานะดีบางคนก็ต้องการอากาศบริสุทธิ์และยินดีจ่ายในราคาสูงกว่านั้นด้วยซ้ำไป

ของฟรีที่แปลกอีกอย่างคือการเอาขวดมากรอกน้ำจากก๊อกหรือน้ำแร่ธรรมชาติกลับไป น้ำในไอซ์แลนด์เป็นน้ำที่ผ่านการกรองตามธรรมชาติและเป็นหนึ่งในน้ำที่สะอาดที่สุดในโลก

โคลาพอร์ทิด

โคลาพอร์ทิดคือแหล่งซื้อของฝากที่ดีที่สุดของเรคยาวิกภาพจาก Wikimedia, Creative Commons โดย Karl Gunnarsson ไม่มีการแก้ไข

โคลาพอร์ทิด (Kolaportid) เป็นตลาดนัดของไอซ์แลนด์ที่เต็มไปด้วยสินค้ามากมายหลายชนิด หากคุณยังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดีในไอซ์แลนด์ ที่นี่เหมาะกับคุณมาก!

ที่นี่มีทุกอย่างตั้งแต่เสื้อสเวตเตอร์แบบไอซ์แลนด์ไปจนถึงคนขายปลาจึงเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบมากสำหรับนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศ และที่นี่ยังเป็นแหล่งซื้อของฝากเพื่อนและครอบครัวสำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็นคนช่างเลือกด้วย

คุณอาจจะได้เจอกับหนังสือและดนตรีหายากของไอซ์แลนด์ เสื้อผ้ามากมาย และผลงานที่สวยงามมีเอกลักษณ์จากศิลปินในท้องถิ่น

ฮริม

ด้านหน้าของฮริมในดาวน์ทาวน์เรคยาวิกภาพจาก Wikimedia, Creative Commons โดย Bryan Ledgard หมายเหตุการแก้ไขดัดแปลง: ครอปตัดมาจากภาพต้นฉบับ

สำหรับผู้ที่ชอบแต่งบ้านและอยากนำสไตล์การตกแต่งบ้านแบบนอร์ดิกที่เรียบง่ายสะอาดตาติดไม้ติดมือกลับไป ฮริม (Hrim) เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการไปช้อปปิ้งของที่ระลึกจากไอซ์แลนด์

ที่นี่มีเครื่องครัวและของใช้ในบ้านที่ออกแบบในไอซ์แลนด์และของเก๋ๆ ชิคๆ จากส่วนอื่นๆ ของโลกด้วย

ราคาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลมากกว่าที่อื่นๆ ในประเทศ เช่น กระทะไอซ์แลนด์ที่ออกแบบมาเพื่อทำแพนเค้กนั้นมีราคาเพียงครึ่งหนึ่งของร้านคู่แข่ง

ร้านนี้ตั้งอยู่บนเลยกาแวกูร์ 25 และที่ห้างสรรพสินค้าคริงแลน (Kringlan)

บริษัท Puzzled by Iceland

Puzzled by Iceland เป็นบริษัทออกแบบชั้นนำแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ ผลิตภัณฑ์ของที่นี่เหมาะสำหรับเป็นของที่ระลึกสำหรับผู้ที่ต้องการของที่ใช้ได้จริงและมีความเป็นไอซ์แลนด์แท้ๆ ติดมือกลับไปเพื่อให้นึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ที่ไอซ์แลนด์

สินค้าที่จำหน่ายขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลาของปี โดยคุณอาจจะได้เห็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ และกระเป๋ามากมายหลายรูปแบบ

ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เพราะว่ามีภาพสวยๆ ของปรากฏการณ์ธรรมชาติและสัตว์ของไอซ์แลนด์ประทับอยู่ด้วย เช่น แสงเหนือ การปะทุของภูเขาไฟ นกพัฟฟินแอตแลนติก และม้าไอซ์แลนด์

สินค้าที่จำหน่ายยังผลิตขึ้นจากวัสดุที่ใช้ซ้ำได้เพื่อเหตุผลด้านความยั่งยืนด้วย ดังนั้นของที่ระลึกของคุณจึงไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยที่ไม่จำเป็นเหมือนกับสินค้าที่ผลิตครั้งละจำนวนมากและส่งมาจากประเทศจีน

ร้าน Icewear บนถนนออสเทอร์สแตรติ 

สำหรับผู้ที่มองหาเสื้อผ้าหน้าหนาวที่มีสไตล์และทนทานแบบที่ใช้ได้ไปตลอดชีวิต เสื้อผ้าจากร้าน Icewear และ 66° North ถือว่าเป็นของที่ระลึกที่ยอดเยี่ยมจากไอซ์แลนด์

ร้าน Icewear บนถนนออสเทอร์สแตรติ 5 นั้นน่าสนใจและเหมาะสำหรับไปเลือกหาเสื้อผ้าประเภทดังกล่าว และยังถือว่าเป็นร้านที่มีประวัติด้วย

บริเวณชั้นล่างเดิมเคยใช้เป็นห้องนิรภัยของธนาคาร ดังนั้น บางทีร่องรอยแห่งอดีตของที่นี่จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่น่าสนใจมากกว่าสิ่งของเสียอีก

ไม่ว่าคุณจะมาเที่ยวที่ไอซ์แลนด์เพื่อมาชมธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ เมืองหลวง หรือวัฒนธรรม คุณก็จะต้องได้ของที่สื่อถึงความทรงจำดีๆ ของไอซ์แลนด์ติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างแน่นอน

อุตสาหกรรมของฝากของไอซ์แลนด์พัฒนาไปพร้อมๆ กับการท่องเที่ยวที่เฟื่องฟูขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้คุณก็น่าจะมีไอเดียเกี่ยวกับของฝากจากไอซ์แลนด์แท้ๆ ที่จะสะท้อนถึงประสบการณ์ที่คุณได้รับที่ไอซ์แลนด์ได้แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นเสื้อโลปาเปย์ซาที่ทนทานใช้งานได้จริงและเป็นผลิตภัณฑ์เก่าแก่ดั้งเดิมของไอซ์แลนด์ หรือถุงยางอนามัยแปลกๆ ขำๆ จากไอซ์แลนด์ หรืออะไรก็ตามแต่ เราแน่ใจว่าคุณจะต้องหาของที่ตรงกับรสนิยมของคุณเจออย่างแน่นอน

เราหวังว่าคำแนะนำในบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกหาของที่ระลึกที่ดีที่สุดจากประเทศไอซ์แลนด์ไม่มากก็น้อย! และเราอยากรู้ว่าคุณเลือกซื้ออะไรกลับบ้านด้วย ดังนั้นคุณอย่าลังเลที่จะแสดงความคิดเห็นในคอมเมนต์ด้านล่าง

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความอื่นที่น่าสนใจ

Link to appstore phone
ติดตั้งแอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์

ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว

สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด