กิจกรรมฤดูหนาวที่ดีที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์

ช่วงพีคของฤดูหนาวอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งมักจะมีหิมะตกเยอะ มีน้ำแข็ง และมีพายุด้วย แต่ก็มีวันที่อากาศดีและแห้งสลับอยู่เหมือนกัน และในช่วงนี้สภาพถนนจะแย่ ทำให้ขับรถลำบากหน่อย และถนนหนทางตามชนบทนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการขับขี่บนถนนที่เป็นน้ำแข็งเท่านั้น

อุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงนี้อยู่ระหว่าง -10 ถึง 5 องศาเซลเซียส แต่เมื่อบวกกับความหนาวเย็นของลมแล้วคุณน่าจะรู้สึกเย็นกว่านั้นอีก ดังนั้นแต่งตัวหลายๆ ชั้นเข้าไว้!

• ดูบทความวิธีขับรถอย่างปลอดภัยในไอซ์แลนด์

• อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิ และแสงเหนือในประเทศไอซ์แลนด์ 

จากที่กล่าวมาทำให้มีกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นสำหรับช่วงฤดูหนาวมากมายนอกจากการชมทิวทัศน์และแสงเหนือ! หากคุณต้องการหาแพ็คเกจที่รวมกิจกรรมที่ดีที่สุดทั้งหมดมาให้เลือก คุณสามารถเข้าไปดูได้ที่แพ็คเกจฤดูหนาวในประเทศไอซ์แลนด์ แพ็คเกจเหล่านี้รวมไปถึงการชมถ้ำน้ำแข็ง ล่าแสงเหนือ และทัวร์ท่องเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำ และเข้าใช้บริการบลูลากูน นอกจากนี้คุณยังควรเข้าไปดูทัวร์ 3 วันช่วงฤดูหนาวบนชายฝั่งทางใต้ ที่จะพาเที่ยวทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon Glacier Lagoon) และเข้าไปชมภายในถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าด้วย

เที่ยวถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติบนธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่น่าประทับใจและพิเศษที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ก็คือถ้ำน้ำแข็งตามธรรมชาติ ในทุกหน้าหนาวจะมีถ้ำน้ำแข็งเกิดขึ้นบนธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajokull) ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และถ้ำเหล่านี้จะละลายหรือแตกสลายเมื่อหน้าร้อนมาถึง ดังนั้นคุณสามารถเที่ยวชมถ้ำน้ำแข็งในไอซ์แลนด์ได้แค่ในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่หนึ่งแห่ง!

มีถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติแห่งหนึ่งที่สามารถเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากมีการดูแลเป็นพิเศษเพื่อความปลอดภัย คุณสามารถเข้าร่วมทัวร์ถ้ำน้ำแข็งแพ็คเกจนี้ที่พาไปธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล โดยทัวร์เริ่มต้นที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน อย่างไรก็ตาม หากคุณมาเที่ยวในช่วงฤดูหนาว คุณจะมีตัวเลือกให้เลือกมากกว่า!

ถ้ำน้ำแข็งแต่ละแห่งมีความพิเศษมาก ถ้ำเหล่านี้มีขนาดและรูปร่างที่หลากหลาย บางครั้งมีถ้ำเกิดขึ้นมากมายหลายแห่ง แต่บางครั้งก็มีเพียงแค่ไม่กี่แห่ง ซึ่งถ้ำน้ำแข็งทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนมีความงดงามอย่างน่ามหัศจรรย์และมีสีฟ้าสวยสด

• ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ: ถ้ำน้ำแข็งในประเทศไอซ์แลนด์

ถ้ำน้ำแข็งส่วนใหญ่สามารถเที่ยวได้เฉพาะในฤดูหนาว นี่จึงเป็นสิ่งแรกที่เราแนะนำให้ไปดูเมื่อมาเยือนไอซ์แลนด์ในช่วงนี้ โดยถ้ำเหล่านี้ส่วนใหญ่จะสามารถเข้าไปชมด้านในได้ระหว่างช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมเท่านั้น

ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลที่ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ใกล้เมืองเฮิฟน์ (Hofn) มีถ้ำน้ำแข็งที่เปิดให้เข้าไปชมได้อยู่ ซึ่งการเดินทางไปนั้นใช้เวลาขับรถประมาณ 5-6 ชั่วโมงจากเมืองเรคยาวิก และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามให้แวะชมตลอดทาง ทั้งน้ำตก น้ำพุร้อน และภูเขาไฟที่สงบแล้ว หากคุณขับรถไปจากเมืองเรคยาวิก เราแนะนำให้คุณใช้เวลาอย่างน้อยสองวันในการเดินทางและเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ แต่หากคุณมีเวลาไม่มาก คุณอาจจะเลือกไปเข้าร่วมกับทัวร์เที่ยวถ้ำน้ำแข็งแบบเช้าไปเย็นกลับเดินทางด้วยเครื่องบิน

หากคุณขับรถเดินทางมายังจุดเริ่มต้นเอง คุณสามารถไปเข้าร่วมกับทัวร์ที่พาออกเดินทางไปยังถ้ำน้ำแข็ง หรือจะเป็นทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 3 วันแพ็คเกจนี้ก็ได้

ดูแสงเหนือในประเทศไอซ์แลนด์

แสงเหนือมีความงดงามมากแต่เป็นสิ่งที่ไม่อาจจะคาดเดาได้ เพราะท้องฟ้าจะต้องปลอดโปร่งและแสงเหนือเองมีความเข้มของแสงหลายระดับ คนส่วนใหญ่มาไอซ์แลนด์เพื่อที่จะชมแสงเหนือที่งดงาม ซึ่งเดาเหตุผได้ไม่ยาก ในวันที่อากาศเหมาะสม คุณจะมองเห็นแสงเหนือหลากสีสันส่ายไปมาอยู่บนท้องฟ้า มีตั้งแต่สีขาวไปจนถึงสีเขียว สีชมพู และสีม่วง!

พวกเรามักจะคิดว่าการได้เห็นแสงเหนือถือเป็นโบนัสพิเศษสำหรับทริป เพราะไม่สามารถรับประกันได้เลยว่าจะได้เห็นแสงเหนือหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยิ่งคุณใช้เวลาในประเทศไอซ์แลนด์มากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีโอกาสได้เห็นมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นหากคุณต้องการชมแสงเหนือ คุณควรจะใช้เวลาในประเทศไอซ์แลนด์อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์

• ดูข้อมูล ทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 7 วันชมแสงเหนือ

• หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แสงเหนือในประเทศไอซ์แลนด์

แช่น้ำพุร้อนในประเทศไอซ์แลนด์

ช่วงฤดูหนาวไม่ได้มีเพียงน้ำแข็งและหิมะ! คุณสามารถลงแช่น้ำพุร้อนที่ไอซ์แลนด์ได้ตลอดทั้งปี แต่การแช่น้ำร้อนในช่วงฤดูหนาวจะรู้สึกสบายมากเป็นพิเศษ บลูลากูน (Blue Lagoon) เป็นสปาพลังงานความร้อนใต้พิภพที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และเช่นเดียวกับวงกลมทองคำที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศด้วย โดยทริปไปบลูลากูนมักจะถูกนำไปรวมอยู่กับกิจกรรมอื่นๆ เช่น ทัวร์เที่ยวชมสถานที่ และทัวร์ขี่ม้า และเนื่องจากบลูลากูนตั้งอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก นักท่องเที่ยวจึงมักจะแวะแช่น้ำที่นี่ทั้งขามาจากสนามบินและขากลับ 

สกายลากูน (Sky Lagoon) ที่เพิ่งเปิดให้บริการในเมืองหลวงอย่างเรคยาวิกเมื่อปี 2021 ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นสถานที่แช่น้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพชั้นนำอีกแห่งของไอซ์แลนด์ โดยสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ของที่นี่สามารถมองเห็นวิวมหาสมุทรได้อย่างชัดเจน แถมยังมีบาร์กลางน้ำให้บริการเครื่องดื่มด้วย เรียกว่าคุ้มค่าน่าไปลองแวะใช้บริการมากเช่นกัน

นอกจากนี้ก็ยังมีน้ำพุร้อนแห่งอื่นๆ อีกด้วย เช่น ซีเครทลากูน (Secret Lagoon) ใกล้เมืองฟูดิร์ (Fludir) ซีเครทลากูนนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพ แต่จริงๆ แล้วที่นี่เป็นสระว่ายน้ำที่เก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์เลย น้ำที่นี่อุ่นสบายเหมาะสำหรับการว่ายน้ำมาก แต่ปัจจุบันคนนิยมลงไปแช่น้ำและพักผ่อนกันมากกว่า

แห่งถัดมาคืออ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ (Nature Baths in Myvatn) หรือบลูลากูนของภาคเหนือ อ่างน้ำแห่งนี้คนไม่เยอะและตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงาม ใกล้ๆ กันมีทะเลสาบมิวาทน์ (Lake Myvatn) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของไอซ์แลนด์ และในแถบนั้นยังมีสถานที่สวยงามอีกมากมายให้ไปชม อาทิ หินรูปร่างแปลกประหลาดและปากปล่องภูเขาไฟ

ระหว่างที่เดินทางไปยังวงกลมทองคำ คุณจะเจอกับอ่างน้ำร้อนพลังงานความร้อนใต้พิภพฟอนทาน่า (Fontana) อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ข้างทะเลสาบเลยการ์วาท์น (Laugarvatn) และเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำไปรวมกับทริปเที่ยววงกลมทองคำ โดยสปาพลังงานความร้อนใต้พิภพของที่นี่มีชื่อเสียงเพราะสร้างอยู่บนน้ำพุร้อนธรรมชาติเลย นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำและเลานจ์ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบอีกต่างหาก จองแพ็คเกจนี้เพื่อท่องเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำและไปแช่น้ำที่อ่างน้ำร้อนฟอนทาน่า รับรองว่าคุณจะจบทริปในวันนี้แบบผ่อนคลายมากที่สุด

นอกจากแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติแล้ว สระว่ายน้ำที่ไอซ์แลนด์นั้นก็มีอยู่เป็นจำนวนมากเหมือนกัน ซึ่งรวมถึงอ่างน้ำร้อนและห้องอบไอน้ำด้วย และในเกือบจะทุกเมืองที่คุณเดินทางไปจะต้องมีสระว่ายน้ำหนึ่งสระ ส่วนสระว่ายน้ำในเรคยาวิกนั้นมีอยู่เป็นจำนวนมาก การไปสระว่ายน้ำนั้นมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าอ่างน้ำธรรมชาติ และคุณก็จะได้พบปะกับคนในท้องถิ่นด้วย บางคนนั้นไปสระว่ายน้ำเป็นประจำทุกวัน

หากคุณกำลังมองหาสถานที่สำหรับลงแช่น้ำ คุณควรอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับบ่อน้ำร้อนและสระว่ายน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ดีที่สุด 30 แห่งในไอซ์แลนด์แล้วคุณจะพบกับสถานที่ที่เหมาะกับคุณอย่างแน่นอน

ปีนธารน้ำแข็งในประเทศไอซ์แลนด์

มีธารน้ำแข็งจำนวนมากที่ไอซ์แลนด์ และธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ วัทนาโจกุล (Vatnajokull) ลางโจกุล (Langjokull) เฮิฟส์โจกุล (Hofsjokull) และมิร์ดาลสโจกุล (Myrdalsjokull) เฮิฟส์โจกุลเป็นธารน้ำแข็งที่เข้าถึงได้ยากที่สุดเพราะตั้งอยู่ด้านในลึกๆ ของประเทศไอซ์แลนด์ ส่วนแห่งอื่นนั้นนักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้ค่อนข้างง่าย ทัวร์ปีนธารน้ำแข็งส่วนใหญ่ที่จัดในช่วงฤดูหนาวจะพาไปที่โซลเฮมาโจกุล (Solheimajokull) ในทางใต้ของไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล

แม้แต่ในวันที่มีแสงอาทิตย์และท้องฟ้าสดใส คุณก็ต้องแต่งตัวให้อบอุ่นเพียงพอและนำเสื้อกันหนาวติดไปเผื่อสวมทับอีกหลายชั้น เพราะคุณจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอากาศจะเปลี่ยนแปลงขนาดไหน และคุณน่าจะพอเดาได้ว่าบนยอดด้านบนของธารน้ำแข็งนั้นหนาวมากทีเดียว นอกจากนี้คุณควรสวมใส่รองเท้าบูทหุ้มข้อด้วย และคุณยังจะได้รับรองเท้าตะปูเอาไว้รัดติดกับรองเท้าบูทของคุณด้วย เพื่อช่วยเพิ่มการยึดเกาะบนหิมะและน้ำแข็ง 

ธารน้ำแข็งมีการเคลื่อนตัวโดยจะค่อยๆ เขยิบคืบคลานไปด้านหน้าไม่หยุดนิ่งและมีน้ำแข็งละลายอยู่ตลอด และกระบวนการเหล่านี้ทำให้เกิดเป็นภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์ เมื่อไปทัวร์ปีนธารน้ำแข็งคุณจะได้เห็นน้ำแข็งและหิมะอย่างแน่นอน แต่ข้างบนนั้นก็มีทราย ขี้เถ้า และหินที่ถูกน้ำแข็งผลักดันออกมาจากพื้นดินเป็นจำนวนมากด้วยเหมือนกัน ทำให้ทิวทัศน์ที่เห็นมองดูเหมือนกับผืนผ้าใบสีขาวที่มีสีอื่นๆ แต้มอยู่ และบนผืนน้ำแข็งยังอาจจะมีรอยแยกลึกและหุบเหวน้ำแข็งที่ถูกบดบังอยู่ภายใต้หิมะ ด้วยเหตุนี้คุณจึงจำเป็นต้องเดินทางไปกับไกด์ที่เข้าใจธรรมชาติของธารน้ำแข็งและรู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี เพื่อให้คุณสามารถเดินไปในเส้นทางที่ปลอดภัย อย่างเช่นไปกับทัวร์ปีนธารน้ำแข็งที่ธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุลแพ็คเกจนี้

สำหรับผู้ที่ต้องการชมทัศนียภาพแห่งฤดูหนาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนในแบบที่ไม่มีให้เห็นในที่อื่นๆ ส่วนใหญ่ทั่วโลก คุณควรไปกับทัวร์ปีนธารน้ำแข็งอย่างแน่นอน ไม่แน่คุณอาจจะได้ทดสอบทักษะการใช้ข้อมือไต่ไปบนธารน้ำแข็งโดยมีขวานน้ำแข็งเป็นอุปกรณ์เสริมด้วยก็ได้!

เล่นเลื่อนสุนัขในประเทศไอซ์แลนด์

ภาพจาก กิจกรรมนั่งเลื่อนสุนัขแบบส่วนตัว 2 ชั่วโมงในอาคูเรย์ริพร้อมบริการถ่ายภาพ

คนรักธรรมชาติและน้องหมาไม่ควรพลาดกิจกรรมท่องเที่ยวบนภูมิประเทศที่เป็นน้ำแข็งของไอซ์แลนด์ด้วยบริการจากเพื่อนรักขนปุกปุย! คุณสามารถไปเข้าร่วมกับทัวร์แบบส่วนตัวระยะเวลา 2 ชั่วโมงแพ็คเกจนี้ โดยเลื่อนแต่ละคันจะรับผู้โดยสารได้ 1-2 ท่าน และมีเจ้าไซบีเรียนฮัสกี้น่ารักๆ ที่ชื่นชอบการวิ่งตะลุยไปบนหิมะนุ่มละเอียดเป็นที่สุดมารับหน้าที่ลากเลื่อนให้

เลื่อนแต่ละคันจะมีผู้คุมหนึ่งคนและมีสุนัขลากเลื่อน 6-8 ตัว และผู้คุมจะสอนให้คุณทำงานร่วมกันเป็นทีมกับสุนัขที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเหล่านี้ รวมถึงแนะนำทักษะพื้นฐานของการใช้เลื่อนสุนัขด้วย ทัวร์ประเภทนี้เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็ก หรือนักท่องเที่ยวที่อยากแสวงหาประสบการณ์ตื่นเต้นแปลกใหม่

ดูตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับทัวร์นั่งเลื่อนสุนัขในไอซ์แลนด์ของเรา เพื่อหาทัวร์ที่เหมาะสำหรับคุณมากที่สุดได้เลย

ขี่สโนว์โมบิลในประเทศไอซ์แลนด์

ภาพจาก ทัวร์ชายฝั่งทางใต้ 10 ชั่วโมงพร้อมกิจกรรมขี่สโนว์โมบิลบนมิร์ดาลสโจกุลและบริการรับส่งจากเรคยาวิก 

กิจกรรมขี่สโนว์โมบิลสามารถร่วมสนุกได้ตลอดทั้งปี ทั้งที่ธารน้ำแข็งลางโจกุลและธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล โดยทัวร์ขี่สโนว์โมบิลเกือบทั้งหมดจะรวมกิจกรรมขี่สโนว์โมบิลระยะเวลา 1 ชั่วโมงให้ด้วย และคุณจะได้บิดเร่งเครื่องอยู่บนลานที่ปกคลุมด้วยหิมะซึ่งอยู่สูงขึ้นไปบนธารน้ำแข็ง ในวันที่อากาศแจ่มใสคุณจะได้เห็นทัศนียภาพที่งดงามตระการตามาก ทริปนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นเร้าใจให้อะดรีนาลีนสูบฉีดเล็กน้อยแต่ก็ต้องการดื่มด่ำกับภูมิประเทศรอบตัวไปพร้อมกันด้วย วิธีนี้จึงเหมาะมากสำหรับการสำรวจและสนุกกับธารน้ำแข็ง!

ทัวร์ขี่สโนว์โมบิลบนลางโจกุลแพ็คเกจนี้รวมทริปเที่ยวบนวงกลมทองคำด้วย จึงเป็นเดย์ทริปวันเดียวที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเคยมาเที่ยวไอซ์แลนด์เป็นครั้งแรก!

ทั้งนี้ ทัวร์ขี่สโนว์โมบิลที่เรามีนั้นไม่ได้พาไปที่ฝั่งใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ทั้งหมด คุณสามารถไปเข้าร่วมกับทัวร์ขี่สโนว์โมบิลที่ออกเดินทางจากเมืองอาคูเรย์ริ (Akureyri) ในทางเหนือของไอซ์แลนด์ได้เช่นกัน

ดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกในประเทศไอซ์แลนด์

บางทีนี่อาจจะไม่ใช่กิจกรรมที่คุณนึกถึงสำหรับช่วงฤดูหนาว แต่ทั้งทัวร์ดำน้ำตื้นและทัวร์ดำน้ำลึกนั้นเปิดให้บริการตลอดทั้งปีที่ไอซ์แลนด์ และสถานที่ดำน้ำที่โด่งดังที่สุดในไอซ์แลนด์คือที่รอยแยกซิลฟรา (Silfra) ซึ่งเป็นหุบเหวรอยแยกที่มีน้ำใสปิ๊งราวกับคริสตัล โดยซิลฟราตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir National Park) และในพื้นที่ที่อยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นนี้ คุณสามารถลงไปดำน้ำลึกหรือจะดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิลก็ได้ โดยใต้น้ำในบริเวณนี้มีทัศนวิสัยที่ดีมากจนคุณสามารถมองเห็นได้ไกลถึง 120 เมตร! 

น้ำในซิลฟรามีอุณหภูมิคงที่ตลอดทั้งปี ดังนั้นจึงไม่มีความแตกต่างกันมากสำหรับการดำน้ำในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว โดยอุณหภูมิของน้ำอยู่ที่ 2 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี ดังนั้นทั้งการดำน้ำลึกและดำน้ำตื้นจะต้องสวมใส่ชุดดรายสูทเพื่อรักษาร่างกายให้อบอุ่นภายใต้อุณหภูมิที่เกือบถึงจุดเยือกแข็ง 

เล่นสกีและสโนว์บอร์ดในประเทศไอซ์แลนด์

น่าประหลาดใจที่สกีและสโนว์บอร์ดไม่ได้เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในประเทศไอซ์แลนด์ หรืออย่างน้อยก็ในเรคยาวิก ซึ่งเหตุผลก็คือมีหิมะไม่มากพอ!

แม้ว่าไอซ์แลนด์จะมีหิมะตกทุกปี แต่เนื่องจากไอซ์แลนด์มีภูมิอากาศแบบอบอุ่นจึงทำให้หิมะละลายไปอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วัน ไม่ได้มีหิมะสะสมมากพอสำหรับฤดูกาลเล่นสกี และบางครั้งก็มีลมพัดแรงเกินกว่าที่จะเปิดสกีรีสอร์ทได้

ถึงกระนั้นในไอซ์แลนด์ก็ยังมีสกีรีสอร์ทที่ยอดเยี่ยมอยู่อย่างน้อยสองแห่ง คือที่บลาฟยอลล์ (Blafjoll) ใกล้กับเมืองเรคยาวิก และที่ฮลิดาร์ฟยาลล์ (Hlidarfjall) ในทางเหนือของไอซ์แลนด์ใกล้กับอาคูเรย์ริ โดยทั้งสองแห่งมีอุปกรณ์สกีและสโนว์บอร์ดให้คุณเช่าเล่นได้

สกีรีสอร์ททั้งหมดมีราคาปานกลางและมีบัตรเข้าใช้บริการให้เลือกทั้งแบบ 1, 2, และ 3 ชั่วโมง หากคุณเช่ารถขับในไอซ์แลนด์ คุณสามารถเดินทางจากเรคยาวิกไปยังบลาฟยอลล์ได้ภายในเวลาประมาณ 30 นาที ส่วนฮลิดาร์ฟยาลล์นั้นก็ขับรถจากอาคูเรย์ริไปไม่ไกล ซึ่งสะดวกเหมือนกันหากคุณอยู่ในทางเหนือของประเทศ

ท่องเที่ยวชมทัศนียภาพในประเทศไอซ์แลนด์

ตอนนี้คุณน่าจะรู้แล้วว่ามีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำได้มากมายเมื่อคุณมาเที่ยวไอซ์แลนด์ในฤดูหนาว แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของประเทศนี้ก็คือธรรมชาติที่สวยงามไม่เหมือนที่อื่นใด และธรรมชาติของไอซ์แลนด์ก็งดงามอย่างเต็มรูปแบบที่สุดในช่วงหน้าหนาวนี่เอง

ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณแบ่งเวลาไปเข้าร่วมทัวร์ชมสถานที่และชมมหัศจรรย์ทางธรรมชาติต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศ หรือคุณจะเช่ารถขับเคลื่อนสี่ล้อ (4x4) แล้วใช้ทัวร์ขับเที่ยวเองในฤดูหนาว เพื่อชมดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาวด้วยตัวเองก็ได้

ทัวร์เส้นทางวงกลมทองคำเป็นทัวร์ชมสถานที่ที่โด่งดังมากที่สุด เส้นทางนี้ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir National Park) พื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ ซึ่งมีน้ำพุร้อนสโทรคูร์ (Strokkur) ปะทุพ่นน้ำในทุกสองสามนาที และน้ำตกทองหรือน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss)

โดยเฉพาะน้ำตกกุลล์ฟอสส์นั้นน่าประทับใจมากเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากแวดล้อมไปด้วยน้ำแข็ง แม้ธารน้ำตกที่เคยไหลแรงก็กลายเป็นชั้นน้ำแข็งจำนวนหลายชั้น สโทรคูร์เองก็ไม่เคยหยุดพ่นน้ำร้อนขึ้นไปในอากาศเลยไม่ว่าอุณหภูมิเหนือพื้นดินจะเป็นอย่างไร ส่วนที่อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกนั้นก็สวยงามและรุ่มรวยด้วยประวัติศาสตร์

• อ่านสิ่งนี้ด้วย: 11 อันดับน้ำตกน้ำแข็งในประเทศไอซ์แลนด์ที่น่าไปชมในฤดูหนาว

บนชายฝั่งทางใต้มีน้ำตกเซลยาแลนศ์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) และหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ที่มีสีดำเมี่ยมและมองออกไปเห็นโขดทะเลเรย์นิสแดรงเกอร์ (Reynisdrangar) ที่งดงามอยู่บริเวณนอกชายฝั่ง ในทางใต้นี้ยังมีทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon) และหาดไดมอนด์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลด้วย คุณสามารถขับรถเที่ยวบนชายฝั่งทางใต้ได้ด้วยตัวเองหรือจะเลือกไปกับทัวร์ก็ได้ซึ่งเราก็มีตัวเลือกทัวร์สำหรับเที่ยวชายฝั่งทางใต้อยู่มากมาย

วันส่งท้ายปีเก่าในประเทศไอซ์แลนด์

หากคุณใช้เวลาช่วงนิวเยียร์อีฟที่ไอซ์แลนด์ สิ่งที่คุณจะได้เห็นคือมหกรรมการจุดดอกไม้ไฟ!

ชาวไอซ์แลนด์จะชอบมาสังสรรค์รับประทานอาหารร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูงในวันส่งท้ายปีเก่ากันก่อน จากนั้นค่อยออกไปเล่นรอบกองไฟที่มีการก่อขึ้นหลายแห่งรอบเมือง ก่อนที่จะออกไปจุดดอกไม้ไฟเล่นกันในปริมาณที่มากมาย! ทุกหัวมุมถนนในเรคยาวิกจะมีพลุและดอกไม้ไฟสว่างไสวไปทุกทิศทางทั้งก่อนและหลังเที่ยงคืน

หากคุณกำลังคิดว่าจะมาเที่ยวไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูหนาว รับรองว่าคุณจะมีกิจกรรมให้ทำไม่สิ้นสุดอย่างแน่นอน!

• ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วันคริสต์มาสในประเทศไอซ์แลนด์ ได้ที่นี่