ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน: ทุกอย่างที่จำเป็นต้องรู้

ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน: ทุกอย่างที่จำเป็นต้องรู้

Michael Chapman
โดย Michael Chapman
ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรอง
ไปที่เรื่อง

ทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการมาเที่ยวไอซ์แลนด์ในช่วงเดือนพฤศจิกายน เรามีทุกคำตอบที่นี่ ไม่ว่าคุณอยากรู้เกี่ยวกับสภาพอากาศที่ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน หรือต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแสงเหนือ อีกทั้งยังรวบรวมกิจกรรมและแผนการเดินทางที่ดีที่สุดและแพ็คเกจทัวร์ที่ดีที่สุดสำหรับเดือนพฤศจิกายนมาไว้ให้ด้วย บทความนี้จึงเป็นคู่มือที่ครบครันสำหรับทริปเที่ยวไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายนของคุณ!

ทัวร์เดือนพฤศจิกายนนั้นมีให้คุณเลือกเข้าร่วมได้มากมาย ซึ่งรวมถึงการเที่ยวถ้ำน้ำแข็งและล่าแสงออโรร่า หากคุณต้องการออกไปตามหาแสงเหนือด้วยตัวเอง เราแนะนำให้คุณเช่ารถขับในไอซ์แลนด์และเดินทางออกไปตามเขตชนบท และเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้ที่พักที่ดีในราคาที่พึงพอใจ คุณควรเข้าไปดูตลาดที่พักที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์เพื่อมองหาที่พักที่จะเป็นสวรรค์บนดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟสำหรับทริปนี้



พฤศจิกายนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวไอซ์แลนด์ และเป็นช่วงที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์ท่ามกลางธรรมชาติ อย่างการเที่ยวถ้ำน้ำแข็งและขี่สโนว์โมบิลด้วย หรือคุณอาจจะไปเข้าร่วมกิจกรรมที่คุณนึกไม่ถึงก็ได้ อย่างดำน้ำลึกและดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิล!

แต่ก่อนที่จะไปจัดกระเป๋า ขอให้คุณอ่านเสียก่อนว่าอากาศที่ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายนนั้นเป็นอย่างไร

สภาพอากาศเดือนพฤศจิกายนของไอซ์แลนด์

ว่ากันว่าถ้าหากคุณไม่ชอบอากาศที่ไอซ์แลนด์ ขอให้อดใจรออีกแค่ห้านาที ฟังดูเหมือนตลกแต่คำกล่าวนี้เป็นเรื่องจริง เพราะสภาพอากาศของไอซ์แลนด์นั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งก็เป็นเช่นนี้ตลอดทั้งปี และไม่สามารถคาดเดาได้เลย

ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายนก็เป็นเช่นนั้น เนื่องจากรูปแบบของอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก บางวันอากาศอาจจะอบอุ่นและแห้ง วันต่อมาอาจจะมีฝนตกและอากาศเย็น และอีกวันก็อาจจะมีหิมะตกและหนาว แต่ถึงกระนั้นอากาศในเดือนพฤศจิกายนก็มีแนวโน้มว่าจะคงที่กว่าช่วงอื่นเล็กน้อย ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์

อุณหภูมิและชั่วโมงที่มีแสงสว่างในไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

เขาเคิร์กจูเฟลล์ที่ในเกมออฟโธรนส์บอกว่า "มีรูปทรงเหมือนหัวลูกศร"

ในเดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิเฉลี่ยในเรคยาวิกเมืองหลวงของไอซ์แลนด์อยู่ระหว่าง 1-8 องศาเซลเซียส ส่วนนอกเมืองอุณหภูมิมักจะลดลงต่ำกว่านี้ โดยเฉพาะบริเวณที่สูงอย่างในพื้นที่ไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์

นอกจากนี้ในเดือนพฤศจิกายน ทั่วประเทศยังมีเมฆปกคลุมมากกว่าช่วงต้นปีด้วย โดยเพิ่มขึ้นจาก 66% เป็น 72%

นอกจากนี้สิ่งที่ควรทราบอีกอย่างคือ ในเดือนพฤศจิกายนนั้นยังพอมีชั่วโมงที่มีแสงสว่างให้เห็นอยู่หลายชั่วโมง! ในช่วงต้นเดือนในแต่ละวันจะมีช่วงเวลาที่มีแสงราวแปดชั่วโมง แต่ชั่วโมงที่มีแสงจะลดลงอย่างรวดเร็วในเดือนนี้ และตั้งแต่ 16 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ดวงอาทิตย์จะขึ้นเวลาประมาณ 10 โมงเช้า และตกเวลา 4 โมงเย็น ส่วนช่วงปลายๆ เดือนพฤศจิกายนนั้น ชั่วโมงที่มีแสงสว่างจะยิ่งลดน้อยลงไปอีก อย่างในวันสุดท้ายของเดือนจะมีแสงสว่างเพียงวันละห้าชั่วโมงเท่านั้น

การมีชั่วโมงที่มีแสงสว่างอย่างจำกัดอาจทำให้ต้องมีการปรับตัวอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะออกไปสนุกสนานไม่ได้ ขอให้คุณวางแผนให้รอบคอบเท่านั้นคุณก็สามารถทำทุกอย่างที่คุณต้องการในทริปนี้ได้ และการมีแสงสว่างเพียงไม่กี่ชั่วโมงนี้ยังนับว่าเป็นข้อดีมากๆ ด้วยหากคุณต้องการเห็นแสงเหนือ เพราะยิ่งท้องฟ้ายิ่งมืดนานเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งมีโอกาสได้เห็นแสงออโรร่ามากขึ้นเท่านั้น!



ฝน หิมะ และฝนลูกเห็บในไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

ปริมาณของน้ำฝนหรือน้ำแข็งที่ตกในไอซ์แลนด์จะเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน เรคยาวิกมักมีหิมะตกหนาประมาณ 3.4 นิ้วในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมากกว่าเดือนตุลาคมถึงหกเท่า แต่ก็ยังน้อยกว่าในช่วงเดือนธันวาคมครึ่งหนึ่งเลย ฝน ฝนหิมะ และลูกเห็บตกนั้นเป็นเรื่องปกติสำหรับเดือนพฤศจิกายน ดังนั้นคุณควรแต่งกายให้เหมาะสม เสื้อผ้าที่เก็บกักความร้อนและแจ็คเก็ตกันหนาวถือเป็นสิ่งที่จำเป็นในช่วงนี้!

น้ำตกอัลเดยาร์ฟอสส์ท่ามกลางหิมะ

นอกจากนี้ยังต้องให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยมากเป็นพิเศษด้วย เนื่องจากปริมาณน้ำฝนและหิมะที่สูงมากอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ง่ายขึ้น

ดังนั้นเพื่อป้องกันอันตรายเหล่านี้ถนนหนทางบนภูเขาของไอซ์แลนด์ (ที่เรียกกันว่าถนน F road) จะปิดการจราจรทั้งหมด เพราะมีโอกาสที่จะเกิดหิมะถล่ม ดินทรุด และถนนอาจจะถูกตัดขาดระหว่างทางและส่งผลให้มีปัญหายานพาหนะและผู้โดยสารเข้าไปติดค้างอยู่ในพื้นที่ได้

นอกจากนี้การขับรถเข้าไปบนถนนที่ปิดการจราจรยังเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายและอันตรายมาก และมีค่าปรับแพงมาก และคุณอาจจะต้องติดค้างอยู่ท่ามกลางป่าเขาได้ ซึ่งบริษัทรถเช่าในไอซ์แลนด์สามารถตรวจสอบได้ว่ารถเช่าของพวกเขาถูกขับเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามหรือไม่ และจะเรียกเก็บค่าปรับอย่างหนักเมื่อคุณนำรถไปส่งคืน ดังนั้นทางที่ดีอย่าเสี่ยงเลยดีกว่า

หากคุณต้องการเข้าไปเที่ยวชมสถานที่บางแห่งที่ไม่สามารถขับรถเข้าไปถึงได้ ให้คุณเลือกจองไปกับทัวร์แทนการขับรถ เพราะผู้ให้บริการทัวร์จะมีประสบการณ์และมียานพาหนะที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางเข้าไปในพื้นที่อย่างปลอดภัย



กิจกรรมสำหรับเดือนพฤศจิกายนในไอซ์แลนด์

แม้ว่าสภาพอากาศจะค่อนข้างคาดเดาไม่ได้ แต่เดือนพฤศจิกายนก็ยังเป็นเดือนที่มหัศจรรย์! และเมื่อฤดูหนาวมาถึงคุณจะมีโอกาสได้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับน้ำแข็งและหิมะด้วย ทั้งนี้ สภาพอากาศในเดือนนี้ก็ไม่ได้หนาวจัดจนเกินไป และทางตอนใต้ของถนนวงแหวนก็มักจะเดินทางเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย

ต่อไปนี้คือกิจกรรมยอดนิยมสำหรับการเที่ยวไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

เที่ยวถ้ำน้ำแข็งที่ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

ถ้ำน้ำแข็งเป็นประสบการณ์เฉพาะสำหรับการท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ในฤดูหนาว

กิจกรรมที่เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับช่วงฤดูหนาวในประเทศไอซ์แลนด์คือการไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งที่มีอยู่มากมาย ซึ่งการไปชมถ้ำน้ำแข็งจะทำให้คุณรู้สึกถึงความตื่นเต้นและอัศจรรย์ใจปะปนกัน ทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในถ้ำที่ระยิบระยับราวเหล่านี้ คุณจะถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำแข็งสีฟ้าสวยสดเป็นประกายงดงามราวกับอยู่ในความฝัน และห้ามลืมกล้องถ่ายรูปเป็นอันขาด!

ถ้ำน้ำแข็งก่อตัวขึ้นภายในธารน้ำแข็งของประเทศไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูหนาว และจะมีถ้ำแห่งใหม่เกิดขึ้นทุกปี นั่นหมายความว่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้เห็นถ้ำที่ไม่เหมือนกัน

แต่ถึงอย่างไรถ้ำน้ำแข็งก็เป็นกิจกรรมพิเศษที่ต้องไปกับผู้ให้บริการทัวร์ คุณไม่สามารถเข้าไปเที่ยวชมถ้ำน้ำแข็งตามลำพังโดยไม่มีไกด์นำทางได้ ซึ่งผู้ให้บริการทัวร์จะดูแลให้คุณปลอดภัยและจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการลงไปชมให้กับคุณทั้งรองเท้าตะปูและหมวกกันน็อค หนึ่งในทัวร์ถ้ำน้ำแข็งที่ดีที่สุดคือแพ็คเกจทัวร์ที่พาคุณเข้าชมถ้ำน้ำแข็งที่ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลโดยออกเดินทางจากทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

แต่ถ้ำน้ำแข็งในประเทศไอซ์แลนด์ก็ไม่ใช่ถ้ำน้ำแข็งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติทั้งหมด เพราะมีที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยเหมือนกัน ถ้ำที่ใต้ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลอันยิ่งใหญ่นั้นเป็นถ้ำนำ้แข็งธรรมชาติที่งดงาม ส่วนอุโมงค์น้ำแข็งที่มนุษย์สร้างขึ้นจะอยู่ในธารน้ำแข็งลางโจกุล ประติมากรรมน้ำแข็งขนาดมหึมานี้แบ่งออกเป็นหลายห้อง มีน้ำแข็งรูปร่างต่างๆ และมีแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์จากน้ำแข็ง ทำให้เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การเข้าไปชมมาก!

เที่ยววงกลมทองคำของไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

วงกลมทองคำเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดทั้งหมดของไอซ์แลนด์ โดยบนเส้นทางหลักมีสถานที่ท่องเที่ยว 3 แห่งอยู่ในทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์

สถานที่ท่องเที่ยวทั้งสามแห่งนี้มีความงดงามตระการตามากในช่วงเดือนพฤศจิกายน ไม่ว่าคุณจะต้องการขับรถเที่ยวด้วยตัวเองหรือไปกับทัวร์ หากคุณวางแผนที่จะขับรถบนเส้นทางนี้ อย่าลืมว่าคุณต้องเช่ารถที่เหมาะกับสภาพท้องถนนในช่วงฤดูหนาว รถจี๊ปหรือเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อ (4X4) เหมาะสำหรับสภาพถนนในฤดูนี้และช่วยให้คุณมั่นใจถึงความปลอดภัยได้มากขึ้นเมื่อต้องขับบนถนนที่ลื่น

หากคุณไม่ค่อยมีความมั่นใจเมื่อต้องขับรถในฤดูหนาวแบบนี้ คุณก็สามารถไปกับทัวร์ได้ ซึ่งมีให้เลือกหลายแพ็คเกจที่ออกเดินทางจากเรคยาวิกและพาคุณไปชมสถานที่ท่องเที่ยวทั้งสามแห่ง คุณอาจจะเลือกทริปไปกลับในหนึ่งวันอย่างทัวร์เที่ยววงกลมทองคำแพ็คเกจนี้ที่รวมขี่สโนว์โมบิล หรือจะเลือกเป็นทัวร์แบบหลายวันอย่างทัวร์วงกลมทองคำและชายฝั่งทางใต้ 3 วันที่รวมเที่ยวถ้ำน้ำแข็งและปีนธารน้ำแข็งแพ็คเกจนี้ก็ได้



ดูแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

แสงเหนือและแสงดาวเหนือทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน

เดือนพฤศจิกายนของไอซ์แลนด์เป็นช่วงที่เหมาะกับการมาดูแสงเหนือมากที่สุดเพราะว่ามีช่วงที่มีแสงสว่างน้อยลง

กลางวันที่สั้นลงทำให้คุณมีโอกาสมองเห็นแสงเหนือส่ายไปมาเป็นสีเขียว ม่วง ขาว และเหลืองอยู่บนท้องฟ้ามากขึ้น

ลมสุริยะทำให้เกิดแสงเหนือตลอดทั้งปีแต่เรามองไม่เห็นเพราะว่าท้องฟ้าสว่างเกินไป ดังนั้นฤดูหนาวจึงเป็นช่วงเวลาที่สุดในการมาดูแสงออโรร่าที่สวยงาม ขอเพียงอย่าลืมแหงนหน้ามองฟ้าให้บ่อยเข้าไว้!

ผู้ที่โชคดีได้เห็นแสงเหนือมาแล้วจะแนะนำคุณเหมือนกันว่าการได้เห็นแสงออโรร่าที่ไอซ์แลนด์ขึ้นอยู่กับปัจจัยสองอย่าง คือ ต้องมีระดับของกิจกรรมสุริยะสูงและมีเมฆมาบดบังน้อยที่สุด

นอกจากนี้การออกไปนอกเมืองยังช่วยเพิ่มโอกาสการเห็นแสงเหนือได้ด้วย เพราะอยู่ห่างไกลจากมลภาวะทางแสง และวิธีออกไปนอกเมืองที่ง่ายที่สุดคือไปกับทัวร์แสงเหนือที่พาออกเดินทางจากเรคยาวิกไปยังพื้นที่ชนบท

แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังสามารถมองเห็นแสงออโรร่าจากในเรคยาวิกได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน มีพื้นที่เงียบสงบหลายแห่งที่คุณสามารถมองเห็นแสงเหนือได้ เช่นที่สวนแคลมบราทุน (Klambratun) หรือที่ประภาคารโกรททา (Grotta)

