10 อันดับทัวร์ที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์: ทัวร์ยอดนิยมและไม่เหมือนใคร

10 อันดับทัวร์ที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์: ทัวร์ยอดนิยมและไม่เหมือนใคร

ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรอง

ไอซ์แลนด์มีจุดหมายปลายทางที่ไม่เหมือนใครมากมาย เช่น ไกเซอร์สโทรคูร์แห่งนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในทัวร์ชั้นนำในไอซ์แลนด์

อ่านรายชื่อทัวร์ที่ดีที่สุด 10 อันดับแรกในไอซ์แลนด์ ค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศและทัวร์และทัศนศึกษาที่น่าทึ่งที่สุดที่ต้องทำในไอซ์แลนด์

ในบทความนี้ คุณจะได้ทราบว่าทัวร์ใดดีที่สุดในฤดูหนาว และทัวร์ใดที่คุณไม่ควรพลาดในช่วงฤดูร้อน โปรดไปที่นี่หากต้องการสำรวจทริปเดินทางที่มีให้เลือกมากที่สุดของไอซ์แลนด์ คุณยังสามารถเลือกดูแพ็คเกจท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ที่มีให้เลือกมากที่สุดเพื่อการวางแผนที่ง่ายดาย หรือถ้าคุณชอบขับรถเอง ก็สามารถเลือกทัวร์ขับรถเที่ยวเองหรือเช่ารถของคุณเองแล้วรับราคาที่ดีที่สุดจากตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์

ไอซ์แลนด์ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนทุกปีจากภาพและวิดีโอของภูมิประเทศอันงดงามและสถานที่แปลกไม่เหมือนที่ไหนในโลก และโอกาสในการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น

เมื่อเดินทางมาถึงนักท่องเที่ยวจำนวนมากก็สงสัยว่าพวกเขาจะเที่ยวไอซ์แลนด์อย่างไรดี และมีทัวร์แบบไหนบ้างที่จะทำให้พวกเขาใช้เวลาในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟนี้ได้อย่างคุ้มค่าทุกนาที

เมื่อนักท่องเที่ยวแต่ละท่านมีรสนิยมไม่เหมือนกันจึงไม่มีแบบแผนตายตัวที่จะตอบสนองความต้องการของทุกคนได้เหมือนกันไปทั้งหมด ทัวร์เที่ยวไอซ์แลนด์จำนวนมากจำกัดอายุผู้ร่วมเดินทางจึงไม่เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็กมาด้วย

บางแพ็คเกจก็เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงเท่านั้นเพราะต้องแอคทีฟและเคลื่อนที่บ่อย และบางแพ็คเกจก็อาจจะเรื่อยเปื่อยเกินไปไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบความตื่นเต้น หรือบางแพ็คเกจก็ต้องใช้ความกล้าบ้าบิ่นไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการมาเที่ยวแบบเน้นพักผ่อน



ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีความแตกต่างของฤดูกาลอย่างมาก ดังนั้นการท่องเที่ยว เช่น ทัวร์แสงเหนือที่ไอซ์แลนด์สามารถทำได้เฉพาะนักเดินทางที่มาในฤดูหนาวเท่านั้น ในขณะที่ทัวร์ล่องแก่งในแม่น้ำมีไว้สำหรับผู้ที่มาท่องเที่ยวในฤดูร้อนเท่านั้น

นอกจากนี้ทัวร์ที่คุณจะไปก็ยังแตกต่างกันตามพื้นที่ที่คุณจะไปเที่ยวและวิธีเดินทางของคุณด้วย เช่น คุณขับรถเที่ยวเองหรือคุณเที่ยวแบบนั่งรถไปกับคนอื่น คุณอาจจะเลือกไปทริปเดย์ทัวร์แบบเช้าไปเย็นกลับจากเรคยาวิก ไปกับแพ็คเกจนำเที่ยว หรือเลือกแพ็คเกจขับรถเที่ยวด้วยตัวเอง 

ทัวร์แต่ละรายการแสดงให้เห็นถึงด้านใดด้านหนึ่งที่น่าทึ่ง (หรือมากกว่า) ของประเทศอันงดงามแห่งนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะชอบไอซ์แลนด์ ไม่ว่าพวกเขาจะมองหาการพักผ่อน การผจญภัย หรือทิวทัศน์ที่น่าประทับใจ เรามาดูทัวร์ไอซ์แลนด์ที่ดีที่สุดกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

10. ทัวร์วงกลมทองคำในไอซ์แลนด์

ไกเซอร์นั้นไม่แอกทีฟแล้ว แต่สโทรคูร์ที่อยู่ใกล้ๆ กันยังคงพ่นน้ำอยู่

วงกลมทองคำเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและอยู่ในอันดับต้นๆ ของรายการทัวร์ไอซ์แลนด์เมื่อพูดถึงความนิยม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งนี้สามารถเข้าถึงได้ตลอดทั้งปี คุณสามารถเดินทางด้วยทริปแบบครึ่งวันจากเรคยาวิกได้ ไม่ว่าจะโดยการจองทัวร์หรือขับรถไปเอง และสถานที่รอบๆ นั้นยอดเยี่ยมมาก

จุดหมายปลายทางที่รวมอยู่นั้นน่าทึ่ง น้ำตกกุลล์ฟอสส์มีชื่อเสียงในเรื่องรุ้งกินน้ำจากละอองน้ำ

บริเวณทุ่งน้ำพุร้อนไกเซอร์ มีน้ำพุร้อนสโตรคูร์ปะทุขึ้นสูงทุกสองสามนาที อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ เป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกที่งดงามและตั้งอยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น

ทัวร์วงกลมทองคำบางแพ็คแกจจะพาไปเยี่ยมชมสถานที่อื่นๆ ด้วย เช่น ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟเคริดและฟาร์มมะเขือเทศฟริดเฮมาร์

กุลล์ฟอสส์: น้ำตกที่มีชื่อเสียงและมีผู้มาเยือนมากที่สุดของไอซ์แลนด์ มีกุลล์ฟอสส์รวมอยู่ในทริปวงกลมทองคำทั้งหมด ในภาพนี้ถ่ายในฤดูร้อน

สถานที่ท่องเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำนี้ไม่ได้มีแค่ความงดงามทางธรรมชาติที่ไม่ธรรมดาตามแบบฉบับของไอซ์แลนด์เท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจด้วย

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 มีแผนที่จะสร้างเขื่อนในแม่น้ำฮวิทเอาที่ไหลลงสู่น้ำตก แต่กุลล์ฟอสส์ได้รับการรักษาไว้โดยฮีโร่ชื่อ Sigridur Tomasdottir ซึ่งพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในการรณรงค์เพื่อรักษาน้ำตกเป็นเวลา 20 ปี!

ไกเซอร์ มีชื่อเสียงมาเนิ่นนาน จนชื่อนี้ได้กลายเป็นคำเรียกน้ำพุที่ปล่อยน้ำร้อนแห่งอื่นๆ ทั่วโลก

สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือ ธิงเวลลีร์ ที่นี่เป็นสถานที่ตั้งเดิมของรัฐสภาที่เปิดดำเนินการมายาวนานที่สุดในโลก โดยนับย้อนหลังไปได้ถึง ค.ศ. 930

เนื่องจากทัวร์วงกลมทองคำได้รับความนิยมมาก คุณจึงมีตัวเลือกแพ็คเกจทัวร์ที่หลากหลาย

บางแพ็คเกจดีและถูกมากๆ เช่น ทัวร์รถบัสนำเที่ยวพร้อมระบบเสียงบรรยายถึง 10 ภาษา ในขณะที่แพ็คเกจอื่นที่แพงกว่าจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า เช่น แพ็คเกจทัวร์แบบส่วนตัวสำหรับกรุ๊ปจำนวนไม่เกิน 7 ท่าน

นอกจากนี้ยังมีการจัดทริปสำหรับผู้ที่เดินทางมาไอซ์แลนด์โดยเรือสำราญในฤดูร้อน เช่นเดียวกับทัวร์วงกลมทองคำยามบ่าย เพื่อให้คุณได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามเหล่านี้ในชั่วโมงทองที่มีแสงสวย



อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในไอซ์แลนด์เป็นสถานที่ที่สวยงามและเป็นหนึ่งในทัวร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไอซ์แลนด์

ทัวร์วงกลมทองคำส่วนใหญ่ใช้เวลาเพียงครึ่งวัน ผู้ให้บริการหลายรายนำเสนอแพ็คเกจทัวร์ที่รวมเส้นทางท่องเที่ยววงกลมทองคำเข้ากับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ และทัวร์เหล่านี้มีให้บริการตลอดทั้งปี

การเพลิดเพลินไปกับการเที่ยววงกลมทองคำด้วยทัวร์ขี่สโนว์โมบิลเป็นตัวเลือกยอดนิยม หรือคุณสามารถรวมทัวร์นี้เข้ากับทัวร์ขี่ม้าไอซ์แลนด์หรือทริปดำน้ำตื้นสุดตื่นเต้นก็ได้ คุณยังสามารถเพิ่มการเที่ยวถ้ำลาวาในการผจญภัยบนวงกลมทองคำเพื่อให้ได้ชมไอซ์แลนด์ทั้งบนดินและใต้ดิน

หากคุณต้องการผ่อนคลาย คุณสามารถเพิ่มทริปไปบลูลากูนเข้าไปในวันเดียวกันหรือจะเพิ่มทัวร์ดูวาฬที่ผ่อนคลายจากเรคยาวิกก็ได้ - เลือกเลย!

มีทัวร์หลายร้อยรายการออกเดินทางทุกวัน แต่ละโปรแกรมนำเสนอสิ่งที่ไม่เหมือนใคร ตัวเลือกในการเพลิดเพลินกับวงกลมทองคำนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในลิสต์ทัวร์ 10 อันดับแรกนี้

9.ทัวร์ทะเลสาบมิวาทน์และไอซ์แลนด์เหนือ     

ถ้าคุณมีเวลาที่ไอซ์แลนด์นานหน่อย หรืออาจจะไม่นานมากแต่คุณอยากทำอะไรที่แตกต่างออกไปให้คุณไปเที่ยวที่ทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ ซึ่งไม่ใช่แค่เงียบสงบกว่าทางใต้และทางตะวันตก แต่แถวนี้ยังมีสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและหลากหลายให้คุณได้เพลิดเพลิน

การออกไปเที่ยวห่างไกลจากเมืองหลวงไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องขาดสิ่งอำนวยความสะดวกเสมอไป อย่างที่อาคูเรย์ริ เมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคทางตอนเหนือของประเทศนั้นเป็นแหล่งวัฒนธรรมและมีความสะดวกสบายทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ

มีบริษัททัวร์หลายแห่งในเมือง ดังนั้นการไปท่องเที่ยวหรือผจญภัยในพื้นที่ส่วนนี้ของไอซ์แลนด์จึงเป็นเรื่องง่าย

อีกทางเลือกหนึ่ง เมืองนี้อยู่ในฟยอร์ดเอยาฟยอร์ดูที่สวยงาม ชุมชนจึงล้อมรอบด้วยภูเขาสูง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือฮลิดาร์ฟยาล (Hlidarfjall) ซึ่งมีลานสกีที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์
คุณสามารถมาถึงเมืองได้โดยขับรถไปตามถนนหมายเลข 1 จากเรคยาวิก หรือขึ้นเครื่องบินภายในประเทศจากสนามบินเรคยาวิก

ทะเลสาบมิวาทน์มีสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและแปลกตา พบได้ทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์

ในขณะที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมายในทางเหนือของไอซ์แลนด์ แต่ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดคือพื้นที่แถวทะเลสาบมิวาทน์

บริเวณนี้มีทุกอย่าง ทั้งวิวริมน้ำสวยๆ ดอกไม้งามไม่เหมือนที่ไหน นกน้อยที่มาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ลักษณะทางธรณีวิทยาที่งดงาม มีภูเขาล้อมรอบ มีทุ่งลาวาและปล่องภูเขาไฟ และมีกิจกรรมความร้อนใต้พิภพให้เที่ยวชมหลายแห่ง

สำหรับผู้ที่ตั้งใจเดินทางมาพักผ่อนที่ไอซ์แลนด์ การไปแช่น้ำร้อนจากพลังงานความร้อนใต้พิภพที่อ่างน้ำธรรมชาติมิวาทน์ (Myvatn Nature Baths) เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำเมื่อท่องเที่ยวทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์

หลายฉากในซีรีส์ยอดนิยมเรื่องเกมออฟโธรนส์ถูกถ่ายทำที่นี่ แฟนๆ ของซีรีส์จะเพลิดเพลินไปกับการสำรวจและอาจจดจำสถานที่ถ่ายทำบางแห่งได้ด้วยซ้ำ

ตัวอย่างเช่นป้อมลาวาดิมมูร์บอร์กิร์ถูกใช้เป็นที่ตั้งทางเหนือของกำแพง ถ้ำในบริเวณนี้เป็นจุดที่ตัวเอก จอน สโนว์ ใช้เป็นสถานที่พลอดรักกับอีกริตต์ คนรักของเขาซึ่งเป็นฉากโรแมนติกที่สุดฉากหนึ่งในซีรีส์

บริเวณรอบทะเลสาบนั้นเต็มไปด้วยหินแต่ก็ยังเขียวขจี และคุณจะพบความแตกต่างอย่างน่าทึ่งหากขับรถออกไปอีกไม่ไกลเพื่อไปยังช่องเขาเนามาส์การ์ด อันเป็นพื้นที่แห้งแล้งเพราะมีความร้อนใต้พิภพ 

ทั้งบริเวณนั้นคุกรุ่นไปด้วยกำมะถันและไอร้อนและไม่มีหญ้ากล้าโผล่ขึ้นมาให้เห็นแม้แต่ต้นเดียว ซึ่งจะทำให้คุณได้เห็นว่าไอซ์แลนด์ช่างเต็มไปด้วยความแตกต่าง และได้เห็นไฟที่ลุกไหม้แผดเผาอยู่ใต้พื้นผิวโลกหล่อหลอมภูมิทัศน์ของประเทศนี้อย่างไรบ้าง



มิวาทน์เป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์เหนือและเป็นหนึ่งในทัวร์ชั้นนำในไอซ์แลนด์

ระหว่างอาคูเรย์ริและทะเลสาบมิวาทน์นั้นยังมีสถานที่สวยงามห้ามพลาดอีกหนึ่งแห่งคือน้ำตกโกดาฟอสส์

นอกจากจะเป็นสถานที่สำคัญทางธรรมชาติที่งดงามแล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อีกด้วย โดยในปี ค.ศ. 1000 สภานิติบัญญัติแห่งไอซ์แลนด์ได้โยนรูปเคารพเทพเจ้านอร์สโบราณทิ้งลงน้ำตกเพื่อเป็นสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการว่าประเทศนี้เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ ซึ่งสิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือการกระทำดังกล่าวกลับกลายเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายทางศาสนาที่ยืดเยื้อไปอีกหลายศตวรรษ

ไกลออกไปทางตะวันออกเล็กน้อยจากโกดาฟอสส์ มีสถานที่ที่น่าจดจำอีกมากมาย หนึ่งในนั้นคือน้ำตกเดตติฟอสส์ น้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป ซึ่งส่งเสียงดังกึกก้องเข้าไปในหุบเขาโบราณด้วยแรงที่คุณต้องไปดูเองจึงจะเชื่อ

ใกล้ๆ กับน้ำตกเดตติฟอสส์มีหุบเขาทรงเกือกม้าเอาส์บิร์กิ ที่ธรรมชาติสร้างได้สวยสมบูรณ์แบบจนผู้ตั้งถิ่นฐานชาวไวกิ้งยุคแรกเชื่อว่าต้องเป็นฝีมือของเทพเจ้าเท่านั้น

สำหรับสิ่งที่แตกต่างออกไปเมื่อท่องเที่ยวทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ คุณสามารถไปที่เมืองฮูสาวิก ซึ่งถือว่าเป็นชุมชนที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกในการไปดูวาฬอีกด้วย

ในหน้าร้อนจะมีทัวร์ดูวาฬจากฮูสาวิกที่พาคุณไปรู้จักกับสัตว์โลกแสนสวยแห่งทะเลลึก คุณอาจจะได้เห็นวาฬหลังค่อมและโลมาปากขาว รวมถึงนกนานาชนิดที่อาจรวมถึงนกพัฟฟินในช่วงฤดูร้อนด้วย

น้ำตกเดตติฟอสส์เป็นหนึ่งในน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในซีกโลกเหนือ ตั้งอยู่ทางเหนือของไอซ์แลนด์ถ้าคุณอยากไปชมสถานที่ส่วนใหญ่เหล่านี้ เราแนะนำให้จองเป็นทัวร์เที่ยวชมสถานที่ในวงกลมไดมอนด์ (วงกลมเพชร)

เพราะคุณจะได้ไปดูสถานที่ทั้งหมด (หรือบางโปรแกรมก็เกือบจะทุกแห่ง) ที่กล่าวมาด้านบน และเช่นเดียวกับทัวร์วงกลมทองคำ ทัวร์วงกลมเพชรมีหลายรูปแบบและพาไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน

ตัวอย่างเช่น แพ็คเกจนี้พาชมสถานที่ต่างๆ โดยเดินทางด้วยรถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วนผู้ที่มีงบมากหน่อยจะต้องประทับใจกับทริปครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้ชมสถานที่ต่างๆ จากบนท้องฟ้า

แม้ว่าทัวร์นี้จะพลาดสถานที่บางแห่งที่กล่าวถึงข้างต้น แต่ก็มีเที่ยวบินไปและกลับจากเมืองเรคยาวิกด้วย การเดินทางในไอซ์แลนด์เหล่านี้ทำให้การท่องเที่ยวภาคเหนือเป็นเรื่องง่าย แม้กระทั่งสำหรับผู้ที่อยู่ในเมืองหลวง



8. ทัวร์ภูเขาไฟไอซ์แลนด์        

ธรีฮนูคากีกูร์เป็นโถงแมกมาที่กว้างใหญ่และน่าทึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์

ภาพจากทัวร์ 6 ชั่วโมงพาชมโถงแมกมาในธรีฮนูคากีกูร์พร้อมบริการรับส่งจากเรคยาวิก

ไอซ์แลนด์เป็นดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ และไฟในที่นี่หมายถึงภูเขาไฟ

แม้ว่าภูเขาไฟเหล่านี้จะไม่ได้เกิดการปะทุอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ส่งผลทำให้เกาะแห่งนี้มีภูเขาขนาดมหึมา ทุ่งลาวา และปล่องภูเขาไฟจำนวนนับไม่ถ้วน ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน คุณจะเห็นผลกระทบจากการปะทุของภูเขาไฟที่มีต่อประเทศนี้ อย่างเช่นร่องรอยที่หลงเหลือจากการปะทุของลิทลิ-ฮรูตูร์ (Litli-Hrutur) ในเดือนกรกฎาคม 2023 และการปะทุอีกสองครั้งก่อนหน้าในปี 2021 และ 2022 ซึ่งเกิดขึ้นที่ฟากราดาลสฟยาลล์ (Fagradalsfjall) ที่อยู่ใกล้เคียง

ถ้าอยากเที่ยวภูเขาไฟในแบบที่ไม่มีที่ไหนในโลกอีกแล้วให้จองทัวร์ภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ (Thrihnukagigur) และครั้งหนึ่งในชีวิตคุณจะได้เข้าไปในโถงแมกมาขนาดใหญ่ภายในภูเขาไฟทรีฮนูคาร์กีกูร์ที่หลับใหลมานาน 4,000 ปี

เมื่อเดินทางไปถึงภูเขาไฟ คุณจะได้ลงลิฟต์สำหรับขุดเหมืองเก่าเพื่อเข้าไปในถ้ำที่ใหญ่ขนาดที่ว่าถ้านำเทพีเสรีภาพมาใส่เข้าไปก็ยังเหลือที่

สีที่เกิดจากแร่ธาตุที่พบในลาวา เช่น เหล็ก กำมะถัน และนิเกิลนั้นช่างเหลือเชื่อ สีสันเหล่านี้หมุนวนไปทั่วผนัง พื้น และเพดานอย่างประณีตจนดูราวกับมีใครตั้งใจมาแต่งแต้มเอาไว้

เมื่อลงไปถึงที่ด้านล่างนั้น คุณจะเพลิดเพลินกับการเดินเล่นที่ตัวฐานและส่องไฟฉายไปรอบๆ พื้นที่ตระการตารอบตัว

โดยทั่วไปเมื่อภูเขาไฟสงบลง แมกมาก็จะเย็นและกลายเป็นหินแข็งๆ หรือไม่ก็หายไปหมดทำให้ยอดของภูเขาทรุดตัวลงมา ภูเขาไฟส่วนใหญ่ไม่มีปล่องภูเขาไฟแบบนี้ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และดีที่สุดของไอซ์แลนด์

และอย่างที่บอกคือถ้ำนี้อยู่ตรงนี้มาเป็นพันปีแล้วและก็มีโครงสร้างที่มั่นคงทำให้สามารถลงไปเที่ยวได้อย่างปลอดภัย

ทัวร์ภูเขาไฟ (อินทูเดอะโวลเคโน) เป็นหนึ่งในทัวร์ยอดนิยมของไอซ์แลนด์และเป็นที่นิยมมาก ทัวร์นี้ให้บริการเฉพาะในฤดูร้อน ดังนั้นควรจองล่วงหน้า

ผู้ที่จะเข้าร่วมกับทัวร์นี้ต้องมีอายุตั้งแต่ 11 ปีขึ้นไป และต้องแข็งแรงพอที่จะปีนข้ามพื้นที่เต็มไปด้วยหินเป็นระยะทางสั้นๆ เพื่อไปขึ้นลิฟต์ไหวด้วย 

แต่ถ้าหากคุณไม่ได้แพลนจะมาที่ไอซ์แลนด์ในช่วงหน้าร้อน หรืออาจจะไม่อยากจ่ายเงินแพงขนาดนี้ คุณสามารถไปดูสีสันอันงดงามที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ผืนลาวาของไอซ์แลนด์กับทัวร์ถ้ำลาวาแพ็คเกจอื่นๆ แทนได้



7.ดำน้ำสน็อกเกิลระหว่างสองทวีป        

รอยแยกซิลฟราในไอซ์แลนด์มีทัศนวิสัยใต้น้ำที่ชัดเจนถึง 100 เมตรอาจเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่มีทัวร์ดำน้ำตื้นท่ามกลางทัวร์ให้บริการในไอซ์แลนด์ เพราะประเทศนี้อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดนักสำหรับการดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่น้ำที่ไม่ได้รับความร้อนจากความร้อนใต้พิภพ

แต่น้ำที่รอยแยกซิลฟรา (Silfra) ในอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์นั้นงดงามเหลือเชื่อมาก จนแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวนับพันตัดสินใจลงไปชื่นชมและแหวกว่ายทั้งที่อากาศหนาวเย็นขนาดนั้น

ซิลฟรานั้นสวยขนาดที่ถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของสถานที่ดำน้ำยอดนิยมของโลกเลย

ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเหตุผลสองข้อ

ข้อแรกคือน้ำที่ซิลฟราใสมากจนสามารถมองเห็นทัศนวิสัยได้ชัดไปไกลกว่า 100 เมตร ทำให้คุณเห็นเฉดสีฟ้าได้อย่างแจ่มชัดเหลือเกินเมื่อหันหน้ามองไปทางทะเลสาบธิงวาลลาวาทน์ (Þingvallavatn) 

เหตุผลข้อที่สองคือสถานที่ตั้ง อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้าแล้วว่าอุทยานฯ แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ระหว่างแผ่นเปลือกทวีปอเมริกาเหนือและยูเรเซีย และการเกิดแผ่นดินไหวทำให้ผืนดินสองทวีปแยกตัวออกจากกันและกลายเป็นหุบเขาลึก ทำให้ทัวร์ดำน้ำที่ซิลฟราหมายถึงการดำน้ำอยู่ระหว่างสองทวีป

สาเหตุที่ทำให้น้ำที่ซิลฟราใสแจ๋วก็เพราะเป็นน้ำที่มาจากธารน้ำแข็งลางโจกุล ซึ่งการที่น้ำจากธารน้ำแข็งเดินทางใต้ดินมาเป็นระยะเวลา 30 ไมล์โดยประมาณในระยะเวลาหลายปี พวกมันต้องไหลผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนซึ่งทำหน้าที่กรองน้ำไปในตัว เมื่อมาถึงที่หุบเขารอยแยกแห่งนี้น้ำจึงสะอาดใสถึงขนาดที่ดื่มได้เลย

การดำน้ำตื้นที่ซิลฟราบนวงกลมทองคำเป็นทัวร์ที่หนาวเย็นแต่น่าตื่นเต้น

ภาพจากแพ็คเกจทัวร์กิจกรรมลดราคาแบบ 3 in 1 พร้อมสำรวจภูเขาไฟ ดำน้ำตื้น & ปีนธารน้ำแข็ง

อย่างที่คุณคิดนั่นแหละ น้ำนั้นเย็นจัด โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 2 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี

แต่ถ้าคุณสวมดรายสูทที่มีชุดหมีเก็บความร้อนอยู่ข้างใต้อีกชั้น คุณก็จะไม่รู้สึกหนาวเลย และชุดพวกนี้ก็ลอยน้ำได้ คุณจึงแทบไม่ต้องออกแรงพยุงตัวให้ลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ส่วนถุงมือเว็ทสูทและหมวกอาจจะไม่ได้กันน้ำเข้า แต่วัสดุที่เป็นฉนวนนีโอพรีนก็มีคุณสมบัติทำให้น้ำที่ซึมผ่านมีอุณหภูมิอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็วจึงช่วยปกป้องคุณได้อีกทางหนึ่ง

ผู้ประกอบการบางรายมีแพ็คเกจทัวร์ที่ให้แค่เว็ทสูท โดยเว็ทสูททำให้คุณเคลื่อนไหวได้คล่องตัวมากกว่าและสามารถดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ตัวเปล่าแบบไม่มีอุปกรณ์ได้อย่างอิสระ แต่ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงมากเท่านั้นและต้องพร้อมรับมือกับความหนาวจากการลงไปอยู่ในน้ำเป็นเวลาประมาณ 40 นาทีได้ด้วย

ผู้ที่ผ่านการฝึกดำน้ำลึกแบบสกูบามาแล้วสามารถเลือกเป็นแพ็คเกจทัวร์ดำน้ำลึกที่ซิลฟรา แต่เนื่องจากความซับซ้อนยุ่งยากของอุปกรณ์บวกกับอากาศที่หนาวเย็นของที่นี่ คุณจะต้องมีใบประกาศหลักสูตรดำน้ำโอเพ่นวอเตอร์ของ PADI หรือใบประกาศอื่นที่เทียบเท่ามาแสดง พร้อมกับต้องมีหลักฐานไดฟ์ล็อกมาพิสูจน์ว่ามีความเชี่ยวชาญการใช้ดรายสูทหรือเคยผ่านการดำน้ำด้วยดรายสูทมาแล้ว 10 ครั้งภายในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา

นี่เป็นหนึ่งในทัวร์ที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ ด้วยธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์และความสวยงามของสถานที่



6. ไฮกิ้งในพื้นที่ไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์        

ธอร์สเมิร์กเป็นพื้นที่ราบสูงที่น่าหลงใหลและเป็นหนึ่งในทัวร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไอซ์แลนด์

ไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์มีทัวร์เดินป่าที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ รวมถึงมีภูมิประเทศที่ห่างไกล ดิบเถื่อน และน่าทึ่งที่สุดของประเทศ

ด้วยความที่มีแต่ทุ่งลาวา ที่ราบทรายสีดำกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ภูเขา แม่น้ำ ภูเขาไฟ ธารน้ำแข็ง และสีสันที่งดงามหลากหลาย ทำให้ไฮแลนด์ดึงดูดนักปีนเขาและช่างภาพจากทั่วโลก

สถานที่สำคัญสองแห่งที่พลาดไม่ได้ถ้าคุณไปเยือนไฮแลนด์ คือ ธอร์สเมิร์ก (Thorsmork) และลานมันนาเลยการ์ (Landmannalaugar) เทรลเดินป่าที่เลยกาแวกูร์ (Laugavegur) ซึ่งเชื่อมกับผืนดินด้านในประเทศนั้นเป็นเส้นทางเดินเขาระยะเวลาหลายวันที่เป็นที่รู้จักกันดีและเป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับการสำรวจภูมิภาคนี้ที่สุดแล้ว

ทัวร์ 5 วันแพ็คเกจนี้เป็นวิธีสุดคลาสสิกที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับเส้นทางเดินเขา ในแต่ละคืนคุณจะเข้าพักในเคบินที่อยู่ห่างไกลจากผู้คน และกลางวันก็ได้เดินเทรกกิ้งชมทัศนียภาพที่งดงามจนคุณแทบจะไม่เชื่อสายตา ส่วนแพ็คเกจทัวร์ 3 วันแพ็คเกจนี้เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุณจะได้ไปไฮกิ้งบนเทรลที่เลยกาแวกูร์ผ่านทุ่งลาวและปล่องภูเขาไฟที่เกิดขึ้นเมื่อเอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajokull) ปะทุในปี 2010

คุณยังสามารถเลือกทัวร์เที่ยวธอร์สเมิร์กด้วยรถบั๊กกี้สุดตื่นเต้นแล้วไปขี่รถชมทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพื้นที่ไฮแลนด์

พื้นที่ไฮแลนด์เป็นสถานที่มหัศจรรย์ในการสำรวจ

หากคุณมีเวลาน้อยแต่ต้องการเก็บภาพไฮไลท์ของพื้นที่ไฮแลนด์ ทัวร์ลานมันนาเลยการ์ด้วยรถซูเปอร์จี๊ปแพ็คเกจนี้จะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดของไอซ์แลนด์ได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงการเดินป่าและแช่น้ำพุร้อน เพื่อให้คุณได้เข้าถึงธรรมชาติที่งดงามของภูมิภาคนี้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ธอร์สเมิร์ก แปลว่า "หุบเขาแห่งธอร์" ตามชื่อเทพเจ้าแห่งสายฟ้าของนอร์สโบราณ ที่นี่แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ ในภูมิภาคนี้ตรงที่เป็นป่าทึบที่มีต้นเบิร์ชขึ้นสวยงาม ซึ่งตัดกันกับลาวาและธารน้ำแข็งที่ส่องแสงระยิบระยับโดยรอบ

ส่วนลานมันนาเลยการ์เป็นเขตภูเขาหินไรโอไลต์ที่มีพลังงานความร้อนใต้พื้นดิน คุณสามารถไปแช่น้ำร้อนที่นี่ได้ สโกการ์เป็นบริเวณที่อยู่รอบๆ น้ำตกสโกกาฟอสส์อันยิ่งใหญ่ 

หากคุณมากับเด็กหรือไม่ได้อยากจะไปเดินที่เทรลเลยกาแวกูร์ คุณก็ยังสามารถไปชมสถานที่สวยๆ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ได้กับแพ็คเกจเดย์ทัวร์ที่ออกเดินทางจากเรคยาวิก

ตัวอย่างเช่น ทริปนี้ที่พาไปลานมันนาเลยการ์ด้วยรถซูเปอร์จี๊ปและรวมการแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน หรือทัวร์ซูเปอร์จี๊ปหนึ่งวันแพ็คเกจนี้ที่จะพาคุณไปยังธอร์สเมิร์กและน้ำตกทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์
หิมะปกคลุมภูเขาในไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์ แม้ในช่วงฤดูร้อน

ในบรรดาทัวร์มากมายที่มีอยู่ทั่วไอซ์แลนด์ มีอีกทางเลือกหนึ่งคือการรวมทัวร์เที่ยวธอร์สเมิร์กและลานมันนาเลยการ์เข้ากับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น วงกลมทองคำและชายฝั่งทางใต้ หากต้องการทำเช่นนั้น การขับรถเที่ยวเองในฤดูร้อน 7 วันพร้อมการผจญภัยในไฮแลนด์จะเป็นทางเลือกที่ดี

หากคุณเดินทางในฤดูหนาวก็อาจจะยังมีตัวเลือกในการชมลานมันนาเลยการ์เหลืออยู่บ้าง บริษัททัวร์บางแห่งเคยเปิดขายทัวร์ในช่วงเวลานี้ของปี ซึ่งนักท่องเที่ยวจะมีโอกาสมากมายในการชมแสงเหนือ

หากคุณต้องการเข้าร่วมทัวร์ดังกล่าวแต่ต้องการให้มีคนจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณให้เสร็จสรรพ ทริปแอดเวนเจอร์ 10 วันแพ็คเกจนี้เป็นทางเลือกที่ดี โดยทริปนี้รวมเยี่ยมชมชายฝั่งทางใต้ ถ้ำน้ำแข็ง วงกลมทองคำ บลูลากูน และคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส

อย่างไรก็ตาม เทรลที่สโกการ์ ลานมันนาเลยการ์ และธอร์สเมิร์กนั้นครอบคลุมแค่ส่วนเล็กๆ ของพื้นที่ไฮแลนด์เท่านั้น ยังมีทัวร์อื่นๆ รอบประเทศที่สามารถพาคุณเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลส่วนอื่นอีก

ถ้าคุณอยู่ในทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ แพ็คเกจเดย์ทัวร์นี้จะพาคุณไปที่ปากปล่องภูเขาไฟอาสยา(Askja Caldera) ปล่องภูเขาไฟแห่งนี้ตั้งอยู่ในทุ่งลาวาอันน่าทึ่งที่เกิดจากการปะทุครั้งรุนแรงที่สุดของประเทศ ที่นี่คุณสามารถลงไปว่ายน้ำในน้ำอุ่นของปล่องภูเขาไฟวิติ (Viti) ที่ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์มหัศจรรย์พันลึก



การเดินป่าบนเส้นทางเลยกาแวกูร์ทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ไม่ใช่วิธีเดียวที่มีในการสำรวจพื้นที่ไฮแลนด์

อีกวิธีหนึ่ง คุณสามารถใช้บริการทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับไปยังถนนคโยร์ลูร์ในไฮแลนด์ ซึ่งตัดผ่านที่ราบสูง บ่อน้ำพุร้อนใต้พิภพที่ฮแวราเวลลีร์ (Hveravellir) และภูเขาแคร์ลิงการ์ฟโยลล์ (Kerlingarfjoll) ที่น่าทึ่ง

นักเดินป่าที่แสวงหาการผจญภัยในพื้นที่ห่างไกลของไฮแลนด์สามารถใช้บริการทริปเที่ยวบนถนนวงแหวน 11 วันแพ็คเกจนี้ได้ ประสบการณ์นี้รวมการสำรวจฟยอร์ดตะวันออก 3 วันด้วย ซึ่งคุณจะได้ผจญภัยลึกเข้าไปในภูเขาและหุบเขาทางตอนเหนือของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล

สำหรับช่างภาพที่ต้องการสร้างพอร์ตสวยๆ หรืออยากพัฒนาฝีมือในการถ่ายภาพแลนด์สเคป ให้ไปผจญภัยกับทริปแอดเวนเจอร์ครั้งหนึ่งในชีวิตระยะเวลากว่า 10 วัน เวิร์กช็อปนี้พาไปยังสถานที่สวยงามเหลือเชื่อในไฮแลนด์หลายแห่งพร้อมกับช่างภาพมืออาชีพเจ้าของรางวัลและไกด์มากประสบการณ์

5. ทัวร์เที่ยวธารน้ำแข็งในไอซ์แลนด์      

การปีนธารน้ำแข็งเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์

ในดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟนั้นเมื่อภูเขาไฟเป็นตัวแทนของไฟ ดังนั้นตัวแทนของน้ำแข็งก็คือธารน้ำแข็ง

ผืนน้ำแข็งสีขาวเป็นประกายปกคลุมพื้นที่ 11% ของไอซ์แลนด์ ส่วนวัทนาโจกุลก็เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป

การได้ไปเห็นความยิ่งใหญ่ด้วยตาเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของน้ำแข็ง วิวทิวทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ หรือเฉดสีต่างๆ ที่มีมากกว่าสีขาววาววับเป็นประกายของหิมะ คุณจะเห็นเส้นสายสีฟ้าสดในน้ำแข็งและเห็นเถ้าสีดำสนิทที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายร้อยปีก่อนด้วย

ด้วยพื้นผิวที่ลื่น รอยแยกที่ซ่อนอยู่ และสันเขาที่แหลมคม การปีนขึ้นไปโดยไม่มีอุปกรณ์และการฝึกอบรมที่เหมาะสมถือเป็นเรื่องอันตราย แต่ทัวร์ไฮกิ้งเดินขึ้นไปบนธารน้ำแข็งและทัวร์ปีนน้ำแข็งในไอซ์แลนด์เป็นการเดินทางที่ปลอดภัยและง่ายดาย

ผืนน้ำแข็งที่นิยมไปเที่ยวกันมากที่สุดคือธารน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็งมิร์ดาลส์โจกุลที่ใหญ่เป็นอันดับสามของไอซ์แลนด์ เนื่องจากเดินทางได้สะดวกจากเรคยาวิกและสามารถปีนขึ้นไปได้ไม่ยากนัก แถมยังมีวิวสวยๆ ของพื้นที่ตอนใต้ของประเทศด้วย

ทริปสำรวจธารน้ำแข็งโซลเฮมาโจกุลนี้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับครอบครัว เนื่องจากเด็กอายุไม่เกิน 10 ปีสามารถเข้าร่วมได้ ทัวร์นี้รับประกันกลุ่มขนาดเล็กเพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากประสบการณ์การปีนธารน้ำแข็ง
สวีนาเฟลล์สโจกุลเป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งยอดนิยมของไอซ์แลนด์และทัวร์ชั้นนำในไอซ์แลนด์

จุดปีนกลาเซียร์ยอดนิยมอันดับสองคือที่ธารน้ำแข็งสวีนาเฟลลส์โจกุล (Svinafellsjokull) ที่มักจะเข้าใจผิดว่าเป็นสกัฟตาเฟลล์โจกุล (Skaftafellsjokull) เนื่องจากตำแหน่งของมันอยู่ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell Nature Reserve)

ทัวร์ต่างๆ ที่พาไปชมพื้นผิวธารน้ำแข็งนั้นเป็นทริปที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่เดินทางไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรวมกับการเยี่ยมชมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) หรือถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าใส

เขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลเป็นพื้นที่ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ มีแม่น้ำ ทะเลสาบ ป่าไม้ และทุ่งลาวา น้ำตกสวาร์ติฟอสส์ที่มีชื่อเสียงซึ่งล้อมรอบด้วยเสาหินรูปทรงหกเหลี่ยมที่สมบูรณ์แบบก็ตั้งอยู่ที่นี่เช่นกัน

ทุกคนสามารถเข้าร่วมทัวร์สวีนาเฟลล์สโจกุลได้ รวมถึงเด็กอายุตั้งแต่ 7 ปี เพื่อให้เด็กๆ ได้สัมผัสกับรสชาติของการผจญภัย นอกจากนี้ยังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ร่างกายไม่แข็งแรงด้วย

แต่ถ้าหากคุณอยากไปปีนกลาเซียร์ที่เป็นกำแพงน้ำแข็งและต้องใช้ขวานกับรองเท้าตะปู แพ็คเกจนี้เหมาะกับคุณมากกว่า (แต่ผู้เข้าร่วมต้องมีอายุอย่างน้อย 12 ปีขึ้นไป)



หากคุณเป็นครอบครัวที่เดินทางพร้อมเด็กเล็ก ทัวร์นี้จะพาคุณไปยังอุโมงค์น้ำแข็งที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งแกะสลักไว้ในธารน้ำแข็งลางโจกุล แม้ว่าจะไม่ใช่ประสบการณ์การปีนธารน้ำแข็งอย่างที่กล่าวไป แต่เด็กอายุไม่เกิน 2 ปีสามารถเข้าร่วมได้

อุโมงค์น้ำแข็งนี้ทำให้ได้เห็นโลกใต้น้ำแข็งจริงๆ โดยมีทางเดินยาวและมีห้องโถงหลายห้อง และแม้ทริปอุโมงค์น้ำแข็งนี้ก็เป็นการผจญภัยเล็กๆ แต่ทัวร์นี้จะพาคุณเดินทางด้วยรถซุปเปอร์จี๊ปขนาดใหญ่

ในช่วงหน้าร้อนผู้ที่รักการผจญภัยอย่างแท้จริงสามารถเข้าร่วมทัวร์สุดตื่นเต้นขึ้นไปบนยอดแฝดของธารน้ำแข็งสไนเฟลล์สโจกุล ซึ่งอยู่บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ได้

สไนเฟลล์สโจกุลมีชื่อเสียงมาจากนิยายของจูลส์ เวิร์น (Jules Verne) เรื่อง 'A Journey to the Centre of the Earth' ที่เขียนไว้ว่าบนนั้นมีถ้ำที่เป็นเส้นทางทะลุไปยังโลกมหัศจรรย์ใต้พิภพ

คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสมีสถานที่งดงามเหลือเชื่อให้ไปเที่ยวชมมากมายและสมควรต้องไปให้ได้ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ไปเที่ยวบนธารน้ำแข็งก็ตาม และในหัวข้อต่อไปคุณจะพบว่าเพราะเหตุใด



4. เที่ยวชมสถานที่บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส       

คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสมีลักษณะที่น่าทึ่งมากมาย

คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสได้รับสมญานามว่า "ไอซ์แลนด์ย่อส่วน" และก็เป็นเช่นนั้นเพราะที่นี่เปรียบเหมือนอาณาจักรย่อมๆ ของไอซ์แลนด์ มีน้ำตก ภูเขา ทุ่งลาวา การก่อตัวของหิน แนวชายฝั่งที่ขรุขระ สัตว์ป่ามากมาย และธารน้ำแข็งที่ปกคลุมอยู่ด้านบน

แต่ที่ทำให้คนรู้จักบริเวณนี้ดีที่สุดก็คือธารน้ำแข็งสไนเฟลล์โจกุล และยังมีสิ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากการปีนกลาเซียร์ด้วย

ยอดแฝดของภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งแห่งนี้มอบแรงบันดาลใจให้กับศิลปินมาหลายศตวรรษ และมันก็ยังคงความงดงามและเป็นส่วนสำคัญของอุทยานแห่งชาติชื่อเดียวกัน ซึ่งในไอซ์แลนด์มีอุทยานแห่งชาติเพียง 3 แห่ง

ในวันที่อากาศดี จากเมืองเรคยาวิกคุณสามารถมองข้ามผืนน้ำทะเลไปได้ถึงธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์สโจกุลที่ตั้งอยู่บนปลายคาบสมุทร ซึ่งเงาสะท้อนที่สวยงามของบริเวณนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนหลายพันคนต่อปี

ที่นี่มีเสน่ห์อย่างแปลกประหลาดจนผู้คนที่เชื่อโชคลางอ้างว่าที่นี่เป็นสถานที่แห่งเวทมนตร์และเรื่องลึกลับ

ครั้งหนึ่งเคยมีคำทำนายว่ามนุษย์ต่างดาวจะมาถึงสไนล์เฟลล์สโจกุลในวันที่ 5 พฤศจิกายน 1993

ข่าวลือนี้แพร่สะพัดไปเร็วและไปไกลมากจนมีคนนับพันแห่มารวมตัวกันตรงนี้ในวันที่คาดว่าจะเป็นวันสิ้นโลก และก็มีนักข่าวทีวีจากทั่วโลกหลายสำนัก รวมถึง CNN มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งก็แน่นอนว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย แต่เมื่อไหร่ที่มองไปที่ตรงนั้นก็ทำให้ไม่นึกสงสัยเลยว่าทำไมมนุษย์ต่างดาวเลือกใช้บริเวณนี้เป็นฐาน

ภูเขาคิร์กจูเฟลล์และน้ำตกคิร์กจูเฟลล์ฟอสส์บนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง

นอกจากธารน้ำแข็งสไนล์เฟลล์โจกุลแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวบนคาบสมุทรแห่งนี้มีอีกมากมายและหลากหลายทีเดียว แถมยังอยู่ติดๆ กันทำให้นักท่องเที่ยวที่พักอยู่ในเรคยาวิกสามารถเที่ยวได้หมดภายใน 1-2 วันด้วย

บนชายฝั่งทางใต้ นักท่องเที่ยวสามารถไปชมเสาหกเหลี่ยมเรียงรายได้สัดส่วนสวยงามที่แกร์ดูแบร์ก (Gerduberg) ไปดูฝูงแมวน้ำออกมาเล่นอยู่ที่ก้อนหินตามแนวชายฝั่งหาดอิทรี ทุงกา (Ytri Tunga) ไปดูหุบเหวสวยๆ ที่เรยเฟลด์สกเยา (Raudfeldsgja) และไปเที่ยวหมู่บ้านร้างลมพัดแรงที่บูดิร์ (Budir) 

ติดกับอุทยานแห่งชาติมีหมู่บ้านอยู่ 2 แห่ง คือ หมู่บ้านเฮลล์นาร์ (Hellnar) ซึ่งก็เกือบจะร้างผู้คนแล้วเหมือนกัน และหมู่บ้านอาร์นาร์สทาปิ (Arnarstapi) ที่เมื่อก่อนเป็นหมู่บ้านประมงแต่ช่วงหลังๆ มานี้การท่องเที่ยวบูมมากเพราะแนวชายฝั่งมีลักษณะทางธรณีวิทยาที่สวยงาม ภายในเขตอุทยานฯ เองก็มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าทำความรู้จักอีก 3 แห่งด้วยกัน

วาท์ทเฮลลิร์  (Vatnshellir) เป็นถ้ำลาวาที่อยู่ติดกับธารน้ำแข็ง คุณสามารถเข้าไปเที่ยวกับทัวร์ได้ในช่วงหน้าร้อน

ส่วนตูปาโลนส์ซานดูร์ (Djúpalónssandur) เป็นหาดทรายดำที่มีก้อนหินโบราณอยู่ 4 ก้อนที่ชาวประมงสมัยโบราณใช้เป็นเครื่องทดสอบพละกำลังความแข็งแกร่ง (และความพร้อมในการออกสู่ทะเล)

และลอนดรังการ์ (Lóndrangar) เป็นเสาหินบะซอลต์ขนาดมหึมาที่มีลักษณะเหมือนป้อมปราการและมีนกมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก



ธรณีวิทยาชายฝั่งรอบอาร์นาร์สทาปิบนคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสของไอซ์แลนด์นั้นงดงามมาก

ชายฝั่งทางเหนือของคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสเป็นที่ตั้งของภูเขาคิร์กจูเฟลล์ ที่มีความโดดเด่นเป็นอันดับสองในบริเวณนี้ ใครที่เป็นแฟนเกมออฟโธรนส์อาจจะพอจำได้ว่าเป็นสถานที่ถ่ายทำในซีซั่น 7

ถัดไปอีกไม่ไกลเป็นสติกกิชโฮลมูร์ (Stykkisholmur) ซึ่งมีตำนานพื้นบ้านและวัฒนธรรมการทำประมงที่น่าสนใจ จากตรงชายฝั่งทางเหนือ ถ้าเป็นวันที่อากาศแจ่มใสคุณจะสามารถมองเห็นวิวทิวเขาสวยๆ ของฟยอร์ดตะวันตก (Westfjords) ที่อยู่อีกฟากของทะเลได้เลย

ทัวร์รถบัสแพ็คเกจนี้น่าสนใจและมีราคาไม่แพงด้วย โดยจะพาคุณไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ บนคาบสมุทร แต่ถ้าคุณอยากเที่ยวแบบค่อนข้างส่วนตัวหน่อย ทัวร์มินิบัสแพ็คเกจนี้จะเดินทางกลุ่มเล็กกว่าและมีของว่างให้รับประทานระหว่างทางด้วย

แต่ถ้าอยากใช้เวลาเที่ยวคาบสมุทรนี้นานขึ้นมาอีก ให้เลือกเป็นทัวร์ 2 วัน ซึ่งรวมทริปไปเที่ยวถ้ำลาวาที่วาท์ทเฮลลิร์ (Vatnshellir) และไปแช่น้ำร้อนธรรมชาติจากพลังงานความร้อนใต้พิภพที่สปาเครยมา (Krauma) ด้วย

หากคุณใช้บริการทัวร์ขับรถเที่ยวเองในไอซ์แลนด์ในช่วงหน้าร้อน คุณสามารถเลือกไปทำกิจกรรมที่ไม่เหมือนที่ไหนอย่างดูวาฬ หรือพายคายักที่ภูเขาคิร์กจูเฟลล์ 

หรือไม่อย่างนั้นอีกตัวเลือกคือไปทัวร์กินซูชิแบบไวกิ้งที่ออกเดินทางจากสติกกิชโฮลมูร์ ซึ่งคุณจะได้ลิ้มรสหอยเชลล์ที่จับกันสดๆ บนเรือ ในขณะที่เพลิดเพลินกับการดูนกและชมวิวอ่าวเบรดาฟยอร์ดูร์ (Breidafjordur) และฟยอร์ดตะวันตก

3. ดูแสงเหนือในไอซ์แลนด์        

แสงเหนืออาจจะเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดที่สุดสำหรับชาวไอซ์แลนด์ในฤดูหนาว

ถ้าคุณเดินทางมาที่ไอซ์แลนด์ในช่วงระหว่างเดือนกันยายนและเดือนเมษายน คุณมีสิทธิ์ที่จะได้เห็นแสงเหนือสูง

และในโลกนี้มีแค่เพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่คุณจะได้เห็นปรากฏการณ์นี้ ดังนั้นการมาล่าแสงออโรร่าในหน้าหนาวถือว่าเป็นจุดขายหลักของการท่องเที่ยวไอซ์แลนด์

คนจำนวนมากอยากมาเห็นปรากฏการณ์นี้ด้วยตาตนเองสักครั้งในชีวิตก็เพราะว่าแสงสีเข้มที่เต้นระบำส่ายไปมาอยู่บนท้องฟ้าที่ไม่มีอย่างอื่นนอกจากดวงดาวจนดูเหมือนได้รับพลังลึกลับมาจากนอกโลกนั้นมีความสวยงามและเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจเอามากๆ

โดยผู้ที่โชคดีได้เห็นแสงเหนือต่างก็รู้สึกฉงนใจกันทั้งสิ้น ไม่แปลกเลยที่คนโบราณจะคิดว่าแสงเหนือเป็นการส่งสารมาจากพระเจ้าและบรรพชนที่สิ้นชีพไปแล้ว

ทัวร์ดูแสงเหนือจึงอยู่ในลิสต์ของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ควรจำไว้ว่าแสงเหนือจะมาให้นักท่องเที่ยวเห็นเฉพาะช่วงหน้าหนาวเท่านั้น

เพราะแม้ว่าแสงออโรร่า บอเรลลิสนี้จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี แต่การที่จะมองเห็นแสงนี้ได้ต้องอยู่ในสภาวะที่ปราศจากมลพิษทางแสงมากที่สุด

แสงเหนือเหนือเวสตราฮอร์นทางตะวันออกของไอซ์แลนด์

การไปดูแสงเหนือคุณไม่จำเป็นต้องไปกับทัวร์ที่มีไกด์เสมอไป คุณสามารถเช่ารถขับออกไปนอกเมืองเพื่อไปตามล่าหาแสงเหนือเองก็ได้ หรือถ้าไม่ขับรถคุณก็สามารถไปหาพื้นที่ที่มืดๆ หน่อยตามในเมืองและรอดูก็ยังได้

แต่ข้อดีของการที่ไปกับทัวร์ล่าแสงเหนือโดยเฉพาะนั้นคุณจะมีไกด์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญการล่าแสงเหนือ การถ่ายภาพ และจะคอยอธิบายเกี่ยวกับแสงออโรร่า ผู้เชี่ยวชาญในทัวร์พร้อมไกด์เหล่านี้สามารถพาคุณไปดูในจุดที่ดีที่สุดของไอซ์แลนด์ และสามารถเข้าถึงเครื่องมือเพื่อค้นหาสถานที่ที่มีเมฆปกคลุมน้อยที่สุด

ทัวร์ดูแสงเหนือที่เป็นที่นิยมและราคาไม่แพงคือทัวร์ที่เดินทางด้วยรถบัส ซึ่งจะพาคุณไปตามพื้นที่ธรรมชาติรอบเรคยาวิกเพื่อตามล่าแสงออโรร่า

คุณยังสามารถไปกับทัวร์ที่คล้ายกันที่เดินทางด้วยรถมินิบัสเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น และคุณจะได้เพลิดเพลินกับช็อกโกแลตร้อนแสนอร่อยเพื่อให้คุณรู้สึกอบอุ่นขณะค้นหาแสงออโรร่าที่ยากจะเข้าใจ

คุณสามารถล่าแสงเหนือบนรถซูเปอร์จี๊ปก็ได้ถ้าอยากเข้าไปในพื้นที่ห่างไกลไร้ผู้คน อย่างทัวร์ซูเปอร์จี๊ปนี้นำทีมโดยช่างภาพมืออาชีพที่จะช่วยให้คุณถ่ายภาพแสงเหนือออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ตัวเลือกที่แตกต่างและได้รับความนิยมมากอีกอันหนึ่งคือการล่องเรือล่าแสงเหนือ คุณจะได้ออกไปในทะเลรอบเรคยาวิกและดูแสงเหนือจากบนดาดฟ้าเรือ หากคุณพักอยู่ทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ คุณสามารถไปกับทัวร์รถบัสชมแสงเหนือจากอาคูเรย์ริ หรือรวมประสบการณ์ชมแสงออโรร่าพร้อมกับทัวร์ชมวาฬเพื่อค่ำคืนที่น่าจดจำก็ได้



มีทัวร์ชมชมแสงเหนือหลายแบบจากทั่วประเทศ

ทัวร์ล่าแสงเหนืออาจจะไม่ได้ออกเดินทางถ้ามีการพยากรณ์ว่ามีโอกาสเกิดแสงเหนือน้อย หรือมีเมฆมาบดบังมากเกินไป แต่ถึงแม้คุณจะได้ออกเดินทาง เหตุการณ์ทางธรรมชาตินี้ก็ยังไม่แน่นอนและแสงเหนืออาจไม่ออกมาให้เห็น ในทั้งสองกรณีนี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะให้สิทธิ์คุณได้ออกไปดูแสงเหนือได้ฟรีอีกหนึ่งคืน

ถ้าอยากเพิ่มโอกาสในการได้เห็นแสงออโรร่า คุณอาจจะเลือกจองแพ็คเกจขับรถเที่ยวเองหรือแพ็คเกจแบบมีไกด์ที่จะพาคุณออกไปล่าแสงเหนือก็ได้

ทริปขับรถเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเองในหน้าหนาว 7 วันนี้ ทำให้คุณมีโอกาสที่จะได้เห็นแสงเหนือเยอะมาก และถ้าคุณไม่อยากขับรถเองแพ็คเกจทัวร์ 7 วันนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย และทั้งสองแพ็คเกจนี้จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับปรากฏการณ์อื่นที่มีเฉพาะในฤดูหนาวด้วย เช่น ทริปเที่ยวถ้ำน้ำแข็ง

ยิ่งคุณอยู่ที่ไอซ์แลนด์นานขึ้นเท่าไหร่คุณก็ยิ่งมีโอกาสเห็นแสงเหนือมากขึ้นเท่านั้น

และแพ็คเกจ 14 วันแพ็คเกจนี้จะพาคุณเที่ยวรอบประเทศไอซ์แลนด์ รวมถึงไปทัวร์ถ้ำน้ำแข็งด้วย ซึ่งคุณมีโอกาสในการเห็นแสงออโรร่าถึง 13 คืน ในสถานที่แตกต่างกันไป หากคุณเลือกทัวร์นี้และเดินทางมาในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนและเดือนมีนาคม คุณก็อาจจะได้ไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งด้วย



2. เที่ยวชายฝั่งทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์    

ชายฝั่งทางตอนใต้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมาก ซึ่งจะเป็นรองก็แค่เส้นทางท่องเที่ยววงกลมทองคำเพียงแห่งเดียวเท่านั้น และเช่นเดียวกันกับคาบสมุทรสไนล์แฟลซเนสคือที่นี่ก็เป็นเสมือนศูนย์รวมของทุกอย่างที่ไอซ์แลนด์มี

ภูมิภาคนี้มีน้ำตกอันสวยงาม ชายฝั่งที่งดงาม ภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็ง หาดทรายสีดำ ลักษณะโดดเด่นทางธรณีวิทยาและเกาะแก่งต่างๆ และทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน ซึ่งเป็นที่สุดของความตระการตาบนปลายทางในทิศตะวันออกอันห่างไกล

หากเดินทางจากเมืองหลวงคุณจะผ่านเส้นทางชนบทสวยๆ และทุ่งพลังงานความร้อนใต้พิภพก่อนที่จะไปถึงแนวชายฝั่ง

ในวันที่อากาศแจ่มใสนั้น คุณจะได้เห็นหมู่เกาะเวสท์แมน (Westman Islands) หมู่เกาะภูเขาไฟที่ยื่นโผล่ออกไปในทะเลที่ทางขวามือของคุณ และจะได้เห็นธารน้ำแข็งมิร์ดาลส์โจกุล และเอยาฟยาลลาโจกุลล์อยู่ทางด้านซ้ายมือของคุณก่อนถึงจุดหมายปลายทางแห่งแรก

จากนั้นคุณจะเจอกับน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ (Seljalandsfoss) นำ้ตกสูง 60 เมตรที่มีสายน้ำแคบๆ ไหลตกลงสู่โพรงถ้ำด้านล่าง

น้ำตกแห่งนี้แตกต่างจากที่อื่นและโด่งดังมากเพราะมีทางเดินเข้าไปชมน้ำตกจากด้านหลัง ซึ่งในช่วงหน้าร้อนนักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิวน้ำตกและชายฝั่งทางใต้จากมุมที่สวยงามไม่เหมือนกับที่ใด

และถ้าเดินเลยจากน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ไปอีกเล็กน้อยก็จะเห็นว่ามีน้ำตกกลูยฟราบูอิ (Gljufrabui) น้ำตกที่มีความสวยงามแปลกตาที่หลายคนต้องพลาดชมเพราะซุกซ่อนตัวอยู่ตรงรอยแยกบนไหล่เขา

เมื่อมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกบนถนนหมายเลข 1 คุณจะผ่านธารน้ำแข็งโซลเฮมาร์โจกุลก่อนแล้วค่อยไปถึงน้ำตกสโกกาฟอสส์

แม้ว่าน้ำตกแห่งนี้จะมีความสูงพอๆ กับน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์แต่น้ำที่นี่มีพลังแรงกว่ามาก โดยน้ำตกสโกกาฟอสส์มีสายน้ำไหลตกกระแทกลงที่ผืนดินด้านล่างอย่างแรงจนทำให้เกิดเป็นละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ และที่ด้านข้างของน้ำตกจะมีบันไดให้เดินลงไปชมน้ำตกจากมุมที่แตกต่างออกไปด้วย

จุดหมายปลายทางต่อไปก็น่าสนใจมากเช่นกัน ดิร์โฮลาเอย์ (Dyrholaey) หินรูปทรงโค้งสวยงามที่ตั้งตระหง่านอยู่ในมหาสมุทร หินโค้งนี้มีขนาดใหญ่มากเสียจนเรือ (และเครื่องบินเล็กด้วย มีนักบินใจกล้าหลายท่านลองมาแล้ว) สามารถลอดผ่านไปได้สบายๆ

หากมาที่ไอซ์แลนด์ในระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน ห้ามพลาดไปดูนกพัฟฟินซึ่งมาอาศัยทำรังอยู่บนผาหินนับพันๆ ตัว ซึ่งนกน้อยน่ารักพวกนี้ไม่ค่อยกลัวคนเสียด้วย

ลักษณะทางธรณีวิทยาตามแนวชายฝั่งบริเวณนี้ก็สวยงามจับใจไม่แพ้กันโดยมีหาดเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเนื่องจากมีเม็ดทรายสีดำสนิท มีคลื่นแรงสาดกระทบฝั่งเสียงดังสนั่น และมีโขดหินทะเลเรนิสดรังการ์ (Reynisdrangar) อยู่นอกชายฝั่ง

ตามตำนานพื้นบ้านของชาวไอซ์แลนด์ มีเรื่องเล่าว่าเสาหินบะซอลต์พวกนี้คือยักษ์โทรลล์ที่ออกมาลากเรือเข้าฝั่งแล้วโดนแสงอาทิตย์เข้าจึงแข็งเป็นหิน



เรย์นิสดรังการ์เป็นตัวอย่างของธรณีวิทยาชายฝั่งที่สวยงามนอกชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์

หมู่บ้านวิก (Vik) ตั้งอยู่บนแผ่นดินไม่ไกลจากหาดเรย์นิสฟยาราและมักจะเป็นจุดแวะสุดท้ายของเดย์ทัวร์บนชายฝั่งทางใต้

แต่สำหรับผู้ที่ยังเดินทางต่อไปนั้น ก่อนที่จะไปถึงวัทนาโจกุล ก็จะได้เห็นทิวทัศน์ที่มีความหลากหลาย มีทั้งทุ่งลาวา ปากแม่น้ำ และทะเลทรายสีดำ และเมื่อมาถึงแถววัทนาโจกุลทัศนียภาพทางด้านซ้ายมือของคุณก็จะเปลี่ยนเป็นภูเขา ธารน้ำแข็ง และน้ำตกซึ่งมีอยู่จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน

ในที่สุดคุณก็จะมาถึงทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน สถานที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดแห่งความงดงามของธรรมชาติในไอซ์แลนด์

คุณจะได้เห็นภูเขาน้ำแข็งจำนวนมาก พวกมันส่งเสียง หมุนไปมา และแตกตัวออกมาในระหว่างที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวจากแท่งน้ำแข็งกลาเซียร์อย่างช้าๆ เพื่อเดินทางออกสู่มหาสมุทร

คุณสามารถชื่นชมความงามของธรรมชาติและวิวสวยแบบนี้ได้นานหลายชั่วโมง และแถวนี้มีแมวน้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากด้วย

เมื่อภูเขาน้ำแข็งเดินทางไปถึงมหาสมุทร บางส่วนจะถูกพัดขึ้นไปบนชายฝั่งของหาดไดมอนด์ ซึ่งเป็นหาดทรายดำที่งดงาม

ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนมีความสวยงามทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว

ตามที่ระบุไว้คือเดย์ทัวร์บนชายฝั่งทางใต้ส่วนใหญ่จะพาไปที่หมู่บ้านวิกก่อน และมีเวลาเหลือเฟือให้แวะเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ที่อยู่บนเส้นทางนี้ มีทัวร์เที่ยวบนชายฝั่งทางใต้ให้เลือกได้มากมายตามความสนใจของคุณ

ซึ่งคุณสามารถไปเที่ยวโจกุลซาลอนแบบวันเดียวกลับได้ เช่นในแพ็คเกจนี้ แต่คุณจะมีเวลาเที่ยวที่อื่นๆ น้อยมาก

ทริป 2 วันนี้ก็มีข้อเสนอที่ทำให้ได้เห็นสิ่งที่ดีที่สุดของทั้งสองแห่ง และถ้าหากเดินทางมาในช่วงหน้าหนาว ทัวร์ 3 วันแพ็คเกจนี้เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน เพราะรวมเอาวงกลมทองคำและทริปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งไว้ด้วย ซึ่งคุณสามารถอ่านเรื่องราวความมหัศจรรย์ของถ้ำน้ำแข็งได้ที่เนื้อหาส่วนต่อไปซึ่งเป็นลำดับสุดท้ายของลิสต์ 10 อันดับสถานที่เที่ยวยอดนิยมในไอซ์แลนด์

หากมาเที่ยวที่โจกุลซาร์ลอนในช่วงหน้าร้อน คุณจะมีโอกาสได้เข้าไปสำรวจทะเลสาบธารน้ำแข็งแบบใกล้ชิด

ตัวเลือกที่มีราคาเป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์มากที่สุดคือจองทัวร์เรือสะเทินน้ำสะเทินบกที่จะพาคุณเข้าไปอยู่ท่ามกลางภูเขาน้ำแข็ง ส่วนผู้ที่ต้องการแบบที่มีราคาแพงขึ้นมาอีกให้จองเป็นทัวร์เรือโซดิแอก

สำหรับผู้ที่ต้องการทำกิจกรรมออกแรงนิดๆ หน่อยๆ ทริปพายคายักนี้สนุกสนานมาก

กิจกรรมทั้ง 3 อย่างนี้จะทำให้คุณได้ใกล้ชิดภูเขาน้ำแข็งมากขึ้น และได้เห็นแมวน้ำใกล้ขึ้นอีกด้วย



1. สำรวจถ้ำน้ำแข็ง    

เมื่อนึกถึงทัวร์อันดับต้นๆ เราคงต้องยกตำแหน่งสูงสุดให้กับการสำรวจถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าใสแจ๋วราวกับแก้วเจียระไนที่อยู่ใต้ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล

แม้ว่าจะเข้าไปชมได้ตั้งแต่แค่ช่วงกลางเดือนตุลาคม (หรือบางทีก็ต้นเดือนพฤศจิกายน) จนถึงเดือนมีนาคม แต่ความเป็นเอกลักษณ์ ความงดงามและความนิยมที่มากขึ้นทุกวันทำให้ถ้ำแห่งนี้ไม่สามารถอยู่ในอันดับที่ต่ำกว่านี้ได้อีกแล้ว

ตามหลักการแล้วมันน่าจะเรียกว่าถ้ำกลาเซียร์หรือถ้ำธารน้ำแข็งมากกว่า (เพราะว่าถ้ำน้ำแข็งเป็นคำนิยามสำหรับถ้ำที่เป็นน้ำแข็งอย่างถาวร) ถ้ำแบบนี้มีโอกาสเกิดขึ้นเพียงแค่ไม่กี่แห่งในโลกเท่านั้น และการที่จะสามารถเข้าไปชมภายในได้อย่างปลอดภัยเหมือนอย่างที่ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลยิ่งมีน้อยเข้าไปใหญ่

ถ้ำน้ำแข็งแต่ละแห่งในไอซ์แลนด์มีขนาด รูปร่าง และการก่อตัวแตกต่างกันไป แต่ทั้งหมดก็มีสีฟ้ากระจ่างสวยแต่งแต้มสลับกับสีขาวเป็นประกายวับวาว 

แต่ตำแหน่งของถ้ำน้ำแข็งที่ไอซ์แลนด์ทำให้พวกมันมีความน่าประทับใจมากกว่าที่อื่น ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่อยู่สองแห่ง คือ ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน และเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์

และนี่ทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เหลือเชื่อที่คุณจะไม่มีวันลืมทั้ง 3 แห่งภายในเวลาหนึ่งวันเท่านั้น

แต่ถ้ำน้ำแข็งต่างจากโจกุลซาร์ลอนและสกัฟตาเฟลล์ตรงที่ถ้ำน้ำแข็งสามารถเข้าไปชมได้ก็ต่อเมื่อคุณไปกับทัวร์ที่มีไกด์พาเข้าไปเท่านั้น



ภายในถ้ำน้ำแข็งทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ ทัวร์สามารถเข้าถึงได้เฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น

หากคุณอยากไปเห็นถ้ำน้ำแข็งสีฟ้ากระจ่างใสราวกับคริสตัล คุณจำเป็นต้องจองล่วงหน้า เพราะถ้ำพวกนี้เปิดให้เข้าชมแค่เพียงปีละไม่กี่เดือนเท่านั้นและมีคนจำนวนมากที่ต้องการเข้าไป ดังนั้นถ้าไปจองเอานาทีสุดท้ายอาจจะไม่มีที่ว่างสำหรับคุณ

แพ็คเกจทัวร์ถ้ำน้ำแข็งนี้สมบูรณ์แบบมากถ้าคุณขับรถเที่ยวเอง คุณจะไปพบกับไกด์ของคุณที่ลานจอดรถของทะเลสาบธารน้ำแข็ง แล้วไกด์จะพาคุณเข้าไปชมด้านในถ้ำอย่างรวดเร็วเพื่อให้คุณมีเวลาดื่มด่ำกับปรากฎการณ์นี้ รวมถึงถ่ายภาพบันทึกความอัศจรรย์ที่อยู่ตรงหน้า

นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจขับรถเที่ยวเองในช่วงหน้าหนาวอีกหลายแพ็คเกจที่ออกแบบมาให้สามารถไปสำรวจถ้ำน้ำแข็งได้พร้อมๆ กับการไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวและทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์อื่นๆ ด้วย

แพ็คเกจขับรถเที่ยวเอง 3 วันนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย

แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ครั้งหนึ่งในชีวิตในช่วงฤดูหนาว แพ็คเกจ 2 สัปดาห์รอบประเทศนี้จะเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่มีวันลืม

แพ็คเกจขับรถเที่ยวด้วยตัวเองเป็นวิธีเที่ยวที่ดีมาก เพราะว่าการซื้อแพ็คเกจเหล่านี้จะแบ่งเบาภาระและความเครียดจากการวางแผนทริปให้กับคุณ เพราะว่าทั้งที่พัก ทัวร์ และรถเช่าทั้งหมดถูกจัดเตรียมไว้ให้คุณล่วงหน้าก่อนที่จะมาถึง

ทั้งนี้โปรดทราบว่าคุณจำเป็นต้องเช่ารถแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และต้องมีความมั่นใจในการขับรถบนสภาพถนนที่เป็นน้ำแข็งและบรรยากาศอันมืดมิดหากจะขับรถเที่ยวในฤดูหนาว ในเดือนธันวาคมและมกราคมอุณหภูมิแทบจะไม่สูงไปกว่าจุดเยือกแข็ง และทั่วทั้งไอซ์แลนด์มีช่วงเวลาที่มีแสงสว่างประมาณแค่วันละ 4 ชั่วโมงเท่านั้น



หากคุณไม่สามารถขับรถเที่ยวได้เองคุณก็ยังไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งได้อยู่ดีด้วยแพ็คเกจแอดเวนเจอร์ 3 วันแพ็คเกจนี้ ซึ่งรวมทัวร์ปีนกลาเซียร์และทริปเที่ยววงกลมทองคำไว้ด้วย

เช่นเดียวกับแพ็คเกจขับรถเที่ยวเอง แพ็คเกจทัวร์หน้าหนาวมากมายก็ถูกออกแบบมาเพื่อพาคุณไปชมถ้ำน้ำแข็งคริสตัล เช่น ทริปเที่ยวรอบไอซ์แลนด์ 15 วัน

แม้ว่าถ้ำน้ำแข็งคริสตัลที่เป็นสีฟ้าสดใสนี้จะเปิดให้เข้าชมได้แค่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมเท่านั้น แต่ที่ไอซ์แลนด์ก็ยังมีถ้ำน้ำแข็งแบบอื่นๆ ที่คุณสามารถไปเที่ยวชมได้นอกฤดู แม้ว่าจะไม่ได้มีสีน้ำเงินเหมือนกันแต่ถ้ำพวกนี้ก็มีความสวยงามมาก

ถ้ำน้ำแข็งที่ธารน้ำแข็งมิร์ดาลส์โจกุลเปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปี ที่นี่เป็นถ้ำที่มีเส้นสายสีดำที่เกิดจากเถ้าภูเขาไฟฝังอยู่ภายใต้หิมะสีขาวซึ่งเป็นผลมาจากการที่ภูเขาไฟคัทลา (Katla) อันยิ่งใหญ่ระเบิด 

คุณสามารถขับรถไปที่หมู่บ้านวิกและออกเดินทางไปชมถ้ำน้ำแข็งจากที่วิกหรือจะไปกับทัวร์ชายฝั่งทางใต้ 2 วันที่ออกเดินทางจากเรคยาวิกก็ได้ 

เราหวังว่าคุณจะได้รับแรงบันดาลใจในการเดินทางจากคำแนะนำของเราเกี่ยวกับทัวร์ที่ดีที่สุด 10 อันดับแรกของไอซ์แลนด์ ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การเดินทางของคุณเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตอย่างแท้จริง เรายินดีรับฟังและตอบกลับคำถามหรือความคิดเห็นใดๆ ที่คุณทิ้งข้อความไว้ในคอมเมนต์ด้านล่าง

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความอื่นที่น่าสนใจ

Link to appstore phone
ติดตั้งแอปท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์

ดาวน์โหลดตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ลงในโทรศัพท์ของคุณเพื่อจัดการการเดินทางทั้งหมดของคุณได้ในที่เดียว

สแกนรหัส QR นี้ด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณแล้วกดลิงก์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ไว้ในกระเป๋าของคุณ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับ SMS หรืออีเมลพร้อมลิงก์ดาวน์โหลด