คู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนในไอซ์แลนด์

ข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

• ด้วยระดับความลึกสูงสุด 248 เมตร โจกุลซาร์ลอนเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในไอซ์แลนด์

• พื้นที่ผิวของโจกุลซาร์ลอนมีขนาด 11.2 ตารางไมล์ (18 ตารางกิโลเมตร)

• ใช้เวลาขับรถประมาณ 5 ชั่วโมงจากเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ ไปยังโจกุลซาร์ลอน

• ภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ในโจกุลซาร์ลอนประกอบด้วยน้ำแข็งที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี

• ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนเริ่มก่อตัวครั้งแรกในปี 1934 เมื่อธารน้ำแข็งเบรดาแมร์คูร์โจกุล (Breidamerkurjokull glacier) เริ่มค่อยๆ หายไปและแทนที่ด้วยทะเลสาบลากูน

• ทะเลสาบธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์แห่งนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4 เท่านับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1970

• ทะเลสาบลากูนเชื่อมต่อกับมหาสมุทรและประกอบด้วยน้ำทะเลและน้ำจืด ซึ่งทำให้น้ำมีสีสันอันเป็นเอกลักษณ์

• แมวน้ำสามารถพบเห็นได้ในโจกุลซาร์ลอนตลอดทั้งปี แต่ในฤดูหนาวพวกมันจะแห่กันไปที่ปากทางเข้าทะเลสาบเพื่อจับปลา

ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนอยู่ที่ไหน?

โจกุลซาร์ลอนตั้งอยู่ทางใต้ของวัทนาโจกุล (Vatnajokull) ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป

วัทนาโจกุลและพื้นที่โดยรอบ รวมถึงโจกุลซาร์ลอน เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ และเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองในยุโรป รองจากยูกิด วา (Yugid Va) ในรัสเซีย

• ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติในประเทศไอซ์แลนด์

ทะเลสาบแห่งนี้ก่อตัวขึ้นตามธรรมชาติโดยได้น้ำมาจากน้ำแข็งบนธารน้ำแข็งที่ละลายแล้ว และทะเลสาบยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากการที่มีก้อนน้ำแข็งพังทลายลงมาจากธารน้ำแข็ง ซึ่งมีการหดตัวเกิดขึ้นตลอดเวลา

การที่โจกุลซาร์ลอนมีขนาดเพิ่มขึ้นแสดงว่าธารน้ำแข็งกำลังหดตัวเรื่อยๆ ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะโลกร้อน โดยจะธารน้ำแข็งจะมีขนาดลดลงอย่างเห็นได้ชัดทุกปี

สิ่งเหล่านี้ยังทำให้ทะเลสาบและผืนน้ำแข็งที่ยื่นออกมาจากธารน้ำแข็งในบริเวณใกล้เคียงมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้นเพราะสถานที่แห่งนี้จะดูแตกต่างออกไปทุกครั้งที่คุณไปเยี่ยมชม

ภูเขาน้ำแข็งที่แตกตัวออกจากธารน้ำแข็งและตกลงไปในทะเลสาบจะค่อยๆ ละลายและลอยออกสู่ทะเล ซึ่งคลื่นมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือจะกัดเซาะน้ำแข็งเหล่านั้นก่อนที่พวกมันจะถูกซัดขึ้นฝั่งไปอยู่บนชายหาดสีดำสนิทที่เรียกว่าเบรดาแมร์คูร์ซานดูร์ (Breidamerkursandur)

ทำให้ผืนทรายสีดำที่ทอดยาวแห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยประติมากรรมน้ำแข็งก้อนใสขนาดย่อมๆ จำนวนมาก และพวกมันจะส่องแสงระยิบระยับเมื่อต้องแสงอาทิตย์มองดูเหมือนกับเพชรเม็ดงาม ด้วยเหตุนี้บางครั้งเบรดาแมร์คูร์ซานดูร์จึงถูกเรียกว่าไดมอนด์บีชหรือหาดเพชร

สัตว์โลกในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน 

ทะเลสาบแห่งนี้มีแมวน้ำที่มักจะออกมาว่ายน้ำหรือพักผ่อนบนภูเขาน้ำแข็ง

นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยนกนานาพันธุ์ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ที่คุณจะได้เห็นนกนางนวลอาร์กติกและสายพันธุ์อื่นๆ อีกมากมาย

แต่นี่ไม่ใช่พื้นที่ยอดนิยมสำหรับนกพัฟฟิน ถ้าหากคุณขับรถมาจากเรคยาวิกในช่วงฤดูร้อน ระหว่างทางคุณสามารถแวะที่ประภาคารดิร์โฮลาเอย์ (Dyrholaey lighthouse) และชายหาดเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) เพื่อชมนกพัฟฟินได้

การขับรถเลียบชายฝั่งทางใต้ไปยังโจกุลซาร์ลอนนั้นมีทัศนียภาพที่สวยงามน่าทึ่งมาก ดังนั้น คุณจึงสามารถขับรถชมวิวมาได้เรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน

ทะเลสาบโจกุลซาร์ลอนเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์

ภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งของโจกุลซาร์ลอนดึงดูดผู้สร้างภาพยนตร์หลายรายให้มาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไอซ์แลนด์

• ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไอซ์แลนด์

ภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ "Die Another Day" และ "A View to a Kill" ถ่ายทำที่ทะเลสาบธารน้ำแข็ง และ “Tomb Raider” ก็เช่นกัน

ส่วนทั้ง “Batman Begins” และ “Interstellar” ก็ยกกองมาถ่ายทำกันที่ธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์สโจกุล (Svinafellsjokull) ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุลถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “The Secret Life of Walter Mitty” โดยเป็นฉากที่วอลเตอร์กำลังเดินป่าในเทือกเขาหิมาลัย

และยังมีผลงานโฆษณา รวมถึงมิวสิควิดีโออีกหลายชิ้นที่มาถ่ายทำกันที่โจกุลซาร์ลอน เช่น เพลง Holocene ของ Bon Iver เพลง I'll Show You ของ Justin Bieber และมิวสิควีดีโอเพลง Gerua จากภาพยนตร์บอลลีวูดเรื่อง Diwali ที่นำแสดงโดย Shah Rukh Khan และ Kajol

วิธีการเดินทางไปยังทะเลสาบน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

หากต้องการไปโจกุลซาร์ลอน คุณสามารถขับรถเองหรือเข้าร่วมทัวร์ที่จะพาคุณไปที่ทะเลสาบ

หากคุณขับรถมาจากเรคยาวิก ระยะทางจากที่นั่นมาถึงอ่าวธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์คือ 380 กม. ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง

เส้นทางขับรถนี้มีทิวทัศน์สวยงามมาก ดังนั้นอาจใช้เวลานานกว่าจะไปถึงที่นั่น เนื่องจากมีจุดให้แวะพักชมสิ่งต่างๆ ระหว่างทางมากมาย เราจึงขอแนะนำให้ใช้เวลาอย่างน้อย 2 วันสำหรับการเดินทางไปกลับระหว่างเรคยาวิกและโจกุลซาร์ลอน

เราขอแนะนำทัวร์ 2 วันแพ็คเกจนี้ ซึ่งรวมบริการรับส่งและที่พักแล้ว รถจะพาคุณไปยังโจกุลซาร์ลอนและแวะที่จุดที่ดีที่สุดของชายฝั่งทางใต้ตลอดเส้นทาง คุณจะได้เยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าที่สวยงามและเพลิดเพลินกับโอกาสในการชมแสงเหนือ

เส้นทางขับรถครั้งนี้เป็นหนึ่งในการเดินทางที่น่าทึ่งที่สุดในไอซ์แลนด์ คุณจะผ่านทิวทัศน์ชายฝั่งทางใต้ที่น่าทึ่ง รวมถึงน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) และน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) อันงดงาม ชายหาดสีดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุล (Myrdalsjokull) และภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุล (Eyjafjallajokull)

มีสถานที่มากมายให้สำรวจระหว่างทาง ดังนั้นเราจึงมีแผนการเดินทางแบบขับรถเองที่แนะนำหลายรายการเพื่อเพิ่มประสบการณ์ของคุณ

ทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 6 วันบนชายฝั่งทางใต้และวงกลมทองคำจะช่วยให้คุณเที่ยวไอซ์แลนด์ได้คุ้มค่าที่สุด หากคุณวางแผนจะเที่ยวอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ในช่วงฤดูร้อน

หากคุณวางแผนจะเดินทางมาเที่ยวในฤดูหนาว เราขอแนะนำทริปขับรถเที่ยวช่วงฤดูหนาวเป็นเวลา 6 วัน เนื่องจากมีการเดินทางไปยังถ้ำน้ำแข็งที่ข้างโจกุลซาร์ลอนด้วย และในขณะอยู่ที่ทะเลสาบ คุณอาจจะไปเข้าร่วมกับทัวร์ถ้ำน้ำแข็งทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนด้วยก็ได้

หากคุณกำลังมองหาการเดินทางระยะสั้นๆ ก็มีทริปขับรถ 3 วันในฤดูหนาวที่รวมการเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งด้วยเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังมองหาแผนการเดินทางเฉพาะที่เราไม่มีนำเสนอในขณะนี้ โปรดติดต่อเรา แล้วเราจะปรับแต่งแผนขับรถเที่ยวในแบบที่คุณต้องการโดยเฉพาะให้

หรือถ้าหากคุณต้องการวางแผนด้วยตัวเอง เราสามารถช่วยคุณค้นหารถเช่าราคาถูกสำหรับการผจญภัยของคุณได้

โจกุลซาร์ลอนสามารถเข้าถึงได้ตลอดทั้งปี แม้ว่าฤดูหนาวอาจมีสภาพอากาศแปรปรวนเล็กน้อยก็ตาม

แต่หากมีพายุหิมะรุนแรงหรือมีลมแรง แนะนำว่าไม่ควรขับรถ

แต่ส่วนใหญ่แล้วคุณน่าจะขับรถเดินทางได้อย่างราบรื่น ถนนเลียบชายฝั่งทางใต้มักมีสภาพพร้อมใช้งานตลอดทั้งปี และมีรถวิ่งค่อนข้างเยอะตลอด ดังนั้นหากคุณประสบปัญหาก็จะมีคนแวะมาช่วยเหลือคุณอย่างรวดเร็ว

ข้อดีของการท่องเที่ยวหน้าหนาวคือการได้ชมแสงเหนือ

ความสนุกในการเที่ยวไอซ์แลนด์ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงระหว่างการเดินทางนี่แหละ แต่คุณต้องคอยติดตามสภาพอากาศและถนนอยู่ตลอดเวลา ​​(ตรวจสอบทุกวันจะดีที่สุด) และเตรียมพร้อมที่จะเปลี่ยนแผนหากมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

แต่การใช้เวลาอยู่ที่โจกุลซาร์ลอน ซึ่งเป็นที่สุดของสถานที่ท่องเที่ยวของไอซ์แลนด์ก็คุ้มค่ากับการเดินทางไกล

หากคุณไม่ต้องการขับรถไปเอง คุณก็สามารถเลือกจองทัวร์แทนได้ เช่น ทัวร์แอดเวนเจอร์บนชายฝั่งทางใต้ 3 วัน หรือทัวร์ฤดูหนาว 2 วันพร้อมพาเที่ยวถ้ำน้ำแข็ง

หากคุณรู้สึกอยากผจญภัยมากขึ้นอีก คุณสามารถเพิ่มกิจกรรมปีนธารน้ำแข็งเข้าไปในทัวร์ 2 วันที่พาไปเที่ยวโจกุลซาร์ลอนได้ด้วย ซึ่งจะทำให้คุณได้เห็นทิวทัศน์ที่น่าทึ่งที่สุดขณะที่คุณขึ้นไปยืนอยู่บนธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

กิจกรรมที่น่าสนใจเมื่อไปเที่ยวทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

นักท่องเที่ยวสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากมายเมื่อไปเที่ยวทะเลสาบและธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเวลาที่มี และประเภทของกิจกรรมที่สนใจ

ทัวร์ล่องเรือชมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนให้บริการในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคม

ภาพจาก ทัวร์ล่องเรือสะเทินน้ำสะเทินบกโจกุลซาร์ลอน

ในช่วงไฮซีซั่น (กรกฎาคมและสิงหาคม) มีทริปล่องเรือมากถึง 40 เที่ยวต่อวัน

คุณสามารถเลือกระหว่างทัวร์ล่องเรือสะเทินน้ำสะเทินบกที่ออกเดินทางวันละหลายเที่ยว และทัวร์เรือท้องแบนโซดิแอกในทะเลสาบโจกุลซาร์ลอนที่มีกำหนดตารางเวลาออกเรือตายตัว

สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปนั้น ไม่จำเป็นต้องจองทัวร์เรือสะเทินน้ำสะเทินบกล่วงหน้า ยกเว้นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่กว่า 12 คน ซึ่งหากมาเป็นกลุ่มแบบนี้จะต้องจองเรือล่วงหน้า

ส่วนทัวร์ล่องเรือโซดิแอกนั้นมีโอกาสที่ตั๋วจะเต็มหมด เนื่องจากมีให้บริการเฉพาะช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายนเท่านั้น ดังนั้นจึงควรจองล่วงหน้า

หากต้องการใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น การจองทัวร์พายเรือคายัคในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนจะมอบประสบการณ์ที่คุณไม่มีวันลืม ทัวร์นี้มีให้บริการเฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น และเรือคายัคของคุณจะลอยอยู่ท่ามกลางก้อนน้ำแข็งมากมาย และคุณยังสามารถพายเข้าไปชมธารน้ำแข็งอย่างใกล้ชิดได้ด้วย

ทัวร์ถ้ำน้ำแข็งทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

คุณสามารถเข้าร่วมทัวร์ถ้ำน้ำแข็งจากโจกุลซาร์ลอนและไปสำรวจถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติภายในธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลได้

ถ้ำน้ำแข็งจะก่อตัวขึ้นเมื่อธารน้ำแข็งละลาย และมีแม่น้ำไหลอยู่ใต้น้ำแข็ง กัดเซาะน้ำแข็งจนกลายเป็นอุโมงค์

ถ้ำแต่ละแห่งมีความแตกต่างกัน แต่ถ้ำทั้งหมดมีน้ำแข็งสีฟ้าเหมือนกัน

ในขณะที่ธารน้ำแข็งเคลื่อนตัว มันจะก่อให้เกิดถ้ำน้ำแข็ง ซึ่งแต่ละปีถ้ำที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงมีทัวร์ถ้ำน้ำแข็งหลายรายการที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ระหว่างที่มาเที่ยวไอซ์แลนด์ และเมื่อเข้าชมจะพบว่าไม่มีถ้ำน้ำแข็งไหนที่เหมือนกันเลย

ถ้ำน้ำแข็งส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคมของทุกปี แต่ผู้ให้บริการบางรายก็อาจจะยังไม่จัดทัวร์พาเข้าไปจนกว่าจะถึงเดือนพฤศจิกายน และทัวร์เหล่านี้ยังจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย

หากอากาศอุ่นเกินไป ในถ้ำอาจจะเต็มไปด้วยน้ำ น้ำแข็งอาจจะละลาย หรือแม้แต่พังทลาย ดังนั้นคุณจึงไม่ควรเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งโดยลำพังหากไม่มีไกด์ที่รู้จักบริเวณนั้นเป็นอย่างดีพาเข้าไป และไม่ทราบว่าถ้ำนั้นปลอดภัยพอที่จะเข้าไปหรือไม่

ถ้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งคือถ้ำน้ำแข็งสีฟ้า (Blue Ice Cave) ซึ่งเป็นหนึ่งในถ้ำที่กว้างขวางและมีรูปทรงในการก่อตัวที่คล้ายกันมากเนื่องจากเกิดขึ้นจากระบบน้ำที่ละลายในรูปแบบเดียวกันทุกปี

คุณสามารถออกเดินทางไปที่นั่นได้จากโจกุลซาร์ลอน โดยทัวร์ของคุณจะรวมการนั่งรถซูเปอร์จี๊ปไปพร้อมกับไกด์ เพื่อไปชมถ้ำน้ำแข็งที่อยู่สูงขึ้นไปในธารน้ำแข็ง

ไกด์จะอธิบายทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับธารน้ำแข็งและถ้ำน้ำแข็งของประเทศไอซ์แลนด์และตอบทุกคำถามของคุณ

ทัวร์ที่ออกเดินทางจากโจกุลซาร์ลอนเป็นทัวร์เดียวที่พาไปเยี่ยมชมถ้ำแห่งนี้ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้เพลิดเพลินไปกับถ้ำน้ำแข็งในแบบที่ห่างไกลจากฝูงชน

โจกุลซาร์ลอนยังเป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมแสงเหนือที่อาจจะออกมาส่ายไปมาบนท้องฟ้าเบื้องบน

ทิวทัศน์ที่มักจะมีแสงออโรราสะท้อนอยู่ในน้ำและน้ำแข็งของที่นี่เป็นฉากอันน่าทึ่งสำหรับช่างภาพ 

ในวันที่แสงออโรราปรากฏตัวอย่างเข้มข้น มันสามารถทำให้ทั่วทั้งทะเลสาบส่องสว่างไปด้วยสีสันที่ส่ายไปมาทั้งสีเขียว ชมพู แดง ม่วง และน้ำเงิน ทำให้เป็นโอกาสในการชมแสงออโรราที่น่าประทับใจที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต

การชมแสงเหนือ

แสงเหนือเกิดขึ้นตลอดทั้งปีแต่จะมองเห็นได้เฉพาะเมื่อท้องฟ้ามืดเท่านั้น จึงไม่สามารถมองเห็นได้ในตอนกลางคืนที่สดใสในช่วงฤดูร้อน

คุณสามารถชมแสงออโรราในประเทศไอซ์แลนด์ได้ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนถึงกลางเดือนเมษายน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องฟ้าจะโปร่งใสและมีกิจกรรมแสงเหนือมากแค่ไหน

ลองดูแพ็คเกจฤดูหนาว 5 วันของเราที่รวมทั้งไปพาเที่ยวทะเลสาบธารน้ำแข็ง ล่าแสงเหนือ ชมถ้ำน้ำแข็ง และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อช่วยให้การมาเยือนไอซ์แลนด์ของคุณเป็นประสบการณ์ที่งดงามอย่างแท้จริง

เที่ยวทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนพักที่ไหนดี

มีตัวเลือกที่พักมากมายรอบๆ ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน หากคุณวางแผนจะพักค้างคืนในบริเวณนี้

หนึ่งในที่พักที่ใกล้ที่สุดคือ Hali Country Hotel ซึ่งตั้งอยู่ในชนบทและห้องพักทุกห้องมีห้องน้ำส่วนตัว

หากคุณมีงบในการเที่ยวมากขึ้น Fosshotel Glacier Lagoon เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวที่มีสไตล์ในย่านนี้ โรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดที่คุณต้องการ รวมทั้งมีน้ำตกอยู่ด้านนอก

โรงแรมและที่พักที่ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบมักจะถูกจองอย่างรวดเร็ว

หากคุณโชคไม่ดีพอที่จะได้ตัวเลือกแรกที่ต้องการ ตัวเลือกที่สะดวกอันดับสองคือที่พักที่ตั้งอยู่ในเมืองเฮิฟน์ (Hofn) ที่อยู่ใกล้เคียง (ห่างจากโจกุลซาร์ลอนหนึ่งชั่วโมง)

หากคุณวางแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวตามถนนวงแหวนหรือต้องการปิดท้ายวันในสถานที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เมืองเฮิฟน์ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม เมืองนี้ได้ชื่อว่ามีล็อบสเตอร์ที่รสชาติดีที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์และอยู่ใกล้กับภูเขาเวสตราฮอร์น (Vestrahorn mountain) ที่สวยงาม

เฮิฟน์ยังมีที่พักหลากหลายแบบเพื่อให้เหมาะกับงบประมาณและสไตล์ที่แตกต่างกัน

Hotel Hofn เป็นโรงแรมที่น่ารักสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย

หากคุณเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วไอซ์แลนด์ และโจกุลซาร์ลอนเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ สถานที่ที่คุณวางแผนจะไปแวะพัก คุณจะได้พบกับที่พักมากมายระหว่างทาง

สิ่งที่ต้องระมัดระวังที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน

มีมาตรการความปลอดภัยเบื้องต้นประการหนึ่งที่คุณควรรู้เมื่อไปที่ทะเลสาบน้ำแข็งแห่งนี้

ซึ่งที่จริงก็แน่ชัดอยู่แล้วว่าไม่ควรลงไปว่ายน้ำในทะเลสาบที่เต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมา และไม่ควรปีนขึ้นไปบนภูเขาน้ำแข็งเหล่านั้น แต่หลายคนก็มักจะอยากทดลองทำสิ่งเหล่านี้

บางครั้งนักท่องเที่ยวก็ประมาทกับธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์และสุดท้ายอาจจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายจนต้องได้รับความช่วยเหลือจากทีมค้นหาและกู้ภัยของประเทศไอซ์แลนด์

ดังนั้นอย่าได้อาจหาญทำอะไรแปลกๆ ตามแบบที่เห็นเจมส์ บอนด์ ชาห์รุค ข่าน หรือจัสติน บีเบอร์ ทำในภาพยนตร์หรือมิวสิควิดีโอ และอย่าลงว่ายน้ำในทะเลสาบหรือปีนขึ้นไปบนภูเขาน้ำแข็ง

ขอให้มีช่วงเวลาที่ดีเมื่อคุณไปชมทะเลสาบ แต่โปรดจำไว้ว่ากระแสน้ำในทะเลสาบมีกำลังแรงและสามารถพาคุณออกสู่ทะเลได้อย่างง่ายดาย ทะเลสาบแห่งนี้มีความลึก 200 เมตร และเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในไอซ์แลนด์ ดังนั้นภูเขาน้ำแข็งส่วนที่คุณมองเห็นจึงเป็นเพียงแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ในทะเลสาบเท่านั้น เพราะอีก 90 เปอร์เซ็นต์ของภูเขาน้ำแข็งนั้นอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำ

บางครั้งภูเขาน้ำแข็งอาจจะพลิกคว่ำได้ หากน้ำแข็งใต้ผิวน้ำมีขนาดเล็กกว่าที่โผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำ ซึ่งสิ่งนี้เกิดจากการที่น้ำแข็งแตกร้าวหรือละลาย

หากนักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปบนยอดน้ำแข็งแล้วน้ำแข็งเกิดพลิกคว่ำ ก็อาจจะทำให้ตัวคนติดอยู่ใต้น้ำแข็งและตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ซึ่งมันไม่คุ้มกับภาพถ่ายที่อยากได้เลย!

ดูแลตัวเองให้ดีและเพลิดเพลินไปกับสถานที่อันงดงามแห่งนี้ และอย่าทำในสิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อคุณมาเยือนไอซ์แลนด์

ไม่ว่าคุณจะเลือกขับรถเที่ยวโดยวางแผนการเดินทางและจองแพ็คเกจสำหรับขับรถเที่ยวด้วยเอง หรือใช้บริการทัวร์พร้อมไกด์ การไปเยี่ยมชมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด เพราะมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวอันดับท็อปของไอซ์แลนด์ และผู้คนจำนวนมากเดินทางไปที่นั่นกันตลอดทั้งปีเพื่อชมความงดงามของมัน เรายินดีที่จะตอบคำถามใดๆ ที่คุณมี และอยากอ่านประสบการณ์ของคุณในช่องความคิดเห็นด้านล่างด้วย