ก่อนที่จะจองทัวร์หรือขับรถออกไปไล่ล่าแสงเหนือด้วยตัวเอง คุณสามารถเช็คพยากรณ์การเกิดแสงออโรร่าได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาไอซ์แลนด์ เพื่อดูว่ามีเมฆมาบังมากแค่ไหน และช่วงเวลาไหนที่เหมาะกับการออกไปชมมากทีสุด



ถ่ายภาพแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

คนยืนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติกำลังมองดูแสงเหนือสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพมักต้องการประสบการณ์ในการถ่ายภาพแสงเหนือที่ดีที่สุด เพราะแสงเหนือไม่เคยเกิดขึ้นเหมือนเดิมซ้ำสอง และการปรากฏของแสงเหนือแต่ละครั้งนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะเสมอ

ซึ่งในการถ่ายภาพภายใต้สภาวะที่มีแสงน้อยมากๆ แบบนี้ คุณจำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการถ่ายภาพแสงเหนือ และนอกจากกล้องแล้ว อุปกรณ์ที่ควรนำติดตัวไปด้วยอีกอย่างคือขาตั้งกล้องที่ดีและมั่นคง

อีกหนึ่งวิธีที่ดีสำหรับช่างภาพมือสมัครเล่นคือการจองทัวร์ที่มีช่างภาพที่มีประสบการณ์เป็นผู้พาออกไปล่าแสงเหนือ เพราะไม่เพียงพวกเขาจะสามารถพาไปยังสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดในการถ่ายรูปแสงเหนือ แต่ยังมีเคล็ดลับและคำแนะนำเกี่ยวกับการตั้งค่ากล้อง รวมถึงการปรับระยะโฟกัสและมุมมององค์ประกอบภาพให้กับคุณได้ด้วย

และสิ่งที่ชาวไอซ์แลนด์มักขาดไม่ได้เมื่อออกไปดูแสงเหนือคือกระติกเก็บความร้อนที่ใส่ช็อคโกแลตร้อนๆ รสชาติเข้มข้น!

แช่น้ำที่บลูลากูนและแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติในเดือนพฤศจิกายน

การแช่ตัวในแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติในเดือนพฤศจิกายนเป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายมาก

หนึ่งในประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจมากที่สุดในไอซ์แลนด์ นอกจากการเที่ยวในเมืองตอนกลางคืนแล้ว ก็คือการไปแช่น้ำร้อนในสระน้ำร้อนธรรมชาติที่มีอยู่มากมายทั่วประเทศ และเป็นที่ชื่นชอบของทั้งนักท่องเที่ยวและชาวไอซ์แลนด์

ลองนึกภาพตามก็ได้ว่าอากาศกำลังหนาวเย็น อาจจะมีหิมะโปรยปรายเล็กน้อย และคุณกำลังแช่ตัวอยู่ในแหล่งน้ำร้อนธรรมชาติ ปล่อยให้สายน้ำอุ่นไหลปลอบประโลมนิ้วมือและนิ้วเท้าที่เย็นจัด คุณสามารถปล่อยตัวตามสบาย เอนศีรษะพิงขอบสระ และสนทนาอย่างออกรสกับเพื่อน ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังค่อยๆ ลับขอบฟ้า

ชาวไอซ์แลนด์ใช้เวลาอยู่แบบนี้หลายต่อหลายชั่วโมง พูดคุยและปล่อยตัวปล่อยใจเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติรอบตัว และการแช่น้ำพุร้อนถือเป็นกิจกรรมในแบบชาวไอซ์แลนด์แท้ๆ ที่คุณควรต้องลอง!

ยิ่งไปกว่านั้นคือแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติในไอซ์แลนด์ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกลจากมลภาวะทางแสงของเมือง ดังนั้นในขณะที่คุณพักผ่อนแช่น้ำร้อนอย่างสบายอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ คุณอาจจะโชคดีได้เห็นแสงเหนือด้วยก็ได้

การไปแช่น้ำพุร้อนเป็นกิจกรรมที่สบายก็จริง แต่ต้องขอเตือนด้วยว่าเวลาขึ้นมาจากน้ำกลับสู่อากาศที่หนาวเย็นนั้นไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่! และเราขอแนะนำให้คุณนำเสื้อผ้ามาวางไว้ใกล้ๆ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเดินฝ่าอากาศที่เย็นเฉียบของไอซ์แลนด์นานเกินไป

เที่ยวบลูลากูนในเดือนพฤศจิกายน 

ผู้หญิงกำลังพักผ่อนในบลูลากูนในไอซ์แลนด์สระน้ำร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์ (และอาจจะที่สุดในโลกด้วย) คือบลูลากูน ซึ่งโด่งดังเรื่องน้ำสีฟ้าที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เชื่อกันว่ามีคุณสมบัติในการเยียวยาร่างกาย จึงไม่แปลกที่สถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นสปารีสอร์ตที่ได้รับความนิยมมาก

บลูลากูนเปิดให้บริการตลอดทั้งปี ดังนั้นคุณสามารถแวะไปที่นี่ในเดือนพฤศจิกายนได้อย่างแน่นอน แต่ด้วยความที่บลูลากูนเป็นสถานที่ยอดนิยมมากที่สุดในไอซ์แลนด์ คุณจึงควรจองบัตรเข้าใช้บริการบลูลากูนเอาไว้ล่วงหน้า เพราะหากคุณไปแบบไม่ได้จองคุณอาจจะอดเข้าใช้บริการก็ได้

นอกจากนี้ในพื้นที่เมืองหลวงก็ยังมีสปาพลังงานความร้อนใต้พิภพอีกแห่งที่ได้รับความนิยม ซึ่งคุณสามารถเดินทางไปได้อย่างสะดวกจากใจกลางเมืองเรคยาวิก สกายลากูน (Sky Lagoon) เพิ่งเปิดให้บริการในปี 2021 และมีความโดดเด่นตรงที่มีสระน้ำร้อนแบบอินฟินิตี้ที่สามารถมองเห็นวิวมหาสมุทร และมีทรีตเมนต์ 7 ขั้นตอนที่ช่วยปรนนิบัติประสาทสัมผัสของคุณ



ขี่ม้าที่ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

ม้าไอซ์แลนด์เป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรง แสนรู้ และวางใจได้ พวกมันถูกเพาะพันธุ์อยู่ที่เกาะแห่งนี้มาหลายร้อยปีแล้ว

กิจกรรมขี่ม้าในเดือนพฤศจิกายนสร้างความเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี แต่ก็ต้องคำนึงถึงสภาพอากาศที่หลากหลายด้วย คุณอาจจะได้ขี่ม้าเดินเหยาะๆ บนทุ่งหญ้าในฟาร์ม ขี่ผ่านทุ่งหิมะ ขี่ไปบนพื้นที่มีน้ำแข็งเกาะ หรือขี่ข้ามแม่น้ำก็ได้ทั้งนั้น และไม่ว่าเส้นทางที่คุณจะต้องพบเจอเป็นแบบไหนคุณก็วางใจในฝีเท้าของม้าไอซ์แลนด์ได้เสมอ

ม้าไอซ์แลนด์เป็นสายพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพอากาศที่โหดร้ายเป็นอย่างยิ่ง พวกมันมีขนสองชั้นเพื่อให้ความอบอุ่นในช่วงที่อากาศเย็นและมีกล้ามเนื้อแน่นและบึกบึนมาก แต่ก็เป็นมิตรและเป็นม้าที่สง่างาม ดังนั้นถ้าคุณบังเอิญตกหลุมรักพวกมันก็คงไม่แปลก

ไกด์ที่พาคุณขี่ม้าจะเตรียมอุปกรณ์ที่เหมาะสมให้ทุกอย่างเพื่อให้คุณมีประสบการณ์ที่สบายมากที่สุด และพวกเขายังจะแนะนำพื้นฐานในการขี่ม้าที่จำเป็นให้คุณก่อนออกสตาร์ทด้วย ดังนั้นแม้ว่าคุณจะไม่เคยขี่ม้ามาก่อนก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ และเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็ได้เวลาเลือกม้าและขี่ออกเดินทางไปชมชนบทของไอซ์แลนด์กันเลย

ทัวร์ขี่ม้าในไอซ์แลนด์มีให้บริการทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละเส้นทางก็สวยงามแตกต่างกัน คุณสามารถเลือกไปเข้าร่วมกับทัวร์ขี่ม้าที่ออกเดินทางจากเรคยาวิกที่จะทำให้ทุกอย่างง่ายดายมากขึ้น อายุขั้นต่ำสำหรับกิจกรรมขี่ม้ามักอยู่ที่ 8-10 ปี (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการทัวร์แต่ละราย) และใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง

ดูวาฬที่ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

การดูปลาวาฬในเดือนพฤศจิกายนเป็นหนึ่งในทริปที่น่าตื่นเต้นที่สุดในช่วงฤดูหนาว

ภาพจาก ทัวร์ดูวาฬในเรคยาวิก

กิจกรรมดูวาฬที่ไอซ์แลนด์สามารถทำได้ตลอดทั้งปี และสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมนี้ได้ทั้งในช่วงเช้าและบ่าย โดยมีวาฬอาศัยอยู่นอกชายของไอซ์แลนด์เป็นจำนวนมาก ดังนั้นคุณจึงมีโอกาสที่จะได้เห็นสัตว์น้ำชนิดนี้ค่อนข้างสูงทีเดียว ที่จริงแล้วผู้ให้บริการทัวร์ล่องเรือมักจะให้คุณเข้าร่วมทริปได้อีกครั้งหนึ่งฟรีด้วยหากคุณยังไม่ได้เห็นวาฬในทริปครั้งแรก

ในเขตน่านน้ำของไอซ์แลนด์มีวาฬอาศัยอยู่หลายสายพันธุ์ รวมถึงวาฬหลังค่อม วาฬออร์กา วาฬมิงก์ วาฬสีน้ำเงิน วาฬสเปิร์ม และวาฬฟิน คุณอาจจะได้เห็นฮาร์เบอร์พอร์พอยซ์หรือโลมาปากขาวด้วยก็ได้

ทัวร์ดูวาฬนั้นออกเดินทางได้จากท่าเรือหลายแห่งในหลายพื้นที่ของไอซ์แลนด์ แต่ที่นิยมมากที่สุดคือออกเดินทางจากเรคยาวิก และเมืองฮูสาวิก (Husavik) ในทางเหนือของไอซ์แลนด์ ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงแห่งการดูวาฬของยุโรป

แต่เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งซึ่งอยู่ในทางเหนือทำให้การเดินทางไปยังเมืองฮูสาวิกมีความยากลำบากในช่วงฤดูหนาว ดังนั้นการเลือกออกเดินทางจากในเมืองหลวงจึงง่ายกว่ามากในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งก็โชคดีที่มีผู้ให้บริการทัวร์หลายรายที่จัดทริปล่องเรือจากท่าเรือในเรคยาวิก เช่น ทัวร์ดูวาฬ 3 ชั่วโมงแพ็คเกจนี้

หรือแม้นักดูนกก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับทัวร์ดูวาฬได้เช่นกัน เพราะคุณอาจจะได้เห็นนกที่น่าสนใจในไอซ์แลนด์หลายชนิดบินโฉบเฉี่ยวไปมาเหนือผืนน้ำ นกทะเลที่สามารถพบได้ที่ไอซ์แลนด์ ได้แก่ นกนางนวล ฟูลมาร์ นกพัฟฟิน และเป็ด

หากสภาพอากาศอึมครึมเกินไปสำหรับการออกไปล่องเรือ 3 ชั่วโมง คุณก็อาจจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ปลาวาฬแห่งไอซ์แลนด์ที่อบอุ่นสะดวกสบายแทนได้ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงประวัติ ธรรมชาติ และให้ความรู้เกี่ยวกับวาฬในไอซ์แลนด์และส่วนอื่นของโลก จึงน่าเข้าชมมาก และยังมีหุ่นจำลองวาฬขนาดเท่าตัวจริงให้ชมด้วยทั้งวาฬที่อาศัยในน่านน้ำไอซ์แลนด์และสัตว์ที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่างวาฬสีน้ำเงิน



นั่งเลื่อนสุนัขที่ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

กิจกรรมเลื่อนสุนัขในไอซ์แลนด์เป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นและไม่เหมือนใครภาพจาก ทัวร์นั่งเลื่อนสุนัข 2 ชั่วโมงในบริเวณมิวาทน์ 

สำหรับผู้ที่รักสัตว์ที่มาเที่ยวไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน คุณอาจจะอยากมีส่วนร่วมกับกีฬาสุดแปลกอย่างการลากเลื่อนสุนัข! ซึ่งไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่เหมาะสำหรับกิจกรรมนี้มาก (และคุณยังจะได้พบกับน้องหมาน่ารักๆ ในระหว่างที่ทำกิจกรรมนี้ด้วย)

สุนัขลากเลื่อนในไอซ์แลนด์มีทั้งสายพันธุ์กรีนแลนด์และไซบีเรียนฮัสกี้ ทั้งสองพันธุ์นี้แข็งแกร่ง ฉลาด และไว้วางใจได้ และพวกมันทำหน้าที่รับส่งคนบนที่ราบที่เต็มไปด้วยหิมะแบบนี้มานานหลายศตวรรษแล้ว

สุนัขพันธุ์กรีนแลนด์อาจจะไม่ได้รวดเร็วเท่ากับไซบีเรียน แต่พวกมันก็ได้ชื่อว่ามีความอดทนสูงและเชื่อใจได้มากๆ จนนักล่าสัตว์ในกรีนแลนด์ถึงกับชอบใช้สุนัขลากเลื่อนมากกว่าสโนว์โมบิลเลย เจ๋งไหมล่ะ!

กิจกรรมนั่งเลื่อนสุนัขทำให้ได้เพื่อนใหม่สี่ขาขนฟูภาพจาก ทัวร์นั่งเลื่อนสุนัข 45 นาที พบกันที่จุดเริ่มต้นทัวร์ใกล้เรคยาวิก

ระหว่างทัวร์นั่งเลื่อนสุนัขนี้ ผู้ควบคุมจะแบ่งปันประสบการณ์และสอนให้คุณสามารถออกคำสั่งพื้นฐานและบังคับเลื่อนได้อย่างปลอดภัยโดยที่ไม่ทำให้สุนัขบาดเจ็บ โดยทั่วไปแล้วเลื่อน 1 คันจะใช้สุนัข 4-5 ตัว แต่อาจจะต้องเพิ่มจำนวนสุนัขหากมีผู้โดยสารสองคน

สุนัขลากเลื่อนสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งกิจกรรมนี้ทั้งสนุกและตื่นเต้นแถมยังได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ชนบทของไอซ์แลนด์ที่ปกคลุมด้วยหิมะอีกด้วย

การจำกัดอายุของผู้เล่นเลื่อนสุนัขในไอซ์แลนด์จะแตกต่างกันไปแล้วแต่บริษัท แต่อายุมาตรฐานทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 16 ปี ทั้งเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีก็อาจจะเล่นเลื่อนสุนัขได้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของไกด์ทัวร์

ปีนธารน้ำแข็งที่ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน 

ปีนธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล

หากคุณอยากออกไปสำรวจธรรมชาติภายนอก ตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือการไปปีนธารน้ำแข็ง ซึ่งฤดูหนาวแบบนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเที่ยวบนผืนน้ำแข็งขนาดมหึมาของประเทศไอซ์แลนด์

การปีนกลาเซียร์ในประเทศไอซ์แลนด์เป็นประสบการณ์ที่พิเศษมาก ผู้ร่วมกิจกรรมจะได้เห็นการก่อตัวตามธรรมชาติของผืนน้ำแข็งขนาดมหึมา และจะได้เรียนรู้ว่าน้ำแข็งเหล่านี้มีขนาด พละกำลัง และอายุที่ไม่น่าเชื่อขนาดไหน ทัวร์ปีนธารน้ำแข็ง 5 ชั่วโมงนี้มีทุกอย่างที่คุณต้องการจากการปีนขึ้นไปชมธารน้ำแข็งในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell Nature Reserve)

ไกด์ปีนธารน้ำแข็งทุกคนในไอซ์แลนด์ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดีและมีประสบการณ์สูง และพวกเขามีหน้าที่คอยดูแลให้คุณสนุกสนานเพลิดเพลินและปลอดภัย โดยผู้ให้บริการทัวร์ปีนธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์จะจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นให้กับคุณ เช่น ขวานน้ำแข็ง รองเท้าตะปู หมวกกันน็อค และสายรัด ก่อนที่พวกเขาจะพาคุณขึ้นไปบนธารน้ำแข็งและแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับธารน้ำแข็งที่ทั้งสนุกสนานและน่าสนใจ

วิวพาโนรามาจากบนธารน้ำแข็งของไอซ์แลนด์นั้นงดงามตระการตามาก ยิ่งคุณขึ้นไปสูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกลมากขึ้นเท่านั้น การได้มาเห็นไอซ์แลนด์จากบนธารน้ำแข็งจึงเป็นประสบการณ์ที่สวยงามน่าจดจำ ธารน้ำแข็งที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดนั้นตั้งอยู่ทางตอนใต้ ดังนั้นอย่าลืมจองโรงแรมทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์เพื่อให้ใกล้กับกิจกรรมนี้

ขี่สโนว์โมบิลที่ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

ขี่สโนว์โมบิลท่ามกลางธรรมชาติของไอซ์แลนด์เป็นกิจกรรมพิเศษที่น้อยคนจะได้มาสัมผัสภาพจาก ทริปแอดเวนเจอร์บนสโนว์โมบิล | ขี่สโนว์โมบิลที่วงกลมทองคำและลางโจกุล

ใครชอบความตื่นเต้นห้ามพลาด! สภาพอากาศในเดือนพฤศจิกายนเหมาะสำหรับการขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งมาก หากคุณมองหากิจกรรมตื่นเต้น คุณจะต้องชอบกิจกรรมนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าไม่มีอะไรจะทำให้เลือดสูบฉีดได้เหมือนกับการได้เร่งความเร็วโลดแล่นไปบนทุ่งน้ำแข็งอีกแล้ว



มีทัวร์ขี่สโนว์โมบิลให้เลือกมากมายบนธารน้ำแข็งหลายแห่ง เช่น ธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) มิร์ดาลสโจกุล (Myrdalsjokull) และโทรลลาสกากิ (Trollaskagi) หรือคาบสมุทรโทรลล์ โปรแกรมทัวร์แต่ละแพ็คเกจจะมีข้อแตกต่างกัน แต่ทั้งหมดจะพาคุณไปขี่สโนว์โมบิลอย่างสนุกสนานตื่นเต้น เช่น ทัวร์แอดเวนเจอร์บนสโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุลแพ็คเกจนี้

ไกด์จะแจ้งให้ทราบถึงวิธีการขับขี่ที่ถูกต้องและปลอดภัยและจะจัดเตรียมชุดเทอร์มอลสำหรับสวมทับด้านนอก หมวกกันน็อค และถุงมือให้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเราก็แนะนำให้คุณแต่งกายหลายๆ ชั้นให้อบอุ่นมาก่อน เพราะว่าบนนั้นหนาวมาก! และสำหรับการขี่สโนว์โมบิลที่ไอซ์แลนด์ คุณจำเป็นต้องมีใบอนุญาตขับขี่ตัวจริงติดมาด้วย และต้องเป็นคนชอบความเร็ว!

เล่นเซิร์ฟที่ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน 

การเล่นเซิร์ฟอาจจะไม่ได้อยู่ในอันดับต้นๆ ของกิจกรรมที่คนนึกถึงเมื่อมาเที่ยวไอซ์แลนด์ แต่ก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับผู้ที่ชอบกิจกรรมโลดโผนตื่นเต้น

การเล่นเซิร์ฟในไอซ์แลนด์เป็นที่นิยมมากขึ้น และกลุ่มคนรักกระดานโต้คลื่นในไอซ์แลนด์ก็กำลังทำให้กีฬาเอ็กซ์ตรีมนี้เติบโตและเป็นกระแส

คุณเองก็อยากลองเล่นดูใช่ไหมล่ะ? โชคดีที่เดือนพฤศจิกายนเป็นหนึ่งในเดือนที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นกระดานโต้คลื่นในไอซ์แลนด์ ช่วงนี้มีลมและคลื่นแรง ทำให้น้ำที่เย็นยะเยือกของไอซ์แลนด์เหมาะกับการเล่นเซิร์ฟพอๆ กับที่ฮาวายหรือแคลิฟอร์เนียเลย

แต่ข้อแตกต่างที่สำคัญก็คืออุณหภูมิของน้ำนั่นเอง ที่ไอซ์แลนด์คุณไม่สามารถกระโดดลงไปว่ายน้ำด้วยชุดปกติได้ และจำเป็นต้องสวมใส่ชุดเวทสูทหนา 5-6 มิลลิเมตร สวมหมวก และถุงมือเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายในระหว่างที่เล่นเซิร์ฟในไอซ์แลนด์ 

การเล่นกระดานโต้คลื่นในไอซ์แลนด์ส่วนใหญ่จะเล่นกันนอกชายฝั่งบริเวณคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes) ซึ่งเป็นจุดที่คลื่นมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือซัดสาดกระทบกับชายฝั่งที่ขรุขระแบบพื้นที่เขตภูเขาไฟ

จุดที่เหมาะกับการเล่นเซิร์ฟมากที่สุดบนคาบสมุทรคือหาดแซนด์วิก (Sandvik) เพราะมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีคลื่นแตกตัวที่เหมาะสำหรับผู้ฝึกเล่นใหม่ และมีทิวทัศน์พาโนรามาที่งดงาม

กระนั้นการเล่นเซิร์ฟก็มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึง เช่น ความแข็งแรงของร่างกายของผู้เล่นเอง ความชอบในกีฬาแอดเวนเจอร์ชนิดนี้ และที่สำคัญคือต้องให้ความเคารพมหาสมุทรด้วย

หากคุณเป็นนักเล่นกระดานโต้คลื่นที่เจนจัดอยู่แล้ว คุณสามารถติดต่อกับชุมชนคนเล่นเซิร์ฟในไอซ์แลนด์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัย และเพื่อเป็นการประหยัดเวลาในการค้นหาคลื่นที่เหมาะกับระดับความสามารถของคุณได้

ดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกที่ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

สกูบ้าในรอยแยกซิลฟราภาพจาก ทัวร์ดำน้ำดรายสูท 3 ชั่วโมงที่ซิลฟรา พร้อมไกด์  

หลายคนอาจจะคิดว่าการดำน้ำสกูบาหรือสน็อกเกิลที่ไอซ์แลนด์เป็นเรื่องแปลกประหลาดและไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าหนาว แต่ไอซ์แลนด์มีสถานที่ดำน้ำระดับโลกอย่างรอยแยกซิลฟรา (Silfra Fissure) ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่ดีและได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกทีเดียว ทั้งสำหรับดำน้ำลึกและดำน้ำตื้น

ทัวร์ดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิลและทัวร์สกูบาที่รอยแยกซิลฟรานั้นเปิดให้บริการได้ตลอดทั้งปี ซึ่งหมายความว่ายังไงคุณก็จะไม่พลาดโอกาสทำกิจกรรมครั้งหนึ่งในชีวิตแบบนี้อย่างแน่นอนแม้ว่าคุณจะมาเที่ยวไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

รอยแยกซิลฟรานี้ไม่ได้โด่งดังจากธรรมชาติสัตว์ป่า ถ้ำ หรือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ที่นี่ดังเรื่องน้ำที่ใสราวกับคริสตัล เพราะได้น้ำจากธารน้ำแข็งลางโจกุล (Langjokull) อันยิ่งใหญ่ที่ผ่านการกรองด้วยเครือข่ายชั้นหินภูเขาไฟสีดำภายในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) มาเป็นเวลาหลายร้อยปีก่อนที่จะไหลเข้าไปเติมเต็มในรอยแยกให้กลายเป็นหุบเขาสีฟ้าเขียวที่มีเสน่ห์สะกดผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี

และโชคดีที่มีกระแสน้ำไหลผ่านรอยแยกซิลฟราตลอดเวลาด้วย น้ำที่นี่จึงไม่เคยกลายเป็นน้ำแข็งเลย แม้ในช่วงฤดูหนาวที่หนาวจัด!

กระแสน้ำยังทำให้น้ำในรอยแยกซิลฟราใสสะอาดด้วย แม้ว่านักดำน้ำคนอื่นจะบังเอิญเตะเอาดินตะกอนเข้า น้ำก็จะกลับมาใสได้เองภายในระยะเวลาอันสั้น และเมื่อมีแสงอาทิตย์ส่องลงบนผิวน้ำจะทำให้มีทัศนวิสัยชัดเจนยิ่งขึ้นมองเห็นได้ไกลถึง 100 เมตร

หากคุณต้องการไปร่วมทริปดำน้ำตื้นหรือดำน้ำลึกที่รอยแยกซิลฟราคุณจะไม่ผิดหวังเลย เพราะไกด์ทุกคนที่ให้บริการที่นี่มีประสบการณ์และเป็นมิตร พวกเขาจะจำกัดจำนวนที่ไกด์หนึ่งคนต่อผู้โดยสารหกคนเพื่อความปลอดภัยและประสบการณ์ที่ดี

ก่อนที่คุณจะลงไปในน้ำไกด์จะบรีฟให้ฟังว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง รวมถึงวิธีการใช้อุปกรณ์และวิธีปกป้องร่างกายจากความหนาวเย็น และพวกเขายังช่วยคุณแต่งตัวด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสวมใส่ชุดอย่างถูกต้อง

การดำน้ำที่ไอซ์แลนด์เป็นประสบการณ์ที่มหัศจรรย์และคุณไม่ควรพลาดโอกาสนี้

เที่ยวถ้ำลาวาที่ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

Lava caving in Iceland is one of the best ways to understand the country's geolการเที่ยวถ้ำลาวาเป็นวิธีหนึ่งที่จะศึกษาประวัติทางธรณีวิทยาของประเทศนี้ภาพจาก ทริปขี่เอทีวี 8 ชั่วโมง & เที่ยวถ้ำลาวาที่เรยฟาร์โฮลเชลลิร์ พร้อมบริการรับส่งจากเรคยาวิก

พฤศจิกายนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยวถ้ำลาวาในประเทศไอซ์แลนด์ อุณหภูมิที่ต่ำลงทำให้น้ำแข็งที่เริ่มเปราะบางจับตัวอยู่ตามหินเกิดเป็นภาพที่ตัดกันอย่างลงตัวระหว่างสีแดงของไฟและสีฟ้าสดใส การเที่ยวถ้ำเป็นกิจกรรมที่พิเศษสำหรับฤดูหนาวด้วยเนื่องจากคุณสามารถใช้กำบังตัวจากความเย็นและความแปรปรวนของสภาพอากาศด้านนอก

นักท่องเที่ยวที่เข้าไปในถ้ำเหล่านี้จะได้เห็นหินงอกหินย้อยโบราณ เสาแมกมา และแม่น้ำสายเก่าแก่ที่ปัจจุบันแห้งขอดกลายเป็นเส้นทางแห่งอดีต และภายในถ้ำบางแห่งก็ยังคงมีร่องรอยของอารยธรรมในการตั้งถิ่นฐานของชาวไอซ์แลนด์ยุคแรกที่ยังมีอาชีพเลี้ยงสัตว์หลงเหลือให้เห็น

ผู้ที่ใจกล้าสามารถลงลึกเข้าไปในโลกใต้พิภพของไอซ์แลนด์ได้ด้วยเพื่อไปดูว่าประเทศนี้มีโครงสร้างทางธรณีวิทยาแบบไหน ซึ่งไกด์จะให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับถ้ำและตำนานเมื่อครั้งคนนอกกฎหมายเข้าไปใช้เป็นสถานที่ซ่อนตัว

และไกด์ยังอาจจะพาทุกคนในคณะไปนั่งในถ้ำและลองให้ปิดไฟฉายบนศีรษะเพื่อดูว่าในนั้นมืดมิดขนาดไหนด้วย

การเดินทางในประเทศไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน 

เมื่อทราบแล้วว่าคุณอยากทำอะไรที่ไอซ์แลนด์ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ต่อมาคุณอาจจะเกิดคำถามว่าแล้วคุณจะมีวิธีเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างไร

การเดินทางมายังประเทศไอซ์แลนด์ 

หากคุณเดินทางมาเที่ยวไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายนถือว่าคุณโชคดี เพราะเที่ยวบินมาไอซ์แลนด์ในช่วงเวลานี้ของปีมีราคาถูกกว่าช่วงอื่นมาก หากคุณจองตั๋วล่วงหน้าสักหนึ่งถึงสองเดือนก็จะยิ่งได้ราคาที่ไม่แพงจนเกินไป

สำหรับตั๋วเที่ยวบินไปกลับจากสหรัฐอเมริกานั้น ราคาในช่วงหน้าร้อนมักจะแพงกว่าราคาในเดือนพฤศจิกายนถึงเท่าตัว ดังนั้นหากมาเที่ยวไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายนจะประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากทีเดียว นอกจากนี้ราคาเที่ยวบินระหว่างประเทศส่วนใหญ่ก็ถูกลงมากเช่นเดียวกัน 

เดือนพฤศจิกายนไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวยอดนิยม ราคาตั๋วเครื่องบินจึงถูกลงไปมาก

และสาเหตุที่ทำให้ราคาแตกต่างกันมากก็เป็นเพราะว่าเดือนพฤศจิกายนไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวของไอซ์แลนด์ แต่กระนั้นคุณก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าไม่ควรมาในช่วงนี้ เพราะคนที่มาเที่ยวในเดือนพฤศจิกายนมีไม่มาก ดังนั้นจึงมีตัวเลือกโรงแรมในไอซ์แลนด์ที่มากขึ้นและยังมีกิจกรรมพิเศษที่มีเฉพาะในหน้าหนาวให้คุณได้เพลิดเพลินด้วย

การเดินทางในประเทศไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

เมื่อคุณเดินทางมาถึงประเทศไอซ์แลนด์แล้ว คุณอาจจะต้องการอยากหาวิธีเดินทางท่องเที่ยวที่ดีที่สุด เนื่องจากเดือนพฤศจิกายนมีสภาพอากาศแบบหน้าหนาวทั้งยังไม่สามารถคาดเดาได้ด้วย ถนนหนทางจึงอาจจะมีอันตรายได้ ถนนวงแหวนนั้นโดยปกติแล้วจะมีการกวาดหิมะและน้ำแข็งบนถนนอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นการขับรถรอบไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายนจึงไม่ค่อยเป็นปัญหาสักเท่าไหร่

แต่ถ้าหากคุณมุ่งหน้าไปทางเหนือของไอซ์แลนด์แถบนั้นจะมีสภาพอากาศแย่กว่ามาก และคุณควรต้องเพิ่มความระมัดระวัง ในการขับรถในไอซ์แลนด์ด้วย โดยเฉพาะเมื่อขับออกจากถนนวงแหวน เนื่องจากถนนหนทางในแถบทางเหนือนั้นไม่ได้โรยกรวด

สำหรับผู้ที่ไม่มั่นใจในการขับรถบนถนนฤดูหนาว คุณก็สามารถเลือกไปเที่ยวกับทัวร์แทนได้ วิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกและปลอดภัยในการสำรวจทุกพื้นที่ภายในประเทศไอซ์แลนด์



ทัวร์ที่เปิดให้บริการในไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน

ทัวร์ส่วนใหญ่ที่เปิดขายในช่วงหน้าร้อนก็จะยังคงเปิดในเดือนพฤศจิกายน ดังนั้นคุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมส่วนใหญ่ได้ในช่วงนี้ และฤดูหนาวยังทำให้กิจกรรมและทัวร์ที่ได้รับความนิยมอยู่แล้วมีความแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งยิ่งทำให้เห็นได้ชัดว่าไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีกิจกรรมที่สนุกสนานและตื่นเต้นความแตกต่างหลากหลายรูปแบบจริงๆ

แม้ว่าในบางครั้งบางคราที่ไอซ์แลนด์จะมีสภาพอากาศที่โหดร้ายไปบ้าง แต่ผู้ให้บริการทัวร์ก็พร้อมที่จะช่วยให้คุณแต่งกายได้อบอุ่นเพียงพอสำหรับทำกิจกรรมเอาท์ดอร์ เช่น การขี่ม้าในหน้าหนาว ดำน้ำสกูบา หรือการปีนธารน้ำแข็ง จนไม่รู้สึกว่าต่างไปจากช่วงหน้าร้อนเลย



ไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายนมีอะไรน่าสนใจบ้าง

เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่เหมาะสำหรับมาดื่มด่ำกับวัฒนธรรมในท้องถิ่นโดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบดนตรี อากาศในเดือนพฤศจิกายนนั้นอาจจะหนาวแต่ว่าสถานที่จัดดนตรีในเมืองเรคยาวิกก็ร้อนแรงและเต็มไปด้วยอีเว้นต์มากมาย!

Iceland Airwaves

Iceland Airwaves ดึงดูดศิลปิน แฟนเพลง และนักข่าวจากทั่วทุกมุมโลกภาพโดย rickkidsunite

Iceland Airwaves เป็นเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเทศกาลที่คนชื่นชอบมากที่สุดในไอซ์แลนด์ เทศกาลนี้ดึงดูดนักดนตรีฝีมือดีจากไอซ์แลนด์และทั่วโลก รวมถึงแฟนเพลงจากนานาชาติด้วย ซึ่งงานนี้จัดขึ้นสามวันสามคืน และบรรยากาศของไอซ์แลนด์ในช่วงนี้ทุกหนแห่งนั้นกระหึ่มไปด้วยเสียงดนตรี ทั้งคาเฟ่ บาร์ อาร์ตแกลเลอรี่ ไม่ว่าที่ไหนๆ ก็มีการแสดง 

เดวิด ฟริก (David Fricke) นักแต่งเพลงของวงโรลลิ่ง สโตน เคยกล่าวถึง Iceland Airwaves เอาไว้ว่า "เป็นช่วงวันหยุดยาวที่ฮิปที่สุดบนปฏิทินเทศกาลดนตรีประจำปี" ส่วนโจนาห์ ฟลิกเกอร์ (Jonah Flicker) จากพิทช์ฟอร์คแมกกาซีนเคยเขียนถึงเทศกาลที่ว่า "เป็นความสนุกสนานที่เหลือเชื่อมากสำหรับงานดนตรีและการเฉลิมฉลอง" เช่นนี้แล้วคุณจะพลาดได้อย่างไร



เทศกาลนี้จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1999 แล้ว ซึ่งเมื่อก่อนเคยใช้สถานที่โรงเก็บเครื่องบินในสนามบินเรคยาวิก แต่ปัจจุบันกลายเป็นงานที่เรียกได้ว่ามีบรรยากาศที่น่าประทับใจที่สุด มีการแสดงแบบกันเอง และมีศิลปินมากพรสวรรค์มาร่วมเป็นจำนวนมาก  เทศกาล Iceland Airwaves ได้กลายมาเป็นอีเว้นต์สำคัญของเมืองเรคยาวิกที่แต่ละปีดึงดูดนักวิจารณ์ดนตรีทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นจากทั่วโลกได้ไม่น้อย 



ศิลปินที่เคยมาร่วมงานก่อนนี้มีศิลปินมีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์จำนวนมาก อาทิ Bjork, Of Monsters and Men, และ Sigur Ros ส่วนศิลปินนานาชาติ ได้แก่ The Flaming Lips, Fatboy Slim, และ Vampire Weekend

จองตั๋ว เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาสนุกไปกับเสียงเพลงด้วยกัน

16 พฤศจิกายน วันภาษาไอซ์แลนด์ 

รุ้งกินน้ำค่อมเหนือโบสถ์ลูเธอรันฮัลล์กรีมสคิร์คยา

16 พฤศจิกายนเป็นวันภาษาไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองให้กับภาษาที่เป็นเอกลักษณ์และย้ำเตือนให้เห็นถึงความสำคัญว่าทำไมจึงควรต้องอนุรักษ์เอาไว้ วันนี้เป็นวันหยุดที่มีขึ้นตั้งแต่ปี 1996 และสามารถแปลได้ตรงตัวว่าเป็น "วันแห่งภาษาไอซ์แลนด์" 

ภาษาไอซ์แลนด์เป็นภาษาที่งดงามและมีระบบคำที่ยากอย่างไม่น่าเชื่อ และได้ชื่อว่าเป็นภาษาที่นิยมประดิษฐ์คำศัพท์มาใช้เรียก (แทนที่จะยืมคำจากภาษาต่างชาติมาเลย) เช่น คำว่าคอมพิวเตอร์ในภาษาไอซ์แลนด์จะเรียกว่า  "tölva" ซึ่งมาจากคำว่า "นับ" และคำว่า "ออราเคิล" 

วันภาษาไอซ์แลนด์ตรงกับวันเกิดของโจนัส ฮัลกริมส์สัน กวีและนักธรรมชาติวิทยาชาวไอซ์แลนด์ผู้เป็นที่รัก (16 พฤศจิกายน 1807 – 26 พฤษภาคม 1845) โดยเขาคือหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งวารสารภาษาไอซ์แลนด์ที่ชื่อ Fjolnir ขึ้น ซึ่งวางจำหน่ายในโคเปนเฮเกนในช่วงระหว่างปี 1835 ถึง 1847 และวารสารนี้เองที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไอซ์แลนด์ได้รับเอกราชจากประเทศเดนมาร์ก 

ในวันที่ 16 พฤศจิกายน ชาวไอซ์แลนด์โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่จะถูกสนับสนุนให้พูดแต่ภาษาไอซ์แลนด์เท่านั้น โดยมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้ด้านวัฒนธรรมควบคู่กันไปตามสถานที่ต่างๆ รอบเมืองเรคยาวิก รวมถึงที่ฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa Concert Hall) ด้วย นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัลจำนวนมากให้กับผู้ที่ทำหน้าที่ส่งเสริมวรรณกรรมไอซ์แลนด์และภาษาไอซ์แลนด์ในปีก่อนหน้าด้วย 



คำแนะนำสำหรับการมาเที่ยวไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน 

การเที่ยวโดยที่ไม่ได้เตรียมหาข้อมูลมาก่อนนั้นไม่เคยเป็นผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินทางมาประเทศแถบอาร์กติกในช่วงฤดูหนาว หากคุณอยากเที่ยวให้สนุก การเตรียมตัวให้พร้อมจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก และต่อไปนี้คือคำแนะนำสำหรับผู้ที่จะเดินทางมาไอซ์แลนด์ในช่วงต้นฤดูหนาว

หยิบชุดเก็บกักความร้อนใส่กระเป๋า

โลปาเพซาเป็นแฟชั่นที่ใช้งานได้จริงและเป็นผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของไอซ์แลนด์ภาพโดย Jorunn

น่าจะเป็นที่ทราบกันดีว่าไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายนนั้นหนาว ช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มต้นฤดูหนาว และอากาศจะเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างที่คุณเดินทางท่องเที่ยว

ด้วยเหตุผลนี้คุณจึงควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เก็บกักความร้อนได้หลายๆ ชั้น เพื่อที่คุณจะได้ไม่รู้สึกถึงความโหดรายของอากาศ

ความจริงแล้วเดือนพฤศจิกายนเป็นเวลาที่เหมาะกับการสวมใส่สเวตเตอร์ขนสัตว์แบบไอซ์แลนด์ที่เรียกกันว่า "lopapeysa" (โลปาเพซา) ซึ่งทำจากขนแกะ "lopi" ที่ทอโดยไม่ได้ผ่านการปั่น ผ้าขนสัตว์ชนิดนี้จึงให้ความอบอุ่นได้ดีเยี่ยม (แกะก็ต้องการปกป้องร่างกายจากความหนาวเย็นเช่นกัน) และเสื้อขนสัตว์ชนิดนี้ยังมีคุณสมบัติกันน้ำด้วยจึงเหมาะสำหรับใส่ออกไปเจอหิมะ

โลปาเพซานั้นผ่านวิวัฒนการมาหลายครั้งตามยุคสมัย เช่น ใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติในปี 1944 เมื่อครั้งที่ไอซ์แลนด์ได้รับเอกราชจากเดนมาร์ก ส่วนครั้งที่สองคือเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008

โลปาเพซาคือวัฒนธรรมไอซ์แลนด์และมักจะถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไอซ์แลนด์



เลี่ยงการใช้เส้นทางภูเขาและถนนลูกรัง 

ถนนหลายเส้นที่ไอซ์แลนด์มีอันตรายในช่วงหน้าหนา

ระหว่างเดือนพฤศจิกายนคุณอาจจะไม่สามารถเข้าไปในส่วนด้านในของพื้นที่ไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์ได้ แต่ช่วงนี้ก็มีสถานที่เที่ยวอื่นๆ มากมายอยู่รอบถนนวงแหวนอยู่แล้ว

การขับรถในเดือนพฤศจิกายนมาพร้อมกับอันตรายที่ต้องระวัง ซึ่งนั่นเป็นเพราะสภาพอากาศเลวร้าย คุณอาจจะต้องเจอกับหมอกลงจัด พายุหิมะ และฝนตกสลับกันไปในระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยว

เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยภายใต้สภาพการณ์เหล่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องเว้นระยะห่างไม่เข้าไปใกล้กับรถคันหน้าและอย่าขับรถเร็ว ถนนสายหลักในประเทศไอซ์แลนด์ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นถนนที่ยาว ว่าง และกว้างขวางจนน่าเหยียบคันเร่ง แต่การขับรถอย่างระมัดระวังเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

นอกจากนี้ควรทราบด้วยว่าการขับรถออกนอกเส้นทางรถวิ่งถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไอซ์แลนด์และมีโทษปรับสูงมาก และนอกจากการขับรถเช่นนี้จะก่อให้เกิดอันตรายแล้ว ยังจะเป็นการทำให้สภาพแวดล้อมธรรมชาติของไอซ์แลนด์เสียสมดุลด้วย

อย่าเพิ่งทึกทักไปก่อนว่าคุณจะได้เห็นแสงเหนือ

แสงเหนือบนคาบสมุทรเรคยาเนส

ทุกคนที่มาเที่ยวไอซ์แลนด์ต้องการเห็นแสงเหนือ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าทำไม และโดยทั่วไปแล้วเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการดูแสงออโรร่า แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถรับประกันได้อยู่ดีว่าจักรวาลจะบันดาลให้เกิดปรากฏการณ์นี้ในคืนไหน และแสงเหนือก็ขึ้นชื่อว่ามีความซับซ้อนและทำให้คุณมีโอกาสผิดหวังได้เสมอ 

ผู้ให้บริการทัวร์ดูแสงเหนือทราบถึงจุดนี้ดี และพวกเขามักจะแจ้งให้ลูกค้าที่ออกไปล่าแสงเหนือทราบก่อนด้วย และแม้ว่าการจ่ายค่าทัวร์ไปแล้วแต่ไม่ได้เห็นแสงเหนือจะเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง แต่ทุกคนก็ควรพยายามให้เต็มที่มากที่สุดและสนุกสนานไปกับการจ้องมองท้องฟ้าตอนกลางคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว

สำรวจวัฒนธรรมคาเฟ่ในเรคยาวิก

วัฒนธรรมร้านกาแฟได้รับความนิยมในเรคยาวิก

ชาวไอซ์แลนด์เป็นนักดื่มกาแฟตัวจริง ซึ่งในแต่ละปีชาวไอซ์แลนด์บริโภคเมล็ดกาแฟเฉลี่ยถึงเกือบคนละ 9 กิโลกรัม

ที่จริงแล้วคนไอซ์แลนด์ชอบกาแฟมากถึงขนาดที่ว่าคุณสามารถหาซื้อกาแฟสดได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต ธนาคาร และร้านค้าทั่วไป และบางคนก็ขัดผิวด้วยกากกาแฟหลังลงแช่น้ำในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือในฤดูหนาวด้วย!



ดังนั้นจึงไม่แปลกที่มีคาเฟ่ชั้นนำอยู่เกือบทุกหัวมุมถนนในดาวน์ทาวน์ของเรคยาวิก และไม่มีร้านสตาร์บัคส์และคอสตาด้วย เพราะวัฒนธรรมกาแฟของไอซ์แลนด์นั้นเป็นเรื่องความชอบส่วนตัว ขับเคลื่อนโดยคนในท้องถิ่น และมีการแข่งขันที่ดุเดือด

หมายความว่าคุณสามารถเพลิดเพลินกับเมล็ดกาแฟคั่วคุณภาพสูงสุดในโลกได้ที่นี่อย่างแน่นอน

คาเฟ่มากมายในเรคยาวิกยังให้บริการรีฟิลฟรีด้วย ลูกค้าเพียงหามุมสบายแล้วนั่งเฉยๆ เคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศความครีเอทีฟของเมืองนี้ แค่นี้ก็สุขแล้ว!

แผนการเดินทางท่องเที่ยวที่แนะนำสำหรับเดือนพฤศจิกายน

ไม่ว่าคุณจะท่องเที่ยวเป็นระยะเวลา 4 วัน หรือ 3 สัปดาห์ แผนการเดินทางต่อไปนี้ก็จะช่วยให้คุณมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และเพื่อให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เราได้ทำสรุปรวมแผนการเดินทางท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายนไว้ให้แล้ว ลองศึกษาได้จากลิงก์ด้านล่าง

คุณมีแพลนที่จะเที่ยวไอซ์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายนใช่หรือไม่ หรือถ้าหากคุณเคยมาแล้ว ประสบการณ์ในเดือนพฤศจิกายนที่ไอซ์แลนด์ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง เล่าเรื่องราวของคุณในช่องความคิดเห็นด้านล่างได้เลย

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความอื่นที่น่าสนใจ

Link to appstore phone
ติดตั้งแอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์

ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว

สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ เพิ่มหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด