หนึ่งในน้ำตกที่สวยงามทางเหนือของไอซ์แลนด์

เที่ยวไอซ์แลนด์เดือนตุลาคม | กิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยว

Richard Chapman
ผู้เขียน: Richard Chapman
ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรอง
ไปที่เรื่อง

ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนในฤดูใบไม้ร่วง

ค้นหากิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม พร้อมทุกสิ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับสภาพอากาศในฤดูใบไม้ร่วง วิธีเดินทาง สิ่งที่ต้องนำติดตัวมาด้วย โปรแกรมทัวร์สำหรับเดือนตุลาคมที่คุณควรเลือกใช้บริการ และนี่คือคู่มือเที่ยวไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคมที่มีข้อมูลครบครัน! 

ตุลาคมเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวไอซ์แลนด์ ความวุ่นวายของหน้าร้อนเพิ่งสิ้นสุดลงและอุณหภูมิก็ยังไม่ได้ลดลงต่ำสุดเหมือนอย่างในช่วงกลางฤดูหนาว นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลดูแสงออโรราด้วย ดังนั้นเราจึงแนะนำให้เช่ารถราคาประหยัดเพื่อเดินทางออกไปชมแสงเหนือกันที่นอกเมือง คุณสามารถเลือกหาห้องพักที่สมบูรณ์แบบสำหรับทริปนี้ได้จากตลาดโรงแรมและที่พักที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ พร้อมกับค้นหาทัวร์สำหรับเดือนตุลาคมที่มีให้เลือกมากมาย

ตุลาคมเป็นเดือนที่เงียบเชียบที่สุดเดือนหนึ่งสำหรับการมาเยือนไอซ์แลนด์ นักท่องเที่ยวที่มาในช่วงนี้มีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับช่วงพีคของหน้าร้อน 

จึงหมายความว่านักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทุกสิ่งอย่างที่ไอซ์แลนด์มีให้ชมได้โดยไม่ต้องเบียดเสียดกับคนจำนวนมาก และราคาก็ไม่แพงเหมือนในช่วงไฮซีซั่นด้วย! 

ไกเซอร์สโทรคูร์ปะทุท้าทายดวงอาทิตย์

ช่วงเวลากลางวันในเดือนตุลาคมก็ยาวนานมากเพียงพอสำหรับให้คุณได้ทำกิจกรรม ในขณะที่กลางคืนก็มืดพอที่คุณจะมีโอกาสได้เห็นแสงเหนือ จึงเป็นเวลาที่ดีในการเยี่ยมชมอย่างแท้จริง หากคุณกำลังวางแผนมาเที่ยวไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม คุณคงอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมน่าทำและสถานที่ที่น่าไปที่สุด รวมถึงสิ่งที่ควรเตรียมใส่กระเป๋าไปด้วย โชคดีที่เราพร้อมให้ความช่วยเหลือ

แต่ก่อนที่เราจะไปดูกันว่าจะทำอะไรและจะไปที่ไหน เรามาตอบคำถามสำคัญกันดีกว่า: สภาพอากาศที่ไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคมเป็นอย่างไรบ้าง?



สภาพอากาศเดือนตุลาคมที่ไอซ์แลนด์ 

สภาพอากาศของประเทศไอซ์แลนด์แตกต่างกันไปตามฤดูกาล ซึ่งในแต่ละเดือนและแต่ละวันก็ไม่เหมือนกัน ฝนอาจจะตกอยู่หนึ่งนาทีจากนั้นแดดจ้า และอีกไม่กี่นาทีต่อมาอาจจะมีลูกเห็บหรือหิมะตกก็เป็นได้ 

อากาศเดือนตุลาคมของไอซ์แลนด์ก็แปรปรวนเช่นเดียวกัน อุณหภูมิในเมืองเรคยาวิกในเดือนตุลาคมอยู่ระหว่าง -7.2°C ถึง 15°C หากมีสิ่งหนึ่งที่คุณสามารถคาดการณ์ได้แน่นอนเกี่ยวกับสภาพอากาศของประเทศไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม สิ่งนั้นก็คืออากาศในเดือนตุลาคมของไอซ์แลนด์เป็นเรื่องที่บอกล่วงหน้าไม่ได้เลย 

โดยเฉลี่ยแล้ว อุณหภูมิในเมืองเรคยาวิกในเดือนตุลาคมอยู่ที่ประมาณ 4.8°C ซึ่งต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีที่ 5.4°C เล็กน้อย ส่วนนอกเมืองเรคยาวิกนั้น อุณหภูมิอาจจะเย็นกว่านี้อีก โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลอย่างไฮแลนด์หรือฟยอร์ดทางตะวันตก 

อากาศในเดือนตุลาคมเหมาะสำหรับกิจกรรมเกือบทุกอย่าง

แม้ว่าในช่วงเดือนกันยายนจะถือว่ามีอากาศค่อนข้างอบอุ่น (อย่างน้อยก็สำหรับชาวไอซ์แลนด์!) แต่ในทางเทคนิคแล้ว เดือนตุลาคมเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูหนาวของประเทศไอซ์แลนด์ ดังนั้นจึงอาจจะมีอากาศที่หนาวจัดได้ โดยความกดอากาศต่ำจะปกคลุมอยู่ทั่วไประเทศ ทำให้เกิดลมแรงและฝนตกหนัก และเมื่อคุณลักษณะเหล่านี้เกิดขึ้นควบคู่ไปกับความหนาวเย็น เดือนตุลาคมจึงเป็นเดือนที่ปั่นป่วนทีเดียว 

ลมฤดูใบไม้ร่วงเย็นจัดที่พัดผ่านซอกเขาและช่องว่างระหว่างอาคาร ยิ่งทำให้อุณหภูมิโดยเฉลี่ยลดต่ำลงไปอีก และพัดแรงมากจนการกางร่มเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะลมที่พัดแรงแบบเอาเป็นเอาตายนี้อาจจะพัดคุณปลิวได้เลย ดังนั้นคุณจึงต้องระมัดระวังตัวมากเป็นพิเศษด้วยเมื่ออยู่ข้างนอกท่ามกลางลมแรง 

ความแรงลมโดยเฉลี่ยในช่วงต้นเดือนตุลาคมอยู่ที่ 11.5 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 5 เมตรต่อวินาที) และเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเป็น 12.5 ไมล์ต่อชั่วโมง (5.5 เมตรต่อวินาที) ภายในครึ่งหลังของเดือน  

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคมอยู่ที่ประมาณ 3 นิ้ว (77 มม.) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยรายเดือนประจำปีที่ 2.8 นิ้ว (73 มม.) เล็กน้อย และอันที่จริงแล้ว เดือนตุลาคมยังเป็นเดือนที่ไอซ์แลนด์มีฝนตกชุกมากที่สุดเดือนหนึ่งของปีอีกต่างหาก ดังนั้นอย่าลืมพกเสื้อผ้าที่สามารถกันน้ำได้มาด้วย 

ในเดือนตุลาคมที่ไอซ์แลนด์มักจะไม่มีหิมะตกหนัก (โดยเฉพาะในเรคยาวิกและทางใต้ของประเทศ) แต่หากคุณมีแผนเดินทางไปเที่ยวทางเหนือของประเทศ คุณก็อาจจะมีสิทธิ์ได้เจอกับหิมะและน้ำแข็ง พื้นที่ไฮแลนด์ไม่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงเดือนตุลาคม และสามารถเยี่ยมชมได้เฉพาะช่วงฤดูร้อนเท่านั้น

เรคยาวิกไม่น่าจะมีหิมะตกในช่วงนี้ แต่ทุกอย่างก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

ชั่วโมงแห่งแสงสว่างในไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม 

ทั้งเดือนกันยายนและตุลาคมมักจะมีแสงสว่างประมาณวันละ 12 ชั่วโมง วันที่ 1 ตุลาคม ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 07.30 น. และตกเวลา 18.56 น. และภายในสิ้นเดือน ชั่วโมงที่มีแสงสว่างจะลดลง โดยในวันที่ 31ตุลาคม ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 09.08 น. และตกเวลา 17.13  น. 



สิ่งที่ต้องแพ็คใส่กระเป๋ามาเที่ยวไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม

เนื่องจากสภาพอากาศในประเทศไอซ์แลนด์มีความแปรปรวน จึงควรจัดเสื้อผ้ามาให้หลากหลาย โดยเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่แล้วคุณดูดีและอบอุ่นเพียงพอในวันที่อากาศหนาว แต่ก็สามารถถอดออกทีละชั้นได้หากอากาศเริ่มอุ่นขึ้น

ไม่ว่าคุณจะมาเยือนไอซ์แลนด์ในช่วงไหนของปีก็ตาม คุณจำเป็นต้องนำเสื้อผ้าที่อบอุ่นมาด้วย ซึ่งอุณหภูมิที่ไอซ์แลนด์นั้นสามารถลดต่ำลงอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้า และยิ่งถ้าหากว่าคุณจะไปเที่ยวถ้ำหรือไปปีนธารน้ำแข็งด้วยแล้วล่ะก็ พนันได้เลยว่าการแต่งตัวที่ไม่เหมาะสมจะทำให้คุณหนาวจนตัวแข็งได้!  

ดังนั้นยังไงก็ควรนำเสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวมา ซึ่งรวมถึงเสื้อโค้ทที่อบอุ่น (และกันน้ำ) กางเกงกันน้ำ และชุดชั้นในกักเก็บความร้อน คุณยังควรนำเสื้อสเวตเตอร์ที่อุ่นติดมาด้วยเพื่อที่คุณจะได้นำมาสวมใส่ทับระหว่างวัน หรือเผื่อสวมเมื่อเข้าร้านอาหารดีๆ แนะนำให้เลือกแบบที่เป็นเส้นใยธรรมชาติ เช่น เส้นใยขนแกะเมอริโน เนื่องจากมีน้ำหนักเบากว่า ให้ความอบอุ่นได้ดีและดูสวยงามด้วย 

นอกจากนี้ คุณควรเตรียมหมวกฤดูหนาวที่สวมแล้วอุ่น ถุงมืออย่างดี และผ้าพันคอติดมาด้วยเพื่อช่วยเพิ่มความอบอุ่น  แต่ในขณะที่คุณเตรียมเครื่องนุ่งห่มสำหรับอากาศหนาวมาเที่ยวไอซ์แลนด์ คุณก็ต้องไม่ลืมที่จะหยิบชุดว่ายน้ำ ผ้าเช็ดตัว และแว่นกันแดดใส่กระเป๋ามาด้วยเช่นกัน! 

นอกจากต้องเตรียมเสื้อผ้ามาสวมใส่หลายๆ ชั้นแล้ว คุณจะต้องนำเสื้อผ้าที่ใส่ปกติประจำวันติดมาด้วย เช่น กางเกงยีนส์ หรือกางเกงขายาว เสื้อยืด และเสื้อแขนยาว และควรนำรองเท้าที่ใส่สบายมาใส่เดินเที่ยวด้วย  

ที่สำคัญอย่าลืมเตรียมรองเท้าเดินป่าที่ทนทานสำหรับออกไปเที่ยวผจญภัยกลางแจ้งตามที่คุณวางแผนเอาไว้มาด้วย! 

ส่วนหนึ่งของถนนวงแหวน

การขับรถในไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม

เนื่องจากมีอุณหภูมิลดลงและมีโอกาสเจอฝนตกหนัก ลมพัดแรง หมอกลงจัด หิมะตก และมีน้ำแข็งเกาะ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคมจึงมักไม่เลือกเช่ารถขับ 

อุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไอซ์แลนด์มักเกิดจากการที่นักท่องเที่ยวไม่คุ้นเคยกับการขับรถในสภาพถนนที่อันตรายเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเส้นทางลูกรังและถนนที่มืดไม่มีไฟส่องสว่างตามชนบทในไอซ์แลนด์ 

หากคุณเลือกที่จะเช่ารถขับ เราแนะนำให้เลือกใช้รถที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และคุณจำเป็นต้องเข้าเว็บไซต์สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและตรวจสอบสภาพถนนก่อนออกเดินทางและในระหว่างที่เดินทางด้วย เพื่อที่จะได้ทราบถึงสภาพที่คุณจะต้องเผชิญ และสามารถหลีกเลี่ยงถนนที่รถไม่สามารถผ่านได้ 

นอกจากนี้คุณควรทราบด้วยว่าน้ำท่วมและหิมะถล่มไม่ใช่เรื่องแปลกในช่วงเดือนตุลาคม และไม่ควรขับรถเข้าไปบนถนนที่ปิดเป็นอันขาด ซึ่งสำคัญมากเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวคุณเอง  



บางพื้นที่ในไฮแลนด์ไม่อนุญาตให้เข้าไปชม

การขับรถบนถนนวงแหวนของไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม 

ในเดือนตุลาคม พื้นที่เกือบทั้งหมดของไอซ์แลนด์ควรจะสามารถเข้าถึงได้ เว้นเสียแต่ว่าสภาพอากาศจะไม่เอื้ออำนวย มีน้ำท่วมขัง หรือมีหิมะถล่มลงมาขวางในบางส่วนของถนนวงแหวน ซึ่งการที่ถนนเปิดให้ใช้การได้อย่างกว้างขวางหมายความว่าคุณจะสามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวหลักบนเส้นทางนี้ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะไปกับทัวร์หรือขับรถไปเอง 

บนถนนวงแหวนมักจะไม่มีหิมะและน้ำแข็ง ดังนั้นการขับรถบนเส้นทางสายที่วนรอบประเทศนี้ จึงค่อนข้างปลอดภัยมากพอสมควร 

แต่อย่างไรก็ตาม การเช่ารถ 4X4 เป็นความคิดที่ดีกว่า แม้ว่าในแผนของคุณจะไม่มีการเดินทางออกจากถนนสายหลักเลยก็ตาม เนื่องจากสภาพอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในทางเหนือของไอซ์แลนด์ ดังนั้นการวิ่งบนถนนสายหลักอย่างเดียวก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเดินทางอย่างราบรื่นเสมอไป! 

หากคุณไม่มั่นใจเกี่ยวกับการขับรถบนสภาพถนนที่ย่ำแย่ ควรขับเที่ยวอยู่ในเฉพาะทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งมีภูมิประเทศที่ยากลำบากยากน้อยกว่า โดยให้หลีกเลี่ยงการขับขึ้นไปทางเหนือ 

กิจกรรมในไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม

ตุลาคมเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเที่ยวไอซ์แลนด์ เพราะปกติแล้วในช่วงนี้จะมีทั้งทัวร์สำหรับฤดูร้อนและทัวร์สำหรับฤดูหนาวให้บริการ ทัวร์หน้าร้อนจำนวนมากสามารถให้บริการได้จนกว่าหิมะจะกีดขวางถนน ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคมสำหรับพื้นที่ส่วนใหญ่ของไอซ์แลนด์ ส่วนทัวร์หน้าหนาวจำนวนมากนั้นขอแค่มืดเล็กน้อยก็สามารถจัดทัวร์ได้แล้ว ดังนั้นจึงมักจะเริ่มต้นในเดือนกันยายน 

เนื่องจากเดือนตุลาคมเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างฤดูหนาวและฤดูร้อน จึงมีตัวเลือกทัวร์มากมายสำหรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางและเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของทั้งสองฤดูกาล! 

แสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม

แสงออโรร่าในประเทศไอซ์แลนด์มีความสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์

แสงออโรราบอเรลลิส สามารถมองเห็นได้ก็ต่อเมื่อมืดสนิท จึงเกือบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมองเห็นแสงเหนือในระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนเนื่องจากเป็นช่วงที่มีพระอาทิตย์เที่ยงคืน

แต่เมื่อถึงเดือนตุลาคม โอกาสในการมองเห็นแสงเหนือก็จะเพิ่มขึ้น 

แสงออโรราเหนือปูดิร์บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส

มีหลายวิธีที่จะช่วยให้สามารถมองเห็นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดนี้ แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการหนีให้ห่างจากมลภาวะทางแสงของย่านใจกลางเมือง เพราะแสงต่างๆ ในเมืองจะทำให้ความเข้มของแสงเหนือลดน้อยลง ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถมองเห็นแสงเหนือได้จากหน้าต่างห้องพักในเมืองเรคยาวิก แต่คุณจะเห็นแสงเหนือเหล่านี้ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ถ้าหากคุณไปดูจากในชนบท 

แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้างเหมือนกัน อย่างบริเวณรอบๆ ประภาคารโกรททา (Grotta Lighthouse) และตามสวนสาธารณะที่แคลมบราทุน (Klambratun) และเลยการ์ดาลูร์ (Laugardalur) ซึ่งอยู่ในเขตเมืองหลวงนั้นมักจะมืดมากพอที่จะมองเห็นแสงเหนือได้ชัดเจนมากกว่าจากโรงแรมที่คุณพัก หรือสนามด้านหลังที่พักของคุณ



แสงบนฟ้าเหนือประภาคารโกรททา

แต่ว่ากันว่าหากคุณอยู่นิ่งๆ ในสถานที่แห่งเดียว อาจทำให้มีก้อนเมฆมาบดบังทัศนวิสัยได้ ดังนั้นการที่คุณไปเข้าร่วมกับทัวร์แสงเหนือที่พาออกไปนอกเมืองเรคยาวิกนั้น ไกด์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถพาคุณเคลื่อนย้ายไปหาจุดที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งมากที่สุดได้ เนื่องจากพวกเขารู้ตำแหน่งที่เหมาะสมและเข้าใจธรรมชาติของแสงเหนือที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ 

ทัวร์ชมแสงเหนือจากเรคยาวิกมีทั้งแบบที่เดินทางด้วยทัวร์รถบัสจากเรคยาวิกและทัวร์รถซูเปอร์จี๊ป ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณต้องการไป ข้อดีของทัวร์รถบัสคือมักจะมีราคาถูกกว่า แต่ทัวร์ซูเปอร์จี๊ปจะสามารถพาคุณเข้าไปยังสถานที่ที่เข้าถึงยากได้ เพราะสามารถวิ่งได้หมดไม่ว่าจะลุยแม่น้ำและเส้นทางทุรกันดารฝุ่นตลบ ซึ่งหมายความว่าคุณจะมีโอกาสได้เจอกับมลภาวะทางแสงน้อยลงและมองเห็นแสงเหนือสวยงามมากขึ้น 

แสงเหนือเต้นระบำคุณยังสามารถล่องเรือชมแสงเหนือออกไปในอ่าวฟาซาโฟลอิ (Faxafloi) ได้ด้วย ซึ่งในบริเวณอ่าวนั้นเกือบจะมืดสนิทเลย

แน่นอนว่าหากคุณไม่ต้องการเดินทางไปกับทัวร์ คุณก็ยังสามารถออกไปล่าแสงเหนือด้วยตัวเองได้ตามที่คุณสะดวกด้วยการเช่ารถขับ 

หากคุณตัดสินใจที่จะทำเช่นนั้น คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการมองเห็นแสงเหนือได้ด้วยการเข้าไปดูพยากรณ์เมฆและพยากรณ์การเกิดแสงเหนือที่ให้บริการโดยสำนักอุตุนิยมวิทยาไอซ์แลนด์ โดยหากมีการพยากรณ์การเกิดแสงออโรราอยู่ในระดับสามหรือสูงกว่านั้น ให้คุณเดินทางมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่มีเมฆน้อยหรือปราศจากเมฆบดบังได้ยิ่งดี  

ทั้งนี้ โปรดทราบว่าการพยากรณ์เมฆนั้นจะแสดงสถานะของเมฆทั้งสามกลุ่ม และควรดูให้ดีว่าต้องไม่มีเมฆทั้งสามระดับชั้นจึงจะสามารถมองเห็นแสงเหนือได้ 

การมองเห็นแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์นั้น ไม่สามารถรับประกันได้เลยไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาไหนของปี แต่ในเดือนตุลาคม มีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่นอนที่จะมองเห็นแสงเหนือได้ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือเตรียมวางแผน และรอลุ้นว่าท้องฟ้าจะปลอดโปร่งเพียงพอ! 



การดูวาฬในไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม

วาฬหลังค่อมกำลังอพยพออกจากน่านน้ำของไอซ์แลนด์เมื่อสิ้นสุดฤดูร้อน

เดือนตุลาคมเป็นช่วงที่เพิ่งสิ้นสุดฤดูร้อน ซึ่งหมายความว่าสัตว์อพยพส่วนใหญ่กำลังจะเดินทางออกจากไอซ์แลนด์ รวมถึงวาฬหลังค่อมที่มาหากินอยู่ในน่านน้ำของไอซ์แลนด์และนกพัฟฟินที่มาทำรังตามบริเวณหน้าผา 

แต่กระนั้นก็ยังมีสัตว์ในตระกูลวาฬ (วาฬ โลมา และพอร์พอยส์) อีกกว่า 20 สายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในทะเลที่ไอซ์แลนด์ และคุณมีโอกาสดีที่จะมองเห็นพวกมันได้ในเดือนตุลาคม หรือถ้าโชคดีคุณอาจจะได้เห็นวาฬออร์กา วาฬสีน้ำเงิน และวาฬปากนกด้วย และแม้ว่าวาฬใหญ่เช่นนี้จะมีจำนวนไม่มากนัก แต่ช่วงเวลานี้ก็มักจะมีพวกมันหลงฝูงให้ได้เห็นเสมอ 

วาฬหลังค่อมกระโดดโชว์ตัว

ในไอซ์แลนด์มีทัวร์ดูวาฬออกเดินทางจากทั่วประเทศ คุณสามารถเข้าร่วมกับทัวร์ดูวาฬที่ออกเดินทางจากเมืองเรคยาวิกและออกไปดูวาฬในอ่าวฟาซาโฟลอิ ซึ่งมีวาฬมิงค์ วาฬหลังค่อม และโลมาให้เห็นเป็นประจำ 

ทัวร์ดูวาฬที่ออกเดินทางจากเมืองอาคูเรย์ริในทางเหนือของไอซ์แลนด์จะพาไปที่ฟยอร์ดเอยาฟยอร์ดูร์ ซึ่งสายพันธุ์ที่พบเห็นได้บ่อยในบริเวณนี้คือวาฬหลังค่อม แต่บางครั้งก็สามารถเจอวาฬเบลูก้าและวาฬนาร์วาลได้เหมือนกัน คุณสามารถเลือกทัวร์ดูวาฬที่ออกเดินทางจากอาคูเรย์ริได้ทั้งที่เดินทางด้วยเรือธรรมดาหรือไปดูวาฬด้วยเรือสปีดโบ๊ทที่เป็นเรือ RIB 



ที่ไอซ์แลนด์วาฬหลังค่อมไม่เคยถูกล่าและไม่กลัวเรือ ส่วนวาฬมิงค์จะระวังตัวมากกว่า

อีกวิธีหนึ่งในวิธีทำความรู้จักกับสัตว์ทะเลขนาดยักษ์ที่อ่อนโยนมากขึ้นคือไปชมนิทรรศการปลาวาฬแห่งไอซ์แลนด์ ซึ่งมีแบบจำลองขนาดเท่าตัวจริงของสัตว์จำพวกวาฬทั้ง 23 สายพันธุ์ (ปลาวาฬ โลมา และปลาโลมา) ที่พบในน่านน้ำของประเทศนี้ การเยี่ยมชมนิทรรศการวาฬแห่งไอซ์แลนด์เป็นวิธีที่ดีในการชมสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งเหล่านี้อย่างใกล้ชิด



ทัวร์เที่ยวธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม

ธารน้ำแข็งของประเทศไอซ์แลนด์มีชั้นหินที่หลงเหลือจากการปะทุในอดีตภาพจากทัวร์ไฮกิ้งบนธารน้ำแข็งในสกัฟตาเฟลล์

ธารน้ำแข็งเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุดของไอซ์แลนด์ และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ธารน้ำแข็งครอบคลุมพื้นที่ถึง 10% ของประเทศ และในเดือนตุลาคม มีทัวร์มากมายที่พานักท่องเที่ยวขึ้นไปยลความงามที่ด้านบนและด้านในของธารน้ำแข็ง 

การปีนธารน้ำแข็งเป็นกิจกรรมตื่นเต้นที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนประเทศไอซ์แลนด์ และจะเป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืมเลือน เพราะเมื่อขึ้นไปที่ด้านบนของผืนน้ำแข็ง คุณจะเห็นทัศนียภาพตระการตาของบริเวณโดยรอบที่งดงามจนแทบลืมหายใจ 

เข้าร่วมกับทัวร์ปีนธารน้ำแข็งที่มีไกด์ที่ผ่านการรับรองคอยดูแลเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยไกด์จะจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ให้กับคุณเพื่อให้คุณทำกิจกรรมอย่างปลอดภัย และยังจะเล่าให้คุณฟังถึงประวัติศาสตร์ธรณีวิทยา ตลอดจนเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับภูเขาไฟของประเทศไอซ์แลนด์ด้วย ซึ่งจะทำให้ทริปเที่ยวธารน้ำแข็งของคุณเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานและน่าทึ่งมาก! 

กิจกรรมปีนน้ำแข็งรวมอยู่ในทัวร์ปีนธารน้ำแข็งหลายแพ็คเกจภาพจาก ทัวร์ปีนน้ำแข็งและปีนธารน้ำแข็ง 4 ชั่วโมงที่น่าทึ่งในวัทนาโจกุล พร้อมบริการรับส่งจากสกัฟตาเฟลล์

สำหรับกิจกรรมปีนธารน้ำแข็ง ธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุล (Solheimajokull) เป็นธารน้ำแข็งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ คุณสามารถเข้าร่วมกับทัวร์ชายฝั่งทางใต้ 12 ชั่วโมงแพ็คเกจนี้ที่รวมการไฮกิ้งบนธารน้ำแข็ง โดยทัวร์จะออกเดินทางจากเมืองเรคยาวิก อีกทั้งยังพาไปชมสถานที่ท่องเที่ยวบนชายฝั่งทางใต้อีกหลายแห่ง เช่น น้ำตกสโคกาฟอสส์ (Skogafoss) และน้ำตกเซลยาแลนด์สฟอสส์ (Seljalandsfoss) อันโด่งดัง

สำหรับผู้ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ คุณสามารถเดินป่าน้ำแข็งขึ้นไปเที่ยวบนธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajokull) ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปกับทัวร์ไฮกิ้งบนกลาเซียร์ที่วัทนาโจกุลแพ็คเกจนี้ หรือคุณจะไปเดินขึ้นธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์สโจกุล (Svinafellsjokull) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell Nature Reserve) อันเปรียบเสมือนสรวงสวรรค์ของนักเดินป่าก็ได้



นักท่องเที่ยวขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุลภาพจาก ทัวร์วงกลมทองคำ & สโนว์โมบิล พร้อมบริการรับส่งจากเรคยาวิก

หากคุณไม่ใช่สายเดินป่าหรือปีนเขา คุณอาจจะไปร่วมกับทัวร์ขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งแทนก็ได้ ซึ่งตื่นเต้นเหมือนกัน สำหรับกิจกรรมนี้ คุณต้องมีใบอนุญาตขับรถที่ยังไม่หมดอายุหากคุณต้องการเป็นผู้ขับขี่ ส่วนลูกค้าที่เป็นเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปี สามารถนั่งเป็นผู้โดยสารได้ กิจกรรมนี้มอบประสบการณ์สนุกสนานตื่นเต้นอะดรีนาลีนสูบฉีด พร้อมกับความเพลิดเพลินในการเที่ยวชมความงามของธารน้ำแข็งที่มีอยู่มากมายหลายแห่งในประเทศไอซ์แลนด์

ทัวร์ขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล เหมาะสำหรับผู้ที่แสวงหากิจกรรมตื่นเต้นในทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในเมืองเรคยาวิกนั้นทัวร์วงกลมทองคำและขี่สโนว์โมบิลไปยังธารน้ำแข็งลางโจกุลพร้อมบริการรับส่งจากเมืองเรคยาวิกจะสะดวกกว่า เนื่องจากอยู่ใกล้เมืองมากกว่า

โถงน้ำแข็งในลางโจกุล ภาพจาก ทัวร์อุโมงค์น้ำแข็ง (Into the Glacier) ที่ลางโจกุล ออกเดินทางจากเบสแคมป์ 

หากคุณวางแผนที่จะไปร่วมกับทัวร์เที่ยวธารนำ้แข็งลางโจกุลอยู่แล้ว คุณควรรวมทัวร์ขี่สโนว์โมบิลที่พาไปเที่ยวอุโมงค์น้ำแข็งที่อยู่ด้านในธารน้ำแข็งเข้าไปด้วย ซึ่งอุโมงค์น้ำแข็งที่นี่แกะสลักขึ้นมาเพื่อให้คณะทัวร์เข้าไปเที่ยวชมโดยเฉพาะ และคุณยังสามารถเลือกเดินทางไปธารน้ำแข็งลางโจกุลเพื่อเที่ยวถ้ำน้ำแข็งแบบที่เดินทางด้วยมอนสเตอร์ทรักก็ได้เช่นกัน 

หากคุณต้องการเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติในเดือนตุลาคม แพ็คเกจนี้เป็นตัวเลือกที่ดีมากแพ็คเกจหนึ่ง ทัวร์ถ้ำน้ำแข็งแห่งใหม่ในธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลนี้มีให้บริการตลอดทั้งปี แม้แต่ในช่วงฤดูร้อน ดังนั้นคุณจึงไม่ควรพลาดการไปชมถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าอันน่าทึ่ง

ถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติส่วนใหญ่ในธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลนั้นจะเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมเท่านั้น แต่ผู้ประกอบการบางรายอาจจะสามารถเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละปี 



ขี่ม้าที่ไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม 

ขี่ม้าที่ภูเขาเวสตราฮอร์น

การขี่ม้าไอซ์แลนด์เป็นประสบการณ์เฉพาะที่มีแค่ในประเทศไอซ์แลนด์เท่านั้น สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์บริสุทธิ์ที่งดงามเหล่านี้เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาที่ชาวไอซ์แลนด์ภาคภูมิใจมาก โดยม้าสายพันธุ์ไอซ์แลนด์นี้ ถูกเลี้ยงแยกจากม้าสายพันธุ์อื่นๆ บนแผ่นดินใหญ่มานับพันปีแล้ว และนั่นส่งผลให้พวกมันพัฒนาลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากม้าพันธุ์อื่นหลายอย่าง 

ผู้ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้กีฬาขี่ม้าจะสามารถบอกคุณได้ทันทีว่าม้าไอซ์แลนด์มีท่วงท่าในการเคลื่อนไหวที่แตกต่างจากพันธุ์อื่น เรียกว่า "โทลต์" (Tolt) ว่ากันว่าหากคุณนั่งอยู่บนหลังม้าที่กำลังโทลต์ คุณสามารถถือแก้วน้ำดื่มได้โดยที่น้ำไม่หกเลยสักหยด นอกจากนี้ ม้าไอซ์แลนด์ยังได้ชื่อว่าเป็นม้าที่ฉลาด ขี้สงสัย และเป็นมิตรมากด้วย  

ม้าไอซ์แลนด์นอนเล่นพักผ่อน พวกมันไม่ได้ป่วยหรือบาดเจ็บแต่อย่างใด

การขี่ม้าเป็นที่นิยมทั้งในหมู่ชาวไอซ์แลนด์และนักท่องเที่ยว และมีหลายวิธีที่จะสนุกกับกิจกรรมนี้ในเดือนตุลาคม คุณสามารถเข้าร่วมกับทัวร์ขี่ม้าที่ออกเดินทางจากเรคยาวิกและพาไปชมทุ่งลาวาอันตระการตา เพื่อที่จะได้จินตนาการถึงชาวไวกิ้งที่เคยขี่ม้าย่ำเหยียบบนดินแดนแห่งนี้ในยุคสมัยแห่งการตั้งถิ่นฐาน นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการขี่ม้าชมหุบเขาเรคยาดาลูร์ (Reykjadalur) ซึ่งในหุบเขามีน้ำพุร้อนและแม่น้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพด้วย 

มีทัวร์ลักษณะคล้ายกันนี้รอบประเทศไอซ์แลนด์ ตัวอย่างเช่น ในทางเหนือคุณสามารถไปเข้าร่วมกับทัวร์ท่องเที่ยวบนหลังม้า 1 ชั่วโมงแพ็คเกจนี้ที่ออกเดินทางจากเฮลลา

ดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิลและดำน้ำลึกที่ไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม

ซิลฟรามีทัศนวิสัยที่มองเห็นได้เกิน 100 เมตรภาพจากทัวร์ดำน้ำตื้นด้วยชุดเวทสูท 3 ชั่วโมงในซิลฟรา พร้อมบริการรับส่งจากธิงเวลลีร์

นักท่องเที่ยวบางท่านอาจจะแปลกใจและกังวลกับความหนาวเย็นของน้ำ แต่การดำน้ำด้วยสน็อกเกิลและดำน้ำลึกเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมตลอดทั้งปีในประเทศไอซ์แลนด์ 

สถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการลงไปดำน้ำ คือ รอยแยกซิลฟรา (Silfra) ร่องลึกนี้อยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเชียน ภายในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir) และเต็มไปด้วยน้ำธรรมชาติที่ไหลซึมผ่านหินลาวาที่มีรูพรุน จึงมีความใสสะอาดและสามารถมองเห็นได้ไกลประมาณ 100 เมตร และไม่ว่าคุณจะไปเยือนในช่วงเวลาใดของปี น้ำที่นี่ก็จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 2 C



นักดำน้ำเตรียมพร้อมลงไปในรอยแยกซิลฟรา

ภาพจาก ทัวร์ดำน้ำตื้นที่ซิลฟราในอุทยานฯ​ธิงเวลลีย์ ระยะเวลา 5.5 ชม. พร้อมบริการรับส่งจากเรคยาวิก

แม้ว่าอุณหภูมิน้ำอาจจะดูเหมือนน่าวิตก แต่เราก็มีอุปกรณ์ที่สามารถป้องกันความหนาวเย็นได้เป็นอย่างดี สำหรับทริปดำน้ำลึกและดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิลส่วนใหญ่ คุณจะได้สวมใส่ชุดดรายสูทที่มีคุณสมบัติกันน้ำ และยังมีชุดเก็บกักความร้อนเพื่อช่วยเพิ่มความอบอุ่นอีกชั้นหนึ่ง แต่สำหรับผู้ที่มั่นใจในความทรหดอดทนของตน อาจจะเลือกสวมชุดแบบเวทสูท เมื่อลงไปดำน้ำด้วยสน็อกเกิลก็ได้ แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าชุดเวทสูทนี้น้ำเข้าได้ จึงไม่เหมาะกับคนที่กลัวความเย็น! 

การเข้าร่วมกับทัวร์ดำน้ำตื้นสน็อกเกิลด้วยชุดดรายสูท หรือทัวร์ดำน้ำลึกในเดือนตุลาคมมีสะดวกสบายมากกว่าในช่วงฤดูหนาวเยอะ อุณหภูมิภายในอุทยานฯ ในช่วงนี้ควรจะสูงกว่าจุดเยือกแข็งแล้ว คุณจึงอาจจะไม่ต้องรับมือกับอุปกรณ์ที่กลายเป็นน้ำแข็งเมื่อคุณถอดชุด และร่างกายของคุณจะอบอุ่นเร็วขึ้นหลังจากที่ขึ้นมาจากน้ำ 

นักท่องเที่ยวที่มาไอซ์แลนด์มาเรียนดำน้ำลึกที่ซิลฟรา

ภาพจาก คอร์สดำน้ำ PADI ดรายสูท ลงฝึกในสระ 1 ครั้ง โอเพ่นวอเทอร์ 2 ครั้ง พร้อมบริการรับส่งจากเรคยาวิก 

ทัวร์ดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกมีการดูแลเรื่องปลอดภัยสูงสุดเท่าที่สามารถทำได้ โดยมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม และดำเนินการภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญ การที่คุณจะเข้าร่วมกับทัวร์เหล่านี้ได้นั้น คุณต้องมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดต่อไปนี้ 

ดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิล ดรายสูท

  • อายุขั้นต่ำ 14 ปี

  • ผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไปต้องแสดงใบอนุญาตจากแพทย์

  • ส่วนสูงขั้นต่ำ 150 ซม.

  • ส่วนสูงไม่เกิน 200 ซม.

  • น้ำหนักขั้นต่ำ 45 กก.

  • น้ำหนักไม่เกิน 120 กก.

  • ประสบการณ์ที่จำเป็น: ต้องสามารถว่ายน้ำได้และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง

ดำน้ำตื้นด้วยสน็อกเกิล เวทสูท

  • อายุขั้นต่ำ: 14 ปี

  • ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไปต้องแสดงใบอนุญาตจากแพทย์

  • ส่วนสูงขั้นต่ำ 145 ซม.

  • ส่วนสูงไม่เกิน 200 ซม.

  • น้ำหนักขั้นต่ำ 45 กก.

  • น้ำหนักไม่เกิน 120 กก.

  • ประสบการณ์ที่จำเป็น: ต้องสามารถว่ายน้ำได้และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง

ดำน้ำลึก ดรายสูท

  • อายุขั้นต่ำ: 17 ปี

  • อายุต้องไม่เกิน: 60 ปี

  • ส่วนสูงขั้นต่ำ: 150 ซม.

  • น้ำหนักขั้นต่ำ: 45 กก.

  • ประสบการณ์ที่จำเป็น: ต้องมีบันทึกการดำน้ำอย่างน้อย 10 ครั้ง หรือเป็นนักดำน้ำที่มีใบรับรองการดำน้ำด้วยดรายสูท 

วงกลมทองคำ

วงกลมทองคำของไอซ์แลนด์ เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และควรอยู่ในอันดับต้นๆ ของรายการสถานที่ท่องเที่ยวในทริปไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคมของคุณ

น้ำตกออกซาราฟอสส์ในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์

บนระยะทางไป-กลับ 300 กิโลเมตรของเส้นทางนี้ ประกอบด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามสามแห่ง ได้แก่ 

น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss waterfall) เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์ ที่นี่มีสายน้ำตกไหลเป็นสองชั้นที่ความสูงมากกว่า 30 เมตร 

ห่างออกไปอีกราว 10 กิโลเมตร จะพบกับพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพไกเซอร์ (Geysir Geothermal Area) ภายในบริเวณนี้เต็มไปด้วยแหล่งน้ำพุร้อนและไกเซอร์ (Geysir) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสถานที่ ห้ามพลาดชมไกเซอร์พ่นน้ำที่โด่งดังที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ นั่นก็คือไกเซอร์สโทรคูร์ (Strokkur) ซึ่งคุณจะไม่ต้องเสียเวลาชะเง้อรอนาน เพราะสโทรคูร์นั้นปะทุในทุกๆ 5-10 นาที! 

อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir National Park) เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติสามแห่งของไอซ์แลนด์ แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกแห่งนี้ เป็นสถานที่สวยงามชวนสำรวจและเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่ง ทั้งน้ำตก ภูเขา ทุ่งลาวา ช่องเขา ซึ่งมันงดงามเหลือเชื่อจริงๆ นอกจากนี้ ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วย เนื่องจากย้อนไปเมื่อปี 930 ที่นี่เคยเป็นสถานที่ก่อตั้งอัลธิงกิ (Althingi) หรือสภาแห่งชาติของประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งนับว่าเป็นรัฐสภาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก! 

สถานที่ท่องเที่ยวอันตระการตาทั้งสามแห่งนี้ สามารถเที่ยวชมได้ภายในหนึ่งวัน ไม่ว่าจะด้วยการเช่ารถและขับเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำ หรือเข้าร่วมกับแพ็คเกจทัวร์พาเที่ยววงกลมทองคำที่มีจัดขึ้นมากมาย มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ออกเดินทางมาจากเรคยาวิก เพราะทัวร์ส่วนใหญ่ที่พาไปสถานที่ข้างต้นนี้ จะเริ่มต้นและสิ้นสุดทริปที่เมืองหลวง 

ทั้งนี้ คุณสามารถเลือกพักค้างคืนใกล้กับวงกลมทองคำก็ได้ หากคุณต้องการใช้เวลาเที่ยวแบบไม่ต้องเร่งรีบและหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวหนาแน่น  คุณจะพบตัวเลือกที่พักในวงกลมทองคำหลากหลายประเภทในขณะที่คุณวางแผนการเดินทาง



น้ำพุร้อนและสระว่ายน้ำ 

อีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถทำได้ตลอดทั้งปีที่ไอซ์แลนด์ (รวมถึงเดือนตุลาคม) คือ การเพลิดเพลินไปกับทะเลสาบลากูน แหล่งน้ำพุร้อน และสระว่ายน้ำ ซึ่งมีอยู่ดาษดื่นทั่วทั้งประเทศ การลงแช่ตัวในสระน้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพเป็นวิธีผ่อนคลายที่ยอดเยี่ยมหลังจากเที่ยวจนร่างกายเหน็ดเหนื่อยมาหลายวัน  

ผู้คนกำลังพักผ่อนที่ซีเครทลากูนในไอซ์แลนด์

ชาวไอซ์แลนด์ชื่นชอบการพักผ่อนและสนทนาเรื่องสัพเพเหระในขณะที่แช่ตัวอยู่ในบ่อน้ำร้อน มีสระว่ายน้ำหลายร้อยแห่งกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งในเมืองเรคยาวิกเพียงเมืองเดียวนั้นมีสระว่ายน้ำถึง 17 แห่งด้วยกัน การว่ายน้ำและการผ่อนคลายในอ่างน้ำสาธารณะจึงเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างไม่น่าเชื่อ และนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดกิจกรรมนี้ระหว่างที่ใช้เวลาอยู่ในไอซ์แลนด์ ซึ่งสระน้ำที่นี่ส่วนมากใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพ ทำให้น้ำมีอุณหภูมิอุ่นพอเหมาะกับการลงแช่ 

แต่ถ้าคุณชอบเสพบรรยากาศที่รื่นรมย์มากกว่าการว่ายน้ำ แนะนำให้ไปตามบ่อน้ำพุร้อน แทนสระว่ายน้ำ ซึ่งบ่อน้ำร้อนก็มีอยู่ทั่วไอซ์แลนด์ ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยการแช่ตัวตามบ่อน้ำร้อนเป็นกิจกรรมยามว่างแบบดั้งเดิมของชาวบ้านมาตั้งแต่อดีตกาล และแน่นอนว่ายังคงเป็นสิ่งที่คุณควรทำเป็นอย่างยิ่งหากมาเยือนไอซ์แลนด์ 

หากคุณสนใจที่จะไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนและสระว่ายน้ำหลายแห่ง คุณสามารถเลือกดูจากแพ็คเกจทัวร์บ่อน้ำร้อน หรือจะเลือกไปบ่อน้ำพุร้อนตามรายทางที่คุณแวะพักก็ได้  



เที่ยวบลูลากูนในเดือนตุลาคม

บลูลากูนเมื่อมองจากด้านบน

ทั้งนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าพื้นที่พลังงานความร้อนใต้พิภพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในไอซ์แลนด์ คือ บลูลากูน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินเคฟลาวิก และนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาเยือนไอซ์แลนด์มักจะเลือกแวะที่นี่เป็นแห่งแรก หรือไม่ก็เป็นแห่งสุดท้ายก่อนเดินทางออกจากไอซ์แลนด์ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคุณจะเดินทางมาบลูลากูนจากเมืองเรคยาวิกก็สะดวกสบายเช่นกัน  

สปาบลูลากูนแห่งนี้ เปิดให้บริการตลอดทั้งปี ดังนั้น จึงสามารถแวะมาที่นี่ได้ในเดือนตุลาคม อันที่จริงแล้วเดือนตุลาคมถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก เนื่องจากช่วงเดือนนี้มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าเดือนอื่นๆ และบางทีคุณอาจจะสามารถเข้าใช้บริการได้แม้ว่าจะไม่ได้จองล่วงหน้าด้วย! 

แต่กระนั้น ที่นี่ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศ ดังนั้น จึงควรจองเข้าใช้บริการสปาบลูลากูนล่วงหน้า

ผู้หญิงกำลังพักผ่อนในผืนน้ำของบลูลากูนเชื่อกันว่าน้ำสีฟ้าที่นี่มีคุณสมบัติในการบำบัดและเยียวยา ดังนั้นการแช่ตัวจะช่วยผ่อนคลายและมีประโยชน์กับคุณอย่างแน่นอน! และการจองเพื่อเข้าใช้บริการหลังจากจบทริปการเดินทาง จะช่วยให้คุณได้คลายความเหนื่อยล้าหลังจากท่องเที่ยวมาทั้งสัปดาห์ รับรองว่าคุณจะรู้สึกเป็นสุขราวกับขึ้นสวรรค์อย่างแน่นอน! 



 เดย์ทริปเดินป่าและซูเปอร์จี๊ป 

ทัวร์เดินป่าและซูเปอร์จี๊ปเป็นที่นิยมในเดือนตุลาคม

กิจกรรมเดินป่าและนั่งรถซูเปอร์จี๊ปเข้าไปในพื้นที่ไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์ หรือขึ้นไปบนยอดเขา มักถูกมองว่าเป็นประสบการณ์สำหรับฤดูร้อน แต่เดือนตุลาคมก็นับว่าอยู่ในช่วงท้ายๆ ที่อากาศอบอุ่น ดังนั้นคุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมเอาท์ดอร์เหล่านี้ได้

ทริปเดินป่าแบบหลายวันส่วนใหญ่ จะหยุดให้บริการไปตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนแล้ว เนื่องจากอากาศหนาวเย็นเกินกว่าที่จะตั้งแคมป์ได้ แต่ก็ยังมีเดย์ทริปแบบเช้าไปเย็นกลับเปิดให้บริการพาเข้าไปเที่ยวในพื้นที่ส่วนลึกของประเทศ ซึ่งมีความโดดเด่นเฉพาะตัวกันอยู่ 

ตัวอย่างเช่น ผืนป่าใน "หุบเขาธอร์" หรือธอร์สมอร์ค ที่ยังสามารถเข้าไปเที่ยวและไปเดินป่าแบบเช้าไปเย็นกลับได้ในเดือนตุลาคม ซึ่งจะทำให้คุณได้เห็นดินแดนที่น่าหลงใหลนี้ภายใต้สีสันของฤดูใบไม้ร่วง  



เทือกเขาไรโอไลท์แห่งลานมันนาเลยการ์

มีแพ็คเกจทัวร์ที่พาเข้าไปเที่ยวในลานมันนาเลยการ์ (Landmannalaugar) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่โดดเด่นอยู่ภายในไฮแลนด์ เต็มไปด้วยภูเขาไรโอไลต์และแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ เช่น ทัวร์ซูเปอร์จี๊ป 12 ชั่วโมงแพ็คเกจนี้ ที่จะพาคุณไปชมภูเขาไฟเฮกลา (Hekla) ที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนด้วย และทั้งลานมันนาเลยการ์และธอร์สมอร์ค ต่างก็เป็นจุดสิ้นสุดของเทรลเลยกาแวกูร์ (Laugavegur) ซึ่งเป็นเส้นทางเดินป่าที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับการเทรคกิ้งหลายวันในช่วงหน้าร้อน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่สามารถเดินป่าที่นี่ได้ตลอดเส้นทางในช่วงนี้ แต่คุณก็จะยังสามารถเข้าไปชื่นชมความวิจิตรงดงามได้อยู่ 

ส่วนการเข้าถึงพื้นที่ไอซ์แลนด์ตะวันออก จะมีความยากมากขึ้นในเดือนตุลาคม แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าไปไม่ได้เลย คุณยังคงสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านที่มีเสน่ห์ตามแนวฟยอร์ดที่อยู่ลึกเข้าไปในภูมิภาคนี้ และแช่ตัวในอ่างน้ำเวิก (Vok) อันเงียบสงบ ซึ่งเป็นทั้งสถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับการพักผ่อนในแหล่งน้ำความร้อนใต้พิภพและเพลิดเพลินไปกับความมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมในสระน้ำอุ่นที่ลอยอยู่เหนือทะเลสาบ



วิวที่น่าทึ่งจากภูเขาสไนล์เฟลล์

ทริปล่องเรือในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน 

เรือสะเทินน้ำสะเทินบกในโจกุลซาลอน

ทัวร์ล่องเรือในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) เป็นที่นิยมมากที่สุดในช่วงฤดูร้อน และยังคงเปิดให้บริการจนถึงปลายเดือนตุลาคม 

พูดให้เห็นภาพชัดๆ ก็คือ โจกุลซาร์ลอนเป็นทะเลสาบขนาดมหึมาที่มีความลึกมากที่สุดในประเทศ และมีภูเขาน้ำแข็งที่แตกตัวออกมาจากผืนน้ำแข็งลอยกระจัดกระจายไปทั่ว โดยภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้เคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้า ลอยตุ๊บป่องๆ หมุนวนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพาตัวเองออกสู่มหาสมุทร ซึ่งเป็นภาพที่งดงามจับจิตจับใจของผู้ที่ได้เห็น  

ส่วนผู้ที่ชื่นชอบการดูสัตว์ก็ต้องประทับใจเมื่อมาเที่ยวที่นี่เช่นกัน เพราะมีแมวน้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ที่จริงแล้วทะเลสาบแห่งนี้ถือว่าเป็นจุดดูแมวน้ำที่เหมาะสมมากที่สุดแห่งหนึ่งก็ว่าได้

ภูเขาน้ำแข็งในทะเลสาบธารน้ำแข็งอาจมีขนาดใหญ่เท่าบ้านทั้งหลัง

ในการเที่ยวทะเลสาบแห่งนี้ คุณสามารถใช้บริการทัวร์ล่องเรือระยะเวลา 35 นาทีที่จะพาคุณไปอยู่ท่ามกลางโลกแห่งประติมากรรมน้ำแข็ง

หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คุณสามารถใช้บริการทัวร์ล่องเรือโซดิแอก ซึ่งเป็นเรือยางที่มีเครื่องยนต์ติดท้ายเรือ การล่องเรือเรือชนิดนี้มีราคาแพงกว่าเล็กน้อย แต่ก็พาคุณเข้าไปชมภูเขาน้ำแข็งได้ใกล้ชิดมากขึ้นอีก 

และในช่วงเดือนตุลาคม ทะเลสาบธารน้ำแข็งจะมีความงดงามมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของแสงที่ส่องกระทบลงบนน้ำแข็ง  



สำรวจสไนแฟลซเนส

คาบสมุทรสไนแฟลซเนสเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเยี่ยมชมในเดือนตุลาคม ที่นี่มักเรียกกันว่า "ไอซ์แลนด์ย่อส่วน" เนื่องจากมีภูมิประเทศที่หลากหลาย โดยทั้งหมดกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เดียว หากคุณต้องไปเยือนภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่งในไอซ์แลนด์เพื่อชมเอกลักษณ์ที่โดดเด่นให้ครบ สไนแฟลซเนสคือที่ที่คุณควรไป หากคุณต้องการใช้เวลาสำรวจคาบสมุทร อย่าลืมจองที่พักในสไนแฟลซเนสไว้ล่วงหน้า

ที่ใจกลางคาบสมุทรมีธารน้ำแข็งสไนเฟลล์สโจกุล ซึ่งถูกกล่าวถึงในนวนิยายเรื่อง "การเดินทางสู่ใจกลางโลก" ของจูลส์ เวิร์น อุทยานแห่งชาติสไนเฟลล์สโจกุล (Snaefellsjokull) ที่อยู่โดยรอบเป็นสวรรค์สำหรับผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง โดยมีกิจกรรมเดินป่า ดูนก และกิจกรรมหิมะ

แนวชายฝั่งของสไนแฟลซเนสมีหน้าผาอันน่าทึ่งซึ่งเป็นที่อยู่ของนกหลากหลายสายพันธุ์ หน้าผาหินบะซอลต์ลอนดรังการ์และการก่อตัวของหินที่อาร์นาร์สตาปิเป็นสองลักษณะที่โดดเด่นที่สุดบนชายฝั่ง ซึ่งถูกแกะสลักเมื่อเวลาผ่านไปด้วยพลังอันไม่หยุดยั้งของมหาสมุทรและการปะทุของภูเขาไฟ คาบสมุทรยังเต็มไปด้วยหาดทรายสีดำที่สวยงาม เช่น อีทรี-ตุงกา ซึ่งยังคงเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ในการชมแมวน้ำ

นอกจากความงามตามธรรมชาติของคาบสมุทรแล้ว ยังมีประวัติศาสตร์และนิทานพื้นบ้านมากมายที่เชื่อมโยงกับภูมิประเทศแถบอีกด้วย เมืองประมงสติกกิชโฮลมูร์และกรุนดาร์ฟยอร์ดูร์จะช่วยให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรม ประเพณี และชีวิตประจำวันของไอซ์แลนด์ กรุนดาร์ฟยอร์ดูร์มีชื่อเสียงในเรื่องภูเขาคิร์กจูเฟลล์ ซึ่งมักถูกกล่าวขานว่าเป็นภูเขาที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในไอซ์แลนด์

คิร์กจูเฟลล์เป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์สไนล์แฟลซเนสยังเป็นที่ตั้งของถ้ำลาวาที่น่าสนใจ เช่น ซองเฮลลีร์ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านคุณสมบัติทางดนตรีของเสียงสะท้อน และวาทน์เฮลลิร์ได้รับความนิยมเนื่องจากเข้าถึงได้ง่ายและมีสีสันที่สดใส

การไปเยือนสไนล์แฟลซเนสในเดือนตุลาคมเป็นช่วงเวลาที่ดีในการสำรวจโลกใบเล็กๆ ที่น่าสนใจของประเทศไอซ์แลนด์ ตลอดจนสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ทั้งหมด คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัวร์เที่ยวชมถ้ำวาทน์เฮลลีร์ 50 นาที หรือทัวร์ชมนกพัฟฟินในอ่าวเบรดาฟยอร์ดูร์ซึ่งออกเดินทางจากสติกกิชโฮลมูร์ได้



เที่ยวชมสถานที่ในเมืองเรคยาวิก

ในฐานะที่เป็นเมืองหลวงที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาของประเทศไอซ์แลนด์ เรคยาวิก (Reykjavik) คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว อาคันตุกะ และชาวไอซ์แลนด์จากเมืองอื่นๆ ตลอดทั้งปี รวมถึงเดือนตุลาคมด้วย 

เมืองเรคยาวิกมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ตลอดจนอาร์ตแกลเลอรี่และพิพิธภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และสถานบันเทิงยามค่ำคืน เรียกได้ว่าเรคยาวิกมีกิจกรรมให้คุณทำได้มากมายโดยมิรู้เบื่อ และระหว่างที่อยู่ในไอซ์แลนด์ คุณควรใช้เวลาอย่างน้อยสองสามวันในเมืองนี้ เพื่อให้ได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่เรคยาวิกมีให้ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด

ฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ยามค่ำเรคยาวิกเป็นเมืองที่เป็นมิตรและพร้อมต้อนรับทุกคน โดยบริเวณใจกลางเมืองมีขนาดเล็กจนสามารถเดินสำรวจได้ทั่วถึงอย่างง่ายดาย แนะนำให้เดินช้อปปิ้งบนถนนเลยกาแวกูร์ (Laugavegur) ถนนบังกาสตราติ (Bankastraeti) และถนนอุสตูร์สตราติ (Austurstraeti) หรือไปเที่ยวบาร์ ซึ่งภายในเมืองมีผับ บาร์ และสถานบันเทิงจำนวนมาก  

ฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa Concert Hall) ก็เป็นสถานที่ที่น่าไปเยือนเพื่อดื่มด่ำกับความวิจิตรของสถาปัตยกรรม หรือจะไปเดินเล่นชมประติมากรรมซันโวยาจเจอร์ที่มีชื่อเสียงก็น่าสนใจเช่นกัน นอกจากนี้ยังไม่ควรพลาดแวะชมแลนด์มาร์คอย่างโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ด้วย



เรคยาวิกเป็นศูนย์กลางของเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี

สถานที่ท่องเที่ยวและจุดหมายปลายทางอื่น

ในเดือนตุลาคม หากสภาพท้องถนนเอื้ออำนวยต่อการขับรถ คุณควรไปให้ถึงทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ในแถบนี้ ได้แก่ หินฮวิทแซร์คูร์ (Hvitserkur) และคาบสมุทรวาทน์สเนส (Vatnsnes) ซึ่งโดยปกติทั้งสองแห่งนี้มักจะเข้าถึงได้ง่าย และบริการต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยวภายในเมืองเรคยาฮลิด (Reykjahlid) และเมืองฮูสาวิก (Husavik) ก็ยังคงเปิดให้บริการในช่วงนี้ของปี

บริเวณทะเลสาบมิวาทน์ (Myvatn) ก็งดงามจับใจและมีความหลากหลายมาก ยิ่งหากมีหิมะปกคลุมในแถบนี้ ก็น่าจะยิ่งถูกใจแฟนซีรีส์เกมออฟโธรนส์ไม่น้อย เพราะฉากด้านเหนือของกำแพงหลายฉากใช้ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำ



ภูเขาเคิร์กจูแฟลล์บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส

เดือนตุลาคมอาจจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่คุณยังสามารถเดินทางไปยังพื้นที่ไฮแลนด์ได้อยู่ โดยถนนคโยลูร์ (Kjolur) ในไฮแลนด์ และถนนสเปรงกิซานดูร์ (Sprengisandur) ซึ่งเป็นถนนสองสายที่ตัดผ่านพื้นที่ไฮแลนด์ส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน เพื่อทำหน้าที่เชื่อมระหว่างฝั่งเหนือและฝั่งใต้นั้น ยังคงเปิดให้รถวิ่ง และทิวทัศน์พาโนรามาสองข้างทางนั้นงดงามมาก

และคุณจะได้เห็นวิวของทั้งธารน้ำแข็ง ทุ่งลาวาและผืนทรายสีดำอันกว้างใหญ่ น้ำพุร้อน และเทือกเขาขนาดมหึมา ซึ่งสวยมากเหลือเกิน

กิจกรรมและเทศกาลที่ไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคม 

ไอซ์แลนด์เป็นประเทศแห่งเทศกาลงานรื่นเริง ที่ผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาเพื่อเข้าร่วมอีเว้นต์ อย่างงาน Iceland Airwaves และ Reykjavik International Film Festival ซึ่งงานอีเว้นต์เหล่านี้ดูเหมือนจะจัดอย่างยิ่งใหญ่มากขึ้นทุกปี

และแม้ว่าเดือนตุลาคมจะค่อนข้างเงียบเหงากว่าเดือนอื่นๆ แต่ยังไงเสียที่ไอซ์แลนด์ก็ไม่เคยขาดกิจกรรม 



ฮาโลวีนในไอซ์แลนด์

การฉลองวันฮาโลวีนเป็นสิ่งใหม่สำหรับไอซ์แลนด์ หากคุณอยู่ในเมืองเรคยาวิกในช่วงปลายเดือนตุลาคม คุณจะได้เห็นผู้คนแต่งกายในชุดฮาโลวีนออกไปสนุกสนานตามผับที่มีอยู่ทั่วเมือง และคุณเองก็สามารถแต่งเนื้อแต่งตัวแล้วออกไปดื่มสังสรรค์ร่วมกับพวกเขาได้เหมือนกัน! 

นอกจากนี้ ตลอดทั้งเดือนตุลาคมยังมีอีเว้นต์ในธีมฮาโลวีนให้เห็นได้ทั่วไป เผื่อว่าคุณกำลังมองหากิจกรรมสนุกๆ ทำในระหว่างที่พักอยู่ในไอซ์แลนด์ในช่วงเวลาปล่อยผีประจำปี 

เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเรคยาวิก 

เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเรคยาวิก (Reykjavik International Film Festival; RIFF) เป็นเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนไปจนถึงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม

ภายในงานมีการฉายภาพยนตร์ทุกประเภท ซึ่งผลิตโดยผู้สร้างภาพยนตร์อิสระที่กำลังมาแรงจากกว่า 40 ประเทศ 

ในระหว่างเทศกาลนี้ ยังมีการจัดคอนเสิร์ต งานประชุม และนิทรรศการมากมายขึ้นทั่วเมืองด้วย เพื่อให้คนในแวดวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์สมาพบปะเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และสร้างเครือข่ายกับเพื่อนร่วมอาชีพ 

และถ้าหากคุณอยู่ในเรคยาวิกในช่วงต้นเดือนตุลาคม คุณก็สามารถไปหาหนังดูสักเรื่องได้ 



อิแมจินพีซทาวเวอร์ หอศิลปะแห่งแสงและสันติภาพ 

แสงจาก Imagine Peace Tower ตัดกับท้องฟ้ากลางคืนภาพจาก ทัวร์ยามเย็น 2 ชั่วโมงที่ Imagine Peace Tower พร้อมบริการรับส่งจากเรคยาวิก

หอศิลปะแห่งแสงและสันติภาพ (Imagine Peace Tower) เป็นอนุสรณ์ที่โยโกะ โอโนะ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงจอห์น เลนนอน โดยมีคำแปลของคำว่า "Imagine Peace" ใน 24 ภาษาแสดงอยู่บนฐาน เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียว ความกลมเกลียว การปลอบประโลม และความสุขของทั้งสอง อนุสรณ์สถานแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ชื่อว่าวิเดย์ (Videy) ที่อยู่นอกชายฝั่งเรคยาวิก สามารถเดินทางไปยังเกาะได้ด้วยเรือเฟอร์รี่ที่ออกเดินทางจากท่าเรือเรคยาวิก

เมื่อหอคอยแห่งนี้เปิดไฟจะปรากฏลำแสงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงถึง 4,000 เมตร ซึ่งเดือนตุลาคมเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาชมมาก โดยอนุสรณ์สถานแห่งนี้จะเริ่มเปิดไฟในวันที่ 9 ตุลาคมของทุกปี เพราะเป็นวันเกิดของจอห์น เลนนอน และจะเปิดทิ้งไว้จนถึงวันที่ 9 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของเขา ทำให้ช่วงนี้สามารถมองเห็นหอคอยแห่งนี้ได้จากทุกแห่งทั่วเมืองหลวง



แผนท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ที่แนะนำสำหรับเดือนตุลาคม 

ซันโวยาจเจอร์ สัญลักษณ์แสดงถึงความตื่นเต้นของการผจญภัยในดินแดนใหม่

เนื่องจากตุลาคมเป็นเดือนที่ก้ำกึ่งระหว่างฤดูหนาวและฤดูร้อน จึงทำให้มีกิจกรรมที่สามารถทำได้มากมายในช่วงเดือนนี้ และเราขอเสนอแผนท่องเที่ยวที่น่าสนใจบางส่วนไว้ เพื่อให้เป็นแนวทางสำหรับทริปไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคมของคุณ 

หากคุณมีแผนที่จะเช่ารถขับเที่ยวรอบประเทศด้วยตัวเอง เราก็มีทัวร์ขับรถที่ยอดเยี่ยมหลายแพ็คเกจมานำเสนอ เช่น ทัวร์ขับรถเที่ยวเองรอบถนนวงแหวนระยะเวลาเจ็ดวัน และทัวร์เที่ยวถนนวงแหวน 11 วันพร้อมชมคาบสมุทรสไนแฟลซเนส ซึ่งเป็นสองแผนที่คุณจะได้สำรวจไอซ์แลนด์ในจังหวะเวลาของตัวเอง ทัวร์ขับรถดูแสงเหนือฤดูหนาว 12 วัน อาจจะเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในช่วงต้นเดือนตุลาคมมากกว่าซึ่งเป็นช่วงที่อากาศดีกว่า

เวสตราฮอร์นในภาคตะวันออกเฉียงใต้

หากคุณสนใจอยากเห็นแสงออโรร่าบอเรลลิส คุณอาจจะเพลิดเพลินกับทัวร์ขับรถเที่ยวเอง 5 วัน พร้อมชมบลูลากูนและทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน หรือทัวร์ขับรถชมแสงเหนือด้วยตนเอง 10 วันรอบวงกลมไอซ์แลนด์

หนึ่งในน้ำตกที่สวยงามทางเหนือของไอซ์แลนด์

หากคุณไม่ต้องการขับรถเอง แต่ต้องการชมถนนวงแหวนทั้งหมด คุณสามารถจองทริปมินิบัสทัวร์แบบมีไกด์นำเที่ยว 7 วันรอบถนนวงแหวนแพ็คเกจนี้ได้ ซึ่งจะพาคุณไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ทั่วประเทศ หากคุณไม่มีเวลาสำหรับการผจญภัยที่ยาวนาน เราก็มีแพ็คเกจพร้อมไกด์ 4 วันและ 5 วันกลุ่มเล็กที่สามารถพาคุณไปทางใต้และตะวันตกของประเทศได้

คุณเคยมาเที่ยวไอซ์แลนด์ในเดือนตุลาคมหรือไม่? ทริปนั้นเป็นอย่างไรบ้าง? เราอยากได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณสามารถเล่าให้เราฟังได้ที่ช่องความคิดเห็นด้านล่าง

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความอื่นที่น่าสนใจ

Link to appstore phone
ติดตั้งแอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์

ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว

สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด